[CR] เที่ยวโอกินาว่า ฉบับผู้สาวขาแว๊น

ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ สามวันสองคืน โดยบินด้วยสายการบิน พีชแอร์ สนธิราคาตั๋วไปกลับคนละ 4,220 บาท
สายการบินนี้ มักจะออกโปรมาให้จองบ่อย ติดตามโปรได้ตามเพจดังในเฟสบุ๊คได้ค่ะ
ค่าห้อง เราพักในเมือง Naha ซึ่งเป็นเมืองหลักของโอกินาว่า มีรถไฟ Mono rail ให้บริการอยู่ในเมือง แค่ 15 สถานี ที่พักเราห่างจากสถานีประมาณ500 เมตรได้ ค่าห้องสองคืน 1,900 บาท

ทีนี้มาถึงเรื่องการเดินทาง มาโอกินาว่า ถ้าไม่เช่ารถ ก็คือต้องอยู่แค่ในเมืองหลัก ซึ่งมันไม่มีอะไรเลย โอกินาว่าคือเกาะ แน่นอนต้องมีทะเล หาดทราย สายลม และสองเรา แต่ต้องเดินทางออกไปนอกเมือง ถ้าจะหวังว่าจะได้อารมณ์โตเกียว หรือโอซาก้า ขอบอกว่าจะผิดหวังนะจ๊ะ ใช้เวลาในเมือง Naha แค่วันเดียวก็ได้เอาจริงๆ
และในเมื่อต้องเช่ารถขับที่ต่างประเทศ จำเป็นจะต้องมีใบขับขี่สากลก่อนนะจ๊ะ ไปทำได้ที่ขนส่งใกล้บ้าน
การเตรียมตัว
1.ใบขับขี่แบบ5ปีตัวจริง จะมอไซค์หรือรถยนต์ทั้งคู่เลยก็ได้ และสำเนา1ชุด
2. บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนา 1ชุด
3.พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนา
4. รูปถ่ายขนาด2นิ้ว 2รูป
5. เงิน 505฿
ใบขับขี่สากลมีอายุ1ปีค่ะ
แต่ทว่าเราขับรถยนต์ไม่เป็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นแต่คนเช่ารถยนต์ เราจึงต้องหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์แทน จองรถจากเว็บ kkday สองวัน ในราคา 2,300 บาท

--------------
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็พร้อมบินค่ะ เตรียมใจไปก็พอ เพราะช่วงที่บิน พายุเข้าเกาะโอกิมาได้สักพักและ คาดว่าเจอฝนและลมแน่ๆ และก่อนถึงไม่นาน ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เครื่องสั่น และตกหลุมอากาศเป็นว่าเล่น แต่ก็แลนดิ้งอย่างปลอดภัย
พีชแอร์ จะจอดที่ Terminal LCC ค่ะ เรียกง่ายๆว่าเป็นโกดังสินค้านั่นเอง เล็กมาก เราต้องนั่ง shuttle bus ไปที่ terminal หลัก เพราะเราต้องนั่ง Mono rail จากสนามบิน เข้าไปที่เมือง Naha


ที่เมืองนาฮะ มีถนนช็อปปิ้งชื่อว่า Kokusai Street นั่งโมโนเรล ลงที่สถานี Kencho-mae เดินลงมาก็เจอถนนช็อปปิ้งเลยมีของขายทั้งสองข้างทาง ยาวเป็นกิโล แต่อย่าหวังจะไปซื้อเสื้อผ้า หรือรองเท้าแบรนด์เนมที่นั่นนะ ไม่มีจ้ะ มีแต่ของกิน ของเล่น ของฝาก เสื้อยืด ประมาณนี้

เพราะทุกที่คือรันเวย์  (ภาพพื้นหลังอารมณ์คล้ายๆตลาดร้อยปีเมืองไทย)
---------------

ถ้าอยากช็อปปิ้งแบรนด์เนม ไปที่ outlet mall ค่ะ นั่งโมโนเรล จากสนามบินไป 1 สถานี ลงที่สถานี Akamine จากนั้นเดินลงมาที่ป้ายรถเมล์ ขึ้นรถบัสสาย 56 ไปลงที่ป้าย Outlet Mall Ashibinaa mae (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
ไปได้2ที่ สำหรับวันแรก ฝนตกทั้งวันหนักบ้าง ปรอยบ้าง บรรกาศอึมครึม จากนั้นก็เข้าเช็คอินที่โรงแรม หาข้าวกิน จิบเบียร์ Orion คือเบียร์ที่ผลิตที่โอกินาว่า มีหลากหลายรสชาติ แล้วแต่ชอบกันเลย
----------------

วันที่สอง เช่ามอเตอไซค์ขี่ไปชายหาด นอนอาบแดด....

โชคดี ตื่นเช้ามารีบเปิดหน้าต่างดู จนต้องกรี๊ด เพราะเห็นแดดเปรี้ยงเลย


เรานัดเจ้าของร้านเช่ารถไว้ 9:30 ให้มารับที่หน้าโรงแรม มาตรงเวลามาก ไปถึงร้านเช่า ก็จัดการเซ็นชื่อ ฟังคำอธิบายนิดหน่อย จากนั้นก็ไปโลดค่า เราเห็นคนขับ เพื่อนดู GPS


ระหว่างทางเลียบชายทะเล จอดถ่ายรูปสักหน่อย
---------------

## หาดแรกก่อนเลย  Tropical Beach

ที่นี่น้ำค่อนข้างใส มีที่นั่งในร่มฟรี มีอาหารให้ซื้อทาน เพลินมากที่นี่ อยากจะนอนที่นี่ทั้งวัน แต่เราต้องไปต่อ




ไหนๆก็ไหนๆละ ขอสวยๆสักรูปนะ

---------------

##หาดต่อไป Araha Beach

เป็นหาดที่มีกิจกรรมเช่น บานาน่าโบ๊ท เรือคายัคให้เล่น แต่น่าจะเสียค่าบริการ เราไม่ทราบราคา หาดนี้อยู่ก่อนถึง American Village ประมาณ 500 เมตรได้ ซึ่งมองเห็นชิงช้าที่นั่นได้


จริงเขาไม่ให้ขี่รถเข้ามา แต่จุดนี้มันสวยจริงๆ เลยขออนุญาตในใจ ขี่เข้ามาแชะภาพสักหน่อย


อยู่หาดนี้ไม่นานเพราะไม่มีอะไรให้ทำ ไม่มีที่นอน ที่นั่งในร่มเลย


ต่อไปก็ไปที่ American Village  มี outlet ให้ซื้อ แต่ขนาดจะเล็กกว่า จะแตกต่างจากที่ outlet mall แต่เราซื้อของ เครื่องสำอางค์ ของฝากกันที่นี่
-----------------

อยู่ใน outlet พักใหญ่ เราเดินไปด้านหลัง ซึ่งจะมีชายหาด Sunset Beach  ชื่อก็บ่งบอก เรากะจะมานอนดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ เป็นหาดขนาดย่อม น้ำไม่ใสเท่าไหร่ มีร้านขายเครื่องดื่ม มีเตียงนั่ง หรือจะเอาผ้ามาปูนอนกันเองก็ได้


เบียร์นี้อร่อยมากกก หอม หวาน นุ่ม


ก่อนกลับ โชคดีพระอาทิตย์โผล่มาให้เห็นแสงแดดกระทบพื้นน้ำ เพราะมีเมฆเยอะมากวันนั้น ให้ชัตเตอร์กันก่อนกลับ

จบไปอีกหนึ่งวัน กลับห้องได้ ขากลับงมทาง หลงทาง วนทางอยู่พักใหญ่ๆ ตื่นเต้นด้วย พอหลงแล้ว จะกลับรถยังไงดีวะ ยูเทิร์นตรงไหนได้ ไม่มีสัญญลักษณ์ยูเทิร์นเลย ......
-----------------


##วันที่สาม ไปตามหาแลนด์มาร์ค

ที่แรกที่ไปคือ Cape Manzamo เป็นแหลมที่ยื่นออกไปทะเล แล้วรูปร่างคล้ายกับงวงช้าง
ขี่มอไซค์จากที่พักไป  1 ชั่วโมงเต็มๆ ร้อนมากกก หน้าไหม้กันเลยทีเดียว

ธรรมดาโลกไม่จำ สวยให้ห้า มั่นหน้าให้ล้านแปด !!!


ไม่มีอะไรนอกจากแค่มาถ่ายรูป เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงโอกินาว่า ไม่มีของกินใดๆ ได้แต่กดน้ำดื่มประทังชีวิต ข้าวเช้าไม่ได้กิน


ภาพวิวด้านข้าง เดินไปเรื่อยๆจะเจอ

อีกสักรูป
-------------

ไปต่อค่ะ สถานีต่อไป Nakagusuku Castle เสียค่าเข้า 400 yen
ร้อนดีมากกกก แดดแรงสุดๆ



---------------

เสร็จจากที่นี่ก็สี่โมงเย็นได้ คงไปต่อที่ไหนไม่ทัน เราเลยไปคืนรถดีกว่า เพราะร้านเขาปิด 6 โมงเย็น กลัวว่าจะคลำทางกลับไปไม่ทัน ร้านปิด เพราไม่มีครั้งไหนไม่หลง แม้จะดู GPS ก็เถอะ
ไปคืนรถเสร็จ เจ้าของร้านมาส่งที่โรงแรม เราก็เลยหาข้าวกิน นั่นคืดข้าวเช้าในเวลา5โมงเย็น ทีนี้เวลาเหลือ เครื่องออก 21:55 เลยอยากไปเดินดูของอีกสักหน่อย เอาที่ใกล้สนามบิน เราเลือกไปร้านขายของมือสอง นั่งโมโนเรล มาลงที่ Akamine สถานีเดียกับที่จะไป outlet mall แต่พอลงจากสถานีมา จะเจอถนนให้เดินเลี้ยวเข้าไปแค่ 20 เมตร ก็เจอเลยที่นี่ใหญ่พอสมควร มีของแบรนด์มากมาย ราคาไม่แพง


ภาพของจากส่วนหนึ่งในร้าน




----------------

แล้วก็ได้เวลากลับ ขากลับ ต้องชั่งน้ำหนักกระเป๋าทุกคนนะคะ ค่อนข้างเข้มงวด หิ้วขึ้นเครื่องได้ 10 กิโลค่ะ

!!!!! สำคัญค่ะ !!!!!
อย่าลืมเช่า Pocket WiFi เพราะมันต้องใช้หาเส้นทาง เราใช้ของ Sky berry ค่ะ ใช้ที่ญี่ปุ่น4G unlimited ไม่มีสะดุด ยิ่งถ้ามีบัตรเครดิต JCB platinum จะเช่าได้ในราคาวันละ 100฿ !!! แต่ถ้าไม่มีบัตรเครดิต JCB ก็เช่าได้ ราคาวันละ 99฿ จะได้เน็ตความเร็ว 4G วันละ300 mb จากนั้นความเร็วจะลดลง แต่ยังใช้งานได้ แชร์ได้5คน สบ๊าย ถูกมากอ่ะ หรือจะประเทศอื่นๆก็มีนะ ในเอเชียเริ่มวันละ 99฿ เช่นกัน ส่วนยุโรปเริ่มต้นแค่199฿ ไปดูได้ที่เพจSky berry นะ 😉
https://www.facebook.com/HotspotSkyberry/




ปล. เกร็ดความรู้
1.    การจราจรที่โอกินาว่า ค่อนข้างดี ถนนสะอาด รถไม่เยอะ
2.    ที่นี่ไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ต้องไฟเขียวเท่านั้นถึงจะเลี้ยวซ้ายได้
3.    ถ้าจะเลี้ยวขวา บางแยกไม่มีสัญญานไฟหรือลูกศรเลี้ยวขวา แต่ถ้ามีสัญญาณสีเขียว ก็เลี้ยวขวาได้ แต่ต้องดูจังหวะรถให้ดี ก่อนจะเลี้ยว
4.    รถมอเตอร์ไซค์ที่นี่ เท่าเทียมกับรถยนต์ คือจะไม่ซิกแซกเพื่อจะไปจอดด้านหน้าของไฟแดง
5.    คนเดินเท้าสำคัญสุด คนที่จะข้ามถนนตรงที่ไม่มีสัญญาณไฟ ต้องให้เขาเดินข้ามไปก่อนเสมอ
6.    รถมอไซค์ญี่ปุ่นสัญญาณไฟเลี้ยว จะอยู่ด้านล่างแตร แต่ที่ไทย แตรจะอยู่ด้านล่างสัญญาณไฟเลี้ยว ระวังกดผิดปุ่ม ตั้งใจจะเลี้ยว ดันไปกดแตรซะงั้น
7.    คนญี่ปุ่นที่นี่ไม่เร่งรีบ เพราะมันต่างจากโตเกียวสิ้นเชิง และก็อัธยาศัยดี บางคนเดินผ่านไปแล้ว เดินกลับมาทักทายเรา ว่ามาจากไหน เป็นไงบ้างในโอกินาว่า ถ่ายรูปให้เอามั้ย ประมาณนี้
8.    อาหารทะเลที่นี่ไม่ค่อยเยอะ ส่วนมากเป็นหมูและไก่ แปลกใจเหมือนกัน ทั้งๆที่เป็นเกาะ เป็นทะเล
9.    อย่าลืมพกสเปร์ยกันแดดมาด้วย

น่าจะจบรีวิวเท่านี้ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่า
ชื่อสินค้า:   ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวโอกินาว่า
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่