เรื่องแปลก ๆ ที่บ้านเก่าของผม

บ้านนี้เป็นบ้านที่ผมอาศัยมาตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ครับ ครอบครัวผมอาศัยอยู่มาหลายปี พึ่งย้ายออกมาเมื่อสัก 3 ปีนี้เองครับ มันเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ซึ่งตอนนี้ก็เก่าและผุไปมากแล้ว เพราะอายุบ้านก็ร่วม 40 ปี ตั้งอยู่ริมคลอง แถว ๆ ตลิ่งชัน กทม. แต่บ้านนี่ไม่ได้ติดถนนนะครับ ถ้าจะเข้าบ้านต้องเดินเท้าผ่านสวนของคนอื่นเข้าไป ตลอดเวลาที่อยู่บ้านนี้ก็มีเรื่องแปลก ๆ อยู่หลายอย่าง เช่น
เรื่องที่ 1 ตอนกลางคืนผมมักจะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ข้าง ๆ บ้าน ถึงจะไม่บ่อยมากนัก แต่ก็หลายครั้งอยู่ จนกระทั่งก่อนย้ายบ้าน ก็ยังได้ยินครั้งหนึ่ง ผมก็สงสัย ดึกแล้วจะมีใครมาเดิน เป็นพวกคนที่นั่งเรือมาหาปลาหรือเปล่า จะมาขโมยของกันหรือเปล่า ก็เลยแอบดูลอดช่องฝาผนังข้างบ้านออกไป แต่ก็ไม่เห็นใคร แล้วเสียงเดินก็หายไปด้วย คือตอนนั้นไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะเป็นบ้านเราเอง อยู่จนชินแล้ว ....พอย้ายออกมาแล้วก็เลยคุยกับแม่ แม่บอกว่า เมื่อก่อนพ่อก็เคยได้ยิน แต่ไม่ใช่เสียงคนเดินเฉย ๆ นะ เป็นเสียงคนเดินลากโซ่ ส่วนรายละเอียดที่แม่เล่า จับประเด็นได้ว่า เป็นลักษณะยมทูตจับวิญญาณมา ก็เลยเป็นเสียงเดินลากโซ่ ที่รู้ก็เพราะว่า พ่อไปถามคนทรงที่ศาลเจ้ามา แต่จะลากกันไปไหน พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะถ้าเดินต่อไปมันก็ลงคลอง (หรือจะเดินไปลงเรือหว่า)
เรื่องที่ 2 ข้างบ้านผม เป็นทางเดิน (ที่มีเสียงคนเดินตอนกลางคืนนั่นแหล่ะ) แต่ถัดจากทางเดินไป จะเป็นโรงไม้เก่า (เมื่อก่อนพ่อทำโรงไม้ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นรับเหมาก่อสร้าง) คือโรงไม้ก็อยู่ข้างบ้านนั่นแหล่ะ  ตอนผมเป็นเด็ก พ่อมีงานรับทำเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำเซาะตลิ่ง ก็เลยจ้างคนงานมาอยู่ด้วยคนนึง พ่อเลยให้ไปกางมุ้งนอนที่โรงไม้ ให้นอนในบ้านไม่ได้ เพราะลูกสาวเยอะ พอตกกลางคืนเข้านอนคืนแรก คนงานก็ร้องลั่นบ้านเลยบอก "เถ้าแก่ไม่รู้มีใครมาดึงขาผม" พ่อก็ลงไปดู (พวกเรานอนอยู่ชั้น 2)  ส่วนเด็กอย่างผมตัวเย็นวาบ นอนนิ่งเลย พ่อลงไปดูสักพักก็ไม่เห็นอะไรก็กลับมานอนต่อ พอสักพัก คนงานก็ร้องลั่นเหมือนเดิม ไม่รู้มีใครมาดึงขา คราวนี้พ่อก็เลยลงไปจุดธูปไหว้ศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ริมน้ำ แล้วก็บอกว่า คนงานเขามาช่วยพ่อทำงาน ขอให้เขาอยู่ด้วย หลังจากพ่อจุดธูปไหว้ศาลพระภูมิแล้ว คนงานก็นอนได้ ไม่มีร้องว่าใครมาดึงขาอีก
เรื่องที่ 3 ตอนผมเป็นเด็กประมาณ ม.ต้น ส่วนพี่ชายอยู่ มหาลัย เคยช่วยกันรื้อไม้เก่า ๆ ตรงโรงไม้ ถัดจากที่คนงานเคยนอนมาอีกหน่อย แล้วก็เจอว่าใต้กองไม้มีรังปลวก รังใหญ่มาก กำลังกินไม้ของเราอยู่ พอรื้อไม้ดีเอาไว้ใช้งานเสร็จแล้ว ส่วนไม้ที่ถูกปลวกกินก็เอามากองรวบ กะจะเผาให้เรียบทั้งไม้ทั้งปลวก อยากทำลายข้าวของดีนัก ตอนที่จุดไม้ขีด กำลังจะเริ่มเผา ก็มีลมพัดมาอย่างแรง ไฟก็ดับ เป็นอยู่อย่างนี้ถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 ถึงได้ลงมือเผา พอเผาเสร็จแล้ว เราดูว่าปลวกตายหมด ไม้ผุ ๆ ส่วนที่โดนปลวกกินถูกเผาหมดแล้ว เราเผากันช่วงเย็น ๆ ประมาณ 4-5 โมงเย็น ใช้เวลาเผาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ จากนั้นก็ช่วยกันดับไฟ โดยไปตักน้ำจากริมคลองมารดกันหลายครั้ง พอตรวจว่าไฟดับหมดแล้ว ก็ยังเอาน้ำราดเพิ่มไปอีก 4-5 ถัง เพื่อความแน่ใจ ว่าไฟดับชัวร์ ๆ .....ที่นี้พอสัก 3-4 ทุ่ม ผมกำลังจะนอน ไม่รู้นึกยังไงไปมองกองไม้ที่เผาจากหน้าต่างห้องชั้น 2 ปรากฎว่า กองไม้ที่เราเผาไปตอนเย็น ติดไฟแดงเถือกทั้งกองเลย ก็เลยต้องหิ้วน้ำไปดับกันอีกรอบ
ที่จริงที่บ้านเก่าผมยังมีเรื่องแปลก ๆ อืก โดยเฉพาะสมัยที่พ่อแม่ย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ หลอนกว่าเรื่องของผมอีก (ส่วนพวกเราพี่น้องยังตัวเล็ก ๆ กันอยู่ จำความกันไม่ค่อยได้) และก็ไม่รู้เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า ห้องนอนของเรา (เรานอนรวมกันพ่อแม่ลูก) เวลานอน พ่อแม่จะไม่เคยปิดไฟจนมืดสนิทเลย แต่จะต้องเปิดหลอดไฟดวงเล็ก ๆ ดวงหนึ่งเอาไว้ทุกคืน ส่วนผมน่ะเหรอ ไม่ต้องห่วง ด้วยความกลัว ทำให้สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน มาตั้งแต่อยู่ประถมแล้วครับ ส่วนเรื่องของพ่อ แม่เคยเล่าให้ฟังอยู่ แต่ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว เดี๋ยวกลับไปถามใหม่แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่