ทำไมฝึกกรรมฐานแล้วจึงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ? อยากทราบคำอธิบายแบบวิทยาศาสตร์

มันเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติครับ อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ก็คือ ซิกเซ้นส์ สัมผัสที่6 ที่เกิดจากการทำสมาธิวิปัสสนา ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีเฉพาะแค่คน
สุนัข แมวที่เราเลี้ยงมันก็มีหมด สัมผัสมันดีกว่าคนเป็นร้อยเท่าพันเท่า ทั้งการรับรู้ กลิ่น เสียง รส สามารถแยกออก แม้เพียงน้อยนิด
หรือเป็นสัตว์ป่า ช้าง ม้า เสือ นก เวลามีภัยเช่นไฟป่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว มันก็จะรับรู้ ก่อน และออกวิ่งหนีไปแบบรีบร้อนในขณะที่คนยังงงว่ามันหนีอะไร

แม้กระทั่งสัตว์ที่อยู่แต่ในความมืด เช่น ค้างคาว มันอยู่ในถ้ำเป็นแสนๆตัว เวลามันโผบินออกจากถ้ำ ทำไมถึงไม่ชนกันเลย ไม่ใช่เพราะมันมีตาทิพย์ แต่มันมีประสาทสัมผัสที่ไวเหมือนเรดาห์ต่างหาก

ถามว่าสัตว์มันทำไมไม่ต้องนั่งสมาธิล่ะ ก็เพราะว่ามันเป็นสัญชาติญานที่ธรรมชาติมอบมา
ห้ แต่กำเนิดไงครับ
เพื่อการดำรงชีพ การระวังภัย การออกล่าหาเหยื่อ ซึ่งคนเป็นสัตว์สังคมประกอบด้วยคนหมู่มาก ไม่ได้อยู่คนเดียว หรือแค่ฝูงเดียว การใช้เซ้นส์ หรือสัญชาติญาน จึงไม่จำเป็นมากในการใช้ชีวิต
ยิ่งปัจจุบันสังคมเมือง มีสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์เพรียบพร้อม แทบไม่ต้องขยับตัวไปไหนเลย หิวก็แค่โทรสั่งไลน์แมนซื้อข้าวมาส่ง หรือเดินไปซื้อข้าวกล่องเซเว่น ไม่ต้องออกล่าสัตว์แบบแต่ก่อน

การทำสมาธิตามหลักพุทธจึงเหมือนกับเป็นวิธีเพื่อเข้าถึงธรรมชาติ เข้าถึงสัญชาติญานของเรา ที่สามารถจะรับรู้ถึงอะไรได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำ
การเข้าถึงธรรมชาติจากการทำสมาธิ จนเกิดญาน ถ้าพูดง่ายให้เห็นภาพ แบบเด็กยุคนี้ ก็เหมือนโลกนี้เป็นเกมส์ออนไลน์ เราสามารถแฮคเข้าระบบเพื่อปลดล็อคอาวุธ เข้าไปแอบดูยูสเซอร์คุยกันส่วนตัวว่าอะไร ประมาณนี้ได้

แต่คนที่สามารถรู้แจ้งได้ ก็มีทั้งคนดี และคนชั่ว (ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่ดีหรือชั่ว) คนดีก็จะนำไปใช้ในสิ่งทีดี ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก คนชั่วก็จะทำทุกอย่างเพื่อสนองนี๊ดตัวเอง
และก็มีบางคนเป็นแก๊งสิบแปดมงกุฎ ไม่ได้รู้แจ้ง ไม่ได้มี ญาน แบบพวกร่างทรง หมอดู หมอผี หลอกเอาเงินคน ของแบบนี้แล้วแต่ดวง ว่าคุณจะไปเจอแบบไหน ถ้าเจอคนชั่ว แก๊งต้มตุ๋นก็หนีให้ไกล
แต่ถ้าเจอและพิสูจน์แล้วว่าของจริง เป็นคนหรือพระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ หรืออุทิศตนเป็นพระโพธิสัตว์ตามความเชื่อพุทธ นิกายมหายาน แบบครูบาบุญชุ่ม ก็ควรที่จะยินดี และอนุโมทนาให้ท่านทำความดีช่วยเหลือมนุษย์ต่อไป

และฝากถึงคนที่อาจไม่เชื่ออะไรเลยในชีวิต ว่าต้องเดินทางสายกลาง อย่าสุดโต่งเกินไป ควรมองโลกอย่างมีเหตุและผล
มันก็คงเหมือนเรื่องผี และมนุษยฺต่างดาว คุณกล้าฟันธงหรือไม่ว่ามี หรือไม่มี 100% อันนี้ฝากให้ไปคิดครับ