สวัสดี เพื่อนๆ พันทิป
เป็นครั้งแรกที่รีวิวการท่องเที่ยวลงกระทู้พันทิป ตอนแรกก็ไม่อยากจะ รีวิวหรอกนะ แต่เมื่อวานนั่งโชว์รูปให้เพื่อน เพื่อนก็แนะนำให้ลองมารีวิวลงพันทิปดู แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แสนสนุกของ กะเทยคนหนึ่ง
บอกก่อนว่าเป็น นี่ Account ตัวเองไม่ได้ยืมเพื่อนมา และก็จะไม่ฝาก Facebook ไม่ฝาก IG เพราะ IG มีแต่ความต่ำตม
ขอแนะนำตัวเองก่อน เพื่อเป็นมารยาท
ชื่อว่า สก็อต เป็นกะเทยทำงานบริษัทเอกชน เป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ พูดอังกฤษเก่ง =
เงินเดือนสูง
เมื่อปี 2016 ก็เกิดมีความคิดที่จะไปเที่ยวยุโรป เพราะเกิดมาไม่เคยได้ไป ประเทศแถบตะวันออกเลย คิดว่าจะไปมันเลย 1 เดือน ตอนนั้นก็มีแฟนอยู่ แฟนก็ไม่เห็นด้วย เพราะหึง เรียกได้ว่า เป็น Prime Time ของชีวิต ยุโรปก็อยากไป ผัวก็ยังอยากมี แต่แล้วโชคชะตาก็เหมือนอยากให้สก็อตได้ไป ยุโรปตามความตั้งใจ ต้นปี 2017 แฟนก็ทิ้ง ด้วยความที่เป็นกะเทย ที่มีแม่เป็น Beyonce จึงไม่เสียเวลาไปกับการเศร้าโศก แต่ใช้เวลาและกำลังทั้งหมด วางแผนไปยุโรปแทน ใช้เวลาอ่านกระทู้พันทิป ศึกษาการขอวีซ่า รวบรวมเอกสาร และสมัครวีซ่า (กระทู้นี้ไม่รีวิวการ ขอวีซ่านะ น่าเบื่ออ่ะ) ในระยะเวลา 2 เดือนก็ได้ วีซ่ามา (เขาให้มาตั้ง 2 เดือนเลยนะ)
เรื่องราวความวุ่นวาย ความหยิบโหย่งมันเริ่มต้นตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบินเลยจ้า
***ตรงนี้เป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับทริปยุโรปเลยนะ มันคือ Prequel และเรื่องราวของกะเทยโง่นางหนึ่งเท่านั้น ใครอยากอ่านเกี่ยวกับ ยุโรป ให้ Scroll ลงไปอ่านตรงหัวข้อ "สวัสดี ปารีส" ***
แผนเที่ยวแรกสุดที่วางไว้ คือ Budapest > Brussel > Paris > Berlin > Amsterdam > Barcelona > Stockholm > Bergen > Oslo ด้วยความที่ไม่ชอบความไม่แน่นอน กะเทยจึงเช่า AirBnb ไว้เกือบทุกเมืองที่จะไปไว้เสร็จเรียบร้อย บางเมืองก็พักกับเพื่อน (ไปทั้งทีฉันไม่พักหรอก Hostel)
หลายๆ คนที่เที่ยวบ่อยอาจจะรู้จักเว็บหนึ่งชื่อว่า Kiwi.com มันเป็นเว็บที่หา เที่ยวบินที่ถูกมากๆ โดยจะมีการแวะจอดเปลี่ยนสายการบินประเทศต่างๆ และต้องออกไป Check In กระเป๋าใหม่ แล้วก็ขึ้นเครื่อง แล้วตอนที่จองไม่รู้ คิดว่าเที่ยวบินที่จองคือ Transit Flight
ได้ตั๋วมาราคา 11,000 บาท
ถูกดีมาก!!! รู้สึกชนะ และยิ้มมุมปากเบาๆ รีบจองเลย กลัวคนแย่ง จาก ดอนเมือง ไป บูดาเปสต์ (ตั๋วขากลับค่อยว่ากัน เพราะวีซ่า ได้มาตั้ง 2 เดือนเผื่ออยากอยู่ต่อ) เที่ยวบินที่ได้มามีดังนี้
Bangkok > Kuala Lumpur > Tehran > Baku (Azerbijan) > Budapest (สำหรับ ใครที่เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้แล้วว่า โชคชะตากะเทยจะเป็นอย่างไร)
เรื่องมันเกิด ตอนที่บินจาก KL ไป Tehran เหตุเพราะ Air Asia จะบินตอนไหนก็สายอยู่ดี (อยากให้ แอร์เอเชียเอาไปเป็นสโลแกนไปเลย) เที่ยวบิน สาย 2 ชั่วโมง ครึ่ง (ตอนนั้นกะเทยยังใจชื้น เพราะเวลาเปลี่ยนเครื่อง ในตั๋วเขียนไว้ว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ยังเหลือเวลาเยอะ ...ง่ายๆ คือยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น)
เมื่อก้าวเท้าลง Tehran มี 2 สิ่งที่ สก็อตคิดไว้ในหัวคือ พยายามอย่าทำตัวให่สะดีดสะดิ้งเกิน และพยายามยิ้มอย่างไทยเข้าไว้ เข้าใจเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ก็ดีมากพาเราไปที่ Transit Hall และขอ Passport ไปเพื่อไปทำการจัดการเรื่องเที่ยวบินที่สายให้ ประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้ มีเจ้าหน้าเดินออกมาและขานนามสกุลของสก็อต และพูดว่า "You are not allowed to enter both Iran and Azerbijan because you
have no visa for both countries" ...W-T-F?! คือไม่ได้ด่าเจ้าหน้าที่ แต่กำลังด่าตัวเองว่า "E-โง่!" เมื่อมองลงไปที่เอกสารการจองของ Kiwi.com จึงพบว่า เขาได้ระบุไว้ว่า ต้องขอวีซ่า Transit ของทั้งสองประเทศนี้ ...เจ้าหน้าที่มาพาตัวไป แล้วก็ถามด้วยความ หงุดหงิดว่า ทำไม You ถึงไม่ขอ Visa มา??? สรุปคือโดน Deport กลับไปที่ Kuala Lumpur ด้วยสายการบิน Air Asia (การโดน Deport คือไม่เสียเงินให้กับสายการบินที่พาเรามานะ เพราะก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องตรวจสอบวีซ่าเราเหมือนกัน) การนั่งบนเที่ยวบินนั้นคือความทรมานใจมาก เพราะแผนที่วางไว้ต้องเปลี่ยน Budapest และ Brussel ที่ตั้งใจไว้ ก็ต้องทิ้งเงินที่เสียค่าโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน และ ค่ารถไฟไป ...โง่จริงๆ
เมื่อกลับมาถึง Kuala Lumpur จึงโทรไปปรึกษาเพื่อน ที่ Oslo ว่าควรเอาอย่างไรต่อ เพื่อนแนะนำให้จองตั๋วจาก KL ไป Paris แทน น่าจะง่ายกว่า ก็เจอเที่ยวบินหลากหลายสายการบินมาก... แต่ ไม่มีสายการบินไหนรับบัตร Credit ของ Citibank และ Debit Card ของ ธนาคารเลย นอกจาก Singapore Airline ...จึงจองตั๋ว Kuala Lumpur > Singapore > Paris กับ Singapore Airline ด้วยราคา 38,000 บาท (เที่ยวเดียว ชั้นประหยัด

)
จึงเป็นที่มาของภาษิตที่ว่า
เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
แผนจึงถึงเปลี่ยนเป็นตามแผนที่ด้านล่าง
Paris > Berlin > Amsterdam > Barcelona > Stockholm > Bergen > Oslo > Rome
แต่เงิน 38,000 ที่เสียไปกับ Singapore Airline ก็ได้ความคุ้มค่าและบริการที่ดีกลับมา 16 ชั่วโมงที่อยู่บนเครื่องคือ ดีงามมาก

ต่อไปนี้จะเป็น รีวิวจริงๆ แล้วนะ
สวัสดี ปารีส
เมื่อเครื่องลงจอดพื้น ในขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นปรบมือให้กับการลงจอดที่นิ่มนวล กะเทยรีบดึงพาสปอร์ตขึ้นมาเพื่อตรวจสอบอีกรอบว่า หน้าที่แปะวีซ่าไว้ ยังอยู่ใช่มั้ย (ตอนนี้บอกเลยจิตใจไม่ปกติแล้ว) กลัวแล้วกับการโดน Deport

สนามบิน Charles de Gaulle วันนั้นเป็นวันที่มีแถว Immigration ยาวนานมาก แต่กะเทยก็ได้รับตราประทับมา และผ่านเข้าประเทศได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ (เอามือทาบอก ถอนหายใจ กับความโล่งใจครั้งนี้) แต่เพราะเครื่องลงตอน 6 โมงเช้า สก็อตจึงไม่สามารถไป Check in ที่โรงแรมได้ สิ่งแรกที่ทำหลังจากเข้าเมือง คือ ซื้อ Sim card เพื่อการ Live และรายงานเพื่อนๆ หลายคนที่กังวลกับโชคชะตาของสก็อตตอนนั้น และให้เพื่อนที่อยู่ปารีสพาไปเดินรอบเมืองก่อน

Campaign : Toey who survived the Deportation.

ข้อดีอย่างนึงคือ ดื่มแอลกอฮอล์ ตอนไหนก็ได้ ซึ่งบอกเลยตอนนั้นสก็อต ต้องการมันอย่างมาก

วิวสวย ไม่รู้จะบรรยายอะไรจริงๆ
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า เป็นกะเทยที่หยิบโหย่ง ดังนั้นการไปเที่ยวครั้งนี้นอกจาก จองโรงแรม และเที่ยวบินแล้ว ก็ไม่ได้วางแผนอะไรอย่างอื่นเลย ดังนั้นการเที่ยวปารีสคราวนี้ มันคือการไปที่ที่ ใครๆก็ไป อย่าไปสนใจกับภาพถ่ายว่า มุมต้องได้ ภาพต้องออกมาสวยงาม ถ่ายด้วย iPhone 6s แต่บอกเลยว่าแต่ละภาพมีเรื่องราวของมัน

มีเพื่อนกะเทยมาจอยอีก 2 คน สนุกเข้าไปอีก

ถึงปารีสแล้วไม่ไป Eiffel Tower ไม่ควรไปคุยอวดเพื่อนว่า ไปปารีสมา แต่เนื่องจากเงินที่จ่ายค่า ตั๋ว Singapore Airline ไป ทำให้งบในการขึ้นไปด้านบนนั้น อันตรธานหายไป แต่ตรงนี้ก็สวยดี

L'arc de triomphe ภาพสั่นเพราะกะเทย กลัวรถชน

Museum De Louvre เช่นกันไม่มีเงินเข้า ยืนมองจากด้านนอกแทน มีรถเข็นขาย Paul ด้วยนะแถวนั้น อยู่ไทยไม่ได้กิน ต้องถ่อไปกินถึงปารีส

Notre-Dame de Paris มีคนแนะนำให้ไปต่อแถวเพื่อ ไปดูวิวด้านบน กะเทยขี้เกียจ + ใกล้เวลาออกไป Le Marais แล้ว (ถนนเกย์) จึงถ่ายรูปภายนอกแล้วก็กลับ ใครที่อยากไปก็ลองขึ้นไปดูนะ เขาบอกว่าสวย

Sacré-Cœur (หรือชื่อเรียกโดยกะเทยว่า ทัช มาฮาล ซึ่งก็ทำเอา คนปารีส งงกันไป แล้วไปเถียงกับคนปารีสอีกด้วยนะ ว่า ฉันเปิด Google มา มันมีจริงๆ)

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ที่ไปมา มันก็ Cliche ซะเหลือเกิน จนมาที่นี่ มันก็คือ Ballon de Paris ซึ่งอยู่ที่ Observatoire Atmosphérique Generali ค่าขึ้น แค่ 12 ยูโร ไม่ต้องต่อแถว วิวด้านบนก็สวยไม่แพ้ Eiffel Tower นี่แหล่ะที่กะเทยต้องการ

เห็น Eiffel Tower จากด้านบน
เหล่านี้คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่สก็อตคิดว่า น่าจะเป็นไฮไลท์ที่สุด ของงไปปารีส แต่... ความสนุกมันยังไม่จบ ความสนุกที่แท้จริง ตามฉบับกะเทยมันอยู่ที่ Le Marais

ต้องขอ Censor ฉันกลัวโดน Report

AirBnb ที่กะเทยพักและปาร์ตี้อาหารไทย ที่ยังไงก็ต้องกิน ทำให้รู้ว่า ต่อให้ตัวเองย้ายไปอยู่ที่ประเทศไหน ขาดอาหารไทยไป ต้องสิ้นลมหายใจแน่ๆ
จบแล้วกับปารีส สนุกสนาน โดนปล้นด้วย แต่ก็รอดมาได้ Paris, Je t'aime
สำหรับเมืองอื่นๆ อ่านที่คอมเมนต์ด้านล่าง
เทยเที่ยวยุโรป 1 เดือน 7 ประเทศ 8 เมือง ทริปแรกของชีวิต ทริปวุ่น ทริปหยิบโหย่ง ไปเพื่อผช. อย่างแท้จริง
เป็นครั้งแรกที่รีวิวการท่องเที่ยวลงกระทู้พันทิป ตอนแรกก็ไม่อยากจะ รีวิวหรอกนะ แต่เมื่อวานนั่งโชว์รูปให้เพื่อน เพื่อนก็แนะนำให้ลองมารีวิวลงพันทิปดู แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แสนสนุกของ กะเทยคนหนึ่ง
บอกก่อนว่าเป็น นี่ Account ตัวเองไม่ได้ยืมเพื่อนมา และก็จะไม่ฝาก Facebook ไม่ฝาก IG เพราะ IG มีแต่ความต่ำตม
ขอแนะนำตัวเองก่อน เพื่อเป็นมารยาท
ชื่อว่า สก็อต เป็นกะเทยทำงานบริษัทเอกชน เป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ พูดอังกฤษเก่ง = เงินเดือนสูง
เมื่อปี 2016 ก็เกิดมีความคิดที่จะไปเที่ยวยุโรป เพราะเกิดมาไม่เคยได้ไป ประเทศแถบตะวันออกเลย คิดว่าจะไปมันเลย 1 เดือน ตอนนั้นก็มีแฟนอยู่ แฟนก็ไม่เห็นด้วย เพราะหึง เรียกได้ว่า เป็น Prime Time ของชีวิต ยุโรปก็อยากไป ผัวก็ยังอยากมี แต่แล้วโชคชะตาก็เหมือนอยากให้สก็อตได้ไป ยุโรปตามความตั้งใจ ต้นปี 2017 แฟนก็ทิ้ง ด้วยความที่เป็นกะเทย ที่มีแม่เป็น Beyonce จึงไม่เสียเวลาไปกับการเศร้าโศก แต่ใช้เวลาและกำลังทั้งหมด วางแผนไปยุโรปแทน ใช้เวลาอ่านกระทู้พันทิป ศึกษาการขอวีซ่า รวบรวมเอกสาร และสมัครวีซ่า (กระทู้นี้ไม่รีวิวการ ขอวีซ่านะ น่าเบื่ออ่ะ) ในระยะเวลา 2 เดือนก็ได้ วีซ่ามา (เขาให้มาตั้ง 2 เดือนเลยนะ)
เรื่องราวความวุ่นวาย ความหยิบโหย่งมันเริ่มต้นตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบินเลยจ้า
***ตรงนี้เป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับทริปยุโรปเลยนะ มันคือ Prequel และเรื่องราวของกะเทยโง่นางหนึ่งเท่านั้น ใครอยากอ่านเกี่ยวกับ ยุโรป ให้ Scroll ลงไปอ่านตรงหัวข้อ "สวัสดี ปารีส" ***
แผนเที่ยวแรกสุดที่วางไว้ คือ Budapest > Brussel > Paris > Berlin > Amsterdam > Barcelona > Stockholm > Bergen > Oslo ด้วยความที่ไม่ชอบความไม่แน่นอน กะเทยจึงเช่า AirBnb ไว้เกือบทุกเมืองที่จะไปไว้เสร็จเรียบร้อย บางเมืองก็พักกับเพื่อน (ไปทั้งทีฉันไม่พักหรอก Hostel)
หลายๆ คนที่เที่ยวบ่อยอาจจะรู้จักเว็บหนึ่งชื่อว่า Kiwi.com มันเป็นเว็บที่หา เที่ยวบินที่ถูกมากๆ โดยจะมีการแวะจอดเปลี่ยนสายการบินประเทศต่างๆ และต้องออกไป Check In กระเป๋าใหม่ แล้วก็ขึ้นเครื่อง แล้วตอนที่จองไม่รู้ คิดว่าเที่ยวบินที่จองคือ Transit Flight
ได้ตั๋วมาราคา 11,000 บาท ถูกดีมาก!!! รู้สึกชนะ และยิ้มมุมปากเบาๆ รีบจองเลย กลัวคนแย่ง จาก ดอนเมือง ไป บูดาเปสต์ (ตั๋วขากลับค่อยว่ากัน เพราะวีซ่า ได้มาตั้ง 2 เดือนเผื่ออยากอยู่ต่อ) เที่ยวบินที่ได้มามีดังนี้
Bangkok > Kuala Lumpur > Tehran > Baku (Azerbijan) > Budapest (สำหรับ ใครที่เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้แล้วว่า โชคชะตากะเทยจะเป็นอย่างไร)
เรื่องมันเกิด ตอนที่บินจาก KL ไป Tehran เหตุเพราะ Air Asia จะบินตอนไหนก็สายอยู่ดี (อยากให้ แอร์เอเชียเอาไปเป็นสโลแกนไปเลย) เที่ยวบิน สาย 2 ชั่วโมง ครึ่ง (ตอนนั้นกะเทยยังใจชื้น เพราะเวลาเปลี่ยนเครื่อง ในตั๋วเขียนไว้ว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ยังเหลือเวลาเยอะ ...ง่ายๆ คือยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น)
เมื่อก้าวเท้าลง Tehran มี 2 สิ่งที่ สก็อตคิดไว้ในหัวคือ พยายามอย่าทำตัวให่สะดีดสะดิ้งเกิน และพยายามยิ้มอย่างไทยเข้าไว้ เข้าใจเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ก็ดีมากพาเราไปที่ Transit Hall และขอ Passport ไปเพื่อไปทำการจัดการเรื่องเที่ยวบินที่สายให้ ประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้ มีเจ้าหน้าเดินออกมาและขานนามสกุลของสก็อต และพูดว่า "You are not allowed to enter both Iran and Azerbijan because you have no visa for both countries" ...W-T-F?! คือไม่ได้ด่าเจ้าหน้าที่ แต่กำลังด่าตัวเองว่า "E-โง่!" เมื่อมองลงไปที่เอกสารการจองของ Kiwi.com จึงพบว่า เขาได้ระบุไว้ว่า ต้องขอวีซ่า Transit ของทั้งสองประเทศนี้ ...เจ้าหน้าที่มาพาตัวไป แล้วก็ถามด้วยความ หงุดหงิดว่า ทำไม You ถึงไม่ขอ Visa มา??? สรุปคือโดน Deport กลับไปที่ Kuala Lumpur ด้วยสายการบิน Air Asia (การโดน Deport คือไม่เสียเงินให้กับสายการบินที่พาเรามานะ เพราะก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องตรวจสอบวีซ่าเราเหมือนกัน) การนั่งบนเที่ยวบินนั้นคือความทรมานใจมาก เพราะแผนที่วางไว้ต้องเปลี่ยน Budapest และ Brussel ที่ตั้งใจไว้ ก็ต้องทิ้งเงินที่เสียค่าโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน และ ค่ารถไฟไป ...โง่จริงๆ
เมื่อกลับมาถึง Kuala Lumpur จึงโทรไปปรึกษาเพื่อน ที่ Oslo ว่าควรเอาอย่างไรต่อ เพื่อนแนะนำให้จองตั๋วจาก KL ไป Paris แทน น่าจะง่ายกว่า ก็เจอเที่ยวบินหลากหลายสายการบินมาก... แต่ ไม่มีสายการบินไหนรับบัตร Credit ของ Citibank และ Debit Card ของ ธนาคารเลย นอกจาก Singapore Airline ...จึงจองตั๋ว Kuala Lumpur > Singapore > Paris กับ Singapore Airline ด้วยราคา 38,000 บาท (เที่ยวเดียว ชั้นประหยัด
จึงเป็นที่มาของภาษิตที่ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
แผนจึงถึงเปลี่ยนเป็นตามแผนที่ด้านล่าง
Paris > Berlin > Amsterdam > Barcelona > Stockholm > Bergen > Oslo > Rome
แต่เงิน 38,000 ที่เสียไปกับ Singapore Airline ก็ได้ความคุ้มค่าและบริการที่ดีกลับมา 16 ชั่วโมงที่อยู่บนเครื่องคือ ดีงามมาก
ต่อไปนี้จะเป็น รีวิวจริงๆ แล้วนะ
สวัสดี ปารีส
เมื่อเครื่องลงจอดพื้น ในขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นปรบมือให้กับการลงจอดที่นิ่มนวล กะเทยรีบดึงพาสปอร์ตขึ้นมาเพื่อตรวจสอบอีกรอบว่า หน้าที่แปะวีซ่าไว้ ยังอยู่ใช่มั้ย (ตอนนี้บอกเลยจิตใจไม่ปกติแล้ว) กลัวแล้วกับการโดน Deport
สนามบิน Charles de Gaulle วันนั้นเป็นวันที่มีแถว Immigration ยาวนานมาก แต่กะเทยก็ได้รับตราประทับมา และผ่านเข้าประเทศได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ (เอามือทาบอก ถอนหายใจ กับความโล่งใจครั้งนี้) แต่เพราะเครื่องลงตอน 6 โมงเช้า สก็อตจึงไม่สามารถไป Check in ที่โรงแรมได้ สิ่งแรกที่ทำหลังจากเข้าเมือง คือ ซื้อ Sim card เพื่อการ Live และรายงานเพื่อนๆ หลายคนที่กังวลกับโชคชะตาของสก็อตตอนนั้น และให้เพื่อนที่อยู่ปารีสพาไปเดินรอบเมืองก่อน
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า เป็นกะเทยที่หยิบโหย่ง ดังนั้นการไปเที่ยวครั้งนี้นอกจาก จองโรงแรม และเที่ยวบินแล้ว ก็ไม่ได้วางแผนอะไรอย่างอื่นเลย ดังนั้นการเที่ยวปารีสคราวนี้ มันคือการไปที่ที่ ใครๆก็ไป อย่าไปสนใจกับภาพถ่ายว่า มุมต้องได้ ภาพต้องออกมาสวยงาม ถ่ายด้วย iPhone 6s แต่บอกเลยว่าแต่ละภาพมีเรื่องราวของมัน
เหล่านี้คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่สก็อตคิดว่า น่าจะเป็นไฮไลท์ที่สุด ของงไปปารีส แต่... ความสนุกมันยังไม่จบ ความสนุกที่แท้จริง ตามฉบับกะเทยมันอยู่ที่ Le Marais
จบแล้วกับปารีส สนุกสนาน โดนปล้นด้วย แต่ก็รอดมาได้ Paris, Je t'aime
สำหรับเมืองอื่นๆ อ่านที่คอมเมนต์ด้านล่าง