เมื่อเวลา 10:30 น. วันที่8 กรกฎาคม2561 ที่ อบต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร. พร้อมด้วย พลตรี ฉลองชัย ชัยยะคํา รองแม่ทัพภาคที่ 3 และพลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และนายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ลำเลียง13หมูป่าชุดแรก ถึงปากถ้ำคืนนี้3ทุ่ม© สนับสนุนโดย BangkokBizNews เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ลำเลียง13หมูป่าชุดแรก ถึงปากถ้ำคืนนี้3ทุ่ม
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร. เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 16 แล้วที่พวกเราทุกคนได้อยู่ร่วมกันในปฏิบัติการการค้นหาและช่วยเหลือน้องน้องทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ในถ้ำเชื่อว่าทุกคนต่างมีความหวังอยากเห็นความสำเร็จในการช่วยเหลือน้องน้องออกมาได้ในเร็ววัน ขณะเดียวกันก็มีหลายคนเเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และยิ่งนับวันยิ่งมีนักข่าวเข้ามาอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความแออัด และไม่สะดวกสบาย
ในวันนี้จึงต้องขออภัยและขอบคุณสื่ออย่างมากในการที่จะต้องจัดระเบียบและย้ายมาอยู่ที่ อบต.โป่าผาแห่งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เองก็ต้องการพื้นที่ในการปฎิบัติหน้าที่อย่างมาก เพื่อความคล่องตัว และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่เคยกราบเรียนมาโดยตลอดทุกภารกิจที่เรามีการปฎิบัติหน้าที่ก็ยังคงดำเนินการต่ออย่างต่อเนื่องทุกภารกิจมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ นำน้องน้องออกมาได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด
แม้ว่าภารกิจในการค้นหาขณะนี้จะพบตัวเด็กแล้ว แต่ก็ยังต้องหาวิธีทางที่จะนำน้องออกมามาซึ่งเจ้าหน้าที่หลายพันนายก็กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะนี้อุปสรรคหลักๆของเรามีอยู่2 อย่าง นั่นก็คือ น้ำ และเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต่อสู้กันมาตั้งแต่วันแรกแล้วยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่เรายังต้องสู่ต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติและเวลาได้ แต่เราก็รอเสี้ยวเวลาเสี้ยววินาที จังหวะที่เหมาะสมจะใช้ทุกวินาทีนั่นให้สำเร็จ ซึ่งต้องให้มีความพร้อม 100% ความปลอดภัย 100% เราจึงจะนำน้องน้องออกมา
เรื่องของการขุดเจาะโพรง ปล่อง เพื่อให้ทะลุโถงถ้ำ ที่ได้มีการให้ข้อมูลไปแล้วว่า เจาะและสำรวจไปแล้วจำนวนกว่า 100 จุด แต่ยังไม่มีจุดไหน ที่สำเร็จหรือมีทางเชื่อมโยงกับโถงถ้ำ การพร่องน้ำออกจากถ้ำการหาทางเข้าทางอื่นทุกแนวทางเราก็ยังปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ทั้งไทยและต่างประเทศที่ส่งผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆที่มาให้คำปรึกษาเข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งบุคลากรและเครื่องมือสำคัญต่างๆร่วมปฎิบัติหน้าที่ทุกภารกิจ ซึ่งเราน้อมรับและนำไปใช้ประโยชน์ทุกอย่าง
ในวันนี้สิ่งที่อยากจะบอกกับสื่อก็ คือ เรื่องของความพร้อมไม่ว่าจะความพร้อมในด้านสภาพอากาศ ความพร้อมเรื่องของน้ำการปรับสภาพพื้นที่ จะเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมาว่าเราเริ่มปรับภูมิประเทศ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเช่นกัน จนในขณะนี้ความพร้อมถึงจุดสูงสุดแล้ว เราเริ่มปฏิบัติการ ดีเดย์ จะนำเอาน้องออกมาแล้วในวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญถึงเวลาที่พร้อมที่สุดแล้วในขณะนี้ และหากล่าช้าในอีกไม่กี่วันจะเกิด พายุใหญ่อาจจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และทำให้เกิดอันตรายกับผู้ที่อยู่ด้านใน
โดยมีดำน้ำถ้ำจากต่างประเทศ 13 คน และเจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยอีก 5 นาย ทั้งหมดมีความเชี่ยวชาญ และสามารถทนต่อสภาพของน้ำอย่างยากลำบากเช่นนี้ ที่ส่งเข้าไปในถ้ำ เพื่อปฎิบัติการที่จะลำเลียงช่วยเหลือน้องๆออกมาแล้ว ซึ่งโถง1-โถง3 สามารถเดินทะลุได้อย่างสะดวกแล้ว นาทีนี้เองก็มีความพร้อมเต็มที่ที่จะฟันฝ่าอุปสรรคในการช่วยเหลือน้องๆมา ตัวน้องเองก็เริ่มมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะออกมาภายนอกแล้ว ทั้ง 13คนมีความพร้อม ได้รับทราบภารกิจในครั้งนี้เป็นอย่างดี ครอบครัวของน้องๆ เองก็รับทราบภารกิจ และเห็นด้วยกับภารกิจครั้งนี้ส่วนทีมการแพทย์ เองก็มีความพร้อมเช่นกัน
ทั้งนี้ มีทีมแพทย์จำนวน 13 ชุด รองรับทั้ง 13 คน จึงได้มีการซ้อมแผนมาแล้ว 3-4วัน ต่อเนื่อง ในทุกขั้นตอน ตามที่เห็นว่าจะมีการกางแสลนปิดทางเมื่อช่วงค่ำ ก็เพื่อเป็นการซ้อมแผน การวางอุปกรณ์จุดต่างๆโดยเฉพาะถังออกซิเจน จากการซ้อมแผนตั้งแต่เช้ายันค่ำยืนยันเลยว่าขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้านอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวดีและลุ้นให้ภารกิจประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ แต่หากมีความคืบหน้าเร่งด่วนใดจะรีบให้ข้อมูลทันที
โดยจะนำออกมาทีละ 1 คน โดยจะมีทีมดูแล 2 ต่อ 1 ซึ่งคาดว่าชุดแรกที่จะออกมาถึงปากถ้ำในวันนี้เวลาประมาณ 21.00 น.ซึ่งเวลานั่นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ สำหรับแผนการเคลื่อนย้ายทัง 13 คนจากวนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ไปยัง โรงพยาบาลศูนย์เชียงรายประชานะเคราะห์ นั้น ทางทีมแพทย์ ได้มีแผนในการลำเลียงคือ1.เลียงจากภายในถ้ำมายัง โรงพยาบาลสนามเพื่อแยกตามอาการ แบ่งเป็นสีเขียว คือ ไม่มีอาการเจ็บป่วย หรือเจ็บป่วยเล็กน้อย สีเหลือง เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บปานกลาง และสีแดง เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บรุนแรง โดยมีทีมแพทย์จำนวน 13 ชุด รองรับทั้ง 13 คน
2.หลังจากคัดแยกแล้วจะลำเลียงผู้ป่วยไปยังศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หากไม่เจ็บป่วยมากจะลำเลียงทางรถพยาบาลฉุกเฉินที่เตรียมไว้ 13 คัน แต่หากรายใดมีอาการเจ็บป่วยมากจะประเมินสถานการณ์ลำเลียงโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ไปยังฝูงบิน 416 สนามบินเก่า ซึ่งอยู่ห่างจาก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ประมาณ 500 เมตร และ3. รักษาตามอาการของแต่ละคน โดยแยกแต่ละคนเพื่อให้ทีมแพทย์รักษาภายในห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ที่ศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาลบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีทีมแพทย์ 13 ทีม ในการดูแล
ด้านพลตรี ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ปฏิบัติการร่วมใช้แผนที่มีความสมบูรณ์ ง่าย และปฏิบัติได้จริง โดยได้เลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด มีการซ้อมแผน เมื่อมั่นใจจึงปฏิบัติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ด้าน พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้กล่าวถึง การจัดระเบียบจราจรและสื่อมวลชน ว่า ต้องขอความร่วมมือจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ โดยเฉพาะสนามเฮลิคอปเตอร์ บริเวณศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ ขอความร่วมมืออย่าเข้าใกล้ในระยะ 200 เมตร และจุดทางร่วมทางแยกด้วย เพราะรถพยาบาลต้องใช้เวลาสั้นที่สุดในการนำส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวยืนยันความพร้อมทุกด้านทางการแพทย์ ขณะนี้เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว
ด้าน นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า การสนับสนุนไฟฟ้าในถ้ำเพื่อช่วยในการสูบน้ำมีความเสถียร ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะนี้ระดับน้ำในถ้ำลดอย่างต่อเนื่อง
เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ลำเลียง13หมูป่าชุดแรก ถึงปากถ้ำคืนนี้3ทุ่ม
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร. เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 16 แล้วที่พวกเราทุกคนได้อยู่ร่วมกันในปฏิบัติการการค้นหาและช่วยเหลือน้องน้องทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ในถ้ำเชื่อว่าทุกคนต่างมีความหวังอยากเห็นความสำเร็จในการช่วยเหลือน้องน้องออกมาได้ในเร็ววัน ขณะเดียวกันก็มีหลายคนเเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และยิ่งนับวันยิ่งมีนักข่าวเข้ามาอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความแออัด และไม่สะดวกสบาย
ในวันนี้จึงต้องขออภัยและขอบคุณสื่ออย่างมากในการที่จะต้องจัดระเบียบและย้ายมาอยู่ที่ อบต.โป่าผาแห่งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เองก็ต้องการพื้นที่ในการปฎิบัติหน้าที่อย่างมาก เพื่อความคล่องตัว และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่เคยกราบเรียนมาโดยตลอดทุกภารกิจที่เรามีการปฎิบัติหน้าที่ก็ยังคงดำเนินการต่ออย่างต่อเนื่องทุกภารกิจมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ นำน้องน้องออกมาได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด
แม้ว่าภารกิจในการค้นหาขณะนี้จะพบตัวเด็กแล้ว แต่ก็ยังต้องหาวิธีทางที่จะนำน้องออกมามาซึ่งเจ้าหน้าที่หลายพันนายก็กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะนี้อุปสรรคหลักๆของเรามีอยู่2 อย่าง นั่นก็คือ น้ำ และเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต่อสู้กันมาตั้งแต่วันแรกแล้วยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่เรายังต้องสู่ต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติและเวลาได้ แต่เราก็รอเสี้ยวเวลาเสี้ยววินาที จังหวะที่เหมาะสมจะใช้ทุกวินาทีนั่นให้สำเร็จ ซึ่งต้องให้มีความพร้อม 100% ความปลอดภัย 100% เราจึงจะนำน้องน้องออกมา
เรื่องของการขุดเจาะโพรง ปล่อง เพื่อให้ทะลุโถงถ้ำ ที่ได้มีการให้ข้อมูลไปแล้วว่า เจาะและสำรวจไปแล้วจำนวนกว่า 100 จุด แต่ยังไม่มีจุดไหน ที่สำเร็จหรือมีทางเชื่อมโยงกับโถงถ้ำ การพร่องน้ำออกจากถ้ำการหาทางเข้าทางอื่นทุกแนวทางเราก็ยังปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ทั้งไทยและต่างประเทศที่ส่งผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆที่มาให้คำปรึกษาเข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งบุคลากรและเครื่องมือสำคัญต่างๆร่วมปฎิบัติหน้าที่ทุกภารกิจ ซึ่งเราน้อมรับและนำไปใช้ประโยชน์ทุกอย่าง
ในวันนี้สิ่งที่อยากจะบอกกับสื่อก็ คือ เรื่องของความพร้อมไม่ว่าจะความพร้อมในด้านสภาพอากาศ ความพร้อมเรื่องของน้ำการปรับสภาพพื้นที่ จะเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมาว่าเราเริ่มปรับภูมิประเทศ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเช่นกัน จนในขณะนี้ความพร้อมถึงจุดสูงสุดแล้ว เราเริ่มปฏิบัติการ ดีเดย์ จะนำเอาน้องออกมาแล้วในวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญถึงเวลาที่พร้อมที่สุดแล้วในขณะนี้ และหากล่าช้าในอีกไม่กี่วันจะเกิด พายุใหญ่อาจจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และทำให้เกิดอันตรายกับผู้ที่อยู่ด้านใน
โดยมีดำน้ำถ้ำจากต่างประเทศ 13 คน และเจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยอีก 5 นาย ทั้งหมดมีความเชี่ยวชาญ และสามารถทนต่อสภาพของน้ำอย่างยากลำบากเช่นนี้ ที่ส่งเข้าไปในถ้ำ เพื่อปฎิบัติการที่จะลำเลียงช่วยเหลือน้องๆออกมาแล้ว ซึ่งโถง1-โถง3 สามารถเดินทะลุได้อย่างสะดวกแล้ว นาทีนี้เองก็มีความพร้อมเต็มที่ที่จะฟันฝ่าอุปสรรคในการช่วยเหลือน้องๆมา ตัวน้องเองก็เริ่มมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะออกมาภายนอกแล้ว ทั้ง 13คนมีความพร้อม ได้รับทราบภารกิจในครั้งนี้เป็นอย่างดี ครอบครัวของน้องๆ เองก็รับทราบภารกิจ และเห็นด้วยกับภารกิจครั้งนี้ส่วนทีมการแพทย์ เองก็มีความพร้อมเช่นกัน
ทั้งนี้ มีทีมแพทย์จำนวน 13 ชุด รองรับทั้ง 13 คน จึงได้มีการซ้อมแผนมาแล้ว 3-4วัน ต่อเนื่อง ในทุกขั้นตอน ตามที่เห็นว่าจะมีการกางแสลนปิดทางเมื่อช่วงค่ำ ก็เพื่อเป็นการซ้อมแผน การวางอุปกรณ์จุดต่างๆโดยเฉพาะถังออกซิเจน จากการซ้อมแผนตั้งแต่เช้ายันค่ำยืนยันเลยว่าขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้านอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวดีและลุ้นให้ภารกิจประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ แต่หากมีความคืบหน้าเร่งด่วนใดจะรีบให้ข้อมูลทันที
โดยจะนำออกมาทีละ 1 คน โดยจะมีทีมดูแล 2 ต่อ 1 ซึ่งคาดว่าชุดแรกที่จะออกมาถึงปากถ้ำในวันนี้เวลาประมาณ 21.00 น.ซึ่งเวลานั่นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ สำหรับแผนการเคลื่อนย้ายทัง 13 คนจากวนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ไปยัง โรงพยาบาลศูนย์เชียงรายประชานะเคราะห์ นั้น ทางทีมแพทย์ ได้มีแผนในการลำเลียงคือ1.เลียงจากภายในถ้ำมายัง โรงพยาบาลสนามเพื่อแยกตามอาการ แบ่งเป็นสีเขียว คือ ไม่มีอาการเจ็บป่วย หรือเจ็บป่วยเล็กน้อย สีเหลือง เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บปานกลาง และสีแดง เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บรุนแรง โดยมีทีมแพทย์จำนวน 13 ชุด รองรับทั้ง 13 คน
2.หลังจากคัดแยกแล้วจะลำเลียงผู้ป่วยไปยังศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หากไม่เจ็บป่วยมากจะลำเลียงทางรถพยาบาลฉุกเฉินที่เตรียมไว้ 13 คัน แต่หากรายใดมีอาการเจ็บป่วยมากจะประเมินสถานการณ์ลำเลียงโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ไปยังฝูงบิน 416 สนามบินเก่า ซึ่งอยู่ห่างจาก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ประมาณ 500 เมตร และ3. รักษาตามอาการของแต่ละคน โดยแยกแต่ละคนเพื่อให้ทีมแพทย์รักษาภายในห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ที่ศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาลบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีทีมแพทย์ 13 ทีม ในการดูแล
ด้านพลตรี ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ปฏิบัติการร่วมใช้แผนที่มีความสมบูรณ์ ง่าย และปฏิบัติได้จริง โดยได้เลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด มีการซ้อมแผน เมื่อมั่นใจจึงปฏิบัติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ด้าน พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้กล่าวถึง การจัดระเบียบจราจรและสื่อมวลชน ว่า ต้องขอความร่วมมือจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ โดยเฉพาะสนามเฮลิคอปเตอร์ บริเวณศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ ขอความร่วมมืออย่าเข้าใกล้ในระยะ 200 เมตร และจุดทางร่วมทางแยกด้วย เพราะรถพยาบาลต้องใช้เวลาสั้นที่สุดในการนำส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวยืนยันความพร้อมทุกด้านทางการแพทย์ ขณะนี้เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว
ด้าน นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า การสนับสนุนไฟฟ้าในถ้ำเพื่อช่วยในการสูบน้ำมีความเสถียร ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะนี้ระดับน้ำในถ้ำลดอย่างต่อเนื่อง