ซัมซูง TAB S2 แบตเริ่มเสื่อมก็เลยสั่งซื้อแบตรุ่นนี้จากร้านออนไลน์ เอาไปให้ช่างร้านแถวนี้เปลี่ยนให้ ช่างร้านแรกเขาบอกว่าถ้าจอแตกถือเป็นความผิดของลูกค้า งงกับภาษา เอามาให้ช่างทำแล้วช่างทำเสียหายเป็นความผิดของเรา นี่เรียนภาษาไทยมาหรือปล่าว ถ้าบอกว่าถ้าผมแกะเครื่องแล้วจอแตกไม่รับผิดชอบก็พอเข้าใจ ก็ตกลงว่าถ้าจอแตกไม่รับผิดชอบ จะว่าไม่อยากได้งานก็ไม่ใช่ เพราะยังให้ความหวังกับตัวเขาเองไว้นิดๆว่า "แต่ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยทำของลูกค้าแตก" ย้ำๆประโยคนี้อยู่สองครั้ง เผื่อว่าลูกค้ายังจะโง่ให้ทำอยู่ แต่จุดไคลแม็กซ์อยู่ตรงที่ปิดท้ายด้วยคำว่า "ผมคิดค่าแรงเปลี่ยนแบตนี้หนึ่งพันบาท ราคาแบตไม่แพงหรอกหาซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่ทำก็ไม่เป็นไร จะลองไปถามร้านอื่นดูก่อนก็ได้" ช่างใจกว้างครับแฟร์ๆดี ช่างแบบนี้หายากครับ ปกติจะโน้มน้าวให้เราทำ แต่ผมนี่รีบเอามือคลำบนหัวตัวเอง ว่าเขาเห็นอะไรงอกออกมาบนหัวผมหรือปล่าวเนี่ย ก็บอกว่างั้นยังไม่เปลี่ยน รีบเดินสี่ขาออกมาเลย(เพราะไปสองคนครับ) ไม่รับผิดชอบแต่คิดค่าแรงหนึ่งพันบาท โหเปลี่ยนแบตแท็ปเล็ตนี่ดูจากค่าแรงมันคงยากเหมือนยกครัทช์ยกเกียร์รถยนต์เลยไหมเนี่ย ระหว่างนั่งในรถก็เอามือถือมาค้นหาวิธีเปลี่ยนแบต TAB S2 ก็เจอของฝรั่ง อ้าวรุ่นนี้มันเปิดฝาหลังได้นี่ ง่ายจะตาย ไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จ แต่เราไม่มีเครื่องมือแงะ อย่ากระนั้นเลยเดี๋ยวไปอีกร้านนึง บอกช่างว่าช่วยเปลี่ยนแบต TABLET ให้หน่อย ช่างแค่ได้ยินก็บอกว่าโอ้ยทำไม่ได้หรอกครับต้องส่งศูนย์ กลัวหน้าจอแตก ก็เลยบอกอธิบายและย้ำไปสองสามครั้งว่ารุ่นนี้แงะข้างหลังครับ ช่างก็เออๆงั้นเหรอ งั้นจะลองทำให้ ก็รับเครื่องไปนั่งแงะๆสักพักก็เปิดได้ และเอามาให้เราเป็นคนดึงแบตออกเอง เพราะมันติดกาว ผมก็ค่อยๆดึงเบาๆสักครู่ก็ออก ช่างก็เอาแบตใหม่ใส่ให้ ปิดฝาหลัง ถามคิดค่าบริการเท่าไหร่ ช่างบอกไม่เป็นไรไม่คิดตังค์ครับ ก็เลยขอบคุณไปหลายๆครั้ง ทำไมช่างร้านแรก กับช่างร้านที่สอง ต่างกันเหลือเกินครับ ช่างคนแรกนี่แฟร์ๆดีครับ ใจกว้างไม่บังคับลูกค้า แนะนำให้ไปถามร้านอื่นก่อนด้วย เพียงแต่ผมไม่กล้าจะทำด้วยกลัวจะมีความผิด
ช่างร้านซ่อมมือถือเขามีแนวคิดทางธุรกิจแบบไหนกันน่ะ