ประโยชน์จากกฎหมายบังคับคดีฉบับใหม่เพื่อประโยชน์ในการทวงหนี้

คำถามมีว่า

โทษทางอาญาของลูกหนี้ที่โกหกไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์เมื่อเจ้าหนี้ทำคำร้องขอเรียกลูกหนี้มาไต่สวนหาทรัพย์

เพื่อบังคับคดี มีอัตราโทษอย่างไรค่ะ


จาก

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277

“ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเชื่อว่าลูกหนี้ตาม คำพิพากษามีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับมากกว่าที่ตนทราบแล้ว

เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้อง ต่อศาล ขอให้ศาลทำการไต่สวนและออกหมายเรียกลูกหนี้


ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่เชื่อว่าอยู่ในฐานะที่จะให้ถ้อยคำอัน เป็นประโยชน์มาในการไต่สวนเช่นว่านั้น

เมื่อมีคำขอเช่นว่านี้ ให้ศาลทำการไต่สวนตามกำหนดและเงื่อนไข ใด ๆ ที่เห็นสมควร



จึงจำต้องอัญเชิญลูกหนี้มาไต่สวนต่อหน้าศาลตามเนื้อความดังกล่าวข้างต้น



ก็เป็นไปตามคาดว่าจำเลยไม่มีทางเอ่ยปากว่ามีทรัพย์อะไรอยู่อีกบ้างที่โจทก์พอจะยึดหรืออายัดมาชำระหนี้ได้

แหมก็ใครเขาบอกกันละท่าน แล้วถามว่าก็รู้อยู่ว่าผลจะเป็นอย่างไร แล้วจะเรียกมาให้เสียเวลาทำไม ไม่ค่ะ เราไม่เสียเวลา

เพราะคราวนี้เรามีเซอร์ไพรส์รอจำเลยอยู่  ภายหลังจากที่เราไต่สวนจนได้ความตามที่กฎหมายต้องการแล้ว

เราก็นำข้อมูลจากคำให้การของจำเลยเองไปไป

ยื่นฟ้องเป็นคดีอาญา เพื่อนำจำเลยเข้าคุกเข้าตาราง จากคดีแพ่งธรรมดาก็เลยกลายเป็นคดีอาญาหรือที่เราเรียกกันว่า

“จับลูกหนี้การค้าติดคุก”  

(บทความนี้อ้างอิงจากสมรภูมิบังคับคดีโดย .......... นางสาวสาคร  หวานคง )

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่