โรงรถเเบบนี้ใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับ

แพงตรงหลังคาปั้นหยา เนี่ยแหละครับ
ถ้าเอาประหยัดใช้หลังคาแบบเพิงหมาแหงน ถ้าเอาประหยัดอีกก็หลังคาเมทัลชีท กรุฉนวนกันความร้อน ลดเสียงดังตอนฝนตก

ขอนอกเรื่องครับ
- ถ้าพื้นที่พอมี ลึกแค่ 4 ม. ตื้นไปครับ ควรจะ 5.5-6 ม. เป็นอย่างน้อย  (รถเล็กๆ อย่าง Mazda 2 ความยาวก็ 4 ม. แล้วครับ ถ้าเป็นรถไซส์ใหญ่กว่านี้จอดไม่ได้ครับ อย่าง civic ก็ 4.5 ม.แล้ว ยิ่งกระบะบางรุ่นอย่าง BT 50, Ranger นี่รถยาว 5.4 ม.)
- พื้นกระเบื้องแบบนี้ เวลาฝนตกที ลื่นปรื๊ดครับ หาสากกว่านี้จะดีกว่า หรือถ้าเทปูนก็ให้ช่างทำสากๆ หน่อย
- ควรมีทางเดินให้หลบฝนไปเอารถ เพราะเวลาฝนตก แบบนี้ต้องเดินฝ่าฝนไปเอารถ

***เพิ่มเติม
อย่าลืมพิจารณา
- ความกว้างถนนที่ต้องตีวงเข้าจอดด้วยนะครับ ต้องเผื่อรัศมีวงเลี้ยวด้วย
- ถ้าถอยหลังเข้าซอง ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า ถอยเข้าแบบไหน ถอยยาวมาตั้งแต่หน้าบ้านเลย หรือว่าขับเอาหน้าเข้า ถ้าขับเอาหน้าเข้าก็ต้องเผื่อพื้นที่ให้รถขับเลยโรงจอดรถด้วยนะครับ (ขับเลยโรงรถไปแล้วถอยเข้า)
- แดดตอนบ่าย เข้าทิศไหน ถ้าไม่อยากให้รถร้อน หาต้นไม้ปลูกบังแดดไว้เลย
- สวิทช์ไฟ อยู่ที่เสาต้นหน้านะครับ โดยเอาสวิทช์แอบไว้ด้านหลัง เพราะถ้าเอาสวิทช์ไว้เสาหลัง เวลาเปิด ต้องเดินไปมืดๆ หรือให้ช่างไฟต่อแบบพ่วงก็ได้ครับ ให้เปิดปิดจากในบ้านก็ได้ เปิดปิดที่โรงจอดรถก็ได้  ... สวิทช์ไฟต้องระวังเรื่องฝนสาดด้วย
- มีปลั๊กไฟด้วย
- พื้นควรลาดเอียงนิดนึงนะครับ เวลาล้างรถน้ำจะได้ไหลไปในทิศทางที่ต้องการ (ปกติลาดไปด้านหลัง)
- ก่อนเทพื้น ต้องทำคานด้วยครับ ไม่งั้นตรงกลางจะทรุด
- ซื้อเสาเข็ม 3" หรือ 4" มากั้นล้อหลังด้วยครับ ให้ช่างตัดตรงปลายแหลมออก แล้วให้ช่างยิงน๊อตยึดติดกับพื้น