JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ กสิกรส่งซิกไตรมาส 3 NPLพีก พุ่งเฉียด 3%ฯ/ชี้ราคายาง-ปาล์ม กระทบความเขื่อมั่น ปชช.ใต้ลดฯ

กระทู้คำถาม
กสิกรส่งซิกไตรมาส 3 NPLพีก พุ่งเฉียด 3% ธปท.ชี้ศก.ดีส่งไปไม่ถึง SME
https://www.prachachat.net/finance/news-183671

ธปท.ชี้แนวโน้มเอ็นพีแอลในไตรมาส 2 “ทรงตัว” โล่ง “เอ็นพีแอลเกิดใหม่” น้อย เหตุแบงก์รัดกุมการปล่อยกู้ เผย 2 กลุ่มเปราะบางน่าห่วง “เอสเอ็มอี-รายย่อย” ทำใจเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ยังไม่ได้รับอานิสงส์ ด้านกสิกรฯส่งซิกระวังเอ็นพีแอล “พีก” ถึง 2.93% ในไตรมาส 3 เหนื่อยหนี้เสีย “สินเชื่อบ้าน-เอสเอ็มอี” ไหลต่อ

นายรณดล นุ่มนนท์ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงไตรมาส 2 นี้ ทิศทางหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยรวมทั้งระบบ น่าจะอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ที่มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.92% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบ เนื่องจากปัจจุบันเห็นสัญญาณการเกิดเอ็นพีแอลจากการปล่อยกู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากธนาคารพาณิชย์ไทยมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ค่อนข้างรัดกุม

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มที่ยังต้องจับตาเป็นพิเศษและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดคือ กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็กและกลุ่มลูกค้ารายย่อย (รีเทล) ที่ยังมีความเปราะบางอยู่ แม้ว่าปัจจุบันแนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ แต่ว่ายังไม่สามารถส่งผลมาถึง 2 กลุ่มนี้ให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นเรื่องคุณภาพหนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูใกล้ชิดและดูแลไม่ให้ตกชั้นเป็นเอ็นพีแอล

“เอ็นพีแอลของเอสเอ็มอี และรีเทล ยังอยู่ในระดับทรง ๆ ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังคงต้องติดตามเป็นพิเศษอยู่ เพราะสองกลุ่มนี้มีความเปราะบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นแม้เศรษฐกิจดีขึ้น 2 กลุ่มนี้ก็ยังไม่ได้รับผลบวกในทันที ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาสักพัก” นายรณดลกล่าว

สำหรับระดับความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์โดยรวม นายรณดลกล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์ยังคงใช้มาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดในระดับเดิม คือ การคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้และระดับการก่อหนี้เป็นสำคัญ ดังนั้นจึงยังไม่เห็นสัญญาณการเพิ่มระดับความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเกิดขึ้นในเวลานี้

“แต่การที่แบงก์มีการปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากผู้กู้รายนั้นมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้มาก่อน ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกรายที่แบงก์จะใช้เกณฑ์นี้ เช่นเดียวกับการดูข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ที่แบงก์อาจไม่ได้ดูข้อมูลจาก NCB ด้านเดียว เพื่อมาใช้ตัดสินว่าเขาจะเข้าถึงหรือไม่เข้าถึงสินเชื่อ แบงก์ก็ได้นำหลายเหตุผลมาประกอบการตัดสินใจด้วย”
นายรณดลกล่าว

ด้านนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย กลุ่มงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2561 คาดการณ์เอ็นพีแอลโดยรวมของทั้งระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ระดับทรงตัวอยู่ที่ 2.92% และไตรมาส 3/2561 คาดจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.93% ของสินเชื่อรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นจุดสูงสุด (พีก) โดยกลุ่มที่ยังเห็นเอ็นพีแอลปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 นี้ ยังมาจากสินเชื่อที่อยู่อาศัย และเอสเอ็มอี หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ตัวเลขเอ็นพีแอล 2 กลุ่มนี้อยู่ที่ระดับ 3.38% และ 4.5% ตามลำดับเอ็นพีแอลในไตรมาส 2 ยังไม่ใช่จุดพีก คือยังทรง ๆ อยู่ แต่ไตรมาส 3 เอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นต่อ ซึ่งกลุ่มหลัก ๆ ที่เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น คือเอสเอ็มอี และบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากเอ็นพีแอลใหม่และเอ็นพีแอลเก่าที่ไม่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้วตกชั้นลงมาใหม่

แต่แนวโน้มไตรมาส 4 เอ็นพีแอลน่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.90% ได้ เนื่องจากปกติในไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วงที่แบงก์มีการบริหารจัดการ ทั้งขายหนี้และตัดหนี้เสียต่าง ๆ ออก ทำให้เอ็นพีแอลในไตรมาส 4 นี้จะลดลงกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา”
นางสาวกาญจนากล่าว

นางสาวกาญจนากล่าวว่า สำหรับสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5% จากเดิมคาดอยู่ที่ 4.8% โดยสินเชื่อรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.5% จากเดิมที่คาดโตเพียง 5.5% แต่สินเชื่อรายใหญ่ได้ปรับคาดการณ์เติบโตลงมาอยู่ที่ 2.5% จากคาดการณ์เดิม 3.5% ซึ่งเป็นผลมาจากฐานสินเชื่อรายใหญ่ของช่วงครึ่งปีแล้ว มีการขยายตัวค่อนข้างสูง

นางสาวณญาณี เผือกขำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด (กรุงศรีคอนซูเมอร์) กล่าวว่า ทิศทางเอ็นพีแอลไตรมาส 2 ของบริษัทยังอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% สำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล หากแยกเป็นเอ็นพีแอลของบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 1.5-1.6% ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 2.5% และในปีนี้ บริษัทจะควบคุมไม่ให้ตัวเลขเอ็นพีแอลเกินจากระดับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โดยหากดูไส้ในของลูกหนี้เสียพบว่ายังเป็นกลุ่มเจนวาย (คนรุ่นใหม่) ที่สร้างหนี้และผิดนัดชำระหนี้มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่