หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
แชร์ประสบการณ์การลงทุนออมหุ้นรายเดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ( DCA ไตรมาส 2 มกราคม - มิถุนายน 2561 )
กระทู้สนทนา
Value Investment
Fundamental Analysis
หุ้น
การออมเงิน
การลงทุน
กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และสำหรับท่านที่สนใจการลงทุนในแนวนี้เท่านั้นครับ ... มิได้มุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ หรืออวดความเก่ง-ไม่เก่งแต่อย่างใดนะครับ ท่านใดที่ไม่ชอบการลงทุนในแนว DCA หรือไม่อยากเสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้ ...กรุณาข้ามกระทู้นี้ไปนะครับ
สำหรับผมการออมหุ้นในไตรมาสที่สองของปี 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นเมื่อสิ้นปี 30 ธันวาคม 2560 ทำให้มูลค่าหุ้นในพอร์ตปรับลดลงอย่างมาก จากมูลค่าหุ้นที่เคยกำไรเยอะๆ ก็มีกำไรลดลงอย่างมาก ส่วนหุ้นที่เคยกำไรน้อยๆ หรือขาดทุนเล็กน้อยก็ขาดทุนมากขึ้น แต่โดยรวมกำไรในพอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่ แต่หุ้นที่เพิ่ง DCA ในช่วงปลายปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึง Q1 2561 มูลค่าหุ้นในพอร์ตเลยขาดทุนค่อนข้างมาก เช่น BJC Beauty EA MTLS และได้หยุด DCA หุ้นเหล่านี้ไปตั้งแต่เดือน เมษายน 2561 เพราะมองว่าพื้นฐานเริ่มไม่ค่อยดีเหมือนก่อนๆ แต่ก็ยังเก็บไว้ในพอร์ตรอดูพื้นฐานในอนาคตก่อนพิจารณาถือต่อไป หรือ ปรับออกจากพอร์ตต่อไป
ปัจจุบันผมก็ยังออมหุ้นต่อเนื่องทุกเดือน และได้ปรับลดจำนวนหุ้นที่ออมลงเหลือ 5 บริษัท ... โดยจะเน้น DCA หุ้นที่มองว่าพื้นฐานยังมั่นคง การเติบโตยังสามารถเติบโตได้ดีต่อไปในอนาคต แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ถูกมาก หรือเริ่มแพง (ในช่วงหุ้นขึ้นๆ) แต่ผมก็ยัคง DCA ทุกเดือนจะไม่หยุด DCA ตามแนวทางของการออมหุ้น DCA (ไม่ว่าราคาหุ้นจะขี้นหรือลงก็ยังคงออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือนครับ) โดยผมจะเน้นออมหุ้นที่ผมคิดว่าพื้นฐานดีมากๆ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกๆปี ให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าหุ้นที่พื้นฐานดีแต่อาจจะไม่เด่น หรือการเติบโตอาจจะน้อยกว่า.....
โดยหุ้นหลักๆที่ลงทุนมากก็จะเน้นหุ้น AOT CPALL ส่วนหุ้นที่คิดว่าน่าจะดี แต่ไม่เด่น ก็จะ DCA น้อยกว่า เช่น CPN BEAUTY IRPC และได้หยุด DCA BEAUTY แล้วตั้งแต่ July 61 เพราะดูว่าพื้นฐานดูไม่ค่อยดีเหมือนก่อน (ความเห็นส่วนตัว) และก็มีหุ้น BEAUTY อยู่ไม่มาก
นอกจาก DCA ทุกเดือนแล้ว ในช่วงเดือน 2 เดือนที่หุ้น AOT และ CPALL ราคาหุ้นถูกเทขายลงมามากๆ ผมก็ทยอยซื้อเก็บเพิ่มเองทีละน้อยๆ เพราะได้แบ่งขายทำกำไรออกไปบ้างแล้วเมื่อตอนต้นปีที่หุ้นปรับขึ้นมาสูง แต่ขายแค่บางส่วนเพื่อตุนกำไรไว้ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อหุ้นเมื่อราคาปรับตัวลงมาจนราคาน่าสนใจ (ขายหุ้นในพอร์ตที่ซื้อขายเอง ) ได้ทยอยเก็บเพราะคิดว่าราคาหุ้นได้ปรับลงมาจนเริ่มน่าสนใจแล้ว ผมก็ทยอยเก็บเพื่อลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ โดยทยอยเก็บทีละไม้ 2 ไม้ แต่ไม่ได้ซื้อจำนวนมากๆ ได้ทยอยเก็บเรื่อยๆเมื่อหุ้นปรับลงมาแต่ละราคา จนเพียงพอแล้ว(หมดทุนที่สำรองไว้) ตอนนี้เลยหยุดซื้อเพิ่มแล้ว และมีหุ้นมากพอแล้ว
ผลการลงทุน สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 กำไรที่เคยมีกำไรมากเมื่อปลายปี 2560 ได้ลดลงอย่างมากถึง 46.49% จากที่เคยกำไร 2,648,000 บาท ลดลงเหลือ 1,352,000 บาท แต่พอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่ โดยเป็นกำไรจากหุ้นหลักๆ 3 ตัวคือ AOT CPALL และ CPN นอกนั้นหุ้นอื่นๆก็ขาดทุนทุกตัว และที่หุ้นที่กำไรก็ปรับลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาหุ้นหลักๆในพอร์ตทั้ง 3 ตัว ถูกเทขายอย่างหนัก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้กำไรในพอร์ต DCA ลดลงอย่างมากดังกล่าวนั่นเอง
แต่ผลกำไรที่หายไป ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานราคาหุ้นทั้ง 3 ตัว ก็จะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นมาได้อีก แต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น และกลีบมาที่ราคาก่อนถูกเทขายอย่างแน่นอน ...ตอนนี้ก็เป็นการขาดทุนกำไรในบัญชีเท่านั้น หรือเงินกำไรมายาหายไปชั่วคราวเท่านั้น และสอดคล้องกับแนวทางการ DCA หุ้น ก็ไม่ได้หวังผลกำไรในระยะเวลาสั้นๆอยู่แล้ว
ยิ่งหุ้นราคาถูกๆ เราก็สามารถ DCA ได้จำนวนหุ้นมากกว่าช่วงที่ราคาหุ้นแพงๆด้วย และผมก็ได้ DCA หุ้นต่อเนื่องมาทุกๆเดือนเหมือนเดิมครับ ผมมองยาวๆหลายๆปีครับ จะได้ไม่เครียดเมื่อราคาหุ้นปรับลดลง แต่ที่สำคัญ ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดีๆ มีการเติบโตต่อเนื่องได้ทุกๆปี ผลการดำเนินงานดีขึ้นทุกๆปี และมีเงินปันผลทุกๆปีนะครับ
มาดูพอร์ต DCA ทั้ง 3 พอร์ตกันเลยครับ
1 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน
2 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 15 ของเดือน
3 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 25 ของเดือน
มีคนหลังไมค์มาถามผลตอบแทนทบต้นต่อปี ก็เลยไปลองคำนวณดูผลตอบแทนย้อนหลังว่า มีกำไรทบต้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์
อยากจะบอกว่า เงินทุนที่ DCA ในช่วงแรกเป็นการ DCA รายเดือนทั้งหมดจากเงินเดือนที่เหลือทุกเดือน แต่หลังจากได้ DCA 3-4 ปี ก็ได้เริ่มซื้อขายเองบ้าง แต่ก็เป็นหุ้นในกลุ่มที่ DCA ทุกเดือนเหมือนกัน และเมื่อมีกำไรมากๆ ก็จะทยอยแบ่งขายทำกำไรออกไปบ้าง(พอร์ตที่ซื้อขายเอง) และซื้อกลับบ้าง และเมื่อพอร์ตโตขึ้น ก็เอากำไรและเงินทุนบางส่วนออกมาซื้อขายเองมากขึ้น ... จากเดิมหุ้นที่ DCA จะไม่ขายเลย ถือยาวตลอด แต่พอช่วงหุ้นตก พอร์ตที่เคยกำไรเยอะ กำไรก็หายไปพอสมควร ....ต่อมาจึงเปลียนแนวทางการลงทุน จะแบ่งขายออกไปบ้างเมื่อหุ้นในพอร์ตมีกำไรมากๆ มั่งพอร์ตDCA และพอร์ตซื้อขายเอง แล้วค่อยทยอยซื้อ DCA เพิ่มใหม่ ส่วนพอร์ตที่ซื้อขายเอง ก็ค่อยรอซื้อตอนหุ้นราคาตก การแบ่งขายจะขายไม่หมด อย่างมากจายไป59%
พอร์ตส่วนใหญ่ปัจจุบันจะซื้อขายเอง ....พอร์ต DCA ก็ซื้อกับ CIMB ทุกๆเดือน จะไม่ขายเว้นแต่หุ้นที่ DCA ดูไม่ค่อยดีอย่างที่คิด ก็อาจจะขายเปลียนตัวอื่นแทน หรือมีขายทำกำไรออกไปบ้างเมื่อพื้นฐานหุ้นในพอร์ตราคาเริ่มแพงเกินพื้นฐาน หรือการเติบโตหุ้นช้าลง ก็จะหาหุ้นใหม่ DCA และขายหุ้นที่เติบโตช้าออกไป แต่ส่วนใหญ่หุ้นหลักๆจะถือยาว 4-5 ปีขึ้นไป บางทีขายเอากำไรไปแล้ว ค่อย DCA หุ้นเดิมก็มี เช่น AOT CPALL MINT CPN เพราะบางช่วงต้องการใช้เงินก็ขายไปสักรอบ ประมาณนี้ครับ
วันนี้ ( 4/7/2018) Beauty ลงฟลอร์ เลย เหลือ 9.10 บาท พรุ่งนี้คงไหลต่อ ...แง แง
รอเด้งนิดหน่อยคงต้องยอมคัทลอสแล้ว...ดีที่เพิ่ง DCA มาแค่ 5-6 เดือน แตก็ขาดทุนเฉียดแสนแน่ๆเลย
การลงทุนมีความเสี่ยง... ถึงเวลาคัทลอสก็ต้องทำครับ
ุเพิ่มเติม 6/7/2018
อยากจะให้กำลังใจผู้ที่จะ DCA. หุ้นว่า .....แนวทางที่ผมได้ลงทุนหุ้นนึ้ เป็นแนวทางที่ผู้ทำงานกินเงินเดือนทุกคนสามารถสร้างอนาคตให้เกษียณ และมีอิสระภาพทางการเงินได้จริงๆครับ
ผมตอนนี้ก็เกือบถึงเป้าหมายนั้นแล้ว แม้จะเพิ่ง DCA มาแค่12 ปี แต่ผมมีเงินออมตุนไว้เยอะก้อนหนึ่งก่อน DCA และได้ทุ่มเงินออมทุกบาทที่มี DCA มาเรื่อยๆช่วงยังทำงานอยู่ และเข้าลงทุนในช่วง Subprime แถว 800 จุด ตอนนั้นโบรคเกอร์บอกว่าให้ลดพอร์ต รอลงทุนหลังอะไรๆนิ่งๆก่อน เพราะไม่ใช่ช่วงน่าซื้อ คงจะใช้เวลาอีกปี -2ปี หุ้นถึงจะขึ้น ..... แต่ผมถือยาวไม่สนใจว่าหุ้นไม่ขึ้น ผมอยากซื้อถูกไว้ก่อน ผเลยทยอยซื้อเลยน่าจะดีกว่ารอไปอีกปี 2 ปี
ผมซื้อมาประมาณ 6 เดือนหุ้นก็เริ่มขึ้น และชึ้นเอาๆมาตลอด ทำให้ผมโชคดีหุ้นในพอร์ตได้กำไรเยอะเกือบทุกตัว ช่วงแรกๆไม่ขายเลย พอช่วงหุ้นปรับฐาน กำไรก็ลดลง (เสียดายเหมือนกันที่กำไรหด 555) ตอนหลังเลยแบ่งซื้อแบ่งขายโดยดูกำไรของหุ้นแต่ละตัว และติดตามสตอรี่ว่ายังมีข่าวดีรออยู่อีกมั้ย?... ขึ้นมาแรงเกินไปหรือเปล่า ? ....
ลงทุนแบบหุ้นห่านทองคำ คือห่านโตก็จับขายออกไปบ้างข่วงหุ้นขึ้น เอาเงินไปซื้อลูกห่านมาเลี้ยงเพิ่มช้วงหุ้นลง
พอร์ตก็จะโตได้เร็วครับ ผมทำแบบนี้มาตลอด แต่ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะได้กำไรนะครับ หุ้นส่วนน้อยบางตัวก็ขาดทุนเหมือนกัน ซื้อแล้วไม่เวิร์คกับขายออกไปซื้อหุ้นที่ดีกว่า (พูดง่านยแต่อาจทำยาก ผมเองก็คัทลอสบ่อยเหมือนกันครัยบ) ก็ปรับพอร์ตกันไปเรื่อยๆ มีเวลาให้เงินทำงานอีกนานๆๆๆ.... ไม่ต้องแพนิคตามตลาดหุ้น ลงทุนอย่างมีวินัย ตามแนวทางที่เรามีความรู้ มีสติเรียนรู้ทันหุ้นไปเรื่อยๆ ไม่ยากอย่างที่กลัวครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
กองทุน ETF MCHI น่าลงทุนไหม?
กองทุน MCHI หรือ iShares MSCI China ETF (MCHI) เป็นหนึ่งในทางเลือกหลักสำหรับนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการเข้าถึงตลาดหุ้นจีนในรูปแบบที่ง่ายและสะดวก กองทุน MCHI มีเป้าหมายในการติดตามดัชนี MSC
สมาชิกหมายเลข 4190046
ลงทุน SOXX ETF: เปิดโอกาสในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงอุตสาหกรรมนี้โดยไม่ต้องเลือกหุ้นรายตัวสามารถพิจารณา SOXX ETF ซึ่งเป็นกอ
สมาชิกหมายเลข 4190046
เปรียบเทียบ DCA ลงทุนเดือนละเท่ากัน แต่ต่างกันเพราะค่าธรรมเนียม จะต่างกันกี่บาท
มีใครสงสัยไหมครับว่า ค่าธรรมเนียมต่างกันมีผลยังไงบ้าง เท่าไหร่ ช่วงนี้ผมลองจำลองการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) อยากรู้ว่าถ้าลงทุนในที่ต่างกัน ผลลัพธ์จะต่างกันแค่ไหนใน 1 ปี หรือมากกว่านั้น ผล
สมาชิกหมายเลข 3847507
แชร์ความเห็นของการลงทุนหุ้น DCA ของเพื่อนนักลงทุนที่แชร์ในกระทู้เพิ่มเติม
พอดีมีความเห็นของเพื่อนนักลงทุนท่านหนึ่งได้เข้ามาคอมเม้นท์ในกระทู้ของผม และผมเห็นว่าเป็นความเห็นที่ดี น่าจะนำมาแชร์ต่อ รวมทั้งอยากจะแสดงความเห็นส่วนตัวในมุมมองของผมเพิ่มเติมด้วย จึงขออนุญาตเจ้าของคอมเ
Wild Rabbit
แชร์ประสบการณการออมหุ้น DCA 35 เดือน ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ผลเป็นอย่างไร มาดูกันครับ
สำหรับการลงทุนหุ้นแนวการออมหุ้นช่วงวิกฤติโควิท 19 ในรอบนี้ 35 เดือนที่ผ่านมา ผลการลงทุนยังอาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นการลงทุนช่วงวิกฤติโควิด และมีปัญหาอีกหลายๆอย่างที่ทำให้หุ้นฟื้นตั
Wild Rabbit
แชร์ประสบการณ์การออมหุ้นสิ้นสุด Q 1 - 2020 ( DCA เริ่มออม กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2563 ) และขายทำกำไร DCA พอร์ตเก่าทั้งหมด
กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และเป็นกำลังใจให้นักลงทุนใหม่ๆที่เริ่มสนใจการลงทุน และเพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อการจุดประกายให้นักลงทุ
Wild Rabbit
ผลตอบแทนจากการลงทุนแนว DCA โดยซื้อทุกเดือน หุ้นจะขึ้น หุ้นจะลงก็ซื้อ.. จะให้ผลตอบแทนต่อปีสักกี่เปอร์เซ็นต์???
กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง เป็นแนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และสำหรับท่านที่สนใจการลงทุนในแนวนี้เท่านั้นครับ ... มิได้มุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ หรืออวดความเก
Wild Rabbit
แชร์การออมหุ้น DCA 23 เดือน ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ผลเป็นอย่างไร มาดูกันครับ
สำหรับการลงทุนหุ้นแนวการออมหุ้นช่วงวิกฤติโควิท 19 ในรอบนี้ 23เดือนที่ผ่านมา ผลการลงทุนยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ไตรมาสนี่มีกำไรเพิ่มขึ้นบ้าง ช่วงปีนี้มีกำไรลดลงในบางไตรมาส บางไตรมาสก็ลดลง ขึ้นกับภาวะการระ
Wild Rabbit
บัฟเฟตต์ขายไม่หยุด สบโอกาสทำกำไรอีก Berkshire รินขาย Apple หลังราคาพุ่งกว่า 24%
บัฟเฟตต์ขายไม่หยุดสบโอกาสทำกำไรอีกBerkshire รินขาย Apple หลังราคาพุ่งกว่า 24% มีสัญญาณใหม่บ่งชี้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ อาจยังคงทยอยลดสัดส่วนการถือครองหุ้น Apple อย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เบาะแสสำคัญ
สมาชิกหมายเลข 7920162
แชร์ประสบการณ์การออมหุ้นสิ้นสุด Q 2 - 2020 ( DCA เริ่มออม กุมภาพันธ์ - มิถุนายน 2563 )
กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และเป็นกำลังใจให้นักลงทุนมือใหม่ๆที่เริ่มสนใจการลงทุน และเพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อการจุดประกายให้นักล
Wild Rabbit
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Value Investment
Fundamental Analysis
หุ้น
การออมเงิน
การลงทุน
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 236
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
แชร์ประสบการณ์การลงทุนออมหุ้นรายเดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ( DCA ไตรมาส 2 มกราคม - มิถุนายน 2561 )
สำหรับผมการออมหุ้นในไตรมาสที่สองของปี 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นเมื่อสิ้นปี 30 ธันวาคม 2560 ทำให้มูลค่าหุ้นในพอร์ตปรับลดลงอย่างมาก จากมูลค่าหุ้นที่เคยกำไรเยอะๆ ก็มีกำไรลดลงอย่างมาก ส่วนหุ้นที่เคยกำไรน้อยๆ หรือขาดทุนเล็กน้อยก็ขาดทุนมากขึ้น แต่โดยรวมกำไรในพอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่ แต่หุ้นที่เพิ่ง DCA ในช่วงปลายปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึง Q1 2561 มูลค่าหุ้นในพอร์ตเลยขาดทุนค่อนข้างมาก เช่น BJC Beauty EA MTLS และได้หยุด DCA หุ้นเหล่านี้ไปตั้งแต่เดือน เมษายน 2561 เพราะมองว่าพื้นฐานเริ่มไม่ค่อยดีเหมือนก่อนๆ แต่ก็ยังเก็บไว้ในพอร์ตรอดูพื้นฐานในอนาคตก่อนพิจารณาถือต่อไป หรือ ปรับออกจากพอร์ตต่อไป
ปัจจุบันผมก็ยังออมหุ้นต่อเนื่องทุกเดือน และได้ปรับลดจำนวนหุ้นที่ออมลงเหลือ 5 บริษัท ... โดยจะเน้น DCA หุ้นที่มองว่าพื้นฐานยังมั่นคง การเติบโตยังสามารถเติบโตได้ดีต่อไปในอนาคต แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ถูกมาก หรือเริ่มแพง (ในช่วงหุ้นขึ้นๆ) แต่ผมก็ยัคง DCA ทุกเดือนจะไม่หยุด DCA ตามแนวทางของการออมหุ้น DCA (ไม่ว่าราคาหุ้นจะขี้นหรือลงก็ยังคงออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือนครับ) โดยผมจะเน้นออมหุ้นที่ผมคิดว่าพื้นฐานดีมากๆ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกๆปี ให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าหุ้นที่พื้นฐานดีแต่อาจจะไม่เด่น หรือการเติบโตอาจจะน้อยกว่า.....
โดยหุ้นหลักๆที่ลงทุนมากก็จะเน้นหุ้น AOT CPALL ส่วนหุ้นที่คิดว่าน่าจะดี แต่ไม่เด่น ก็จะ DCA น้อยกว่า เช่น CPN BEAUTY IRPC และได้หยุด DCA BEAUTY แล้วตั้งแต่ July 61 เพราะดูว่าพื้นฐานดูไม่ค่อยดีเหมือนก่อน (ความเห็นส่วนตัว) และก็มีหุ้น BEAUTY อยู่ไม่มาก
นอกจาก DCA ทุกเดือนแล้ว ในช่วงเดือน 2 เดือนที่หุ้น AOT และ CPALL ราคาหุ้นถูกเทขายลงมามากๆ ผมก็ทยอยซื้อเก็บเพิ่มเองทีละน้อยๆ เพราะได้แบ่งขายทำกำไรออกไปบ้างแล้วเมื่อตอนต้นปีที่หุ้นปรับขึ้นมาสูง แต่ขายแค่บางส่วนเพื่อตุนกำไรไว้ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อหุ้นเมื่อราคาปรับตัวลงมาจนราคาน่าสนใจ (ขายหุ้นในพอร์ตที่ซื้อขายเอง ) ได้ทยอยเก็บเพราะคิดว่าราคาหุ้นได้ปรับลงมาจนเริ่มน่าสนใจแล้ว ผมก็ทยอยเก็บเพื่อลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ โดยทยอยเก็บทีละไม้ 2 ไม้ แต่ไม่ได้ซื้อจำนวนมากๆ ได้ทยอยเก็บเรื่อยๆเมื่อหุ้นปรับลงมาแต่ละราคา จนเพียงพอแล้ว(หมดทุนที่สำรองไว้) ตอนนี้เลยหยุดซื้อเพิ่มแล้ว และมีหุ้นมากพอแล้ว
ผลการลงทุน สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 กำไรที่เคยมีกำไรมากเมื่อปลายปี 2560 ได้ลดลงอย่างมากถึง 46.49% จากที่เคยกำไร 2,648,000 บาท ลดลงเหลือ 1,352,000 บาท แต่พอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่ โดยเป็นกำไรจากหุ้นหลักๆ 3 ตัวคือ AOT CPALL และ CPN นอกนั้นหุ้นอื่นๆก็ขาดทุนทุกตัว และที่หุ้นที่กำไรก็ปรับลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาหุ้นหลักๆในพอร์ตทั้ง 3 ตัว ถูกเทขายอย่างหนัก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้กำไรในพอร์ต DCA ลดลงอย่างมากดังกล่าวนั่นเอง
แต่ผลกำไรที่หายไป ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานราคาหุ้นทั้ง 3 ตัว ก็จะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นมาได้อีก แต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น และกลีบมาที่ราคาก่อนถูกเทขายอย่างแน่นอน ...ตอนนี้ก็เป็นการขาดทุนกำไรในบัญชีเท่านั้น หรือเงินกำไรมายาหายไปชั่วคราวเท่านั้น และสอดคล้องกับแนวทางการ DCA หุ้น ก็ไม่ได้หวังผลกำไรในระยะเวลาสั้นๆอยู่แล้ว ยิ่งหุ้นราคาถูกๆ เราก็สามารถ DCA ได้จำนวนหุ้นมากกว่าช่วงที่ราคาหุ้นแพงๆด้วย และผมก็ได้ DCA หุ้นต่อเนื่องมาทุกๆเดือนเหมือนเดิมครับ ผมมองยาวๆหลายๆปีครับ จะได้ไม่เครียดเมื่อราคาหุ้นปรับลดลง แต่ที่สำคัญ ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดีๆ มีการเติบโตต่อเนื่องได้ทุกๆปี ผลการดำเนินงานดีขึ้นทุกๆปี และมีเงินปันผลทุกๆปีนะครับ
มาดูพอร์ต DCA ทั้ง 3 พอร์ตกันเลยครับ
1 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน
2 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 15 ของเดือน
3 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 25 ของเดือน
มีคนหลังไมค์มาถามผลตอบแทนทบต้นต่อปี ก็เลยไปลองคำนวณดูผลตอบแทนย้อนหลังว่า มีกำไรทบต้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์
อยากจะบอกว่า เงินทุนที่ DCA ในช่วงแรกเป็นการ DCA รายเดือนทั้งหมดจากเงินเดือนที่เหลือทุกเดือน แต่หลังจากได้ DCA 3-4 ปี ก็ได้เริ่มซื้อขายเองบ้าง แต่ก็เป็นหุ้นในกลุ่มที่ DCA ทุกเดือนเหมือนกัน และเมื่อมีกำไรมากๆ ก็จะทยอยแบ่งขายทำกำไรออกไปบ้าง(พอร์ตที่ซื้อขายเอง) และซื้อกลับบ้าง และเมื่อพอร์ตโตขึ้น ก็เอากำไรและเงินทุนบางส่วนออกมาซื้อขายเองมากขึ้น ... จากเดิมหุ้นที่ DCA จะไม่ขายเลย ถือยาวตลอด แต่พอช่วงหุ้นตก พอร์ตที่เคยกำไรเยอะ กำไรก็หายไปพอสมควร ....ต่อมาจึงเปลียนแนวทางการลงทุน จะแบ่งขายออกไปบ้างเมื่อหุ้นในพอร์ตมีกำไรมากๆ มั่งพอร์ตDCA และพอร์ตซื้อขายเอง แล้วค่อยทยอยซื้อ DCA เพิ่มใหม่ ส่วนพอร์ตที่ซื้อขายเอง ก็ค่อยรอซื้อตอนหุ้นราคาตก การแบ่งขายจะขายไม่หมด อย่างมากจายไป59%
พอร์ตส่วนใหญ่ปัจจุบันจะซื้อขายเอง ....พอร์ต DCA ก็ซื้อกับ CIMB ทุกๆเดือน จะไม่ขายเว้นแต่หุ้นที่ DCA ดูไม่ค่อยดีอย่างที่คิด ก็อาจจะขายเปลียนตัวอื่นแทน หรือมีขายทำกำไรออกไปบ้างเมื่อพื้นฐานหุ้นในพอร์ตราคาเริ่มแพงเกินพื้นฐาน หรือการเติบโตหุ้นช้าลง ก็จะหาหุ้นใหม่ DCA และขายหุ้นที่เติบโตช้าออกไป แต่ส่วนใหญ่หุ้นหลักๆจะถือยาว 4-5 ปีขึ้นไป บางทีขายเอากำไรไปแล้ว ค่อย DCA หุ้นเดิมก็มี เช่น AOT CPALL MINT CPN เพราะบางช่วงต้องการใช้เงินก็ขายไปสักรอบ ประมาณนี้ครับ
วันนี้ ( 4/7/2018) Beauty ลงฟลอร์ เลย เหลือ 9.10 บาท พรุ่งนี้คงไหลต่อ ...แง แง
รอเด้งนิดหน่อยคงต้องยอมคัทลอสแล้ว...ดีที่เพิ่ง DCA มาแค่ 5-6 เดือน แตก็ขาดทุนเฉียดแสนแน่ๆเลย
การลงทุนมีความเสี่ยง... ถึงเวลาคัทลอสก็ต้องทำครับ
ุเพิ่มเติม 6/7/2018
อยากจะให้กำลังใจผู้ที่จะ DCA. หุ้นว่า .....แนวทางที่ผมได้ลงทุนหุ้นนึ้ เป็นแนวทางที่ผู้ทำงานกินเงินเดือนทุกคนสามารถสร้างอนาคตให้เกษียณ และมีอิสระภาพทางการเงินได้จริงๆครับ
ผมตอนนี้ก็เกือบถึงเป้าหมายนั้นแล้ว แม้จะเพิ่ง DCA มาแค่12 ปี แต่ผมมีเงินออมตุนไว้เยอะก้อนหนึ่งก่อน DCA และได้ทุ่มเงินออมทุกบาทที่มี DCA มาเรื่อยๆช่วงยังทำงานอยู่ และเข้าลงทุนในช่วง Subprime แถว 800 จุด ตอนนั้นโบรคเกอร์บอกว่าให้ลดพอร์ต รอลงทุนหลังอะไรๆนิ่งๆก่อน เพราะไม่ใช่ช่วงน่าซื้อ คงจะใช้เวลาอีกปี -2ปี หุ้นถึงจะขึ้น ..... แต่ผมถือยาวไม่สนใจว่าหุ้นไม่ขึ้น ผมอยากซื้อถูกไว้ก่อน ผเลยทยอยซื้อเลยน่าจะดีกว่ารอไปอีกปี 2 ปี
ผมซื้อมาประมาณ 6 เดือนหุ้นก็เริ่มขึ้น และชึ้นเอาๆมาตลอด ทำให้ผมโชคดีหุ้นในพอร์ตได้กำไรเยอะเกือบทุกตัว ช่วงแรกๆไม่ขายเลย พอช่วงหุ้นปรับฐาน กำไรก็ลดลง (เสียดายเหมือนกันที่กำไรหด 555) ตอนหลังเลยแบ่งซื้อแบ่งขายโดยดูกำไรของหุ้นแต่ละตัว และติดตามสตอรี่ว่ายังมีข่าวดีรออยู่อีกมั้ย?... ขึ้นมาแรงเกินไปหรือเปล่า ? .... ลงทุนแบบหุ้นห่านทองคำ คือห่านโตก็จับขายออกไปบ้างข่วงหุ้นขึ้น เอาเงินไปซื้อลูกห่านมาเลี้ยงเพิ่มช้วงหุ้นลง
พอร์ตก็จะโตได้เร็วครับ ผมทำแบบนี้มาตลอด แต่ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะได้กำไรนะครับ หุ้นส่วนน้อยบางตัวก็ขาดทุนเหมือนกัน ซื้อแล้วไม่เวิร์คกับขายออกไปซื้อหุ้นที่ดีกว่า (พูดง่านยแต่อาจทำยาก ผมเองก็คัทลอสบ่อยเหมือนกันครัยบ) ก็ปรับพอร์ตกันไปเรื่อยๆ มีเวลาให้เงินทำงานอีกนานๆๆๆ.... ไม่ต้องแพนิคตามตลาดหุ้น ลงทุนอย่างมีวินัย ตามแนวทางที่เรามีความรู้ มีสติเรียนรู้ทันหุ้นไปเรื่อยๆ ไม่ยากอย่างที่กลัวครับ