แชร์ประสบการณ์การลงทุนออมหุ้นรายเดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ( DCA ไตรมาส 2 มกราคม - มิถุนายน 2561 )

กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA  และสำหรับท่านที่สนใจการลงทุนในแนวนี้เท่านั้นครับ  ...  มิได้มุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ หรืออวดความเก่ง-ไม่เก่งแต่อย่างใดนะครับ  ท่านใดที่ไม่ชอบการลงทุนในแนว DCA หรือไม่อยากเสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้ ...กรุณาข้ามกระทู้นี้ไปนะครับ

เม่าอุ้มห่านเม่าอุ้มห่านเม่าอุ้มห่านเม่าอุ้มห่านเม่าอุ้มห่าน

สำหรับผมการออมหุ้นในไตรมาสที่สองของปี 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นเมื่อสิ้นปี 30 ธันวาคม 2560  ทำให้มูลค่าหุ้นในพอร์ตปรับลดลงอย่างมาก จากมูลค่าหุ้นที่เคยกำไรเยอะๆ ก็มีกำไรลดลงอย่างมาก ส่วนหุ้นที่เคยกำไรน้อยๆ หรือขาดทุนเล็กน้อยก็ขาดทุนมากขึ้น แต่โดยรวมกำไรในพอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่ แต่หุ้นที่เพิ่ง DCA  ในช่วงปลายปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึง Q1 2561 มูลค่าหุ้นในพอร์ตเลยขาดทุนค่อนข้างมาก เช่น BJC  Beauty  EA  MTLS  และได้หยุด DCA หุ้นเหล่านี้ไปตั้งแต่เดือน เมษายน 2561 เพราะมองว่าพื้นฐานเริ่มไม่ค่อยดีเหมือนก่อนๆ แต่ก็ยังเก็บไว้ในพอร์ตรอดูพื้นฐานในอนาคตก่อนพิจารณาถือต่อไป หรือ ปรับออกจากพอร์ตต่อไป


ปัจจุบันผมก็ยังออมหุ้นต่อเนื่องทุกเดือน และได้ปรับลดจำนวนหุ้นที่ออมลงเหลือ 5 บริษัท ... โดยจะเน้น DCA หุ้นที่มองว่าพื้นฐานยังมั่นคง การเติบโตยังสามารถเติบโตได้ดีต่อไปในอนาคต  แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ถูกมาก หรือเริ่มแพง (ในช่วงหุ้นขึ้นๆ) แต่ผมก็ยัคง DCA ทุกเดือนจะไม่หยุด DCA  ตามแนวทางของการออมหุ้น DCA (ไม่ว่าราคาหุ้นจะขี้นหรือลงก็ยังคงออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือนครับ) โดยผมจะเน้นออมหุ้นที่ผมคิดว่าพื้นฐานดีมากๆ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกๆปี  ให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าหุ้นที่พื้นฐานดีแต่อาจจะไม่เด่น หรือการเติบโตอาจจะน้อยกว่า.....

โดยหุ้นหลักๆที่ลงทุนมากก็จะเน้นหุ้น AOT CPALL ส่วนหุ้นที่คิดว่าน่าจะดี แต่ไม่เด่น ก็จะ DCA น้อยกว่า เช่น CPN BEAUTY IRPC และได้หยุด DCA BEAUTY แล้วตั้งแต่ July 61 เพราะดูว่าพื้นฐานดูไม่ค่อยดีเหมือนก่อน (ความเห็นส่วนตัว) และก็มีหุ้น BEAUTY อยู่ไม่มาก

นอกจาก DCA ทุกเดือนแล้ว ในช่วงเดือน 2 เดือนที่หุ้น AOT และ CPALL ราคาหุ้นถูกเทขายลงมามากๆ ผมก็ทยอยซื้อเก็บเพิ่มเองทีละน้อยๆ   เพราะได้แบ่งขายทำกำไรออกไปบ้างแล้วเมื่อตอนต้นปีที่หุ้นปรับขึ้นมาสูง แต่ขายแค่บางส่วนเพื่อตุนกำไรไว้ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อหุ้นเมื่อราคาปรับตัวลงมาจนราคาน่าสนใจ  (ขายหุ้นในพอร์ตที่ซื้อขายเอง )  ได้ทยอยเก็บเพราะคิดว่าราคาหุ้นได้ปรับลงมาจนเริ่มน่าสนใจแล้ว ผมก็ทยอยเก็บเพื่อลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ โดยทยอยเก็บทีละไม้ 2 ไม้ แต่ไม่ได้ซื้อจำนวนมากๆ ได้ทยอยเก็บเรื่อยๆเมื่อหุ้นปรับลงมาแต่ละราคา จนเพียงพอแล้ว(หมดทุนที่สำรองไว้) ตอนนี้เลยหยุดซื้อเพิ่มแล้ว และมีหุ้นมากพอแล้ว



   ผลการลงทุน สิ้นสุดไตรมาสที่  2 กำไรที่เคยมีกำไรมากเมื่อปลายปี 2560 ได้ลดลงอย่างมากถึง 46.49% จากที่เคยกำไร 2,648,000 บาท ลดลงเหลือ 1,352,000 บาท แต่พอร์ตก็ยังคงมีกำไรอยู่  โดยเป็นกำไรจากหุ้นหลักๆ 3 ตัวคือ  AOT CPALL และ CPN นอกนั้นหุ้นอื่นๆก็ขาดทุนทุกตัว และที่หุ้นที่กำไรก็ปรับลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาหุ้นหลักๆในพอร์ตทั้ง 3 ตัว ถูกเทขายอย่างหนัก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้กำไรในพอร์ต DCA ลดลงอย่างมากดังกล่าวนั่นเอง

แต่ผลกำไรที่หายไป ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานราคาหุ้นทั้ง 3 ตัว ก็จะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นมาได้อีก แต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น และกลีบมาที่ราคาก่อนถูกเทขายอย่างแน่นอน ...ตอนนี้ก็เป็นการขาดทุนกำไรในบัญชีเท่านั้น หรือเงินกำไรมายาหายไปชั่วคราวเท่านั้น  และสอดคล้องกับแนวทางการ DCA หุ้น  ก็ไม่ได้หวังผลกำไรในระยะเวลาสั้นๆอยู่แล้ว  ยิ่งหุ้นราคาถูกๆ เราก็สามารถ DCA ได้จำนวนหุ้นมากกว่าช่วงที่ราคาหุ้นแพงๆด้วย และผมก็ได้ DCA หุ้นต่อเนื่องมาทุกๆเดือนเหมือนเดิมครับ ผมมองยาวๆหลายๆปีครับ จะได้ไม่เครียดเมื่อราคาหุ้นปรับลดลง แต่ที่สำคัญ ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดีๆ มีการเติบโตต่อเนื่องได้ทุกๆปี ผลการดำเนินงานดีขึ้นทุกๆปี และมีเงินปันผลทุกๆปีนะครับ


มาดูพอร์ต DCA ทั้ง 3 พอร์ตกันเลยครับ



1 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน





2 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 15 ของเดือน



3 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 25 ของเดือน




  พาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้ง


มีคนหลังไมค์มาถามผลตอบแทนทบต้นต่อปี ก็เลยไปลองคำนวณดูผลตอบแทนย้อนหลังว่า มีกำไรทบต้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์




   อยากจะบอกว่า เงินทุนที่ DCA ในช่วงแรกเป็นการ DCA รายเดือนทั้งหมดจากเงินเดือนที่เหลือทุกเดือน  แต่หลังจากได้ DCA 3-4 ปี ก็ได้เริ่มซื้อขายเองบ้าง  แต่ก็เป็นหุ้นในกลุ่มที่ DCA ทุกเดือนเหมือนกัน และเมื่อมีกำไรมากๆ ก็จะทยอยแบ่งขายทำกำไรออกไปบ้าง(พอร์ตที่ซื้อขายเอง) และซื้อกลับบ้าง และเมื่อพอร์ตโตขึ้น ก็เอากำไรและเงินทุนบางส่วนออกมาซื้อขายเองมากขึ้น  ... จากเดิมหุ้นที่ DCA จะไม่ขายเลย ถือยาวตลอด  แต่พอช่วงหุ้นตก พอร์ตที่เคยกำไรเยอะ กำไรก็หายไปพอสมควร ....ต่อมาจึงเปลียนแนวทางการลงทุน จะแบ่งขายออกไปบ้างเมื่อหุ้นในพอร์ตมีกำไรมากๆ มั่งพอร์ตDCA  และพอร์ตซื้อขายเอง แล้วค่อยทยอยซื้อ  DCA เพิ่มใหม่  ส่วนพอร์ตที่ซื้อขายเอง ก็ค่อยรอซื้อตอนหุ้นราคาตก การแบ่งขายจะขายไม่หมด อย่างมากจายไป59%

พอร์ตส่วนใหญ่ปัจจุบันจะซื้อขายเอง ....พอร์ต DCA ก็ซื้อกับ CIMB ทุกๆเดือน จะไม่ขายเว้นแต่หุ้นที่ DCA ดูไม่ค่อยดีอย่างที่คิด ก็อาจจะขายเปลียนตัวอื่นแทน  หรือมีขายทำกำไรออกไปบ้างเมื่อพื้นฐานหุ้นในพอร์ตราคาเริ่มแพงเกินพื้นฐาน  หรือการเติบโตหุ้นช้าลง ก็จะหาหุ้นใหม่ DCA และขายหุ้นที่เติบโตช้าออกไป แต่ส่วนใหญ่หุ้นหลักๆจะถือยาว 4-5 ปีขึ้นไป บางทีขายเอากำไรไปแล้ว ค่อย DCA หุ้นเดิมก็มี  เช่น AOT CPALL MINT CPN  เพราะบางช่วงต้องการใช้เงินก็ขายไปสักรอบ ประมาณนี้ครับ



วันนี้ ( 4/7/2018)  Beauty ลงฟลอร์ เลย  เหลือ 9.10 บาท พรุ่งนี้คงไหลต่อ ...แง แง
รอเด้งนิดหน่อยคงต้องยอมคัทลอสแล้ว...ดีที่เพิ่ง DCA มาแค่ 5-6 เดือน แตก็ขาดทุนเฉียดแสนแน่ๆเลย
การลงทุนมีความเสี่ยง... ถึงเวลาคัทลอสก็ต้องทำครับ


ุเพิ่มเติม 6/7/2018

อยากจะให้กำลังใจผู้ที่จะ   DCA. หุ้นว่า .....แนวทางที่ผมได้ลงทุนหุ้นนึ้ เป็นแนวทางที่ผู้ทำงานกินเงินเดือนทุกคนสามารถสร้างอนาคตให้เกษียณ และมีอิสระภาพทางการเงินได้จริงๆครับ

ผมตอนนี้ก็เกือบถึงเป้าหมายนั้นแล้ว แม้จะเพิ่ง DCA มาแค่12 ปี แต่ผมมีเงินออมตุนไว้เยอะก้อนหนึ่งก่อน DCA  และได้ทุ่มเงินออมทุกบาทที่มี DCA  มาเรื่อยๆช่วงยังทำงานอยู่  และเข้าลงทุนในช่วง Subprime แถว 800 จุด ตอนนั้นโบรคเกอร์บอกว่าให้ลดพอร์ต รอลงทุนหลังอะไรๆนิ่งๆก่อน เพราะไม่ใช่ช่วงน่าซื้อ คงจะใช้เวลาอีกปี -2ปี หุ้นถึงจะขึ้น ..... แต่ผมถือยาวไม่สนใจว่าหุ้นไม่ขึ้น ผมอยากซื้อถูกไว้ก่อน ผเลยทยอยซื้อเลยน่าจะดีกว่ารอไปอีกปี 2 ปี

ผมซื้อมาประมาณ 6 เดือนหุ้นก็เริ่มขึ้น และชึ้นเอาๆมาตลอด ทำให้ผมโชคดีหุ้นในพอร์ตได้กำไรเยอะเกือบทุกตัว ช่วงแรกๆไม่ขายเลย  พอช่วงหุ้นปรับฐาน กำไรก็ลดลง (เสียดายเหมือนกันที่กำไรหด 555) ตอนหลังเลยแบ่งซื้อแบ่งขายโดยดูกำไรของหุ้นแต่ละตัว และติดตามสตอรี่ว่ายังมีข่าวดีรออยู่อีกมั้ย?... ขึ้นมาแรงเกินไปหรือเปล่า ? .... ลงทุนแบบหุ้นห่านทองคำ คือห่านโตก็จับขายออกไปบ้างข่วงหุ้นขึ้น  เอาเงินไปซื้อลูกห่านมาเลี้ยงเพิ่มช้วงหุ้นลง   

พอร์ตก็จะโตได้เร็วครับ ผมทำแบบนี้มาตลอด แต่ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะได้กำไรนะครับ หุ้นส่วนน้อยบางตัวก็ขาดทุนเหมือนกัน ซื้อแล้วไม่เวิร์คกับขายออกไปซื้อหุ้นที่ดีกว่า (พูดง่านยแต่อาจทำยาก ผมเองก็คัทลอสบ่อยเหมือนกันครัยบ)  ก็ปรับพอร์ตกันไปเรื่อยๆ มีเวลาให้เงินทำงานอีกนานๆๆๆ.... ไม่ต้องแพนิคตามตลาดหุ้น ลงทุนอย่างมีวินัย ตามแนวทางที่เรามีความรู้  มีสติเรียนรู้ทันหุ้นไปเรื่อยๆ ไม่ยากอย่างที่กลัวครับ

พาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่