สารานุกรมปืนตอนที่ 187 FN-P90

"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/


FN-P90 นิยามใหม่จากเบลเยี่ยม
เบลเยี่ยมดินแดนแห่งของหวานอันเลื่องชื่อ ช็อคโกแลตของประเทศที่นี้นั้นเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่ารสชาตินั้นหวานหอมและกลมกล่อมหรือจะวาฟเฟิลนุ่มราดราดด้วยวีปครีมคำโตๆกับการตกแต่งหน้าด้วยสตอเบอร์รี่ ก็ชวนเป็นเบาหวานไม่ใช่น้อย หรือสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศนี้ก็มีอย่าง กรุงบรัซเซลส์ เมืองหลวงเบลเยียม ที่ใครเป็นคอเบียร์กับช็อคโกแลตไม่ควรพลายอย่างยิ่งวันนี้ผมจะมาพูดถึงปืนกลมือ(หรือป่าวเพราะความจริงมันคือ PDW) ที่เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของ FN นั่นก็คือ FN-P90 ครับ
The history of the FN-P90
ในช่วงปี ค.ศ.1960-1980 นั้น Hekler & Koch Mp5 ยังคนเป็นพ่อทุกสถาบันของ SMG อยู่และเป็นปืนกลมือที่ดีที่สุดในเวลานั้นเลยก็ว่าได้ในเวลานั้นถ้าคุณอยากให้หน่วยรบพิเศษหรือตำรวจของประเทศคุณนั้นมีของที่ดีที่สุดแล้วมีมารตฐานที่สุดใช้คุณก็ต้องเลือกสุดยอดปืนกลมือจากเยอรมันกระบอกนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นในช่วง ทศวรรษ 1970 นั้นปืนกลมือในยุคนั้นเริ่มที่จะตกที่นั่งลำบากเนื่องจากการพัฒนาของเกราะเคฟลาร์(Kevlar)นั้นเริ่มมีการพัฒนามากขึ้นและเริ่มมีการใช้งานเกราะเคฟลาร์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ในเวลานั้นทางกองทัพและตำรวจเริ่มที่จะกังวลมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นปืนกลมือนั้นจะต้องพัฒนาขึ้น เพื่อให้พวกมันมีความสามารถในการเจาะเกราะกันกระสุนได้ และต้องรักษาเอกลักษณ์ของปืนกลมือไว้คือ รูปร่างยีงคงกะทัดรัดและพกพาได้บวกกับความสามารถที่สามารถเจาะทะลุทะลวงเกราะกันกระสุนยุคใหม่ๆได้ด้วย ทำให้เกิดอาวุธปืนชนิดใหม่ขึ้นมามันคือการนำปืนกลมือ( Sub machine gun) มารวมกับ ปืนเล็กสั้น(Carbine) ทำให้เกิดอาวุธประเภทใหม่ขึ้นอย่าง PDW ( personal defenes weapon ) หรือชื่อไทยคืออาวุธป้องกันตัวประจำบุคคลนั่นเองครับ
การออกแบบของตัวปืน
ทางบริษัท FN Herstal ประเทศเบลเยี่ยมในช่วงยุค 1986 นั้นได้เริ่มออกแบบอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาและเพื่อให้ตัวปืนนั้นมีขนาดกระทัดรัดทาง FN จึงทำให้ตัวปืนนั้นเป็นปืนทรง Bullpup และดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่เลือกจะทำให้ปืนนั้นเป็นทรง Bullpup แต่ถึงกระนั้นมันไม่เหมือนกับ Bullpup แบบอื่นตรงที่ตัวแม็กกาซีนั้นจะตรงด้านบนของปืนในลักษณะแนวราบแทนที่จะอยู่ข้างล่างและเป็นลักษณะตั้งฉากแบบปืน Bullpup แบบอื่นๆ และด้วยการที่แม็กกาซีนั้นอยู่ในลักษณะแนวราบทำให้ทางทีมออกแบบนั้นต้องอาศัยหลักทางวิศวกรรมเล็กน้อยเพื่อให้กระสุนนั้นป้อนเข้าไปในรังเพลิงได้ โดยใช้หลักการทำให้ทางลาดที่เป็นเกลียวในส่วนที่ติดกับแม็กกาซีนนั้น ผลักลูกกระสุนให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในขณะที่ถูกป้อนเข้าไปด้วยตัวสปริง และด้วยการที่แม็กกาซีนของปืนนั้นทำมาจากวัสดุแบบโปร่งใสทำให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถมองเห็นจำนวนกระสุนได้ว่าเหลืออยู่ในแม็กกาซีนจำนวนทั้งหมดกี่นัด ด้านวัสดุของตัวปืนนั้นตัวปืนนั้นทำมาจากวัสดุโพลีเมอร์คุณภาพสูงทำให้ตัวปืนนั้นมีน้ำหนักที่ค่อนเบาและค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ไม่มากจนเกินไป ตัวปืนนั้นมาพร้อมกับกล้องแบบ Reflex sight ที่ติดมากับตัวปืนเลยตั้งแต่ออกจากโรงงาน และตัวปืนนั้นสามารถใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายและถนัดขวาเนื่องจากตำแหน่งคัดปลอกของตัวปืนนั้นอยู่บริเวณด้านท้ายแล้วตัวปลอกกระสุนนั้นจะคัดปลอกลงไปที่ด้านล่างของตัวปืนเลย
(คือการยิงปืนข้างที่ไม่ถนัดนิมันก็เหมือนการช่วยตัวเองด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดนั่นแหละ)
อย่างไรก็ดีถึงแม้จะมันจะมีฟีเจอร์ที่ถือว่าล้ำยุค(ในเวลานั้น) แต่สิ่งทำให้มันน่าสนใจคือกระสุนขนาด 5.7x28mm FN ครับโดยกระสุนชนิดนั้นมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับตัวปืนกระบอกนี้เท่านั้นครับ โดยมันต่างจากกระสุนของปืนพกแบบทั่วๆไปตรงที่กระสุนปืนพกทั่วๆไปอย่าง 9mm Parabellum หรือ .45acp ตรงที่กระสุนปืนพกทั่วๆไปนั้นจะมีลักษณะเป็นแบบป้อม และปลายมน โดยกระสุนแบบ 5.7mm ของFN นี้มันเหมือนการย่อส่วนของกระสุนไรเฟิลอย่าง 5.56x45mm Nato m855 ซะมากกว่าครับ เนื่องจากมันมีหัวกระสุนที่ค่อนข้างแหลม และค่าประจุสัมพันธ์ที่สูงกว่ากระสุนปืนพกที่ใช้กับปืน SMG ทั่วไปในขณะนั้นซึ่งมันสามารถเดินทางในอากาศได้เร็วกว่ากระสุนปืนพกแบบธรรมดาถึงสองเท่า และแน่นอนอยู่แล้วครับมันมีพลังงานสูงกว่าและเมื่อนำมันมาใช้ในพื้นที่คับแคบนั่นหมายความว่า การเจาะทะลุทะลวงของกระสุนน้นสามารถจะทำได้ดีกว่ากระสุนปืนพกแบบทั่วๆไป ซึ่งผลลัพธ์คือกระสุนขนาด 5.7x28mm นั้นสามารถที่จะเจาะเกราะกันสุนได้ดีกว่ากระสุนปืนพกแบบธรรมดาแน่นอนครับ
และในปี 1990 นั้นโครงการพัฒนาปืนชนิดนี้ของ FN นั้นประสบความสำเร็จอย่างลุล่วง ปืนชนิดนี้เลยถูกตั้งชื่อตามโครงการที่ให้กำเนิดมันคือ FN Project 90 หรือ FN-P90 ครับผม
ด้วยความที่FN-P90 นั้นมีขนาดที่กระทัดรัดและน้ำหนักของตัวปืนนั้นเบาที่ทำจากวัสดุที่ล้ำสมัย มาพร้อมกับแม็กกาซีนของตัวปืนที่มีความจุเยอะถึง 50 นัด และที่สำคัญมันสามารถยิงเจาะเกราะได้
ทำให้มันถูกใช้งานโดยตำรวจและหน่วยรบพิเศษเกือบ 40 ประเทศทั่วโลกอย่าง ออสเตรีย บราซิล แคนาดา มาเลเซีย โปแลนด์ และสหรัฐอเมริกาที่ใช้งาน P90 ในหน่วยงาตำรวจกว่า 200แห่ง และหน่วยสือราชการลับของรัฐบาลอย่าง CIA และมีใช้ในหน่วยคุ้มกันของประธานาธิบดี และ หน่วยจู่โจมของหน่วยข่าวกรองด้วย (SAD SOG ) และที่สำคัญยังมีใช้งานในหน่วยพิเศษของตำรวจในประเทศไทยด้วยนะ นอกจากนี้ทาง FN ยังได้พัฒนารุ่นสำหรับขายอย่าพลเรือนอย่าง FN Ps90 ด้วยโดยมันตัดโหมดการยิงแบบอัตโนมัติออกไปเพื่อให้สามารถขายได้อย่างถูกกฏหมาย
NATO evolution
ในตอนนั้น FN คิดว่าถ้า P-90 นั้นสามราถผ่านมาตฐานของนาโต้และสามารถขายให้นาโต้ได้ก็สามารถขายให้ประเทสอื่นๆได้แบบสบายๆ และในปี ค.ศ.2002-2003 นั้นทางนาโต้ได้กำหนดโครงการสำมารตฐานปืนและกระสุนของ PDW ยุคใหม่แทนกระสุนขนาด 9x19mm Parabellum โดยตอนนั้น FN ได้ส่งปืน FN-P90 กับกระสุนขนาด 5.7x28mm เข้าไปในโครงการมารตฐานปืนและกระสุนชนิดใหม่ของทางนาโตด้วย โดยในตอนแรกนั้น FN คิดว่าไม่นาจะมีคู่แข่งมาต่อกรได้ แต่ทว่า FN ก็ได้เจอคู่แข่งที่สมน้ำสนเหนืออย่างบริษัท Helker & Koch ที่มาพร้อมกับปืนชนิดใหม่อย่าง HK Mp7 กับกระสุนขนาด 4.6x30mm hk ครับโดยทั้ง FN และ HK ต่างที่จะแข่งกันเพื่อให้ปืนและกระสุนของตัวเองนั้นเป็นมารตฐานนาโต้ให้ได้ โดยผลของการทดสอบของนาโต้นั้นได้รับการวิเคราห์จากผู้โดยผู้เชี่ยวชาญจากแคนาดา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา และผลสรุปคือกระสุนขนาด 5.7x28mm กับปืน FN-P90 นั้นชนะอย่างขาดเลยเนื่องจากตัวกระสุนนั้นสามารถเจาะทะลุทะลวงเกราะได้ดีกว่าแล้วตัวปืนนั้นก็มีออฟชั่นที่พร้อมโดยที่ไม่ต้องมาติดเพิ่มในภายหลังแบบ HK แต่ถึงกระนั้นทางบริษัท HK นั้นก็ไท่ยอมรับผลการตัดสินครั้งนี้(ก็แบบถ้า 5.7x 28mm นั้นเป็นมารตฐานใหม่ของนาโต้ตัวHKเองจะซวยเลยเพราะเสียงบประมาณในการพัฒนาไปเยอะและตัวเองพึ่งจะล้มเหลวจากโครงการ G11 ด้วย) ด้วยเหตุนี้ทางนาโต้จึงไม่สามารถกำหนดมารตฐานกระสุน PDW ได้ทำให้ในปัจจุบัน เราจึงเห็นปืน pdw ที่ใช้กระสุนหลากหลายเยอะแยะไปหมด แต่ถึงกระนั้นตัวปืนก็ประสบความสำเร็จจากการขายให้กับกองทัพและตำรวจกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
การพัฒนาเพิ่มเติมของตัวปืน
การพัฒนาเพิ่มเติมของตัวปืนนั้นมีการพัฒนาไปสู่รุ่น P90 TR ที่ตัวปืนนั้นได้ทำการถอดReflex sight แบบติดตายตัวออกและทำการติดตั้งเราติดอุปกรณ์เสริมทางยุทธวิธีแบบ MLD-STD-1913 แทนและก็ได้ทำการพัฒนารุ่น Model Carbine แบบ PS90 สำหรับนักกีฬาและพลเรือนด้วย
รุ่นต่างๆของ P-90

1.P90 TR



เป็นเหมือนรุ่นมารตฐานใหม่ของ P90 โดยตัวปืนนั้นเพิ่มรางติดอุปกรณ์เสริมทางยุทธวิธีมาให้เสริมด้วยโดยผ็ใช้สามรารถที่จะติด Red dot หรือ เลเซอร์ หรือ ไฟฉายทางยุทธวิธีแบบไหนก็ได้ตามใจของผู้ใช้งาน

2.P90 USG


เป็นรุ่นมารตฐานที่ออกแบบมาให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะโดยรุ่นนี้นั้นจะมี Reflex sight แบบติดตายตัวมาให้แต่จุดที่แตกต่างคือตัวศูนย์เล็งนั้นจะมีจุดและแถบสีแดงๆแทนสีดำทึบๆแบบเดิมและตัวศูนย์เล็งนี้สามารถถอดออกและติดรางแบบ MIL-STD-1913 แทนได้ด้วย

3. P-90 Laserex Model (p90 lv)


เป็นรุ่นที่พัฒนาในช่วงปี ค.ศ. 1995 โดยตัวปืนนั้นจะเหมือน p90 ตัวธรรมดาทุกอย่างแต่แค่จะมีเลเซอร์แบบ Laserex Technologiesc แบบติดตายตัวที่พัฒนาในออสเตรเรีย โดยเลเซอร์นี้มองเห็นได้ 8mv และเจ้าเลเซอร์ชนิดนี้นั้นจะมองเห็นก็ต่อเมื่อใส่กล้อง Night vision เท่านั้นโดยตัวเลเซอร์นั้นมีน้ำหนัก 131 กรัมและมีอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่อยู่ที่ 250 ชั่วโมง

2.ps90



เป็นรุ่นสำหรับพลเรือนและนักกีฬาโดยเฉพาะโดยแต่หละรุ่นย่อยนั้นเหมือน P-90 ตัวธรรมดาทุกอย่างเช่นแค่ลำกล้องยาวขึ้นเป็น 16.0 นิ้ว
1.Ps90
คือP90 ตัวมารตฐานแบบ Semi auto

2.Ps90TR


ปัจจุบันยกเลิกการผลิตไปแล้วมันคือ P90 TR แบบ Semi auto

3.Ps90 USG



ปัจุบันถูกยกเลิกไปแล้วมันคือ P90 USG แบบ Semi auto

รายละเอียดโดยรวม
กระสุน : 5.1x28mm FN
น้ำหนัก: 2.6kg (p90) 2.85kg (ps90)
ลำกล้อง: 10.4นิ้ว (p90) 16.0นิ้ว(ps90)
แม็กกาซีน: บรรจุ50นัด
สัญชาติ:เบลเยี่ยม
ขอบคุณที่รับชมสวัสดีครับ
เครดิต
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_P90#cite_note-marchington2004-17
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_P90#cite_note-marchington2004-17
https://fnamerica.com/products/rifles/fn-ps90-standard/




สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่