[แชร์เทคนิค]เรียนให้ถูกวิธีตามเมนเทอร์ด้านการเรียนชื่อดังของเกาหลี

สวัสดีค่ะทุกคน จขกท.เชื่อมาตลอดว่าคนเราสามารถพัฒนาได้ ในเรื่องเรียนไม่มีใครโง่กว่าใคร แค่บางคนยังไม่เจอวิธีเรียนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเอง หรืออาจยังพยายามไม่มากพอ แล้วจขกท.ก็บังเอิญไปเจอหนังสือเล่มนี้เข้า อ่านแล้วรู้สึกว่ามันดีมาก ควรค่าแก่การอ่านมาก และเป็นเทคนิคที่ใช้ได้จริง วันนี้ก็เลยอยากเอาเทคนิคที่ "ว้าวๆ" สำหรับ จขกท. มาแชร์ค่ะ

เนื้อหาของหนังสือคร่าวๆก็จะแบ่งเป็น 2 พาร์ทค่ะ พาร์ทแรกเป็นพาร์ทเตรียมใจ ส่วนพาร์ทที่สอง เป็นพาร์ทปฏิบัติค่ะ
มาเริ่มพาร์ทแรกกันเลย

PART 1 ภาคเตรียมใจ
ทบทวนบทเรียนด้วยการจดลงกระดาษเปล่า วิธีคือทันทีที่ถึงที่พักให้จดสิ่งที่ได้เรียนในวันนั้น วิธีนี้ทำให้ได้ทบทวนบทเรียนและซ้อมสอบไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังทำให้รู้ว่ายังไม่แม่นตรงไหน
เพิ่มพฤติกรรมใหม่คู่กับกิจวัตรประจำวัน เช่น กิจวัตรประจำวันคือ กลับบ้านหลังเลิกเรียน ส่วนพฤติกรรมที่ต้องการให้เป็นนิสัยคือ ทบทวนบทเรียนด้วยการจดลงกระดาษเปล่า พอกลับมาถึงที่พักก็จดลงกระดาษทันที ทำอย่างนี้ต่อเนื่องกัน 66 วันจนกลายเป็นนิสัย
ท่องจำสารบัญ ช่วยให้จับเนื้อหาได้อย่างมีระบบ
ลอกเนื้อหาที่ยังไม่เข้าหัวลงกระดาษ แล้วพูดสิ่งที่เพิ่งคัดไป
จินตนาการถึงภาพตัวเองก่อนนอนและตอนลืมตาตื่น วาดภาพในสมองว่าเราอ่านหนังสือเรียนอย่างมีสมาธิ จินตนาการว่าเราจะรับมืออย่างไรหากมีเพื่อนมารบกวน ถ้าวันไหนมีสอบ ให้จินตนาการว่าลืมตาดื่นด้วยจิตใจปลอดโปร่ง ทำข้อสอบอย่างมั่นใจ โจทย์ยากแค่ไหนก็เอาอยู่ ค่อยๆคิดจนออก
ต้องรู้จักจัดการกับความตื่นเต้นกังวล ไม่อย่างงั้นความสามารถตอนทำข้อสอบจะลดลง จขกท.มีวิธีจากหนังสือความสำเร็จสร้างได้ด้วยสมาธิมาเสนอค่ะ นั่นคือ เราต้องไม่ตั้งเป้าหมายค่ะ เพราะเมื่อเราตั้งเป้าหมาย เราจะรู้สึกกดดัน และทำให้เสียสมาธิ ทำให้ทำออกมาได้ไม่เต็มที่ แต่ให้เรารู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำแทนค่ะ
ใช้แผนการฝึกนิสัยรายวัน แบ่งนาฬิกาเป็น 24 ชั่วโมง แล้วเขียนลงไปเลยว่าแต่ละช่วงจะทำอะไรบ้าง คล้ายนาฬิกาชีวิตแบบนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สร้างปฏิทินบันทึกนิสัย 66 วัน กากบาทที่ขีดลงแต่ละวันเป็นเหมือนคำชมและชัยชนะที่แสดงว่าเรารักษาสัญญากับตัวเอง จะทำให้เรามีกำลังใจทำต่อไป

PART 2 ภาคปฏิบัติ
Chapter 1 ฝึกนิสัยเรียนเก่ง
อ่านแล้วต้องทดสอบ การทดสอบเท่ากับเป็นการดึงความรู้มาแก้โจทย์ ทำให้ทำข้อสอบจริงได้คล่อง นอกจากนี้ยังบอกได้ว่าเรายังไม่แม่นตรงไหน
ไม่เข้าใจให้ถาม และฝึกตั้งคำถามขณะอ่านหนังสือ
ตอนอ่านให้ใช้มือไปด้วย จะทำให้ง่วงน้อยลง และจำแม่นขึ้น เช่น อ่านหนังสือไปสักพักเริ่มไม่มีสมาธิ หรือเจอเนื้อหาที่ไม่ค่อยเข้าใจ ให้เขียนไปด้วย หรือขีดเส้นใต้ระหว่างอ่าน หรือจะจดโน้ตลงบนที่ว่างในหน้ากระดาษเมื่อปิ๊งอะไรขึ้นมาหรือเจอเนื้อหาสำคัญก็ได้
วิธีจดโน้ตอย่างมีประสิทธิภาพ


ตอนทบทวนและทดสอบตัวเองในหน้านี้ก็แค่ดูคำถามที่เขียนไว้ แล้วตอบตัวเองให้ได้(คำตอบก็คือเลคเชอร์ในช่องขวานั่นเอง) ถ้ายังตอบไม่ได้ให้ทวนซ้ำ
รู้จักใช้ปากกาสี สีแดง = เนื้อหาที่อาจารย์ย้ำเป็นพิเศษหรือเน้นว่าออกสอบ เขียนตัวใหญ่ๆเลย สีน้ำเงิน = เนื้อหาที่ยังไม่เข้าใจ สีดำ = โน้ตทั่วไปกับคำอธิบายเพิ่มเติมของอาจารย์ ใช้สีเยอะกว่าสามสีระวังสับสน
ตั้งเป้าหมายระยะสั้นลดความคิดฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ เช่น ท่องศัพท์ 10 คำใน 10 นาที
เพิ่มพลังสมาธิด้วยการลดคลื่นสมอง นั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือด้วยท่าที่ถูกต้อง หลังตรง หายใจเข้าออกช้าๆ จินตนาการว่า "เหนือศีรษะมีแสงดวงหนึ่งเปล่งประกายอยู่ แสงนี้เป็นแสงแห่งพลังด้านบวกที่มีทั้งสัจธรรม ความรู้ และสติปัญญา มันไหลผ่านกระหม่อมเราลงสู่ร่างกาย ค่อยๆเข้ามาช้าๆ ต่ำลงเรื่อยๆในตัวเรา มันช่วยขับไล่พลังด้านลบที่สะสมในตัว เช่น ความเหนื่อยล้า ความเครียด ความไม่สบายใจ ปัดเป่าไล่ลงไปด้านล่างทีละนิด เมื่อแสงนี้แล่นลงช้าๆผ่านเปลือกตา ทำให้ตาเรากระจ่างใส ไล่ระดับต่ำลงมายังจมูก ปาก คอ หน้าอก ท้อง เอว ขา ไล่ไปจนถึงใต้ฝ่าเท้าและออกไปในที่สุด" วิธีนี้ช่วยให้ตั้งสมาธิได้ง่ายเมื่อเรียนหนังสือ

Chapter 2 ฝึกนิสัยทบทวนบทเรียน
ทบทวนบทเรียนนาน 5 นาทีทันทีหลังเลิกคาบ
ระยะเวลาสำหรับการทบทวนบทเรียนที่เหมาะสม ลองไปดูระยะรอบเวลาสำหรับการทบทวนบทเรียนที่โทนี บูซานเสนอไว้นะคะ
เรียน 45 นาที พัก 10 นาที ทบทวน 5 นาที ถ้าสมาธิดีมากอาจกำหนดช่วงเวลาเรียนนานขึ้นแล้วปรับเวลาพักกับเวลาทบทวนให้สอดคล้องกัน
ระยะรอบเวลาสำหรับทบทวนบทเรียนที่เหมาะสมที่สุด วิธีของผู้เขียนคือ ทบทวนครั้งแรกตอนพักระหว่างคาบ ด้วยการเขียนกำกับเนื้อหาสำคัญหรือส่วนที่ยังไม่เข้าใจ เมื่อจบคาบก็อ่านเลคเชอร์ซ้ำ โดยวงหรือขีดเส้นใต้ส่วนสำคัญด้วย ในชั่วโมงอิสระ ก็จะทบทวนตั้งแต่วิชาแรก โดยเขียนสิ่งที่เลคเชอร์ไว้ลงในสมุดโน้ตแยกเล่มสำหรับแต่ละวิชา แล้วอ่านสมุดโน้ตอีกครั้งก่อนนอน พอถึงเสาร์อาทิตย์แรกก็จะเรียนโดยใช้สารบัญ วิเคราะห์ทิศทางโดยรวมของแต่ละวิชาด้วยสารบัญ นอกจากนี้ยังทบทวนในช่วงสอบ รวมถึงช่วงปิดเทอม

Chapter 3 ฝึกนิสัยท่องจำ
วิธีท่องจำสามเด้ง อ่านและขีดเส้นใต้ข้อความสำคัญ อธิบายให้คนอื่นฟัง และเขียนลงกระดาษแบบไม่ดู ถ้ายังจำไม่ได้ก็ทำซ้ำแบบเดิม
ท่องจำโดยเปลี่ยนสถานที่และสถานการณ์ให้หลากหลาย เพราะสมองไม่ได้จำแค่เนื้อหาที่เรียน แต่จำสภาพแวดล้อมขณะเรียนไปด้วย พอท่องจำในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายไปนานๆ สมองจะจดจำจุดเหมือนเดียวที่ยังอยู่ นั่นคือเนื้อหาที่จำ

Chapter 4 ฝึกวิธีสอบให้ได้คะแนนดี
อ่านหนังสือเตรียมสอบในสภาพแวดล้อมที่เหมือนสนามสอบจริง
แยกข้อที่เคยผิด อาจแบ่งเป็นบท และสาเหตุที่ผิด

Chapter 5 ฝึกนิสัยวางแผนการเรียน
จัดตารางรายสัปดาห์ที่ปฏิบัติจริงได้ยั่งยืน

Chapter 6 ฝึกนิสัยปฏิบัติตัวที่ดีต่อการเรียน
คิดบวกให้เป็นนิสัย เชื่อว่าเราทำได้

จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนค่ะ