ขอระบายค่ะ และขอคำแนะนำในการใช้ชีวิต
ยาวหน่อยนะคะ
คือเราเป็นโรคจิตเภท และโรคไม่ชอบเข้าสังคม แต่เราก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบปกติ ถ้าไม่รวมการไม่ออกไปพบปะผู้คน
เรามาอยู่บ้านสามี
เราไม่ชอบออกบ้านไปไหน แต่ชอบไปตลาดและไปขับรถเที่ยวกับสามี แต่จะให้คุยกับคนหมู่มากเราไม่ชอบ
เราจึงมีปัญหาในการวางตัว
เพราะสังคมบ้านนอก (บ้านสามี) เขามีงานมีการเขาจะออกไปช่วยกัน
แต่เราไม่ชอบการเจอผู้คน การเจอผู้คนทำให้เราประหม่า หายใจถี่ หายใจไม่ทั่วท้อง รวมถึงวางตัวไม่ถูก
ประกอบกับโรคจิตเภทที่จะคิดไปเอง คิดทุกเรื่องที่คนพูดวกเข้าหาตัวเอง คิดว่าคนพูดใส่ คิดว่าคนพูด หรือนินทาเรื่องของตัวเองอยู่
เราจึงไม่ค่อยออกจากบ้านไปสุงสิงกับใคร
เวลามีการมีงานเราก็จะเอาแต่เก็บตัวนอนอยู่กับบ้าน
ประกอบกับโรคจิตเภท ห้ามขาดการนอน คือนอนน้อยหรือนอนไม่หลับทีไรอาการเราจะกำเริบ
เรามาอยู่บ้านสามี
แม่สามีเป็นคนเนี๊ยบ และเป็นคนชอบช่วยเหลือสังคมกันมากทั้งบ้าน (เพราะพ่อสามีเป็นผู้ใหญ่บ้าน)
จึงมักมีปัญหาเวลามีงานมีการในหมู่บ้าน แล้วเราไม่ไปช่วยงาน แม่สามีจะชอบมาบอกให้ไปช่วยงาน เราก็รับปากว่า "จ้าๆ" ทุกครั้ง
แต่เราก็ฝืนตัวเองไปไม่ค่อยจะได้ บางทีนาน ๆ ทีคนที่สนิทจริงๆ เราก็จะฝืนตัวเองไปช่วย
เราจึงมีปัญหาในการวางตัวในสังคม ค่อนข้างเป็นที่ติฉินนินทา
แม้คนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นโรคจิตอยู่ (แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร รู้จากที่ว่าเราเคยอาการจิตเภทกำเริบหลงผิดทีหนึ่ง)
และอีกอย่างคือแม่สามีเป็นคนเนี๊ยบมาก บ้านต้องสะอาดสะอ้าน ห้ามมีคราบ ห้ามพื้นสกปรก
อย่างเช่นถ้าวันไหนฝนตกแกจะถูหน้าบ้านและหลังบ้านทุกครั้งเพราะมีฝนสาดเป็นคราบ ๆ
ตู้เย็นก็สกปรกไม่ได้ต้องล้างต้องถู จะตากผ้าก็ต้องสะบัดและตากให้เรียบร้อยตากให้ไวห้ามค้างไว้ในเครื่องหรือที่ใดก็ตาม
บ้านมีคราบหรือมีอะไรนิดนึงที่ผิดหูผิดตาแก แกก็จะบ่น เป็นต้น
ดังนั้นจึงทำให้การใช้ชีวิตของเราค่อนข้างเกร็ง
เพราะเราจะเป็นคนค่อนข้างหลง ๆ ลืม ๆ ชอบทำตัวตามสบาย เป็นคนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ชอบอะไรง่าย ๆ
ทีนี้เราอยู่บ้านสามี อยู่มาเมื่อวันก่อน
มีเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ มาร้องเพลงใส่เรา จ้องเราหน้าเราแล้วก็ร้องเพลงอย่างยิ้ม ๆ ใส่เรา ว่า "นอนเอาแต่สบาย อยู่จนแก่ตาย..."
เราก็ยิ้มไม่ออก ประกอบกับคิดไปคิดมาเราก็โกรธมาก เพราะเด็กอยู่ดี ๆ จะพูดออกมาเองไม่ได้น่าจะมีผู้ใหญ่พูด หรือผู้ใหญ่สอนมาถึงได้มาพูด
เราก็โกรธนะ แต่ต้องยอมรับสภาพ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อวานเรากำลังกรอกน้ำ
เด็กมันทักว่าเราเรื่องหนึ่งเราจึงเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
ปกติเราเป็นคนชอบยิ้ม และพูดเพราะ
แต่เมื่อวานเราด่าเด็กไปว่า "ไม่ต้องมาเสรือก!" เด็กมันก็ถามว่า "ใครเสรือก" "พี่ว่าใคร"
เราก็ตอบกลับด้วยความโกรธ ว่า "ว่า

!อะ"
แต่ผลที่ตามมามันมีเยอะกว่านั้นตรงที่ปกติเราเป็นคนพูดเพราะ ยิ้มเก่ง
ปัญหาคือเราคิดฟุ้งซ่านไปทั่ว ว่าคนจะคิดว่าเราเป็นยังไง เพราะเด็กคนนั้นก็เป็นญาติที่สนิทกับพ่อสามี
รวมทั้งพ่อแม่และปู่ย่าตายายเขาก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก
หลังจากที่เด็กคนนั้นอึ้งที่เราด่ามันไป
มันก็ไปพูดกับใครบ้างก็ไม่รู้ ที่แน่ ๆ พูดกับสามีเรา
เราก็เล่าให้สามีฟังอย่างสะใจว่าเราด่าเด็กไป แทนที่สามีจะเข้าใจเขากลับว่าเราว่าเราเจ้าคิดเจ้าแค้น
เราเป็นคนค่อนข้างเก็บกด เพราะถูกสอนมาให้เป็นคนยอมคนตลอดตั้งแต่เด็กมาแล้ว ใครทำอะไรก็ให้ยอมตลอด
เวลาโกรธเราจึงมักจะระเบิดอารมณ์พอสมควร
ปัญหาคือ เราคิดไม่ตกว่าเราควรจะวางตัวยังไงต่อไป
หรือคิดยังไงให้ตัวเองสบายใจที่สุด
เพราะเราไม่คิดโทษตัวเองเลย เราคิดว่าเป็นวิธีในการระบายความโกรธของเรา หลังจากยอมคนมาทั้งชีวิตแล้ว
ขอคำแนะนำด้วยค่ะว่าควรใช้ชีวิตยังไง
ขอระบาย เราเป็นโรคจิตเภท+ไม่ชอบเข้าสังคม ทำให้มีปัญหาในการวางตัวในสังคมที่ต้องอยู่บ้านสามี
ยาวหน่อยนะคะ
คือเราเป็นโรคจิตเภท และโรคไม่ชอบเข้าสังคม แต่เราก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบปกติ ถ้าไม่รวมการไม่ออกไปพบปะผู้คน
เรามาอยู่บ้านสามี
เราไม่ชอบออกบ้านไปไหน แต่ชอบไปตลาดและไปขับรถเที่ยวกับสามี แต่จะให้คุยกับคนหมู่มากเราไม่ชอบ
เราจึงมีปัญหาในการวางตัว
เพราะสังคมบ้านนอก (บ้านสามี) เขามีงานมีการเขาจะออกไปช่วยกัน
แต่เราไม่ชอบการเจอผู้คน การเจอผู้คนทำให้เราประหม่า หายใจถี่ หายใจไม่ทั่วท้อง รวมถึงวางตัวไม่ถูก
ประกอบกับโรคจิตเภทที่จะคิดไปเอง คิดทุกเรื่องที่คนพูดวกเข้าหาตัวเอง คิดว่าคนพูดใส่ คิดว่าคนพูด หรือนินทาเรื่องของตัวเองอยู่
เราจึงไม่ค่อยออกจากบ้านไปสุงสิงกับใคร
เวลามีการมีงานเราก็จะเอาแต่เก็บตัวนอนอยู่กับบ้าน
ประกอบกับโรคจิตเภท ห้ามขาดการนอน คือนอนน้อยหรือนอนไม่หลับทีไรอาการเราจะกำเริบ
เรามาอยู่บ้านสามี
แม่สามีเป็นคนเนี๊ยบ และเป็นคนชอบช่วยเหลือสังคมกันมากทั้งบ้าน (เพราะพ่อสามีเป็นผู้ใหญ่บ้าน)
จึงมักมีปัญหาเวลามีงานมีการในหมู่บ้าน แล้วเราไม่ไปช่วยงาน แม่สามีจะชอบมาบอกให้ไปช่วยงาน เราก็รับปากว่า "จ้าๆ" ทุกครั้ง
แต่เราก็ฝืนตัวเองไปไม่ค่อยจะได้ บางทีนาน ๆ ทีคนที่สนิทจริงๆ เราก็จะฝืนตัวเองไปช่วย
เราจึงมีปัญหาในการวางตัวในสังคม ค่อนข้างเป็นที่ติฉินนินทา
แม้คนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นโรคจิตอยู่ (แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร รู้จากที่ว่าเราเคยอาการจิตเภทกำเริบหลงผิดทีหนึ่ง)
และอีกอย่างคือแม่สามีเป็นคนเนี๊ยบมาก บ้านต้องสะอาดสะอ้าน ห้ามมีคราบ ห้ามพื้นสกปรก
อย่างเช่นถ้าวันไหนฝนตกแกจะถูหน้าบ้านและหลังบ้านทุกครั้งเพราะมีฝนสาดเป็นคราบ ๆ
ตู้เย็นก็สกปรกไม่ได้ต้องล้างต้องถู จะตากผ้าก็ต้องสะบัดและตากให้เรียบร้อยตากให้ไวห้ามค้างไว้ในเครื่องหรือที่ใดก็ตาม
บ้านมีคราบหรือมีอะไรนิดนึงที่ผิดหูผิดตาแก แกก็จะบ่น เป็นต้น
ดังนั้นจึงทำให้การใช้ชีวิตของเราค่อนข้างเกร็ง
เพราะเราจะเป็นคนค่อนข้างหลง ๆ ลืม ๆ ชอบทำตัวตามสบาย เป็นคนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ชอบอะไรง่าย ๆ
ทีนี้เราอยู่บ้านสามี อยู่มาเมื่อวันก่อน
มีเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ มาร้องเพลงใส่เรา จ้องเราหน้าเราแล้วก็ร้องเพลงอย่างยิ้ม ๆ ใส่เรา ว่า "นอนเอาแต่สบาย อยู่จนแก่ตาย..."
เราก็ยิ้มไม่ออก ประกอบกับคิดไปคิดมาเราก็โกรธมาก เพราะเด็กอยู่ดี ๆ จะพูดออกมาเองไม่ได้น่าจะมีผู้ใหญ่พูด หรือผู้ใหญ่สอนมาถึงได้มาพูด
เราก็โกรธนะ แต่ต้องยอมรับสภาพ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อวานเรากำลังกรอกน้ำ
เด็กมันทักว่าเราเรื่องหนึ่งเราจึงเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
ปกติเราเป็นคนชอบยิ้ม และพูดเพราะ
แต่เมื่อวานเราด่าเด็กไปว่า "ไม่ต้องมาเสรือก!" เด็กมันก็ถามว่า "ใครเสรือก" "พี่ว่าใคร"
เราก็ตอบกลับด้วยความโกรธ ว่า "ว่า
แต่ผลที่ตามมามันมีเยอะกว่านั้นตรงที่ปกติเราเป็นคนพูดเพราะ ยิ้มเก่ง
ปัญหาคือเราคิดฟุ้งซ่านไปทั่ว ว่าคนจะคิดว่าเราเป็นยังไง เพราะเด็กคนนั้นก็เป็นญาติที่สนิทกับพ่อสามี
รวมทั้งพ่อแม่และปู่ย่าตายายเขาก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก
หลังจากที่เด็กคนนั้นอึ้งที่เราด่ามันไป
มันก็ไปพูดกับใครบ้างก็ไม่รู้ ที่แน่ ๆ พูดกับสามีเรา
เราก็เล่าให้สามีฟังอย่างสะใจว่าเราด่าเด็กไป แทนที่สามีจะเข้าใจเขากลับว่าเราว่าเราเจ้าคิดเจ้าแค้น
เราเป็นคนค่อนข้างเก็บกด เพราะถูกสอนมาให้เป็นคนยอมคนตลอดตั้งแต่เด็กมาแล้ว ใครทำอะไรก็ให้ยอมตลอด
เวลาโกรธเราจึงมักจะระเบิดอารมณ์พอสมควร
ปัญหาคือ เราคิดไม่ตกว่าเราควรจะวางตัวยังไงต่อไป
หรือคิดยังไงให้ตัวเองสบายใจที่สุด
เพราะเราไม่คิดโทษตัวเองเลย เราคิดว่าเป็นวิธีในการระบายความโกรธของเรา หลังจากยอมคนมาทั้งชีวิตแล้ว
ขอคำแนะนำด้วยค่ะว่าควรใช้ชีวิตยังไง