คนเรืออาภัพรัก(แท้)จริงหรือไม่
คนเราคบกันมาเข้าปีที่10 เตรียมตัวที่จะแต่งงานแล้วแต่กลับโดยบอกเลิกระหว่างที่มาทำงานเรือ โดยที่แปลนงานไว้ว่าจะแต่งงาน หลังจากกลับจากเรือในปลายปีนี้
ผมชื่อนายB เรียนจบจากมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ชลบุรี ในสาขาวิศวะกรรมเครื่องกลเรือ หลังจากผมเรียนจบปี1ขึ้นปี2 ก็จะมีรุ่นน้องมหาลัยเข้ามา โดยมหาลัยจะมีการจับสายน้อมหาลัย(โดยจะมีข้อมูลแค่ชื่อ และคณะที่น้องเรียนเบอร์โทรศัพท์ แต่ไม่มีรูปนะ) น้องมหาลัยคือรุ่นน้องปี1ที่เราจะสามารถทำการแทคแคร์ดูแลกันเป็นรุ่นๆผมก็ไปทำการจับมาและได้น้องผู้หญิงคนนี้ชื่อZ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้สนจัยอะไรเท่าไหร่หลอก จนวันหนึ่งผมกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านที่เช่าอยู่ระหว่างเรียน และเกิดอยากรู้จักน้องขึ้นมา เลยโทรไปหาน้องเขา แต่ผมก็บอกกับเพื่อนผมไม่คิดไรหลอกและกะจะยกให้เพื่อนไปแทคแคร์ด้วยซ้ำ
หลังจากที่ผมโทรหาน้องเขา ผมก็ขับรถไปหาน้องเขาเลยที่หน้าหอพัก แล้วก็คุยไรกันนิดหน่อย และจะชวนน้องมากินเหล้าด้วย แต่น้องไม่มา(สงสัยจะดูอาการเหมือนว่าเราเมาแล้วหื่นเปล่า555)
ผมก็กลับมากินเหล้าต่อกับเพื่อนปกติ พอวันต่อมาผมก็โทรหาน้องเลยคับ และชวนน้องไปเที่ยวทะเลบางแสน โดยขับมอเตอร์ไซค์ไป ก็ดีจัยนะครับที่น้องเขาตกลงมากับเรา เราก็ไปเที่ยวกันแทคแคร์กันปกติ พอขากลับก็ขับรถกลับมาเรื่อยๆ เราก็ไม่รีบอะไรเพราะเรารู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วเรารู้สึกดีมีความสุข ระหว่างทางกลับขณะขับรถกลับผมก็บอกน้องเขาเลยว่าเราลองมาคบกันเป็นแฟนดูไหม สรุปเขาก็โอเคหลังจากนั้นผมก็แทคแคร์น้องมาเรื่อยๆ จากน้องมหาลัยก็กลายเป็นแฟนกันครับ ซึ่งการคบกันระหว่าง นายB กับ น้อง Z เป็นไปได้อย่างดีจนเมื่อก่อนน้อง Z อยู่หอกับพี่สาว ก็มาอยู่บ้านที่เราเช่าอยู่ หลังจากจบปี2ผมขึ้นปี3 (ไม่แน่จัย) ผมก็เลิกเช่าบ้านที่อยู่ด้วยกันกับเพื่อน และไปอยู่หอกับแฟนและพี่สาวแฟน เมื่อก่อนการเรียนผมไม่เอาไหนเลย และชอบกินเหล้าแทบทุกวัน หลังจากที่ผมย้ายเข้ามาอยู่หอกับแฟน การออกไปกินเหล้าก็น้อยลง และผมยังขยันในการอ่านหนังสือสอบมากขึ้นด้วย บางครั้งผมแข่งกันกับแฟนเรื่องการเรียนเลยล่ะ ทำให้เกรดเฉลี่ยผมดีขึ้นเรื่อยๆมาตลอด ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งระหว่างคบกันเราก้มีทะเลาะกันบ้าง เพราะผมชอบไปกินเหล้าบ้านเพื่อนและกลับเช้า บางครั้งโทรไปบอกกลับตี2 ก็ยาวไป6โมงเช้า(ก็ผมไม่ชอบกลับดึกๆนี่มันอันตราย ผมก็เลยกลับเช้าเลย 555) พอผมขึ้นปี4 พี่สาวเขาก็จบไปแล้ว ผมก็อยู่กับแฟน2คน ช่วงเวลานั่นเราแฮปปี้มาก เพราะตื่นเช้ามาก็เจอหน้ากัน ไปเรียนก็ไปพร้อมกันบ้าง เลิกเรียนกลับมาก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกัน นอนพร้อมกัน ช่วงนี่ผมแทบไม่ได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนเลย แต่ก็มีบ้างนานๆครั้ง แต่ที่สำคัญแฟนคนนี้ทำให้ผมมีผลการเรียนที่ดีขึ้นมาก จากเมื่อก่อนตอนเข้าปี1ผมเกรด1.9 หลังจากที่ผมคบกับแฟนผมก็เกรดเฉลี่ยเพิ่มมาทีเรื่อยๆจนจบการศึกษามาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.76 แต่ปี4นี่สิผมได้6A ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดหลอกว่าจะได้ ทำให้ผมได้ค่าเทอมฟรี เนื่องจากถ้าเราทำได้5Aใน12หน่วยกิต มหาลัยจะมีค่าเทอมให้แต่ก็ไม่เต็มจำนวนค่าเทอมผมหลอก แต่ที่สำคัญกว่านั่นคือความภาคภูมิจัยในตัวผมเองครับ จากเมื่อก่อนผมสอนหนังสือใครไม่ได้ ซึ่งในวิชาที่ผมไปสอนเขาก็เป็นวิชาที่ผมF มาหรือวิชาที่ทำการดรอปมา แต่ไม้2 ผมกลับมาได้Aนะครับ ซึ่งคนที่เรียนสายวิศวจะรู้กันดี พวกวิชาThermo,machanic,solid อะไรพวกนี่อะครับ พวกนี่จะเป็นวิชาตัวต่อ คือถ้าเราติดFหรือดรอป ตัวไหนขึ้นมาเราอาจจะเปอ หรืออาจต้องเรียนเพิ่มอีกเทอมหรือปีเลยก็ว่าได้ ดังนั้นก็อยากให้น้องๆที่ยังเรียนอยู่ขอให้ตั้งจัย และมุ่งมั่นในการเรียนนะครับ โดยผมจะบอกสูตรให้ว่า การบ้านที่อาจารย์ให้มา ถ้าเราทำเองได้ควรทำเองหรือทำเองไม่ได้ก็ลอกเพื่อนแล้วทำความเข้าจัยกับการบ้านครับ แค่นี่น้องก็มีเปอร์เซ็นผ่าน50เปอร์เซ็นล่ะ แล้วเราจะไม่ต้องมาเหนื่อยตอนใกล้สอบ แล้วถ้าวิชาไหนที่เราสามารถสอนคนอื่นได้วิชานั่นยังไงก็ผ่าน เออผมมาคุยเรื่องความรัก ทำไมมาเข้าเรื่องเรียนสะยาวเลยมาต่อเรื่องของความรักของผมต่อดีกว่า
ผมอยากบอกว่าการมีความรัก ถ้าเจอคนที่ดีก็ดีไป ช่วยประคับประคองกัน ดูแลเข้าจัยกันเหมือนคู่ผมครับ จนทำให้ผมสามารถเรียนจนจบปริญญาตรี หลังจากนั้นผมก็ไปทำงานเรือล่ะครับซึ่งการทำงานเรือ ผมเข้าจัยนะครับว่าคนรอก็คงทรมานไม่ใช่น้อย เพราะถ้าเจอผู้หญิงที่ไม่มั่นคงจริงๆ ไม่ทันครบคอนแทคหลอกครับ แฟนคุณไปมีคนใหม่แน่นอน แต่สำหรับผมในปีแรกที่ลงเรือมาอีกประมาน2เดือนมั่งครับผมถึงจะติดต่อกลับไปหาเขาได้ เพราะไม่มีเนตอะนะครับ แต่ทุกครั้งที่มีสัญญานผมก็จะโทรหาหาบ้าง วิดีโอคอลบ้างทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ ซึ่งคอนแทคหนึ่งก็9 เดือนอะครับ หรือบางทีก็อาจต้องอยู่ต่อจนเกือบครบปีอะครับ ถึงจะได้กลับไทยและกลับไปอยู่บ้าน บางครั้งผมก็อยู่บ้านเกือบปีเหมือนกัน เพราะผมก็มีแนวคิดจะหางานบกทำ แต่ก็หาไม่ได้ก็กลับมาลงเรือต่อ เป็นอย่างนี้มา3คอนแทค แฟนคนนี้ก้สามารถรอผมได้ แฟนคนนี้ผมมั่นจัยว่ารอผมได้และอยากแต่งงานกับเขา แต่ผมก็ต้องทำงานตรงนี้ก่อนเพื่อเก็บเงินเพื่อใช้สร้างครอบครัวในอนาคตและใช้ในการแต่งงาน และผมก็คุยมาตลอดว่าผมจะแต่งงานตอนอายุ30 จนมาเข้าคอนแทคที่4นี่ล่ะครับ เรื่องก็เกิด ซึ่งเดือนสิงหาคมผมก็อายุครบ30ล่ะ และจะแต่งงานในเดือนธันวาคม โดยผมก็ให้พ่อแม่ฝ่ายผมแลฝ่ายเขามาคุยกันและหาฤกษ์มาแล้ว และให้แฟนผมเตรียมทุกอย่างไม่ว่าจะจัดงานที่ไหน ช่างผมคนไหน ตากล้อง และให้แฟนเป็นคนดูข้อมูลและจอง โดยผมก็ออกค่าใช้จ่ายในการมัดจำให้หมด ลืมบอกไปผมเป็นคนที่นิสัยอะไรก็ได้ง่ายๆ แฟนอยากได้ไรก็บอก แต่ผมไม่ค่อยจะมีเซอร์ไพร์หรือวันสำคัญต่างๆก็เหมือนปกติทุกวันสำหรับผม ผมไม่เคยให้ดอกไม้แฟนเลยครับ แต่ผมคิดว่าแค่เราคุยกันเข้าจัยกันวันสำคัญอะไรก็ไม่ต้องมีไรมากมายหลอก ขอแค่เรารักกัน ทุกวันก็มีความสุขสำหรับผมล่ะ แต่เขามาบอกผมว่าเขารู้สึกว่าไม่ได้รักเราแล้ว เขาอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดรู้สึกชินกับการอยู่คนเดียวไปแล้ว ผมควรจะทำยังไงดีครับ ถ้าคุณเป็นผมแล้วโดนบอกเลิกในขณะนี้ ยังไงก็ขอคำปรึกษาด้วยนะครับ
คนเรืออาภัพรักแท้จริงหรือไม่
คนเราคบกันมาเข้าปีที่10 เตรียมตัวที่จะแต่งงานแล้วแต่กลับโดยบอกเลิกระหว่างที่มาทำงานเรือ โดยที่แปลนงานไว้ว่าจะแต่งงาน หลังจากกลับจากเรือในปลายปีนี้
ผมชื่อนายB เรียนจบจากมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ชลบุรี ในสาขาวิศวะกรรมเครื่องกลเรือ หลังจากผมเรียนจบปี1ขึ้นปี2 ก็จะมีรุ่นน้องมหาลัยเข้ามา โดยมหาลัยจะมีการจับสายน้อมหาลัย(โดยจะมีข้อมูลแค่ชื่อ และคณะที่น้องเรียนเบอร์โทรศัพท์ แต่ไม่มีรูปนะ) น้องมหาลัยคือรุ่นน้องปี1ที่เราจะสามารถทำการแทคแคร์ดูแลกันเป็นรุ่นๆผมก็ไปทำการจับมาและได้น้องผู้หญิงคนนี้ชื่อZ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้สนจัยอะไรเท่าไหร่หลอก จนวันหนึ่งผมกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านที่เช่าอยู่ระหว่างเรียน และเกิดอยากรู้จักน้องขึ้นมา เลยโทรไปหาน้องเขา แต่ผมก็บอกกับเพื่อนผมไม่คิดไรหลอกและกะจะยกให้เพื่อนไปแทคแคร์ด้วยซ้ำ
หลังจากที่ผมโทรหาน้องเขา ผมก็ขับรถไปหาน้องเขาเลยที่หน้าหอพัก แล้วก็คุยไรกันนิดหน่อย และจะชวนน้องมากินเหล้าด้วย แต่น้องไม่มา(สงสัยจะดูอาการเหมือนว่าเราเมาแล้วหื่นเปล่า555)
ผมก็กลับมากินเหล้าต่อกับเพื่อนปกติ พอวันต่อมาผมก็โทรหาน้องเลยคับ และชวนน้องไปเที่ยวทะเลบางแสน โดยขับมอเตอร์ไซค์ไป ก็ดีจัยนะครับที่น้องเขาตกลงมากับเรา เราก็ไปเที่ยวกันแทคแคร์กันปกติ พอขากลับก็ขับรถกลับมาเรื่อยๆ เราก็ไม่รีบอะไรเพราะเรารู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วเรารู้สึกดีมีความสุข ระหว่างทางกลับขณะขับรถกลับผมก็บอกน้องเขาเลยว่าเราลองมาคบกันเป็นแฟนดูไหม สรุปเขาก็โอเคหลังจากนั้นผมก็แทคแคร์น้องมาเรื่อยๆ จากน้องมหาลัยก็กลายเป็นแฟนกันครับ ซึ่งการคบกันระหว่าง นายB กับ น้อง Z เป็นไปได้อย่างดีจนเมื่อก่อนน้อง Z อยู่หอกับพี่สาว ก็มาอยู่บ้านที่เราเช่าอยู่ หลังจากจบปี2ผมขึ้นปี3 (ไม่แน่จัย) ผมก็เลิกเช่าบ้านที่อยู่ด้วยกันกับเพื่อน และไปอยู่หอกับแฟนและพี่สาวแฟน เมื่อก่อนการเรียนผมไม่เอาไหนเลย และชอบกินเหล้าแทบทุกวัน หลังจากที่ผมย้ายเข้ามาอยู่หอกับแฟน การออกไปกินเหล้าก็น้อยลง และผมยังขยันในการอ่านหนังสือสอบมากขึ้นด้วย บางครั้งผมแข่งกันกับแฟนเรื่องการเรียนเลยล่ะ ทำให้เกรดเฉลี่ยผมดีขึ้นเรื่อยๆมาตลอด ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งระหว่างคบกันเราก้มีทะเลาะกันบ้าง เพราะผมชอบไปกินเหล้าบ้านเพื่อนและกลับเช้า บางครั้งโทรไปบอกกลับตี2 ก็ยาวไป6โมงเช้า(ก็ผมไม่ชอบกลับดึกๆนี่มันอันตราย ผมก็เลยกลับเช้าเลย 555) พอผมขึ้นปี4 พี่สาวเขาก็จบไปแล้ว ผมก็อยู่กับแฟน2คน ช่วงเวลานั่นเราแฮปปี้มาก เพราะตื่นเช้ามาก็เจอหน้ากัน ไปเรียนก็ไปพร้อมกันบ้าง เลิกเรียนกลับมาก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกัน นอนพร้อมกัน ช่วงนี่ผมแทบไม่ได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนเลย แต่ก็มีบ้างนานๆครั้ง แต่ที่สำคัญแฟนคนนี้ทำให้ผมมีผลการเรียนที่ดีขึ้นมาก จากเมื่อก่อนตอนเข้าปี1ผมเกรด1.9 หลังจากที่ผมคบกับแฟนผมก็เกรดเฉลี่ยเพิ่มมาทีเรื่อยๆจนจบการศึกษามาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.76 แต่ปี4นี่สิผมได้6A ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดหลอกว่าจะได้ ทำให้ผมได้ค่าเทอมฟรี เนื่องจากถ้าเราทำได้5Aใน12หน่วยกิต มหาลัยจะมีค่าเทอมให้แต่ก็ไม่เต็มจำนวนค่าเทอมผมหลอก แต่ที่สำคัญกว่านั่นคือความภาคภูมิจัยในตัวผมเองครับ จากเมื่อก่อนผมสอนหนังสือใครไม่ได้ ซึ่งในวิชาที่ผมไปสอนเขาก็เป็นวิชาที่ผมF มาหรือวิชาที่ทำการดรอปมา แต่ไม้2 ผมกลับมาได้Aนะครับ ซึ่งคนที่เรียนสายวิศวจะรู้กันดี พวกวิชาThermo,machanic,solid อะไรพวกนี่อะครับ พวกนี่จะเป็นวิชาตัวต่อ คือถ้าเราติดFหรือดรอป ตัวไหนขึ้นมาเราอาจจะเปอ หรืออาจต้องเรียนเพิ่มอีกเทอมหรือปีเลยก็ว่าได้ ดังนั้นก็อยากให้น้องๆที่ยังเรียนอยู่ขอให้ตั้งจัย และมุ่งมั่นในการเรียนนะครับ โดยผมจะบอกสูตรให้ว่า การบ้านที่อาจารย์ให้มา ถ้าเราทำเองได้ควรทำเองหรือทำเองไม่ได้ก็ลอกเพื่อนแล้วทำความเข้าจัยกับการบ้านครับ แค่นี่น้องก็มีเปอร์เซ็นผ่าน50เปอร์เซ็นล่ะ แล้วเราจะไม่ต้องมาเหนื่อยตอนใกล้สอบ แล้วถ้าวิชาไหนที่เราสามารถสอนคนอื่นได้วิชานั่นยังไงก็ผ่าน เออผมมาคุยเรื่องความรัก ทำไมมาเข้าเรื่องเรียนสะยาวเลยมาต่อเรื่องของความรักของผมต่อดีกว่า
ผมอยากบอกว่าการมีความรัก ถ้าเจอคนที่ดีก็ดีไป ช่วยประคับประคองกัน ดูแลเข้าจัยกันเหมือนคู่ผมครับ จนทำให้ผมสามารถเรียนจนจบปริญญาตรี หลังจากนั้นผมก็ไปทำงานเรือล่ะครับซึ่งการทำงานเรือ ผมเข้าจัยนะครับว่าคนรอก็คงทรมานไม่ใช่น้อย เพราะถ้าเจอผู้หญิงที่ไม่มั่นคงจริงๆ ไม่ทันครบคอนแทคหลอกครับ แฟนคุณไปมีคนใหม่แน่นอน แต่สำหรับผมในปีแรกที่ลงเรือมาอีกประมาน2เดือนมั่งครับผมถึงจะติดต่อกลับไปหาเขาได้ เพราะไม่มีเนตอะนะครับ แต่ทุกครั้งที่มีสัญญานผมก็จะโทรหาหาบ้าง วิดีโอคอลบ้างทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ ซึ่งคอนแทคหนึ่งก็9 เดือนอะครับ หรือบางทีก็อาจต้องอยู่ต่อจนเกือบครบปีอะครับ ถึงจะได้กลับไทยและกลับไปอยู่บ้าน บางครั้งผมก็อยู่บ้านเกือบปีเหมือนกัน เพราะผมก็มีแนวคิดจะหางานบกทำ แต่ก็หาไม่ได้ก็กลับมาลงเรือต่อ เป็นอย่างนี้มา3คอนแทค แฟนคนนี้ก้สามารถรอผมได้ แฟนคนนี้ผมมั่นจัยว่ารอผมได้และอยากแต่งงานกับเขา แต่ผมก็ต้องทำงานตรงนี้ก่อนเพื่อเก็บเงินเพื่อใช้สร้างครอบครัวในอนาคตและใช้ในการแต่งงาน และผมก็คุยมาตลอดว่าผมจะแต่งงานตอนอายุ30 จนมาเข้าคอนแทคที่4นี่ล่ะครับ เรื่องก็เกิด ซึ่งเดือนสิงหาคมผมก็อายุครบ30ล่ะ และจะแต่งงานในเดือนธันวาคม โดยผมก็ให้พ่อแม่ฝ่ายผมแลฝ่ายเขามาคุยกันและหาฤกษ์มาแล้ว และให้แฟนผมเตรียมทุกอย่างไม่ว่าจะจัดงานที่ไหน ช่างผมคนไหน ตากล้อง และให้แฟนเป็นคนดูข้อมูลและจอง โดยผมก็ออกค่าใช้จ่ายในการมัดจำให้หมด ลืมบอกไปผมเป็นคนที่นิสัยอะไรก็ได้ง่ายๆ แฟนอยากได้ไรก็บอก แต่ผมไม่ค่อยจะมีเซอร์ไพร์หรือวันสำคัญต่างๆก็เหมือนปกติทุกวันสำหรับผม ผมไม่เคยให้ดอกไม้แฟนเลยครับ แต่ผมคิดว่าแค่เราคุยกันเข้าจัยกันวันสำคัญอะไรก็ไม่ต้องมีไรมากมายหลอก ขอแค่เรารักกัน ทุกวันก็มีความสุขสำหรับผมล่ะ แต่เขามาบอกผมว่าเขารู้สึกว่าไม่ได้รักเราแล้ว เขาอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดรู้สึกชินกับการอยู่คนเดียวไปแล้ว ผมควรจะทำยังไงดีครับ ถ้าคุณเป็นผมแล้วโดนบอกเลิกในขณะนี้ ยังไงก็ขอคำปรึกษาด้วยนะครับ