หนังเก่าเล่าใหม่ 080: In Bruges (Martin McDonagh, 2008) เขียนโดย Form Corleone

หนังเก่าเล่าใหม่  080: In Bruges (Martin McDonagh, 2008)


"ความเฉียบคมผสมตลกร้าย ทำให้ทุกๆนาทีนั้นมีทั้งขำและเศร้าสลับกัน" ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวการหนีไปหลบซ่อนตัวของนักฆ่าสองคนที่ลงมือผิดพลาดไปโดนเป้าหมายที่ไม่คาดคิด ทั้งสองหนีไปซ่อนตัวในกรุง 'Bruges' ประเทศ 'Belgium' ตัวหนังจึงเหมือนการพาเราไปเที่ยวชมความสวยงามของเมืองแห่งนี้ บรรยากาศจึงสวยมากผนวกสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนอยากจะพาตัวเองไปตามรอยสักครั้ง ภาพยนตร์ค่อนข้างเล่าเรื่องราวช้าๆเนิบๆ แต่แฝงไปด้วยความตลกจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่ทุกๆนาที และนำพาบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่ค่อยๆพีคขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ แสดงนำโดย Colin Farrell, Brendan Gleeson, Ralph Fiennes ทั้งสามคนให้การแสดงที่ยอดเยี่ยม สามารถที่จะสื่อสารข้อความตลก(ร้าย)ต่างๆ ออกมาได้ในจังหวะที่เข้าที่เข้าทาง รวมไปถึงนักแสดงสมทบอย่าง 'Clémence Poésy' ที่มีเสน่ห์มากๆยังช่วยส่งเสริมให้บรรยากาศของตัวหนังมีเสน่ห์ไปพร้อมสถานที่แห่งเทพนิยายให้ดูสวยงามโดดเด่นน่าหลงใหล จึงทำให้ตัวงานนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับใครที่ไม่ชอบงานสไตล์ช้าๆ เพราะความช้าของตัวหนังทำให้เราสามารถซึมซับงานฉากได้ทั้งหมด นอกจากนี้ฉากไล่ล่าระหว่างคนสองคนยังทำได้เจริญตาในความเรียบง่าย ที่ไม่เยอะแต่แฝงไปด้วยมิติในความเป็นศิลปะด้วยมุมกล้องที่จับภาพได้อย่างสวยงาม งานนี้จึงแทบจะมีบริบทแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมในการเลือกโลเคชั่นเป็นกรุง 'Bruges' แน่นอนว่า มันทำให้เรารู้จักสถานที่แห่งนี้มากขึ้น เราอดคิดเล่นๆไม่ได้ว่าถ้าตัวหนังเปลี่ยนจาก 'Bruges' มาเป็น 'Bangkok' ชีวิตดีๆที่ลงตัว คงจะอารมณ์เหมือน 'Bangkok Dangerous(2008)' อะไรทำนองนั้น


นอกจากตัวงานมีบรรยากาศที่ชวนเคลิบเคลิ้มแล้วนั้น ไดอะล็อกของงานนี้ยังมีความสร้างสรรค์ทั้งในแง่ความตลกร้าย และวิถีชีวิตในการตั้งมั่นกฎเกณฑ์สำหรับการดำเนินชีวิต บทภาพยนตร์มีการวางโครงเรื่องไว้ได้อย่างแยบยลตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง ทุกสิ่งอย่างที่ตัวภาพยนตร์จัดวางไว้มีผลต่อเนืองกับเหตุการณ์ต่างๆเป็นลำดับขั้นตอนอย่างชัดเจน รวมทั้งยังละมุนลุ่มลึกไปพร้อมกัน ทำให้เมื่อเรามีอารมณ์ขันหรืออารมณ์สบายๆ ณ ขณะดู หนังสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าและตึงเครียดร่วมลุ้นไปได้ทุกจังหวะ ยิ่งไปกว่านั้น งานนี้ยังมีบทภาพยนตร์ทีดีมาก ทำให้การนั่งดูความเนิบช้าส่งผลกระทบต่อความรู้สึกในช่วงท้ายเรื่องได้อย่างทรงพลังจนถึงกับตะลึงทั้งแง่มุมการมีชีวิตต่อไปเพื่อทำสิ่งที่ดีให้กับชีวิตอื่น หรือคุณค่าของการมีชีวิต ทั้งหมดทั้งมวล จึงสามารถผลักดันให้เราเข้าใจตัวตนของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างแจ่มชัด เพลงประกอบพอเหมาะพอดีกับเหตุการณ์นั้นๆ หรือเจาะจงไปที่ตัวละครตัวนั้นตามคาแรคเตอร์


ท้ายสุด 'In Bruges' จึงเป็นงานที่ไม่ได้มีสเกลใหญ่มาก แต่เป็นงานที่สวยงามมากในความเล็กๆของเบื้องหลัง ประกอบสร้างเป็นผลกระทบที่ตรึงใจ ใครชอบงานสบายๆแต่แฝงไปด้วยความเศร้าสะเทือนใจผนวกบทภาพยนตร์ตลกร้าย คุณค่าของการมีชีวิต ผจญภัยไปกับการท่องเที่ยวนครแห่งเทพนิยายที่เป็นมรดกโลกในกรุง 'Bruges' งานนี้คงจะตอบสนองความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ได้น่าประทับใจ จึงต้องยกความดีความงามให้การกำกับของ 'Martin McDonagh' และมือเขียนบทภาพยนตร์ ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเล็กๆให้ไปไกลจนถึงขั้นแง่มุมการใช้ชีวิต รวมทั้งเหล่านักแสดงที่เล่นได้ดีกันทั้งหมด ฉะนั้นแล้ว งานนี้จึงเป็นสามารถหยิบมาดูซ้ำได้บ่อยๆ เพื่อซึมซับสถานที่ ซึมซับเรื่องราว ซึมซับข้อความต่างๆ ได้ในระดับที่ดีอีกงานหนึ่ง...


ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ ยิ้ม

ตัวอย่าง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่