รู้สึกอกหักเมื่อคนที่มาจีบเราถอดใจและลดสถานะกลับไปเป็นเพื่อน

เรามีเพื่อนผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเป็น 10 ปีอยู่คนนึง เล่นเกมส์ด้วยกันมา เราก็รู้สึกดี ๆ กับเขานะ รู้จักกันมา 4 ปี ก็คุยไลน์แบบข้อความกันมาประมาณ 2 ปี จนเมื่อ 2 ปีก่อนก็เริ่มคุยแบบเสียงกัน ก็รู้สึกว่าเข้ากันได้ดี แล้วเพื่อนคนนี้ก็ทำท่าจะจีบเรา ซึ่งใจจริงเราก็แอบชอบเขาอยู่นิด ๆ

แต่เนื่องจากเราคำนึงถึงความไม่เหมาะสมกันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งอายุของเราที่มากกว่าเป็น 10 ปี จังหวัดที่อยู่อาศัยก็ห่างไกลกันและต่างคนก็ต่างมีอาชีพการงานและครอบครัวอยู่กันคนละที่ (เพราะความห่างไกล เรามีโอกาสเจอกับเขาแค่ปีละประมาณ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 - 3 วัน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็โทรคุยกันเกือบทุกวัน) ยังไม่นับเรื่องความต่างกันของฐานะ พื้นฐานครอบครัว การศึกษา รสนิยมทั่วไป (ที่ไม่ใช่เกมส์) และอื่น ๆ อีกมากมาย เราจึงคิดว่าการที่เรากับเขาจะมีอนาคตร่วมกันระดับได้แต่งงานกันมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้นแม้ว่าแท้จริงแล้วใจเราจะทั้งอ่อนทั้งเอนเอียงไปทางเขา เราก็ไม่เคยรับกับเขาว่ารักแบบแฟน ก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันดีแล้ว เรารักเขาแบบเพื่อนนะ และคอยบอกอยู่เรื่อย ๆ ว่า ถ้าเขาพบคนที่ถูกใจก็ให้ลองจีบดู เพื่อที่จะได้มีครอบครัวอย่างสมบูรณ์และมีความสุข เพราะส่วนตัวเราเองก็ไม่คิดจะแต่งงาน กะว่าจะเกาะคานทองไปเรื่อย ซึ่งพอเราพูดแบบนี้ทีไร ก็จะทะเลาะกันเล็ก ๆ เพราะเขาบอกว่าเราไล่เขาให้ไปหาคนอื่นอยู่ได้ เขาเคยบอกว่าจะรักเราไปเรื่อย ๆ แม้จะรู้ว่าเราไม่ได้รักเขาแบบแฟนแต่รักแบบเพื่อนก็ตามที

แต่สิ่งใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่จีรังยั่งยืน หลังจากการพบหน้ากันครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เราก็มีเหตุให้โกรธและบ่นเขาเกี่ยวกับการเงิน (อันนี้ก็บ่นมาเรื่อย เพราะวินัยการเงินเราสูงส่งมาก 555 ในขณะที่เขาจะเทียบกับเราไม่ได้เลยซักนิด) หลังจากนั้นก็สังเกตได้ว่าเขาลดระดับการติดต่อลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อความแทบไม่ส่งมา เราส่งไปก็แทบไม่อ่าน ไม่มีการโทรคุยเหมือนอย่างเคย เป็นอย่างนั้นอยู่สัปดาห์นึงเราก็ส่งข้อความไปถามว่าจะเลิกคุยเหรอ หรือจะเอายังไง ถ้าจะหยุดคุยก็ขอโทรคุยอีกสักครั้งได้ไหมว่าจู่ ๆ ทำไมหายเงียบไป? ข้อสรุปหลังจากการโทรคุยคือเขาถอดใจแล้ว ถอยกลับมาเป็นสถานะเพื่อนแบบเพียว ๆ ซึ่งก็แปลว่าจะส่งข้อความเมื่อสะดวก โทรคุยนี่แทบจะไม่ต้องพูดถึงเลย

ตัวเราเองก็รู้สึกเหมือนอกหัก ความจริงก็รู้สึกได้ตั้งแต่กลับมาจากที่เจอกัน เรารู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะเราเพื่อนน้อยมาก คุยอยู่หลัก ๆ ก็คือเขา พอถูกลดสถานะลดเลยเฟลหนักเลย ขี้แยตลอด เรามันพวกปากแข็งใจอ่อน หรือจะเรียกว่าเห็นแก่ตัวดี ยังอยากคุยกับเขาเยอะ ๆ แบบเดิมไปอีก เรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะหาแฟนตัวจริงได้ก็ยังดี (เราเข้าใจว่าเขายังไม่มีแฟนนะ...หรือมีแล้วหว่า? 555 ไม่กล้าถาม เพราะตอนนี้ feeling ก็มัว ๆ กันอยู่ ไม่อยากทะเลาะกันมากกว่านี้)

พอเราบอกเขาไปว่า เราเสียใจนะที่ต้องเลิกคุยกันและลดสถานะการติดต่อ เขาก็บอกว่า เราจะไปรู้สึกอะไรเยอะแยะมากมาย เราไม่ได้รักเขาเหมือนเขารักเราซักหน่อย เราคิดกับเขาแค่เพื่อนมาตลอด และเราคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไงที่ถูกเราปฏิเสธมาตลอด เราก็ตอบไปว่า จะฐานะอะไรไม่รู้แต่เรารักและหวังดีต่อเขาจริง ๆ ไม่งันคงไม่ใส่ใจ ไม่เป็นห่วง ไม่อยากพูดคุยด้วยเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา เราไม่เคยเบื่อหรือรำคาญเขาเลย (แต่เรากลับรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มาเขาแหละที่รำคาญเราในบางครั้ง) และเรามีความสุขดีในระดับการติดต่อกันที่ผ่าน ๆ มา เพียงแต่มันเดินหน้าไปมากกว่านั้นไม่ได้ ถ้าเขาจะเลิกคุยกับเราเพราะไม่แฮปปี้ที่มันเดินหน้าไปกว่านั้นไม่ได้ เราก็ยอมรับการตัดสินใจของเขา แม้เราจะเศร้ามากก็เถอะ เพราะเราก็ยอมรับว่าการที่จะมีอนาคตร่วมกันระดับได้แต่งงานกันและเป็นครอบครัวเดียวกัน ความเป็นไปได้แทบจะไม่มีเลย ถ้าต้องต่างคนต่างถอยเพื่อให้เขาได้เริ่มต้นมองหาคนที่ใช่อย่างจริงจัง เราก็ยินยอมแต่โดยดี (ด้วยความเศร้า)

เพื่อน ๆ เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ไหม? หรือมีใครมีความเห็นอย่างไร รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะ เผื่อว่าเวลาที่มองจากคนนอกแล้วจะได้มุมมองอะไรใหม่ ๆ เพราะเรามองเองคิดเองตอนนี้ก็มีแต่เศร้ากับเศร้าอะนะ (T T) ขอบคุณจ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่