แชร์ประสบการ์ใหม่ "ชะนีถ้ำไทยแลนด์ สู่ดินแดนลาวใต้" ครั้งแรกกับการออกนอกประเทศ... . By แม่บ้านอพาร์มเม้นท์

กระทู้นี้ขอเปลี่ยนแนวจาก "กระทู้อาหาร" มาเป็นการแชร์ประสบการณ์ "แนวท่องเที่ยว" กันหน่อยนะจ๊ะ
ไม่ได้อยากให้มองว่ากระทู้นี่เป็น "กระทู้รีวิว" แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวทางไกล๊ไกล
และการท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของคุณแม่บ้านฯ
จากการสิงอยู่ในประเทศมาตลอดชีวิต และจะขออธิบายเป็นมุมกว้างๆ ไม่ได้ละเอียดยิบๆ เนอะ



ต่างประเทศที่ว่ามานั้น มันก็คือ......." ประเทศลาว "........
ประเทศลาวนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่างที่ทุกคนพอจะรู้กัน
แต่พื้นที่ที่จะมาแชร์ประสบการณ์กันนั้นคือ ลาวตอนใต้ ซึ่งด่านที่เราจะไปข้ามและทำเรื่องเอกสารต่างๆ ก็คือ
ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานีนั้นเอง คุณแม่บ้านฯ เริ่มเดินทางกันตั้งแต่คืนวันที่ 26 พ.ค. 2561 จาก บขส.รังสิต จ.ปทุมธานี
ผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้ จำนวน 6 คนด้วยกัน แน่นอนจ่ะว่าไม่เคยมีผู้ใดเคยไปลาวกันมาก่อนเลย
สนนเงินที่ใช้ในทริปนี้เก็บมาลงกองกลางคนละ 2,500 บาทไทย (แยกกับค่ารถไปกลับอุบลฯ - ปทุม)
สรุปก่อนเลยละกันว่าจบทริปนนี้ 2 คืน 3 วัน วันที่ 27 - 29 พ.ค. 2561 เงิน 2,500 บาทไทยที่เก็บรวมกองกลางนั้น
เงินกองกลางเหลือ เฉลี่ยแล้วทุกคนได้เงินคืนหลักร้อยกว่าบาทไทย มันถือว่าถูกเลยทีเดียว


ทางทีมคุณแม่บ้านฯ นัดเริ่มการเดินทางคือ ตอน 20.30 น. ของคืนวันที่ 26 พ.ค. รถทัวร์มาถึง บขส.รังสิต โดยประมาณ
แล้วก็ไปนอน ไปหลับพักผ่อนกันบนรถทัวร์เอา ถึง บขส.อุบลฯ ก็เช้าวันที่ 27 พอดี ตอนนั้นถึงก็ประมาณ 7 โมงกว่าค่ะ
เพราะว่าช่วงกลางคืนมีฝนตกบ้างเป็นบางพื้นที่ และบางระยะ ก็พักล้างหน้าล้างตา หาข้าวกินกันหน่อย
หลังจากนั้นก็ต่อรถตู้ไปด่านช่องเม็กกันเลยค่ะ พอถึงที่ด่านช่องเม็กก็ไปแวะทำเอกสารข้ามแดน กันให้เรียบร้อยก่อน



DAY 1


พอทำเอกสารต่างๆ เสร็จ ก็ได้เวลาข้ามไปฝั่งลาวละค่ะ ก็จะเป็นการเดินลอดอุโมงใต้ดินปกติ ไม่มีอะไร...


พอข้ามฝั่งมาแล้วจะมีคนทางฝั่งลาวถามโน้นนี่นั้นเรา เรื่องรถ เรื่องซิม คล้ายๆบ้านเรา ที่สำคัญตามตื้อเก่งมากกกกกกกกก
จัดการเรื่องซิม เรื่องรถตู้แล้วก็ยาวไปปากเซเลยค่ะ รถตู้จะไปจอดส่งเราแถวๆ ตลาดดาวเรือง
เป้าหมายต่อไปของเรา คือการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ใกล้ๆ กับโรงเเรมลานคำ แต่มันอยู่ไกลจากตลาดมากรึป่าวเนี่ยสิ
สรุปคือไปหาร้านเเลกเงินกันก่อน ใกล้ๆกับตลาดดาวเรืองนิแหระค่ะ ทีนี้ก็ถามร้านเเลกเงินว่าโรงเเรมไกลจากตรงนี่ไหม
ลุงแกก็บอกว่า "ประมาณโลหนึ่งอ่ะ" เอาว่ะแค่โลเดียวเดินกันก็ได้ เดินไปหาไรกินไปชิวๆ
แล้วลองคิดสภาพสารคดีทะเลทรายสิ อย่างงั้นเลย วันนั้นร้อนมากกกกก น้ำเอ่ย เครื่องเอ่ย เบียร์เอ่ย ไม่ไหวๆ
ได้จังหวะรถ 2 แถวรับจ้างผ่านมาพอดี เอ้า!!! ไปสิคร้าบ รออัลไล...... .. ที่ลุงบอกโลกว่า ลุงหลอกดาว T.T


รูปมาขนาดนี่ คงไม่ต้องบอกว่าหิวแน่นอน "เฝอ" อาหารของโรงแรมลานคำ


"แซนวิชบาเกต" หรือ ข้าวจี่(ในเมนูเค้าเขียนไว้) ลานคำมีอาหารขายอยู่ 2 อย่างหลักๆ ก็คือ เฝอ และบาเกต นอกนั้นเป็นเครื่องดื่มค่ะ


หลังจากกินกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมานิดหนึ่งมาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ก็ทำเรื่อง เขียนเอกสาร คุยเรื่องเส้นทาง
เลือกรถ เลือกหมวกกันน็อค อันนี้พีคมาก คือเก่ามาก เหม็นมาก 55555 แนะนำว่าให้เอาผ้าคลุมหัวหรือหมวกไปด้วยนะ
เป้าหมายต่อไปคือ จำปาสัก เราจะไปพักกันที่ " Champasak with love ด้วยรักจำปาสัก "


มุ่งสู่จำปาสัก แว๊นๆๆๆ แหว๊นๆๆๆๆๆๆ


ยิ่งขับเข้าไป ยิ่งรู้สึกว่าอากาศดีขึ้นเรื่อยๆ มีหมอกเกิบตลอดทาง


และแล้วเราก็มาถึงที่พัก ทางทีมงานเราจองที่พักกันล่วงหน้าไว้เรียบร้อยค่ะ
พี่เกต เจ้าของซึ่งเป็นคนไทยใจดีและเป็นกันเองมากค่ะ แต่พี่เค้าอาจจะหน้านิ่งๆ ไปหน่อย555
ปกติทางที่พักจะไม่รับจองที่พักล่วงหน้านะค่ะ แต่โชคดีที่ได้รับการแนะนำจากคนรู้จักของในทีมมาเลยได้จอง
ที่พักมีน้อยค่ะ มีชั้นบน 2 ห้อง คุณแม่บ้านพักกันก็ 2 ห้องละ อีกฝั่งหนึ่งน่าจะเป็นห้องพักของพี่เกตเค้าค่ะ
ด้านล้างก็จะเป็นร้านอาหาร เป็นเคาน์เตอร์ขายเบียร์ กาแฟ ฯ


ด้านล้างก็จะเป็นโต๊ะนั่ง ตกแต่งธรรมชาติดีค่ะ สบายๆ


มีมุมให้นั่งเล่นหลายมุมดีนะค่ะ ถ้าเทียบกับพื้นที่ร้าน


ที่สำคัญคือมีระเบียงนั่งทานอาหารติดริมแม่น้ำโขงด้วย ชิวสุดๆ


ของดีเมืองลาว ไม่จัดไม่ได้เลี้ยว (ชุ้มคอ)!!!!!


เก็บของ กิน อะไรกันเรียบร้อยก็ได้เวลาแว๊นกันอีกแล้ว พิกัดต่อไปของวันนี้คือ ปราสาทหินวัดพู
มรดกโลกแห่งที่ 2 ของประเทศลาว อากาศวันนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ครึ้ม อบๆ กลัวฝนตกเหมือนกัน


จะใกล้ จะไกล ของกินอย่าให้ขาด อย่างที่เห็นมันคือกล้วยปิ้ง สอดไส้มะพร้าวคลุกน้ำตาลนั้นเอง


หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาขับรถเข้าไปด้านหน้าทางเข้าปราสาท เดินเข้ามาหน่อยก็เจอละจร้า





ภาพชุดนนี้จะเป็นภาพจากปราสาทด้านล่าง สวยงานตามแบบเทวสถานขอมค่ะ



ระหว่างทางเดินขึ้นด้านบนก็จะเห็นรูปสลักทวารบาลค่ะ

ทางเดินขึ้นก็ตามกาลเวลา แต่ก็ดูสวยไปอีกแบบ


ต้นลีลาวดีนิคู่กับโบราณสถานโดยแท้ทรู...






ของทุกอย่างก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา คนอยู่ก็ต้องช่วยกันรักษาต่อไปนะค่ะ
แต่แอบงง มีร้านขายส้มตำเฉยเลย แบบใกล้ชิด ติดปราสาทมาก



วิวด้านขวามือ จากปราสาทด้านบนค่ะ


และแล้วก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน ที่เป็นการพักผ่อนจริงๆ


คุณแม่บ้านฯ แอบรู้สึกว่าขยะในบริเวณปราสาทเนี่ยเยอะนะ โดยเฉพาะด้านล่าง ไม่เข้าใจว่าทำไม่ทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง
ถังขยะก็มี แถมปราสาทด้านซ้ายมือยังมีเด็กวัยรุ่นไปนั่งจู๋จี้กันไปอีกจร้า น่ามีเจ้าหน้าที่มาดูแลเนอะ (คิดในใจ)
ในส่วนของอาหารเย็นนั้นไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ เพราะพอได้พักได้กินก็เป็นดังเช่นซอมบี้กันเลยที่เดียว
หิว กระหายกันมาก แต่ขอบอกว่าอาหารที่จำปาสักอร่อยมากกกกก ถูกปากจริงๆ ทีเด็ดคือที่นี้หมูกรอบอาหร่อยมากนิ
(แต่ถ้าใครสั่งพวกต้มยำมาทานก็บอกเค้าหน่อยละกันนะค่ะว่าขอรสจัดหน่อย เพราะที่ทานกันรสชาติจะอ่อนๆไปหน่อย)


ปิดท้ายวันที่ 1 ด้วย ริมแม่น้ำโขงยามเย็น ....



DAY 2



เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 กันด้วยอาหารมื้อเบาๆ สบายๆ กาแฟคนละแก้ว


หลังจากที่ทานอาหาร เคลียร์เรื่องเงิน เรื่องที่พักกันแล้ว ก็เเว๊นรถกลับมาที่ปากเซเหมือนเดินค่ะ
โรงเเรมที่จะพักคืนที่ 2 นี่ จะพักที่โรงเเรมลานคำค่ะ เลยแวะมาที่ลานคำเพื่อนำสัมภาระต่างๆ ฝากไว้กับทางโรงแรมก่อน
จะได้คลองตัวกับการแว๊นไปเที่ยวในวันนี้


ก่อนอื่นก็มาเติมน้ำมันรถกันก่อนเลย คุยกันเรื่องเส้นทางในวันนี้


วันนี้เราคุยกันไว้ว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกันค่ะ แต่ก่อนจะไปเที่ยวน้ำตกก็ขอแวะกินกาแฟขึ้นชื่อของที่นี่ก่อน นั้นก็คือ "กาแฟดาว"
มีร้านอยู่ใกล้ๆ ตลาดดาวเรือง เลยแวะเข้าไปค่ะ พอไปถึง ป๊าด..... มีแต่รถหรูๆ คนแต่งตัวดีๆ แล้วพวกนี่เข้าไปละ555
เอาเป็นเข้าใจง่ายๆว่า ร้านเข้าเปลียบเสมือนสตาร์บัค บ้านเราเลย 5555




ก็ดีนะค่ะ อร่อยดี ที่สำคัญคือหอม


แล้วก็ออกเดินทาง แว๊นๆๆๆ กันไปเรื่อยๆ คิดไว้ว่าจะไล่เที่ยวจากน้ำตกที่ไกลที่สุดคือน้ำตกตาดเยืองลงมาใกล้ๆ
เที่ยวที่สุดท้ายเสร็จจะได้กลับที่พักเลย สรุปขับไปขับมามันไกลแท้ เลยจอดถามแม่ค้าข้างทางนิแหระ


สกู๊บปี้ บี้มันทุกทาง 55555555

แม่ค้าบอกว่ามันเลยมา 12 กม. แล้วไอหนู กรรมละ.... เลยจัดการกินข้าวโพดย่างสะนี่

แตงกวาใหญ่โคตร พี่คนหนึ่งบอกว่า.... นี่แหระของฝากคนเหงา ขำสิคับ!!!!


และแล้วก็มาถึงน้ำตกแหล่งแรกของวันนี้ น้ำตกตาดเยือง
ขอลงรูรั่วๆ ยาวไปเลยนะค่ะ จะได้ชมบรรยากาศกันอย่างเต็มที่ บางมุมไม่ได้ถ่ายมาเพราะฝนตกตอนจะกลับพอดีค่ะ











แล้วเราก็ไปต่อน้ำตกที่ต่อไปเลยจ่ะ น้ำตกตาดฟาน
น้ำตกที่สูงที่สุดในแขวนจำปาสัก สูงจริงอะไรจริง รูปอาจจะน้อยนะค่ะ เพราะฝนตก เข้าไปในน้ำตกแล้วฝนถึงจะหยุด
เลยได้รูปมาไม่มาก เพราะมีพี่เอากล้องไปแค่คนเดียว ฝนก็ตก พอหยุดตกก็เจอนักท่องเที่ยวทยอยมากัน








ต่อด้านล่าง ....