“ไม่ได้มีแสงใด และชีวิตที่ไร้อ้อมกอด ทิศทางทั้งหมดแปดด้าน มันมีแต่ความมืดบอด
น้ำจริง น้ำจงน้ำใจ ที่ไหลในบึงแห้งขอด ไม่ทำให้ผมนั้นคิดอะไร เดินหน้าด้วยใจ ที่ไม่ถอด”
Ozeeoos - มืด (Blindheart)
วันนี้ได้มีโอกาสมานั่งคุยกับน้อง อู๊ด A.K.A. Ozeeoos จากรายการ The Rapper
ที่หลังเวทีงาน Thailand Blind Music Festival No.5 “No one left behind”
ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้
แนะนำตัว
นาย อำนาจ ศรีสังข์ ชื่อเล่น อู๊ด As Know As Ozeeoos
อายุ 16 ปี เป็นเด็กบุรีรัมย์ ตาบอดตั้งแต่กำเนิด แบบมองเห็นเลือนลาง โดยสาเหตุน่าจะมาจากสาเหตุคุณแม่ป่วยเป็นไซนัส
จึงทานยาสมุนไพรท้องถิ่นเพื่อรักษา จึงอาจเป็นที่มาของการตาบอด
โดยเริ่มเรียน ป.1- ป.6 ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ
ตอนออดิชั่นเข้ามาด้วยเพลง มหาลัยวัวชน ใส่แร็พเข้ามาในเพลง ส่งเข้ามาออดิชั่น
ผ่านเข้ารอบมาด้วยความประหลาดใจปนดีใจของเจ้าตัว
ตอนที่แข่งในรายการรอบแรก ใช้เพลงคืนจันทร์ โดยทีมงานของรายการจะช่วยเรื่องดนตรีกับบีท และท่อนสร้อยของเพลงเดิม
แต่ส่วนไรม์น้องจะเป็นคนเขียนเอง ใช้เวลา 30 นาทีหน้าห้องสตูดิโอ โดยแต่งแล้วมารวมกัน ปรับอีกนิดหน่อย
จนออกมาเป็นเพลงคืนจันทร์ที่ได้รับชมกัน ซึ่งเจ้าตัวพอใจกับงานออกมาอย่างที่สุด
แล้วในรายการมีร้องเพลงแม่ที่น้องเขียนขึ้นมา ตอนที่ร้องในรายการยังเป็นเพียงไรม์อย่างเดียว
ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ รอปล่อยให้ทุกท่านได้ฟัง ซึ่งวันนี้ผมเลยหยิบมาเล่นในงานนี้ก่อนเป็นที่แรก
ซึ่งต้องขอบคุณรายการ The Rapper ที่ได้ให้โอกาสที่ดีมากๆ ครั้งนึงในชีวิตของผม ได้มีโอกาสขึ้นเวที
ร่วมทำงานกับพี่ๆทุกคน ทั้งทีมงานเบื้องหน้าและทีมงานเบื้องหลัง ไปจนพี่ๆที่เข้าร่วมการแข่งขัน
อนาคตวางแผนชีวิต ไว้ 2 แนวควบคู่กัน
1 การเรียน ก็จะเรียนให้ถึงที่สุดเท่าที่ไหว ผมไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน
2 งานเพลง ก็มีโอกาสจะทำต่อๆไป ไม่หายไปไหน จริงจังเต็มที่ โดยต้องเก็บประสบการณ์เพิ่มเติม แต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องห้องอัด
หรืออุปกรณ์ที่จะใช้ทำเพลง แต่ผมก็ไม่ท้อถอยนะพี่ มีแค่ไหนก็ใส่ไปเกินนั้น รวมทั้งได้โอกาสจากพี่ๆ ทีมเบื้องหลังรายการที่ช่วยทำเพลง
ให้ความรู้ และโอกาส จนเป็นเพลง แม่ รวมถึง Damnsweet ที่ชวนมาทำเพลง มืด (Blindheart) เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆของผม
และพี่ๆที่ร่วมแข่งกันในรายการ The Rapper ชวนมาทำเพลงกัน ถ้ามีโอกาสผมก็อยากทำมากๆครับ
แต่ผมจะติดด้วยเรื่องการเรียนที่ผมต้องเรียนเป็นหลัก เพราะหน้าที่ผมตอนนี้คือเป็นนักเรียนครับ
สิ่งที่ขาดจริงๆตอนนี้คือ อุปกรณ์ครับพี่ ตอนนี้ผมยังใช้แค่กีตาร์โปร่ง กับคิดบีทในหัวสมองเอาครับ จินตนาการล้วนๆ
มันเลยไม่ค่อยเอื้ออำนวยมากเท่าไหร่นักครับ แต่ผมก็สู้ต่อไปไม่ถอยนะครับพี่
สุดท้าย ฝากถึงผู้อ่าน คนเราไม่มีข้อจำกัดที่จะทำอะไรสักอย่าง ถ้าคิดจะทำก็ต้องทำ เพราะมิเช่นนั้นก็จะเป็นเพียงความคิด
ถ้ามันจะสำเร็จก็คือสำเร็จ ได้ทำก็สำเร็จแล้ว ถ้าจะได้มากกว่าทำให้ถือว่าเป็นกำไรของชีวิตครับพี่
Ozeeoos The Rapper มุมมองชีวิตผ่านเพลงของเด็กอายุ 16 ปี ที่บกพร่องทางการมองเห็นตั้งแต่กำเนิด
น้ำจริง น้ำจงน้ำใจ ที่ไหลในบึงแห้งขอด ไม่ทำให้ผมนั้นคิดอะไร เดินหน้าด้วยใจ ที่ไม่ถอด”
Ozeeoos - มืด (Blindheart)
วันนี้ได้มีโอกาสมานั่งคุยกับน้อง อู๊ด A.K.A. Ozeeoos จากรายการ The Rapper
ที่หลังเวทีงาน Thailand Blind Music Festival No.5 “No one left behind”
ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้
แนะนำตัว
นาย อำนาจ ศรีสังข์ ชื่อเล่น อู๊ด As Know As Ozeeoos
อายุ 16 ปี เป็นเด็กบุรีรัมย์ ตาบอดตั้งแต่กำเนิด แบบมองเห็นเลือนลาง โดยสาเหตุน่าจะมาจากสาเหตุคุณแม่ป่วยเป็นไซนัส
จึงทานยาสมุนไพรท้องถิ่นเพื่อรักษา จึงอาจเป็นที่มาของการตาบอด
โดยเริ่มเรียน ป.1- ป.6 ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ
ตอนออดิชั่นเข้ามาด้วยเพลง มหาลัยวัวชน ใส่แร็พเข้ามาในเพลง ส่งเข้ามาออดิชั่น
ผ่านเข้ารอบมาด้วยความประหลาดใจปนดีใจของเจ้าตัว
ตอนที่แข่งในรายการรอบแรก ใช้เพลงคืนจันทร์ โดยทีมงานของรายการจะช่วยเรื่องดนตรีกับบีท และท่อนสร้อยของเพลงเดิม
แต่ส่วนไรม์น้องจะเป็นคนเขียนเอง ใช้เวลา 30 นาทีหน้าห้องสตูดิโอ โดยแต่งแล้วมารวมกัน ปรับอีกนิดหน่อย
จนออกมาเป็นเพลงคืนจันทร์ที่ได้รับชมกัน ซึ่งเจ้าตัวพอใจกับงานออกมาอย่างที่สุด
แล้วในรายการมีร้องเพลงแม่ที่น้องเขียนขึ้นมา ตอนที่ร้องในรายการยังเป็นเพียงไรม์อย่างเดียว
ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ รอปล่อยให้ทุกท่านได้ฟัง ซึ่งวันนี้ผมเลยหยิบมาเล่นในงานนี้ก่อนเป็นที่แรก
ซึ่งต้องขอบคุณรายการ The Rapper ที่ได้ให้โอกาสที่ดีมากๆ ครั้งนึงในชีวิตของผม ได้มีโอกาสขึ้นเวที
ร่วมทำงานกับพี่ๆทุกคน ทั้งทีมงานเบื้องหน้าและทีมงานเบื้องหลัง ไปจนพี่ๆที่เข้าร่วมการแข่งขัน
อนาคตวางแผนชีวิต ไว้ 2 แนวควบคู่กัน
1 การเรียน ก็จะเรียนให้ถึงที่สุดเท่าที่ไหว ผมไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน
2 งานเพลง ก็มีโอกาสจะทำต่อๆไป ไม่หายไปไหน จริงจังเต็มที่ โดยต้องเก็บประสบการณ์เพิ่มเติม แต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องห้องอัด
หรืออุปกรณ์ที่จะใช้ทำเพลง แต่ผมก็ไม่ท้อถอยนะพี่ มีแค่ไหนก็ใส่ไปเกินนั้น รวมทั้งได้โอกาสจากพี่ๆ ทีมเบื้องหลังรายการที่ช่วยทำเพลง
ให้ความรู้ และโอกาส จนเป็นเพลง แม่ รวมถึง Damnsweet ที่ชวนมาทำเพลง มืด (Blindheart) เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆของผม
และพี่ๆที่ร่วมแข่งกันในรายการ The Rapper ชวนมาทำเพลงกัน ถ้ามีโอกาสผมก็อยากทำมากๆครับ
แต่ผมจะติดด้วยเรื่องการเรียนที่ผมต้องเรียนเป็นหลัก เพราะหน้าที่ผมตอนนี้คือเป็นนักเรียนครับ
สิ่งที่ขาดจริงๆตอนนี้คือ อุปกรณ์ครับพี่ ตอนนี้ผมยังใช้แค่กีตาร์โปร่ง กับคิดบีทในหัวสมองเอาครับ จินตนาการล้วนๆ
มันเลยไม่ค่อยเอื้ออำนวยมากเท่าไหร่นักครับ แต่ผมก็สู้ต่อไปไม่ถอยนะครับพี่
สุดท้าย ฝากถึงผู้อ่าน คนเราไม่มีข้อจำกัดที่จะทำอะไรสักอย่าง ถ้าคิดจะทำก็ต้องทำ เพราะมิเช่นนั้นก็จะเป็นเพียงความคิด
ถ้ามันจะสำเร็จก็คือสำเร็จ ได้ทำก็สำเร็จแล้ว ถ้าจะได้มากกว่าทำให้ถือว่าเป็นกำไรของชีวิตครับพี่