#แชร์ประสบการณ์ #เตรียมตัวพาลูกขึ้นเครื่องบินทางไกล

สวัสดีค่า วันนี้แม่หมีจะ จะมาแชร์ประสบการรณ์พาลูกขึ้นเครื่องบินทางไกลกันน้า เป็นการเดินทางไกลครั้งแรกของเราแม่ลูกเลย ปรกติหมีก็แถวๆประเทศเพื่อนบ้าน ฮ่องกง สิงคโปรค์ แต่ถามว่าตื่นเต้นไหมจะไปยุโรปครั้งแรก บอกเลยว่าเฉยๆ เพราะมีเรื่องที่ตื่นเต้นมากกว่า นั้นคือลูกนั้นเอง 555


เนื่องจากเราเองก็ไม่เคยนั่งเครื่องนานขนาดนั้น เรานึกภาพไม่ออกค่ะ ว่ามันจะเป็นยังไง แล้วกับเด็กเล็กด้วย ปรกติถ้าบินตรงก็ใช้เวลา 12 ชั่วโมง กลัวมากว่าลูกจะสติแตกเสียก่อน เพราะเป็นเด็กติดเต้าด้วยยังไม่เลิกนมแม่ เลยตัดสินใจจองแบบมีพักแปลี่ยนเครื่องด้วย และสายการบินที่เลือกคือ เอมิเรตส์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรต่อเด็กและแม่ลูกอ่อน 55

ก่อนเดินทาง1 สัปดาห์แม่หมีก็จะบอกคริสตัลทุกวันว่า เดี๋ยวมามี๊จะพาไปนั่เครื่องบินนะคะ บอกให้ลูกฟังว่าเครื่องบินเป็นยังไง มีเก้าอี้ มีเข็มขัด ตอนไหนที่ต้องอยู่นิ่งๆ บอกลูกว่าถ้าเค้าปิดไฟไม่ต้องกลัว ให้หนูนอนนะคะ ขึ้นเครื่องบินสนุกมากๆ อยากได้อะไรให้บอกแม่นะคะ พูดย้ำๆ ซ้ำๆทุกวันค่ะ และวันที่เราเดินทางมากรุงเทพก็ซ้อมไฟต์เล็ก1 ชั่วโมงก่อน ผ่านไปด้วยดี ชีแฮปปี้ สนุก และดูตื่นเต้นมากๆ

สำหรับการแต่งตัว ขอให้เลือกชุดที่สวมใส่สบาย มีความอบอุ่น(บนเครื่องบินหนาวค่ะ) รองเท้าถอดและใส่ง่ายๆ เราสามารถถือกระเป๋าส่วนตัวขึ้นเครื่องบินได้น้ำหนักรวมไม่เกิน 7กิโลกรัม ของพี่ตัลมีกระเป๋าส่วนตัว1 ใบ ในนั้นใส่ของเล่นที่เธอชอบ/ มีสมุดระบายสีน้ำ / นิทานpeppa pig / สีเทียน /สมุดsticker/การ์ดกิจกรรม ให้คริสตัลถือขึ้นเครื่องเองเลย แต่จริงๆบนเครื่องเค้ามีแจกของเล่นเด็กอยู่แล้วนะคะ เป็นสมุดระบายสี/สีไม้/ ถึงบ้านคุณยาย คริสตัลได้ผ้าหุ่มต็กตามา3ตัวพอดี ^^


วันนั้นเราออกบินตี2ครึ่ง และไปถึงสนามบินตั้งแต่5ทุ่มครึ่งเพื่อเช็คอิน เพราะเรามีปัญหานิดหน่อยตอนไฟลท์จากดูไบไปอัมสเตอร์ดัม แม่บีออนไลน์เช็คอินช้าทำให้ที่นั่งของเราต้องแยกกับลูก แต่พอบอกปัญหากับพนักงานที่รับเช็คอินเค้าก็ช่วยประสานงานให้ จนได้นั่งด้วยกันค่ะ สำหรับสายการบินเอมิเรตส์ สามารถนำรถเข็นเด็กที่มีขนาดเล็กขึ้นเครื่องบินได้ไม่ต้องโหลดข้างใต้นะคะ แม่ๆท่านไหน จะเดินทางและมีรถเข็นที่ต้องการถือไปด้วย แนะนำว่า ให้เช็คกับสายการบินที่เราใช้บริการก่อน ว่าสามารถทำได้หรือไม่ หรือไม่ก็ต้องหากระเป๋ามาใส่ เหมือนที่แม่บีซื้อมา เพื่อไม่ให้ดูเห็นว่าเป็นรถเข็นค่ะ


โชคดีของเราที่เที่ยวบินจากกรุงเทพไปดูไบ คนน้อยค่ะ เก้าอี้ด้านหลังเราไม่มีคนนั่งเลย พนักงานต้อนรับใจดีมากๆ พาคริสตัลไปห้องนักบินแล้วยังให้ช็อกโกแลตนางมาอีกเพียบ และบอกว่า ที่นั่งด้านหลัง ย้ายไปนั่งได้เลย คริสตัลจะได้นอนยาวได้ ไฟลท์แรกผ่านไปได้ด้วยดีมาก เพราะวันนั้นแม่พยายามไม่พาลูกนอนกลางวัน กะว่าขึ้นเครื่องปุ๊ปหลับปั๊ป แล้วก็จบไฟลท์แรกแบบสบายๆ ไม่ตื่นมากินแม้แต่อาหาร 555 ใช้เวลา5.30ชั่วโมงค่ะ



ถึงดูไบ เรามีเวลา2ชั่วโมงครึ่งเพื่อเปลี่ยนเครื่อง ก่อนอื่นรีบหาเกตุที่เราจะขึ้นเครื่องก่อนค่ะ ไปนั่งรอใกล้ๆมีที่ของตัวเอง ถึงเวลาก็เดินขึ้นเครื่องได้เลย แม่หมีพกขนมที่แจกบนเครื่องใส่กระเป๋าลงมากับถ้วยน้ำดื่ม เพราะไม่อยากเสียเงินในสนามบินอีก เพราะแน่นอน ทุกสิ่งแพงกว่าปรกติ 555 และโชคดีที่พกรถเข็นขึ้นเครื่องไปด้วยค่ะ เพราะสนามบินที่ดูไบนั่นยาวมาก เดินจนเหนื่อยเลย แต่ถ้าใครไม่ได้พกไปด้วย ที่สนามบินมีให้บริการนะคะ รถเข็นเด็กสีแดงๆ สามารถหยิบใช้ได้เลยค่ะ


จากดูไบถึงอัมสเตอร์ดัม ใช้เวลา 6.30 ชั่วโมง จะว่าไปก็ช่วงเช้าพอดี รอบนี้คริสตัลไม่ยอมนอนแล้ว ประหนึ่งเต็มอิ่มจากไฟลท์ที่แล้ว ของเล่นต่างๆที่เตรียมมา จึงได้เวลาขนออกมาเล่น มีเล่นเกมส์จากจอทัชสกรีนจากที่นั่งบ้าง และเริ่มมาตอนใกล้ๆถึง เพราะแม่บอกว่าบนเครื่องบินกินติ่งติ้งไม่ได้ เธอพยายามอดทนจนถึงขีดสุดของเธอแล้ว แม่เลยเอาผ้าห่มมาคลุมแล้วให้นมแม่บนเครื่องสบายๆ


สรุปการเดินทางครั้งนี้ คริสตัลในวัย 3ขวบครึ่ง ทำตัวดีเป็นที่น่าพอใจมาก ไม่ร้องไห้เลยตลอดทริป ตื่นเต้น สนุกกับทุกสิ่งที่แม่สอนและบอกให้ดู ถึงจะเดินทางเหนื่อย แต่ลูกไม่งอแงก็ทำให้การเดินทางสบายขึ้นมากค่ะ



#Momdetails #คุณแม่มากเรื่อง #GbThailand #EmiratesAirline
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่