ประเด็นคือญาติผมกำลังจะแต่งงาน แต่ท่าทางยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่ดีควรทำยังไง เพราะโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยอบอุ่น
ถ้าพูดถึงพ่อแม่ที่ลูกเกลียด คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงพ่อแม่ที่ชอบใช้ความรุนแรงกับลูกทั้งทายกายและวาจา มีชู้ ติดพนัน ติดยา งานการไม่ทำ หรือพ่อแม่ที่เอาแต่ทำงาน ไม่เห็นความสำคัญของลูกตัวเอง ชอบเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น
แต่สำหรับผม พ่อแม่ที่ลูกเกลียดมากที่สุดคือ พ่อแม่ที่เข้มงวดมากเกินไป ชอบเลี้ยงลูกแบบปฏิเสธ ห้ามนู่นนี่ตลอด พ่อแม่กลุ่มนี้มักเป็นนักวิชาการ หมอ ด้วยความที่คนกลุ่มนี้มักเติบโตมาแบบเด็กเนิร์ด เชื่อฟังผู้ใหญ่มาโดยตลอด โดยพื้นฐานของคนพวกนี้มักเป็นคนเจ้าระเบียบ ไม่ค่อยคิดอะไรนอกกรอบ ไม่นอกลู่นอกทาง พอมีลูกก็มักจะเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดเกินไป ใช้การปฏิเสธลูก เพื่อให้ลูกเดินไปตามทางที่ตัวเองต้องการ ที่สำคัญคือพ่อแม่กลุ่มนี้มักมีอีโก้สูงเพราะสมัยเด็กๆเป็นคนเรียนเก่งจึงมักจะได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ ด้วยความเป็นคนเก่ง(แต่ในตำรา)จึงมักจะมั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจถูกเสมอในทุกๆเรื่อง รวมถึงการตัดสินใจเรื่องต่างๆแทนลูกด้วย พ่อแม่กลุ่มนี้มักจะตัดสินใจแทนลูกทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องการเลือกโรงเรียนให้ลูกๆเรียน โดยไม่ถามลูกว่ามีความสุขที่เรียนในโรงเรียนนั้นหรือเปล่า ที่แย่กว่านั้นคือพ่อแม่กลุ่มนี้มักจะบังคับให้ลูกทำทุกอย่างตามจริตตัวเอง แต่ชอบบอกลูกว่า"มีอะไรต้องบอกพ่อแม่นะ" แต่เมื่อพ่อแม่ถามอะไรกลับต้องตอบตามจริตพ่อแม่ ไม่งั้นโดนว่า ลูกของคนกลุ่มนี้มักจะเรียนเก่ง แต่ขาดความมั่นใจในตัวเอง จึงมักตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอันธพาล(ซึ่งมักจะโดนเลี้ยงดูแบบใช้ความรุนแรง ครอบครัวมีปัญหา จนต้องหาเหยื่อระบายอารมณ์ หรือ ถูกตามใจมากเกินไปจนนิสัยเสีย) เช่น ในกรณีของญาติผมที่กำลังจะเป็นพ่อคน สมัยเด็กๆมักจะโดนรังแกประจำเพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งกลุ่มอันธพาลมักจะรังแกญาติผมเพื่อโชว์ความแมนต่อหน้าสาวๆสวยๆ พอกลับบ้าน ญาติผมฟ้องพ่อแม่ว่าโดนรังแกแบบนี้ๆๆ แต่กลับโดนพ่อแม่ตอบว่า"พ่อแม่ไม่เชื่อว่ามีคนเลวขนาดนั้น บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้" สุดท้ายญาติผมก็ต้องตอบให้ถูกจริตพ่อแม่จอมโลกสวย เมื่อพ่อแม่ไปฟ้องครูที่โรงเรียนก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เพราะบอกครูตามจริตตัวเอง เดาได้ไม่ยากใช่ไหมครับว่าญาติผมจะโดนเล่นหนักขึ้นขนาดไหน
แต่ด้วยความที่คนเรามีความอดทนจำกัด วันหนึ่งญาติผมทนไม่ไหว เลยมาคุยระบายให้ผมฟัง ตอนนั้นผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ก็เลยเลือดร้อนพอตัว ตอนที่ได้ฟัง ผมโกรธมาก เลยบอกญาติผมไปว่า"เดี๋ยวกูพาเพื่อนไปกระทืบพวกมันให้ เอาให้ตาย" แต่ญาติผมเค้าก็มีความคิดเป็นของตัวเองครับ แค่ขาดความมั่นใจ เค้าบอกผมว่าอยากแข็งแรงขึ้น จะได้ไม่โดนรังแก ผมเลยบอกให้เล่นกล้ามหนักๆจะได้สู้พวกนั้นได้ แต่พอไปคุยกับพ่อแม่ กลับโดนบอกว่า"ไร้สาระ คนเราต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหาโดยการไม่ไปยุ่งกับพวกนั้น" แต่ในความจริงถึงเราไม่ยุ่งกับพวกมัน พวกมันก็จะหาโอกาสเล่นเราอยู่ดี ผมเลยชวนญาติไปเล่นกล้ามที่บ้านผม หลังจากญาติผมเล่นกล้ามไปได้ปีกว่า ก็ยังโดนพวกนั้นตามหาเรื่องตลอดจนญาติผมทนไม่ไหว ก็เลยไปลุยเดี่ยวกับพวกนั้น ผลคือญาติผมชนะทั้งๆที่โดนรุม 3-1 (ที่จริงแก๊งค์มันมีมากกว่านั้นเยอะ แต่ส่วนใหญ่เห่าอย่างเดียว ไม่กล้าลุย ตามสันดานพวกลูกคุณหนูโดนสปอย) วันนั้นญาติผมเอามาคุยให้ฟังแบบภูมิใจมาก ในสภาพที่มีรอยแตก ฟกช้ำหลายจุด แต่กลับโดนพ่อแม่ด่าว่า"อกตัญญู ไม่เชื่อฟังพ่อแม่"
พ่อแม่กลุ่มนี้มักเป็นพวกวิตกจริต กลัวเกินเหตุไปซะทุกอย่าง ในกรณีญาติผมจะหนักเป็นพิเศษ พ่อแม่ถึงขนาดห้ามกินเหล้าทั้งๆที่ตอนนั้นใกล้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สอบ entrance ติดแล้ว ทั้งๆที่ควรให้ลูกได้รู้ลิมิตตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองกินได้แค่ไหน ยิ่งญาติผมเข้าวิศวะด้วย(ญาติผมมัน anti พ่อที่เป็นหมอ เลยไม่ยอมเรียนหมอ) ผมเลยชวนมากินเหล้าที่บ้านผมเพื่อให้รู้ลิมิตตัวเองโดยผมเป็นคนนับแล้วบอก เพราะในสังคมมหาวิทยาลัยบางครั้งก็ปฏิเสธยาก อย่างน้อยก็ควรกินพอเป็นพิธีได้ แต่ไม่ใช่ถึงขนาดเมาหัวราน้ำ อ้วกแตก ต้องมีคนหิ้วปีกกลับ โชคดีของญาติผมที่เข้ามหาวิทยาลัยที่รับน้องเบา ไม่มีบังคับกินเหล้า
ถึงแม้ว่าญาติผมจะเจอสังคมที่ดีขึ้นมากในมหาวิทยาลัย แต่ความคิดหลายๆอย่างก็ยังฝังหัวเหมือนเดิม ทั้งความคิดที่ว่าการใช้ความรุนแรงเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเพราะถือว่าตัวเองแรงเยอะ ความคิดในการมองอะไรแบบสุดโต่งหลายๆเรื่อง เพราะการถูกเลี้ยงดูมาแบบเข้มงวดสุดโต่ง ญาติผมเลยบอกว่า"ถ้ามีลูก ก็จะตามใจลูกให้สุดๆไปเลย" ซึ่งผมเองไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะกลัวว่าญาติผมจะกลายเป็นพ่อที่รังแกลูกซะเอง รังแกด้วยการตามใจมากเกินไป เพราะเห็นว่าพ่อแม่ผมเลี้ยงดูผมแบบค่อนข้างปล่อย แต่ผมก็สอบติดวิศวะมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ส่วนตัวผมต้องบอกว่าผมโชคดีที่มีพ่อแม่เลี้ยงดูแบบค่อนข้างปล่อย แต่ก็ไม่ได้ตามใจมากเกินไป เพราะถ้าผมอยากได้อะไร ต้องเก็บเงินซื้อเอง พ่อแม่ไม่ซื้อให้ พ่อแม่ผมสอนให้ผมเข้มแข็ง กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าคัดค้านคนที่ทำผิด ซึ่งการที่จะกล้าทำแบบนั้นได้ เราก็ต้องเข้มแข็งพอควร ด้วยความที่สังคมไทยมักจะสอนให้ลูก"อยู่เป็น" ไม่ได้สอนให้รักความยุติธรรม ดังนั้น เมื่อเราเริ่มต่อต้านคนอันธพาล สิ่งที่ตามมาก็มักจะเป็นการที่โดนเล่น ต้องคอยระแวง แต่ถ้าเราผ่านจุดนี้ไปได้ เริ่มหาคนที่มีความคิดเดียวกันหลายๆคน แต่ไม่กล้าแสดงออก มารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ นั่นคือเราเข้มแข็งแล้วละครับ
ส่วนตัวผมไม่ใช่นักจิตวิทยา ยังไม่แต่งงาน ก็เลยได้แค่แนะนำวิธีไป แต่ญาติผมไม่ค่อยฟัง เลยอยากถามความเห็นของเพื่อนๆชาวพันทิปกันหน่อยครับ
ปล.ใครมีอะไรอยากระบาย ระบายได้นะครับ
พ่อแม่แบบไหนที่ลูกเกลียดมากที่สุด/รักมากที่สุด ขอความเห็นหน่อยครับ
ถ้าพูดถึงพ่อแม่ที่ลูกเกลียด คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงพ่อแม่ที่ชอบใช้ความรุนแรงกับลูกทั้งทายกายและวาจา มีชู้ ติดพนัน ติดยา งานการไม่ทำ หรือพ่อแม่ที่เอาแต่ทำงาน ไม่เห็นความสำคัญของลูกตัวเอง ชอบเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น
แต่สำหรับผม พ่อแม่ที่ลูกเกลียดมากที่สุดคือ พ่อแม่ที่เข้มงวดมากเกินไป ชอบเลี้ยงลูกแบบปฏิเสธ ห้ามนู่นนี่ตลอด พ่อแม่กลุ่มนี้มักเป็นนักวิชาการ หมอ ด้วยความที่คนกลุ่มนี้มักเติบโตมาแบบเด็กเนิร์ด เชื่อฟังผู้ใหญ่มาโดยตลอด โดยพื้นฐานของคนพวกนี้มักเป็นคนเจ้าระเบียบ ไม่ค่อยคิดอะไรนอกกรอบ ไม่นอกลู่นอกทาง พอมีลูกก็มักจะเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดเกินไป ใช้การปฏิเสธลูก เพื่อให้ลูกเดินไปตามทางที่ตัวเองต้องการ ที่สำคัญคือพ่อแม่กลุ่มนี้มักมีอีโก้สูงเพราะสมัยเด็กๆเป็นคนเรียนเก่งจึงมักจะได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ ด้วยความเป็นคนเก่ง(แต่ในตำรา)จึงมักจะมั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจถูกเสมอในทุกๆเรื่อง รวมถึงการตัดสินใจเรื่องต่างๆแทนลูกด้วย พ่อแม่กลุ่มนี้มักจะตัดสินใจแทนลูกทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องการเลือกโรงเรียนให้ลูกๆเรียน โดยไม่ถามลูกว่ามีความสุขที่เรียนในโรงเรียนนั้นหรือเปล่า ที่แย่กว่านั้นคือพ่อแม่กลุ่มนี้มักจะบังคับให้ลูกทำทุกอย่างตามจริตตัวเอง แต่ชอบบอกลูกว่า"มีอะไรต้องบอกพ่อแม่นะ" แต่เมื่อพ่อแม่ถามอะไรกลับต้องตอบตามจริตพ่อแม่ ไม่งั้นโดนว่า ลูกของคนกลุ่มนี้มักจะเรียนเก่ง แต่ขาดความมั่นใจในตัวเอง จึงมักตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอันธพาล(ซึ่งมักจะโดนเลี้ยงดูแบบใช้ความรุนแรง ครอบครัวมีปัญหา จนต้องหาเหยื่อระบายอารมณ์ หรือ ถูกตามใจมากเกินไปจนนิสัยเสีย) เช่น ในกรณีของญาติผมที่กำลังจะเป็นพ่อคน สมัยเด็กๆมักจะโดนรังแกประจำเพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งกลุ่มอันธพาลมักจะรังแกญาติผมเพื่อโชว์ความแมนต่อหน้าสาวๆสวยๆ พอกลับบ้าน ญาติผมฟ้องพ่อแม่ว่าโดนรังแกแบบนี้ๆๆ แต่กลับโดนพ่อแม่ตอบว่า"พ่อแม่ไม่เชื่อว่ามีคนเลวขนาดนั้น บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้" สุดท้ายญาติผมก็ต้องตอบให้ถูกจริตพ่อแม่จอมโลกสวย เมื่อพ่อแม่ไปฟ้องครูที่โรงเรียนก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เพราะบอกครูตามจริตตัวเอง เดาได้ไม่ยากใช่ไหมครับว่าญาติผมจะโดนเล่นหนักขึ้นขนาดไหน
แต่ด้วยความที่คนเรามีความอดทนจำกัด วันหนึ่งญาติผมทนไม่ไหว เลยมาคุยระบายให้ผมฟัง ตอนนั้นผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ก็เลยเลือดร้อนพอตัว ตอนที่ได้ฟัง ผมโกรธมาก เลยบอกญาติผมไปว่า"เดี๋ยวกูพาเพื่อนไปกระทืบพวกมันให้ เอาให้ตาย" แต่ญาติผมเค้าก็มีความคิดเป็นของตัวเองครับ แค่ขาดความมั่นใจ เค้าบอกผมว่าอยากแข็งแรงขึ้น จะได้ไม่โดนรังแก ผมเลยบอกให้เล่นกล้ามหนักๆจะได้สู้พวกนั้นได้ แต่พอไปคุยกับพ่อแม่ กลับโดนบอกว่า"ไร้สาระ คนเราต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหาโดยการไม่ไปยุ่งกับพวกนั้น" แต่ในความจริงถึงเราไม่ยุ่งกับพวกมัน พวกมันก็จะหาโอกาสเล่นเราอยู่ดี ผมเลยชวนญาติไปเล่นกล้ามที่บ้านผม หลังจากญาติผมเล่นกล้ามไปได้ปีกว่า ก็ยังโดนพวกนั้นตามหาเรื่องตลอดจนญาติผมทนไม่ไหว ก็เลยไปลุยเดี่ยวกับพวกนั้น ผลคือญาติผมชนะทั้งๆที่โดนรุม 3-1 (ที่จริงแก๊งค์มันมีมากกว่านั้นเยอะ แต่ส่วนใหญ่เห่าอย่างเดียว ไม่กล้าลุย ตามสันดานพวกลูกคุณหนูโดนสปอย) วันนั้นญาติผมเอามาคุยให้ฟังแบบภูมิใจมาก ในสภาพที่มีรอยแตก ฟกช้ำหลายจุด แต่กลับโดนพ่อแม่ด่าว่า"อกตัญญู ไม่เชื่อฟังพ่อแม่"
พ่อแม่กลุ่มนี้มักเป็นพวกวิตกจริต กลัวเกินเหตุไปซะทุกอย่าง ในกรณีญาติผมจะหนักเป็นพิเศษ พ่อแม่ถึงขนาดห้ามกินเหล้าทั้งๆที่ตอนนั้นใกล้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สอบ entrance ติดแล้ว ทั้งๆที่ควรให้ลูกได้รู้ลิมิตตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองกินได้แค่ไหน ยิ่งญาติผมเข้าวิศวะด้วย(ญาติผมมัน anti พ่อที่เป็นหมอ เลยไม่ยอมเรียนหมอ) ผมเลยชวนมากินเหล้าที่บ้านผมเพื่อให้รู้ลิมิตตัวเองโดยผมเป็นคนนับแล้วบอก เพราะในสังคมมหาวิทยาลัยบางครั้งก็ปฏิเสธยาก อย่างน้อยก็ควรกินพอเป็นพิธีได้ แต่ไม่ใช่ถึงขนาดเมาหัวราน้ำ อ้วกแตก ต้องมีคนหิ้วปีกกลับ โชคดีของญาติผมที่เข้ามหาวิทยาลัยที่รับน้องเบา ไม่มีบังคับกินเหล้า
ถึงแม้ว่าญาติผมจะเจอสังคมที่ดีขึ้นมากในมหาวิทยาลัย แต่ความคิดหลายๆอย่างก็ยังฝังหัวเหมือนเดิม ทั้งความคิดที่ว่าการใช้ความรุนแรงเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเพราะถือว่าตัวเองแรงเยอะ ความคิดในการมองอะไรแบบสุดโต่งหลายๆเรื่อง เพราะการถูกเลี้ยงดูมาแบบเข้มงวดสุดโต่ง ญาติผมเลยบอกว่า"ถ้ามีลูก ก็จะตามใจลูกให้สุดๆไปเลย" ซึ่งผมเองไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะกลัวว่าญาติผมจะกลายเป็นพ่อที่รังแกลูกซะเอง รังแกด้วยการตามใจมากเกินไป เพราะเห็นว่าพ่อแม่ผมเลี้ยงดูผมแบบค่อนข้างปล่อย แต่ผมก็สอบติดวิศวะมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ส่วนตัวผมต้องบอกว่าผมโชคดีที่มีพ่อแม่เลี้ยงดูแบบค่อนข้างปล่อย แต่ก็ไม่ได้ตามใจมากเกินไป เพราะถ้าผมอยากได้อะไร ต้องเก็บเงินซื้อเอง พ่อแม่ไม่ซื้อให้ พ่อแม่ผมสอนให้ผมเข้มแข็ง กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าคัดค้านคนที่ทำผิด ซึ่งการที่จะกล้าทำแบบนั้นได้ เราก็ต้องเข้มแข็งพอควร ด้วยความที่สังคมไทยมักจะสอนให้ลูก"อยู่เป็น" ไม่ได้สอนให้รักความยุติธรรม ดังนั้น เมื่อเราเริ่มต่อต้านคนอันธพาล สิ่งที่ตามมาก็มักจะเป็นการที่โดนเล่น ต้องคอยระแวง แต่ถ้าเราผ่านจุดนี้ไปได้ เริ่มหาคนที่มีความคิดเดียวกันหลายๆคน แต่ไม่กล้าแสดงออก มารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ นั่นคือเราเข้มแข็งแล้วละครับ
ส่วนตัวผมไม่ใช่นักจิตวิทยา ยังไม่แต่งงาน ก็เลยได้แค่แนะนำวิธีไป แต่ญาติผมไม่ค่อยฟัง เลยอยากถามความเห็นของเพื่อนๆชาวพันทิปกันหน่อยครับ
ปล.ใครมีอะไรอยากระบาย ระบายได้นะครับ