Julley!!! จูเล่..สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่มินิรีวิวการท่องเที่ยวเมืองลาดัค ประเทศอินเดีย
จุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางหลายๆคน ตัวจขกท.และเพื่อนอีก 3 คน ได้เดินทางไปเมื่อวันที่ 7-12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ถึงแม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆของพวกเรา แต่สิ่งที่พวกเราทุกคน ได้กลับมานั้นมันคุ้มค่ามากๆเลยค่ะ
ในกระทู้นี้จขกท.จะขอพูดถึงความสวยงาม สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางที่พวกเราได้เจอ ณ ที่แห่งนี้

ทริปนี้พวกเราแพลนกันไว้ล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน ซื้อตั๋วและรอกันอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่เดือนธค.ปีที่แล้วค่ะ
แพลนการเดินทางของพวกเราคร่าวๆมีดังนี้
7 มิ.ย. -> BKK to DEL
8 มิ.ย. -> DEL to IXL(leh) ช่วงเย็นเที่ยวรอบๆเลห์
9 มิ.ย. -> Leh to Nubra
10 มิ.ย. -> Nubra to Pangong lake
11 มิ.ย. -> Pangong lake to Leh
12 มิ.ย. -> Leh to BKK

สิ่งที่ควรเตรียมมาด้วย
-อุปกรณ์กันแดด(แว่นกันแดด, หมวก, ครีมกันแดด) เพราะที่นี่แดดแรงมาก
-ทิชชู่เปียกและแห้ง                                -เพาเวอร์แบงค์
-หน้ากากกันฝุ่น                                 -ปลั๊กแปลงและปลั๊กสามตา
-อาหารแห้ง สำหรับคนที่กลัวจะกินอาหารอินเดียไม่ได้ แต่จขกท.ว่าอาหารบ้านเค้าก็ไม่ได้เลวร้ายเลยค่ะ บางอย่างอร่อยมากๆ
-ผ้าถุง ห้องน้ำข้างทางบางที่เลวร้ายมาก ถึงมากที่สุด ผ้าถุงนับเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
-ยา แก้ปวดหัว, ปวดท้อง, ท้องเสีย, เมารถ, diamox(ป้องกันAMSพวกเราเริ่มกินก่อนเดินทาง 2 วันค่ะ)
-ขนมขบเคี้ยวไว้กินเล่นระหว่างการเดินทาง

ชายหนุ่มคนเดียวในทริปของเรานามว่า "ลัคกี้" คนท้องถิ่นชาวลาดัคกี้ เค้าคือคนที่คอยจัดการทุกอย่างที่นู่นให้พวกเราค่ะ
ทั้งเรื่องที่พัก, permit, เป็นคนขับรถและไกด์ คอยช่วยถ่ายรูปให้ ที่สำคัญเค้าคือเพื่อนที่ดีมากๆคนนึงเลยค่ะ
ลัคกี้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี พูดไทยและฟังไทยได้นิดหน่อย เป็นคนตลก ขับรถปลอดภัย ใจเย็น
ถ้าใครสนใจอยากเที่ยวลาดัคหรือกำลังหาคนขับรถท้องถิ่นอยู่(เป็นไกด์ไปในตัวด้วย)สามารถติดต่อสอบถามกับลัคกี้ได้เลยนะคะ
ช่องทางการติดต่อลัคกี้ WhatsApp -> +919469451919, Line id -> luckyladakh

เมื่อพร้อมกันแล้วไปดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ
วิวเทือกเขาที่ต้อนรับเราเมื่อเข้าใกล้เลห์ค่ะ เป็นเที่ยวบินที่สวยที่สุดที่เคยได้เห็นมาเลยค่ะ อยากได้วิวแบบนี้ต้องนั่งฝั่งซ้ายนะคะ

ถึงแล้ว..Leh Ladakh แค่วิวจากสนามบินก็สวยจนอดกดชัตเตอร์ไม่ไหวแล้วววววววว
วันแรกพวกเราไม่ได้ทำอะไรมากค่ะเพราะยังต้องปรับตัวจากการขึ้นที่สูง ต้องเดินและเคลื่อนไหวร่างกายช้าๆ
จิบน้ำเยอะๆ เพราะที่นี่เราทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยแล้ว หลังจากถึงเลห์แล้วพวกเราก็ไปที่พักและนอนค่ะ

ประมาณ 4:00 pm ลัคกี้ก็พาพวกเราไปเที่ยวชมรอบๆเมืองเลห์ค่ะ(Leh palace, Namgyal Tsemo Temple, Shanti Stupa, Leh market)
สิ่งที่เราประจับใจอย่างหนึ่งของที่นี่เลยคือผู้คนที่นี่เป็นมิตรมากค่ะ และระหว่างการเดินทางรถที่วิ่งสวนกันจะทักทายกัน
โดยการยกมือขึ้นคล้ายๆโบกมือ แม้จะรู้จักหรือไม่รู้จักกันเขาก็จะทักทายกันแบบนี้ตลอดค่ะ น่ารักดีเนอะ
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่คือธงมนต์ค่ะ(Prayer flag) เราจะเห็นได้เกือบทุกสถานที่ที่เราไปโดยเฉพาะตามยอดเขาที่สูงๆ
เพราะคนที่นี่เชื่อว่าธงที่โบกสะบัดจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล จะช่วยอวยพรผู้ที่เดินทางผ่านไปมาให้พบเจอแต่ความโชคดี

เช้าวันที่ 2 เราออกเดินทางไปนูบร้ากันค่ะ ระหว่างทางเราจะได้ผ่านถนน Khardungla pass ซึ่งเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก
เส้นทางของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นทางเลาะตามเขา และโค้งเยอะมากค่ะ
พวกเราโชคดีที่ระหว่างทริปไม่มีใครป่วย เมารถ และแพ้ความสูงเลย ทริปนี้เลยเต็มไปด้วยความสนุกและเสียงหัวเราะ
มานูบร้าต้องมาขี่อูฐค่ะ
ว่าด้วยเรื่องอาหารที่นี่ ตอนแรกพวกเราก็แอบกังวลว่าจะกินอาหารที่นั่นกันได้มั้ย
แต่พอเอาเข้าจริงๆ อาหารที่เราได้ลองกินทุกอย่างถือว่าใช้ได้ บางอย่างอร่อยมากๆ

วันที่ 3 เราออกเดินทางจากนูบร้าไปทะเลสาบแปงกองกันค่ะ
ตลอดการเดินทางพวกเราไม่มีใครหลับ หรือบ่นเลย แม้จะต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับการอยู่บนรถวันละหลายๆชั่วโมง
เพราะสิ่งที่พวกเราได้เห็นและได้สัมผัส มันทำให้เราไม่อยากจะพลาดและละสายตาจากสิ่งนั้นไปเลยค่ะ
สิ่งนั้นที่ว่าก็คือวิวค่ะ วิวข้างทางที่นี่สวยจริงๆ
การได้ใช้ชีวิตกับเพื่อน เที่ยวด้วยกัน หัวเราะ ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน มันดีจริงๆเลยนะ

ระหว่างทางนอกจากวิวสวยๆแล้ว พวกเรายังได้พบกับสัตว์มากมายท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว

ถึงแล้วววว Pangong lake ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก อยู่ติดกับประเทศจีน
น้ำในทะเลสาบจะขึ้นอยู่กับสีของท้องฟ้า วันที่พวกเรามาถือว่าโชคดีที่ฟ้าโปร่ง น้ำสีฟ้าใสเลย
วิวทะเลสาบจากที่พักของพวกเรา นั่งมองเพลินๆ ก็มีความสุขดีนะ อยู่ที่นี่เหมือนเราได้มาเที่ยวและมาพักผ่อนจริงๆ
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต เงียบสงบ มองไปทางไหนก็สบายตา สบายใจ

วันที่ 4 วันนี้เราเดินทางจากทะเลสาบแปงกองกลับเลห์กันค่ะ
วิวระหว่างทางกลับเลห์ Stakna gonpa view point(indus river)
Indus & Zanskar river meeting point จุดนี้เป็นที่ที่แม่น้ำ 2 สายตัดกัน สิ่งที่ธรรมชาติสร้างช่างงดงาม

โม้มาซะยาวเลย 5555 สุดท้ายนี้พวกเราต้องขอขอบคุณทุกท่านมากๆนะคะที่อ่านมาจนจบ
หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้ใครหลายๆคนมีจุดหมายปลายทางในฝันเพิ่มขึ้นมาอีกที่นะคะ
เชื่อเถอะค่ะ..สักครั้งในชีวิต คุณควรมาเห็น และสัมผัสเสน่ห์ของ Leh Ladakh ด้วยตัวของคุณเอง