พี่ๆ มนุษย์เงินเดือนมีใคร "บริหารเงิน" แบบผมใหมครับ??

ผมพึ่งจบใหม่ 22 จะ 23 ละ ได้เหรียญเงิน ม.ดังแห่งหนึ่งอีสานใต้ 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยด้านงานวิจัย ทำงานไม่ตรงสายเท่าไหร่นัก ตอนสัมภาษณ์ ทำไมคุณเลือกงานนนี้ ระดับคุณทำไมไม่ไปทำงานในกรุงเทพ น่าจะ 20K-25K เลยนะเนี่ย คำตอบ ใกล้บ้านคับ!!! 555555  เพื่อนผมก็ชวนไปทำงานที่กรุงเทพนะครับ มันได้ 23K เก่งมากๆ  สำหรับเด็กจบใหม่ เหรียญทอง ผมบอกมันโชคดีเว้ยเพื่อน ขอทำใกล้บ้านนี่ละ เงินน้อยช่างมัน

       เงินเดือน 15,000 ฿ แต่ทำงานใกล้บ้าน หักค่าภาษีสังคม(ประกันสังคมกากๆ) 750 ฿ เหลือ 14,250 ฿ แต่ไม่เป็นไรบริหารเงินได้ผมแบ่งเงินดังนี้
ก้อนที่ 1   ค่าห้อง+น้ำ+ไฟ   = 2,700 ฿
ก้อนที่ 2   ค่าเน็ด+โทรศัพท์  = 400 ฿ (ใช้เน็ตรายเดือน 1 Mbs)
ก้อนที่ 3   ค่าน้ำมันรถ          = 500 ฿ (ใช้ เวฟ100 พ่อทุกสถาบัน 5555)
ก้อนที่ 4   จิปาถะ                = 500 ฿ (ใช้ของจำเป็นเท่านั้น งดฟุ่มเฟือยหรือบ้าวัตถุนิยม)
ก้อนที่ 5   ค่าสังคม             =  500 ฿ (ใช้เวลามีงานกินสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานบ้างเล็กน้อย)
ก้อนที่ 6   ค่าครองชีพ         =  2,000 ฿ (บอกเลยว่าลำบากหน่อยแต่อดทนเพื่อเก็บเงิน)
                   - เช้า 20 ฿ เที่ยง 25 ฿ เย็น 6 ฿  รวม ประมาณ 55 ฿/วัน  30 วัน = 1,650 ฿ + 350 ฿ เพื่ออยากกินน้ำปั่นนุ้นนี่นั้นบ้าง = 2,000 ฿
รวมค่าใช้จ่าย  =  6,600 ฿  
เหลือเก็บ       =  14,250-6,600 = 7,650 ฿  คิดเป็น 53.68% ของเงินเดือน ถ้าเดือนใหน ค่าสังคมไม่ได้ใช้ ก็ +500 = 8,150 ฿  
                        คิดเป็น  57.19% ของเงินเดือน

                                                      เก็บ 12 เดือน = 12x7,650 = 91,800 ฿ สามปีก็  274,500 ฿

แต่ผมวางแผนเอาไว้ว่าจะลงทุนในหุ้นให้ได้ 5% ต่อปี
                                               ปลายปีที่ 1     91,800*0.05 = 4,950 ฿                                                   = 96,750 ฿
                                               ปลายปีที่ 2     (91,800+91,800+4,950)*0.05 = 9,400 ฿                          = 197,950 ฿
                                               ปลายปีที่ 3     (197,950+91800)*0.05= 14,400 ฿                                   = 304,150 ฿

ก็อาจจะบริหารหุ้นไปเรื่อยๆ จากนั้น ก็เอาออกมาซื้อที่ดินสร้างบ้านให้พ่อแม่ แทนการเอาให้พ่อแม่ใช้ในแต่ละเดือน ได้บ้านได้ที่อยู่ก่อน จากนั้นค่อยเริ่มธุรกิจส่วนตัวสักอย่าง อันอื่นค่อยว่ากัน แต่ทำแบบนี้ก็เสี่ยงนิดหนึ่งคือ ในช่วงที่อดออมเงินเนี่ยต้องห้ามป่วยอะไรอะครับ 55555 ไม่งั้นเกมส์บริหารการเงินอาจดึงสโตรกเวลาหน่อย  ห้ามมีหนี้สินเด็ดขาดอันนี้สำคัญมากถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

ถามว่ามันลำบากไหมเมื่อเทียบกับเพื่อนผมที่ทำงานที่กรุงเทพ  ก็ลำบากนะต้องอดออม อดทน หลายๆปีคนมันก็มีท้อแท้บ้างละ แต่เพื่อนผมที่ทำงานกรุงเทพละ เงินเก็บ 30% ยังไม่ถึงเลยขนาดว่ามันไม่ฟุ้มเฟือยแล้วนะ แถมคุณภาพชีวิตก็ถือว่าไม่ได้ดีนัก ตื่นตีสีอาบน้ำรอรถ ตีห้าไปถึงที่ทำงาน สองโมงเช้า เลือกสามสี่ทุ่มกว่าจะกลับถึงห้อง กว่าจะนอน วนลูบอยู่ยังงี้  หยุดวันอาทิตย์วันเดียว หรืออาจทำงานทั้งเจ็ดวันเลยก็ว่าได้  ได้เงินเยอะแต่เสียคุณภาพชีวิตไป มันก็ไม่โอเคเท่าไหร่ สำหรับคนที่มองที่คุณภาพชีวิตอย่างผมอะนะครับ อยู่ต่างจังหวัดใกล้บ้านเลิกงานเข้างานเป็นเวลาแต่รถไม่ต้องติดไม่ต้องตื่นดึกขนาดนั้นหยุดเสาร์อาทิตย์ บางเสาร์อาทิตย์อาจจะไม่หยุด บางวันอาจจะทำงานดึก แต่มันก็ไม่ทุกวัน มีเวลาออกกำลังกาย หาความรู้ อ่านหนังสือ ศึกษาเรื่องต่างๆ ภาษา การลงทุน วัฒนธรรมการท่องเที่ยว บลาๆ มีส่วนที่เป็นชีวิตของตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับงานด้วยอะครับ งานบางงานอยู่ต่างจังหวัด ก็ยังไม่ต่างจากกรุงเทพก็มี ใช้งานเหมือนทาสเลยทีเดียวเชียว ตี 1 ตี 2 สั่งงาน เ_ิงบ้างานไปละส่วนใหญ่เป็นพวก GEN X หัวโบราณ ไม่มีความสมดุลในชีวิตไม่เข้าใจการบริหารคน โฟกัสแค่ที่งานอย่างอย่างเดียว นั้นคือหัวหน้างานที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

โชคดีที่ยังไม่มีแฟน ก็เลยเก็บเงินได้หน่อย รอจังหวะพร้อมหน่อยๆ ค่อยมีแฟน 55555 ไม่ใช่ว่าผมบ้าเก็บตังค์จนไม่สนใจเรื่องความรักนะ จีบเขาแต่เขาไม่เอาเพราะเรา ยังไม่สามารถให้คำว่า มั่นคงกับผู้หญิงได้ 5555 ก็เลยวางเรื่องนี้ไปก่อน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ใจจริงก้อยากได้ ผู้หญิงที่ลำบากไปด้วยกันจนวันที่เรามีพร้อมด้วยกัน แต่มันก็หายากอะเนาะ ผู้หญิงแบบนี้ 55555  นอกเรื่องไปไกลละ วกกลับๆ

ก็ไม่รู้ว่ามีใครบริหารเงินแบบผมไหม เลยมาแชร์สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่เผื่อได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมและนำไปปรับปรุงบริหารให้ดีขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่