บิทคอยน์คืออะไร ? อยากรู้หาคำตอนได้ที่นี้

เราจะมาพูดสั้นๆให้เข้าใจกันง่ายๆนะคะ
1.บิทคอยน์ "Bitcoin" เรียกกันว่าคือตัวสกุลเงินเข้ารหัสหรือเป็นเงินดิจิตอลที่ไม่สามารถจับต้องได้เลย?  (อาจจะงง) เดี๋ยวจะบอกให้เข้าใจกันง่ายๆนะคะ
เป็นการเจาะจงของตัวสกุลเงินแบบดิจิตอลอย่างแท้จริงที่ไม่มีการควบคุนจากรัฐบาลหรือธนาคารกลางอย่างเช่น แบงค์ชาติ รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวกับรัฐบาล และยังบันทึกระบบการเข้าออกของเงินตรวดเวลา รวมถึงไม่อยากให้บุคคลที่สามตรวจสอบรายการเงินก็สามารถทำได้ไม่มีทางรู้แน่นอนค่ะ ว่าเงินของเรามายังไงและออกยังไง นั้นความต้องการคือ เป็นสกุลเงินที่มีอิสระเสรีจะมีเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้..เค้าจึงคิดค้น "Bitcoin" ขึ้นมาเพื่อไม่ให้มีคนกลางหรือมือที่สามนั้นเอง เรามาดูความต่างของสกุลเงินทั่วไป กับ สลุกเงินดิจิตอลหรือเรียกกันว่า Cryptocureney


2.หลายคนอาจจะสงสัยว่า" สกุลเงินที่ไม่สามารถจับต้องได้มันสามารถแลกเปลี่ยนได้จริงหรือไม่? แล้วมันจะตรวจสอบได้อย่างไร? หน้าเชื่อถือได้แค่ไหน?
มาฟังกันชัดๆนะคะ  เวลาเราจะโอนเงินจากบัญชี A มาบัญชี B ธนาคารจะเป็นตัวกลางเพื่อง ตรวจสอบว่า A เป็นเจ้าของบัญชีจริงหรือไม่แล้วมีเงินพอที่จะโอนให้บัญชี B รึป่าว หลังจากนั้นก็เป็นการยืนยันและมีหลักฐานการโอนเงินให้ (จบ) แต่ถ้าเกิดไม่มีธนาคารแบบนั้นแหละจะตรวจสอบอย่างไร? ด้วยเทคโนโลยี Blookchain เป็นระบบที่ทุกคนสามรถตรวจสอบของกันและกันได้ซึ่งนั้นแหละที่เป็นข้อแตกต่างหากจะตรวจสอบว่าเปลือมแปลงหรือป่าวสามาตรวจสอบได้โดยเทียบกัน ถ้าหากข้อมูลตางจากพวกแปลว่าไม่ใช่


3.อาจจะเกิดการสงสัยว่า "อ่าว" ถ้าทุกคนรู้ที่ใช้บิทคอยน์ก็ต้องรู้เงินของกันและกันทั้งหมดสิและไหนหละความส่วนตัว??  นี้แหละคือสิ่งสวยงานของบิทคอยน์เพราะว่าการเปิดบัญชีบิทคอยน์ไม่ต้องใช้เอกสารใดๆทั้งสิ้นแน่นอนว่าไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นเจ้าของถึงแม้จะรู้ว่าทุกคนในนี้มีเงินเท่าไหร่ก็ตาม แต่ไม่สามารถหาเจาของบัญชีได้เลยและไม่มีอะไรที่เชื่อมโยงบุคคลและบัญชีได้เลย


4.ถ้าเวลาซื้อของหรือแลกเปลี่ยนเค้าก็ต้องรู้สิว่าคุณเป็นเจ้าของ "บิทคอยน์" นั้นมันก็จริงอยู่แต่ใครจะไปรู้หละว่าคุณเองจะมีกี่บัญชีก็ได้ หากไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเห็นอีกบัญชีนึง คุณก็เอาอีกบัญชีที่สะดวกให้หายได้เช่นกัน คุณสามารถแตกบัญชีได้มากมายเป็นร้อยเป็นพันยังได้เลย..><
5.ข้อดีการใช้บิทคอยน์และข้องต่างแตกระหว่างสกุลเงินทั่วไป
-ประหยัดเวลา
-โอนเงินต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าต้องใช้เวลาเป็นวันๆหรืออาจเป็นอาทิตย์เลย แต่ถ้าบิทคอยน์ใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้นไม่ว่าจะใกล้หรือใกล
-ไม่เสียส่วนต่างเล็กๆน้อยๆ กรณีจะซื้อของในต่างประเทศเห็นได้ว่ากว่าจะได้มาต้องเสียค่าแลกเปลี่ยน ค่าทำเนียมจุกจิกไปหมด แต่บิทคอยน์ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เสียส่วนต่างเลย แต่เสียได้โคตรถูกจริงๆ
-โปรงใสสามารถตรวจสอบได้


6."นักขุด" คือใคร เพื่ออะไร ขุดทำไม?? คือการใช่คอมพิวเตอร์ของเราเพื่อถอดรหัสเพื่อยืนยันการทำธุระกรรมของผู้ถือเงินนั้นเองค่ะ นักขุดทุกคนจะเสมือนผู้ตรวจสอบบัญชีว่าบุคคลนี้ทำธุระกรรมการเงินจริงหรือไม่ เมื่อไหร่ที่มีการโอนเงินเกิดขึ้นก็จะมาีการถอดรหัสของนักขุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้ผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดิจิตอลไปเลย... ซึ้งการขุดนั้นจะมี คอมพิวเตอร์ การ์ดจอ  โปรแกรมขุด นั้นต้องลงทุนพอสมควรค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเราสามารถปล่อยให้คอมและโปรแกรมของเราขุดไปเองได้ตามบายเลย คิดซะว่าเหมือนเล่นเกมส์แล้วเกิดบอต5555 แล้วถ้าคอมพิวเตอร์ของใครเร็วและแรงกว่าก็เป็นผู้ชนะค่ะ จะได้ผลตอบแทนคือ ค่าทำเนียมจากการโอนเงิน และ รางวัลจาก Biock Reward เป็นเงิน 12.5 BTC ด้วยค่ะ แต่ ณ ตอนนี้ถ้าเราขุดคนเดียแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จึงมีการรวมกันขุดแบบหมู่ขณะเรียกว่า Pooled mining จะได้เข้าได้ไปทำการตรวจสอบบัญชีผู้ที่ทำธุระกรรม และก็จะส่งต่อๆไปเห็นทุกคนเห็น ยิ่งมีคนเห็นมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากเท่านั้น

7.เมื่อมองเห็นแสงสว่างก็มีความส่งสันว่า "งั้นเราก็สามารถขุดได้ไปเลื่อยๆจนไม่สิ้นสุดเลยดิ"
ไม่เป็นอยางที่คิดนะคะ ทุกอย่างมีข้อจำกัดซึ่งผู้คิดค้นบิทคอยน์ Satoshi nakamoto ได้ว่างหมากเกมส์เอาไว้ว่า สามารถทำได้ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และประจุบันนี้ได้ถูกขุดไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีการบอกขานมาว่ากวาจะหมดก็เกิบ 100 ปี โอ้แม่เจ้า


8.คูณสามารถเป็นเจ้าของของบิทคอยน์ได้ดังนี้ค่ะ
-ใช้เงินซื้อค่ะ?  นี้คือการแลกเปลี่ยนค่าเงินระหว่างเงิน บาท US หรือเงินที่ใช้ทุกวัน ไปแลกเปลี่ยนเป็ฯเงินบิทคอยน์ ตามคาเงินนั้นๆค่ะ สมุดว่า วันนี้เอาเงินบาท ซื้อ 1 บิทคอยน์ราคา 300,000 บาท เมื่อไหร่ที่เงินบิทคอยน์ราคาขึ้นเป็น 350,000 บาทเราก็สามารถขายทิ้งได้เลยแล้วจะได้กำไร 50,000 บาทอิอิ
-ชื้อสิ้นค้า หรือ บริการต่างๆ เป็นแบบบิทคอยน์ได้สะดวกมาก

นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งนะคะ หากต้องการเป็นเจ้าของบิทคอยน์จริงต้องศึกษาเพิ่มอีกหน่อยนะคะ เพราะการลงทุนแต่ละครั้งมีความเสี่ยงตลอด ในมุมมองส่วนตัวของเราเอง เราชอบการว่างระบบและแนวคิดแบบนี้นะคะเป็นประโยชน์มาก ลองคิดดูสิว่าหากเรามีญาติที่เดือนร้อนอยู่ต่างประเทศ หรือ ต้องการทำธุระการเงินเข้ามาต่างประเทศแต่ใช้เวลามากขนาดนั้น เราอาจจะเสียเวลากับตรงนั้นมากเกินไปถ้าหากใครสนใจก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่