
สวัสดีค่ะวันนี้ปอยจะมาแชร์ประสบการณ์การร้อยไหม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิวัฒนาการด้านความงาม ที่ในปัจจุบันทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ให้ความสนใจ โดยครั้งนี้ทางมาสเตอร์พีซคลินิก ได้เชิญปอยให้ไปลองร้อยไหมค่ะ

ถึงคลีนิกแล้วได้คุยคร่าวๆกับคุณหมอ โดยคุณหมอที่ร้อยไหมให้ปอยคือ คุณหมอแฟง แพทย์หญิงณัฐชา จารุเรืองพงศ์ ค่ะ คุณหมอได้อธิบายให้ปอยเข้าใจเรื่องการร้อยไหม วิเคราะห์โครงหน้าว่ามีปัญหาอะไร และจะแก้ไขอย่างไร โดยปอยมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวตรงแก้ม แก้มดูห้อยย้อยเห็นร่องแก้มชัดเจน ทำให้หน้าแลดูมีอายุ เมื่อร้อยไหมแก้ไขจุดนี้แล้ว จะช่วยให้หน้าได้รูป และหน้าดูเด็กขึ้นค่ะ
คุณหมอจะใช้ไหมเงี่ยง 8D ร้อยที่แก้มข้างละ 5 เส้น รวม 2 ข้างเป็น 10 เส้น โดยเมื่อร้อยไหมแล้ว 2-3 เดือน ไหมจะเริ่มละลาย และผิวจะเริ่มสร้างคอลลาเจนขึ้นมาพันรอบไหมที่หน้าเรา และจะกระชับกดหน้าเราให้เล็กลง โดยครั้งนี้ใช้ไหม 8D เป็นไหมเส้นใหญ่สุด จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนถ้าผิวมีความหย่อนคล้อยมาก ก็จอาจทำให้กลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้นค่ะ ^^

หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จ ทางคลีนิกทำการคลีนหน้า และทายาชาที่แก้ม 2 ข้างทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงก่อนร้อยไหม ช่วงนี้ก็จิบน้ำเย็นๆ ดูทีวีทำใจรอไปก่อนเนาะ T_T (แอบเสียวเล็กน้อยถึงปานกลาง)

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลาขึ้นเขียง!!! เอ๊ย ขึ้นเตียงเพื่อทำการร้อยไหมค่ะ เช็ดยาชาออกแล้วทายาฆ่าเชื้อ รู้สึกได้ถึงความ มึนๆ ชาๆ เหมือนแก้มบวมๆ อิอิ อุ่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะชาแบบนี้คงไม่เจ็บมาก ปรากฎว่าเข็มแรกของการฉีดยาชา น้ำตาแทบไหล เจ็บสิคะ T_T แต่ก็เป็นความเจ็บแบบทนได้นะ เข็มต่อๆไปไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ เพราะมันเริ่มชามากขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มการร้อยไหมเส้นแรก ไม่เจ็บเลยค่ะ รู้สึกแค่ๆแสบๆ แต่จะรู้สึกแปล๊บๆตึงๆตอนคุณหมอดึงไหมยกแก้มขึ้น โดยเข็มที่ใช้เป็นเข็มปลายทู่ค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงในการร้อยโดนเส้นเลือดและท่อน้ำลาย ร้อยไหมแก้ม 2 ข้างใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ร้อยเสร็จหน้าตึงมากเหมือนจะอ้าปากไม่ได้ (แต่ก็อ้าได้) ^^ คุณหมอบอกว่า ยิ่งผิวหย่อนคล้อยมาก ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมาก เพราะต้องดึงมากกว่าผิวปกติ อาการบวม เขียว ช้ำ เกิดขึ้นแน่นอน การอ้าปากเคี้ยวข้าว หรือแปลงฟัน อาจจะยากนิดนึง แต่อาการทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ค่ะ

ร้อยไหมเสร็จคุณพยาบาลทำการประคบเย็นให้ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ และหลังกลับบ้านให้ประคบเย็นเรื่อยๆ ใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม วันนี้ห้ามล้างหน้า แต่พรุ่งนี้สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ อย่านอนราบ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ งดการทำเลเซอร์ อบไอน้ำ นวดหน้า ซาวน่า อะไรที่ร้อนๆ หรือเกิดการกระทบกระเทือนหน้ามากๆ ให้งดไปก่อนในช่วงนี้ค่ะ

รูปหลังทำทันที
หลังทำเสร็จหน้าก็จะเป็นดังภาพ ตอนนี้หน้าก็จะบวมๆแต่อาการเขียวช้ำยังไม่มาก ที่เห็นบุ๋มๆคือรอยไหม ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันจะค่อยๆจางหายไปค่ะ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ รู้สึกว่าคางดูชัดขึ้นแหลมขึ้น และดูเหมือนจะหน้าวีเชฟ ยังไม่รู้สึกเจ็บมากเพราะยาชายังออกฤทธิ์อยู่ค่ะ

หลังทำ 1 อาทิตย์
หลังทำ 1 อาทิตย์ หน้าจะบวมมากๆตรงโหนกแก้ม รอยบุ๋มของไหมดูจางลง แต่จะมีรอยช้ำเชียวขึ้นอยู่ประปรายทั่วแก้มปนกับรอยเข็ม ซึ่งช่วงนี้ปอยได้ทานพวกใบบัวบกแคปซูลช่วยด้วย เพื่อลดอาการบวมช้ำ หน้าจะยังตึงๆและยังเจ็บอยู่ เวลาล้างหน้าต้องเบามือ ช่วงนี้ปอยไม่แต่งหน้าเลยค่ะ เพื่อจะได้ล้างหน้าง่ายๆ ค่ะ

หลังทำ 2 อาทิตย์
รอยช้ำ และรอยเข็มหายเกือบหมด รอยบุ๋มเป็นเส้นๆของการร้อยไหมแม้จะจางจากเดิมไปมากแต่ก็ยังมีอยู่ที่แก้ม สิ่งที่สร้างความตระหนกเล็กน้อยคือ ความบวมของแก้มที่ไม่เท่ากัน ดีที่คุณหมอบอกไว้ตั้งแต่แรกว่าถ้าแก้มบวมไม่เท่ากันไม่ต้องตกใจ หายบวมแล้วจะดีเอง(เลยไม่ได้เครียดอะไร) ความตึงและความปวดลดลงมาก แต่ก็ยังนอนตะแคงให้หน้าแนบกับหมอนไม่ได้ค่ะ อาทิตย์นี้ปอยเริ่มแต่งหน้าเพราะล้างหน้าได้ง่ายขึ้นไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ

หลังทำ 3 อาทิตย์
อาการบวมลดลงมาก หน้าเริ่มเข้ารูป อาการเขียวช้ำแทบไม่เห็นแล้วจะเหลือก็แต่รอยจางๆ ในส่วนของรอยเส้นไหมก็จางไปเกือบหมดค่ะ

หลังทำ 4 อาทิตย์
หน้าได้รูปขึ้น แก้มดูยกขึ้นทำให้คางดูชัดแหลมขึ้น รอยช้ำหายไปหมดแล้ว แต่รอยบุ๋มของเส้นไหมยังมีอยู่จางๆตรงแก้ม และตรงใต้ขมับ ซึ่งถ้าแต่งหน้าก็แทบมองไม่เห็นรอยเลยค่ะ อาการเจ็บปวดไม่เหลือแล้ว แต่จะมีเสียวแปล๊บบางครั้งที่อ้าปากกว้างๆ และเวลามือัมผัสโดนที่แก้มค่ะ

หลังทำ 4 อาทิต์ย์ เปรียบเทียบระหว่างรูปหน้าเดิม จะเห็นว่าหน้าดูยกขึ้นมาก รูปหน้าดูเปลี่ยนไป ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น แก้มดูอิ่มฟู (เหมือนจะหน้าเด็กลงเลยเนาะ ^^) รูปขวามือสุด คือตอนที่แต่งหน้าแล้ว หน้าดูได้รูปมาก อาจเป็นเพราะการปัดไฮไลท์เฉดดิ้งช่วย ทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
สรุปการร้อยไหมครั้งนี้สำหรับปอย รูปหน้าดูเปลี่ยนไปจริงๆค่ะ ผิวตรงแก้มที่หย่อนคล้อยดูยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้าดูเต่งตึง ดูฟูขึ้น คางดูแหลมและชัด หน้าดูเป็นวีเชฟ นี่เป็นผลลัพธ์ที่ได้ในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ ซึ่งปอยคิดว่ารูปหน้าอาจจะเล็กและได้รูปขึ้นอีกนิดนึง หากรอให้เข้าที่อีกซักหน่อย เพราะคุณหมอก็บอกแล้วว่ากว่าไหมจะละลายก็ประมาณ 2-3 เดือน แต่ ณ จุดนี้ผลลัพธ์ที่ได้สำหรับปอย ถือว่าพอใจมาก
ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความเชี่ยวชาญของคุณหมอ โครงหน้า และผิวของเราด้วย การณ์แชร์ประสบการของปอยวันนี้เพื่อให้สาวๆได้ศึกษา และเป็นตัวช่วยให้สาวๆได้ตัดสินใจก่อนทำการร้อยไหม ซึ่งปอยก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ ^^

[SR] (SR) รีวิว เเชร์ประสบการณ์ร้อยไหม ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
สวัสดีค่ะวันนี้ปอยจะมาแชร์ประสบการณ์การร้อยไหม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิวัฒนาการด้านความงาม ที่ในปัจจุบันทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ให้ความสนใจ โดยครั้งนี้ทางมาสเตอร์พีซคลินิก ได้เชิญปอยให้ไปลองร้อยไหมค่ะ
ถึงคลีนิกแล้วได้คุยคร่าวๆกับคุณหมอ โดยคุณหมอที่ร้อยไหมให้ปอยคือ คุณหมอแฟง แพทย์หญิงณัฐชา จารุเรืองพงศ์ ค่ะ คุณหมอได้อธิบายให้ปอยเข้าใจเรื่องการร้อยไหม วิเคราะห์โครงหน้าว่ามีปัญหาอะไร และจะแก้ไขอย่างไร โดยปอยมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวตรงแก้ม แก้มดูห้อยย้อยเห็นร่องแก้มชัดเจน ทำให้หน้าแลดูมีอายุ เมื่อร้อยไหมแก้ไขจุดนี้แล้ว จะช่วยให้หน้าได้รูป และหน้าดูเด็กขึ้นค่ะ
คุณหมอจะใช้ไหมเงี่ยง 8D ร้อยที่แก้มข้างละ 5 เส้น รวม 2 ข้างเป็น 10 เส้น โดยเมื่อร้อยไหมแล้ว 2-3 เดือน ไหมจะเริ่มละลาย และผิวจะเริ่มสร้างคอลลาเจนขึ้นมาพันรอบไหมที่หน้าเรา และจะกระชับกดหน้าเราให้เล็กลง โดยครั้งนี้ใช้ไหม 8D เป็นไหมเส้นใหญ่สุด จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนถ้าผิวมีความหย่อนคล้อยมาก ก็จอาจทำให้กลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้นค่ะ ^^
หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จ ทางคลีนิกทำการคลีนหน้า และทายาชาที่แก้ม 2 ข้างทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงก่อนร้อยไหม ช่วงนี้ก็จิบน้ำเย็นๆ ดูทีวีทำใจรอไปก่อนเนาะ T_T (แอบเสียวเล็กน้อยถึงปานกลาง)
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลาขึ้นเขียง!!! เอ๊ย ขึ้นเตียงเพื่อทำการร้อยไหมค่ะ เช็ดยาชาออกแล้วทายาฆ่าเชื้อ รู้สึกได้ถึงความ มึนๆ ชาๆ เหมือนแก้มบวมๆ อิอิ อุ่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะชาแบบนี้คงไม่เจ็บมาก ปรากฎว่าเข็มแรกของการฉีดยาชา น้ำตาแทบไหล เจ็บสิคะ T_T แต่ก็เป็นความเจ็บแบบทนได้นะ เข็มต่อๆไปไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ เพราะมันเริ่มชามากขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มการร้อยไหมเส้นแรก ไม่เจ็บเลยค่ะ รู้สึกแค่ๆแสบๆ แต่จะรู้สึกแปล๊บๆตึงๆตอนคุณหมอดึงไหมยกแก้มขึ้น โดยเข็มที่ใช้เป็นเข็มปลายทู่ค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงในการร้อยโดนเส้นเลือดและท่อน้ำลาย ร้อยไหมแก้ม 2 ข้างใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ร้อยเสร็จหน้าตึงมากเหมือนจะอ้าปากไม่ได้ (แต่ก็อ้าได้) ^^ คุณหมอบอกว่า ยิ่งผิวหย่อนคล้อยมาก ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมาก เพราะต้องดึงมากกว่าผิวปกติ อาการบวม เขียว ช้ำ เกิดขึ้นแน่นอน การอ้าปากเคี้ยวข้าว หรือแปลงฟัน อาจจะยากนิดนึง แต่อาการทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ค่ะ
ร้อยไหมเสร็จคุณพยาบาลทำการประคบเย็นให้ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ และหลังกลับบ้านให้ประคบเย็นเรื่อยๆ ใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม วันนี้ห้ามล้างหน้า แต่พรุ่งนี้สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ อย่านอนราบ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ งดการทำเลเซอร์ อบไอน้ำ นวดหน้า ซาวน่า อะไรที่ร้อนๆ หรือเกิดการกระทบกระเทือนหน้ามากๆ ให้งดไปก่อนในช่วงนี้ค่ะ
รูปหลังทำทันที
หลังทำเสร็จหน้าก็จะเป็นดังภาพ ตอนนี้หน้าก็จะบวมๆแต่อาการเขียวช้ำยังไม่มาก ที่เห็นบุ๋มๆคือรอยไหม ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันจะค่อยๆจางหายไปค่ะ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ รู้สึกว่าคางดูชัดขึ้นแหลมขึ้น และดูเหมือนจะหน้าวีเชฟ ยังไม่รู้สึกเจ็บมากเพราะยาชายังออกฤทธิ์อยู่ค่ะ
หลังทำ 1 อาทิตย์
หลังทำ 1 อาทิตย์ หน้าจะบวมมากๆตรงโหนกแก้ม รอยบุ๋มของไหมดูจางลง แต่จะมีรอยช้ำเชียวขึ้นอยู่ประปรายทั่วแก้มปนกับรอยเข็ม ซึ่งช่วงนี้ปอยได้ทานพวกใบบัวบกแคปซูลช่วยด้วย เพื่อลดอาการบวมช้ำ หน้าจะยังตึงๆและยังเจ็บอยู่ เวลาล้างหน้าต้องเบามือ ช่วงนี้ปอยไม่แต่งหน้าเลยค่ะ เพื่อจะได้ล้างหน้าง่ายๆ ค่ะ
หลังทำ 2 อาทิตย์
รอยช้ำ และรอยเข็มหายเกือบหมด รอยบุ๋มเป็นเส้นๆของการร้อยไหมแม้จะจางจากเดิมไปมากแต่ก็ยังมีอยู่ที่แก้ม สิ่งที่สร้างความตระหนกเล็กน้อยคือ ความบวมของแก้มที่ไม่เท่ากัน ดีที่คุณหมอบอกไว้ตั้งแต่แรกว่าถ้าแก้มบวมไม่เท่ากันไม่ต้องตกใจ หายบวมแล้วจะดีเอง(เลยไม่ได้เครียดอะไร) ความตึงและความปวดลดลงมาก แต่ก็ยังนอนตะแคงให้หน้าแนบกับหมอนไม่ได้ค่ะ อาทิตย์นี้ปอยเริ่มแต่งหน้าเพราะล้างหน้าได้ง่ายขึ้นไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ
หลังทำ 3 อาทิตย์
อาการบวมลดลงมาก หน้าเริ่มเข้ารูป อาการเขียวช้ำแทบไม่เห็นแล้วจะเหลือก็แต่รอยจางๆ ในส่วนของรอยเส้นไหมก็จางไปเกือบหมดค่ะ
หลังทำ 4 อาทิตย์
หน้าได้รูปขึ้น แก้มดูยกขึ้นทำให้คางดูชัดแหลมขึ้น รอยช้ำหายไปหมดแล้ว แต่รอยบุ๋มของเส้นไหมยังมีอยู่จางๆตรงแก้ม และตรงใต้ขมับ ซึ่งถ้าแต่งหน้าก็แทบมองไม่เห็นรอยเลยค่ะ อาการเจ็บปวดไม่เหลือแล้ว แต่จะมีเสียวแปล๊บบางครั้งที่อ้าปากกว้างๆ และเวลามือัมผัสโดนที่แก้มค่ะ
หลังทำ 4 อาทิต์ย์ เปรียบเทียบระหว่างรูปหน้าเดิม จะเห็นว่าหน้าดูยกขึ้นมาก รูปหน้าดูเปลี่ยนไป ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น แก้มดูอิ่มฟู (เหมือนจะหน้าเด็กลงเลยเนาะ ^^) รูปขวามือสุด คือตอนที่แต่งหน้าแล้ว หน้าดูได้รูปมาก อาจเป็นเพราะการปัดไฮไลท์เฉดดิ้งช่วย ทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
สรุปการร้อยไหมครั้งนี้สำหรับปอย รูปหน้าดูเปลี่ยนไปจริงๆค่ะ ผิวตรงแก้มที่หย่อนคล้อยดูยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้าดูเต่งตึง ดูฟูขึ้น คางดูแหลมและชัด หน้าดูเป็นวีเชฟ นี่เป็นผลลัพธ์ที่ได้ในระยะเวลา 1 เดือนค่ะ ซึ่งปอยคิดว่ารูปหน้าอาจจะเล็กและได้รูปขึ้นอีกนิดนึง หากรอให้เข้าที่อีกซักหน่อย เพราะคุณหมอก็บอกแล้วว่ากว่าไหมจะละลายก็ประมาณ 2-3 เดือน แต่ ณ จุดนี้ผลลัพธ์ที่ได้สำหรับปอย ถือว่าพอใจมาก
ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความเชี่ยวชาญของคุณหมอ โครงหน้า และผิวของเราด้วย การณ์แชร์ประสบการของปอยวันนี้เพื่อให้สาวๆได้ศึกษา และเป็นตัวช่วยให้สาวๆได้ตัดสินใจก่อนทำการร้อยไหม ซึ่งปอยก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ ^^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น