โดยทั่วไปหลักการหาว่าเราเป็นหรือเปล่าก็มีตามอินเตอร์เน็ตมากมายนะคะ ตัวอย่างเช่นภาพนี้
แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่า มันมีอาการแบบอื่นๆอีก ที่มันคือ อาการของโรคซึมเศร้า แต่เราไม่รู้ตัวว่ามันกำลังจะเป็น
✿ อาการหลักๆของเรา คือ
1.นอนไม่หลับ เพราะ พอหลับก็จะฝันซ้ำๆ ฝันว่าตัวเองหาทางออกไม่ได้ เหมือนเจอแต่ทางตัน พอสะดุ้งตื่นก็จะเหนื่อยมาก
นอนเหมือนไม่ได้นอน
2.เบื่อสิ่งที่ตัวเองรัก เช่น เราชอบออกกำลังกายเราก็ไม่อยากไปออก อยากอยู่เฉยๆ
3.ไม่อยากไปทำงาน เช้ามาก็จะป่วย โดยร่างกายมันป่วยเอง (อันนี้เดี๋ยวเล่าขยายความอาการนะคะ)
4.สุญเสียความมั่นใจที่มีทั้งหมด คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ได้ดี
5.คิดทุกเรื่องในแง่ร้าย ไม่มีมองอะไรแง่ดี
อันนี้ คือ อาการคร่าวๆนะคะ
✿ เราจะมาเล่าเรื่อง ก่อนที่จะเป็นนะคะ ว่าเราเจออะไรมาบ้าง....(ยาวนิดนึง)
เราทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ แล้วในแต่ละที่ทำงานมักมีคนไม่ชอบเรา แต่เราก็มีเพื่อนนอกแผนกบ้าง เปลี่ยนที่ทำงานทีไรก็ต้อง
มีคนที่ไม่ชอบเราแล้วไอ้คนที่ไม่ชอบเราเนี้ย มักเป็นคนแบบมีอิทธิพล(พวกหัวหน้าแก็ง)เราเลยถูกลูกน้องเค้าเขม่นไปด้วย
เราทำดีกับทุกคนช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ แต่พอเรามีปัญหาเราไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแม้เราจะขอร้อง
ที่เค้าเรียกว่า
"ทำบุญกับคนไม่ขึ้น" เราทำงานต่างจังหวัด ไม่มีญาติหรือเพื่อนที่จังหวัดนั้นๆ
เวลาทุกข์หรือเศร้าก็ไม่เคยเล่าให้คนที่บ้านฟังเลยเพราะกลัวเค้าจะเป็นห่วง เรามาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
คุยกับแม่เราก็จะแกล้งหัวเราะ ยิ้มแย้ม เล่าแต่เรื่องดีๆ กินข้าวทั้งน้ำตา แต่เราก็ยังสู้ เรากับแฟนทำงานคนละจังหวัดนานๆเจอกันทีนึง
วันนึงเราไปหา
เราพบว่าแฟนเราเค้านอกใจเค้ามีคนอื่น เพราะเราไปแบบเซอร์ไพร์ท (เรานี่แหละโครตจะเซอร์ไพร์ท)
แฟนเราไม่เคยทำให้เราระแวงอะไรเลย ไม่มีท่าทีแบบนั้น ความเชื่อใจตลอดเวลาที่คบกันคือ 100% เต็ม แล้วมันดับวูบไปที่ติดลบทันที
เราทนไม่ไหวเลยลาออกจากงานย้ายที่ทำงานกลับมาทำแถวบ้าน เพราะ ไม่ไหวแล้วจริงๆไม่สามารถอยู่คนเดียวได้
เราก็มาเจอปัญหาเดิมๆ ที่ทำงานคือ เหมือนที่ทำงานเราเค้าอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน เราเหมือนคนนอก เหมือนคนที่ถูกลืม มันอืดอัด
เค้าขออะไรเราช่วยทุกอย่าง ทั้งงาน บางทีเราก็อาสาส่งเค้าตอนเค้าป่วย หรือ บางคนอยากไปไหน แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
(ก็ยังทำบุญกับคนไม่ขึ้น) จากที่ทำงานเดิมถึงแม้จะมีคนเขม่นแต่ก็มีเพื่อนเยอะ มาที่นี่กลับไม่มีใคร
เหมือนตัวคนเดียว
ทำให้เริ่มไม่อยากไปทำงาน ตอนเช้าร่างกายจะบอกว่า ฉันป่วย เราก็จะลางานบ่อยมาก มีวันลาเท่าไหร่ก็เอามาใช้
ป่วยนิดๆหน่อยๆก็ลา ไม่มีกำลังใจจะไปทำงาน ทั้งที่งานที่เราทำเรารักมาก ชอบมาก แต่เราไม่เคยคิดอยากตาย เพราะคิดว่า
พ่อแม่เลี้ยงเรามาอย่างยากลำบาก เงินแต่ละบาทกว่าจะส่งเราเรียนจบมา
►คีย์หลักๆของการเป็น คือ ที่ขีดเส้นใต้ในเรื่องนะคะ
☺☺หาหมอ☺☺
เราคิดว่าเห้ย นี่มัน ไม่ใช่ตัวเราแล้วนะ เราคนที่ "ร่าเริง" "อดทน" "รักในงานที่ทำ" มันหายไป...
แล้วตอนนั้นเราดูละคร เรื่อง ล่า มีจิตแพทย์ในเรื่อง เราจึงเริ่มคิดว่าเราลองไปปรึกษาดีไหม
แล้วเราก็คิดถูกค่ะ
เราเจอคุณหมอหญิงท่านนึง คุยกับคุณหมอ คุณหมอคุยกับเราเหมือนญาติผู้ใหญ่
ทำให้เราสบายใจ เราเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณหมอฟัง อาการของเราถูกสรุปว่าเป็น "โรคซึมเศร้า"
โดยคุณหมออธิบายคร่าวๆทางการแพทย์ว่า สมองเราไม่สร้างสารที่ทำให้เรามีความสุข เนื่องจากเราเกิดความทุกข์
และการเสียใจ สูญเสียความมั่นใจอย่างเฉียบพลัน (แฟนนอกใจ!) แต่เราไม่ใช่โรคซึมเศร้าที่อยากทำร้ายตัวเอง
อยากฆ่าตัวตาย แต่คุณหมอก็บอกนะคะว่าถ้ามีเรื่องมาประดังมาดมายกว่านี้เราอาจจะถึงขั้นนั้นขึ้นมาได้
ยาที่ได้ก็จะมี
☺กลุ่มยา Serotonin เพื่อสร้างสารทำให้เรามีความสุข
☺กลุ่มยา คลายเครียด เพื่อให้เราไม่คิดมาก คลายกังวลและนอนหลับได้
กินยาอย่างต่อเนื่อง 3-4 เดือน
★การตัดสินใจครั้งใหญ่★
เราตัดสินใจย้ายงานอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เราเจอเพื่อนที่ทำงานที่ดีมาก
งานที่เราชอบ เรากลับมาชอบมันอีกครั้ง อยากไปทำงานทุกวัน ขนาดป่วยยังอยากไปเลย
ทำให้อาการที่เราเป็นอยู่ดีขึ้นเรื่อยๆ นอนหลับได้ปกติ จนในเดือนที่ 6 เราไม่ต้องกินยาอีกแล้ว
คุณหมอบอกว่าเราหายแล้ว เนื่องจากเราออกจากสภาพแวดล้อมที่หน้าอึดอัด
ที่ทำให้เราหมดความอดทนที่จะเข้มแข็ง อีกอย่างคือแฟนเราก็ดูแลเรา เพื่อเราก็ดูแล
ครอบครัวก็ดูแล ทุกคนรักเรา ทำไมเราไม่รักตัวเอง ทำร้ายตัวเองทางความคิด
เราออกกำลังกาย หากิจกรรมทำ
เพิ่มเติมนะคะ
จากเพื่อน ค.ห 10 แนะนำแอพที่ชื่อว่า "Moodpath"

ทดลองเล่นดูนะคะ มันก็จะเป็นการเก็บข้อมูลอารมณ์ของเรา แล้วเอาไปวิเคราะห์ให้ค่ะ
เราก็จะรู้สภาพการเบื้องต้นของเราเอง

ไปหาจิตแพทย์ ไม่ได้ต้องเป็นบ้านะ แชร์ประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้าไม่รู้ตัว จนหายค่ะ
โดยทั่วไปหลักการหาว่าเราเป็นหรือเปล่าก็มีตามอินเตอร์เน็ตมากมายนะคะ ตัวอย่างเช่นภาพนี้
แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่า มันมีอาการแบบอื่นๆอีก ที่มันคือ อาการของโรคซึมเศร้า แต่เราไม่รู้ตัวว่ามันกำลังจะเป็น
✿ อาการหลักๆของเรา คือ
1.นอนไม่หลับ เพราะ พอหลับก็จะฝันซ้ำๆ ฝันว่าตัวเองหาทางออกไม่ได้ เหมือนเจอแต่ทางตัน พอสะดุ้งตื่นก็จะเหนื่อยมาก
นอนเหมือนไม่ได้นอน
2.เบื่อสิ่งที่ตัวเองรัก เช่น เราชอบออกกำลังกายเราก็ไม่อยากไปออก อยากอยู่เฉยๆ
3.ไม่อยากไปทำงาน เช้ามาก็จะป่วย โดยร่างกายมันป่วยเอง (อันนี้เดี๋ยวเล่าขยายความอาการนะคะ)
4.สุญเสียความมั่นใจที่มีทั้งหมด คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ได้ดี
5.คิดทุกเรื่องในแง่ร้าย ไม่มีมองอะไรแง่ดี
อันนี้ คือ อาการคร่าวๆนะคะ
✿ เราจะมาเล่าเรื่อง ก่อนที่จะเป็นนะคะ ว่าเราเจออะไรมาบ้าง....(ยาวนิดนึง)
เราทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ แล้วในแต่ละที่ทำงานมักมีคนไม่ชอบเรา แต่เราก็มีเพื่อนนอกแผนกบ้าง เปลี่ยนที่ทำงานทีไรก็ต้อง
มีคนที่ไม่ชอบเราแล้วไอ้คนที่ไม่ชอบเราเนี้ย มักเป็นคนแบบมีอิทธิพล(พวกหัวหน้าแก็ง)เราเลยถูกลูกน้องเค้าเขม่นไปด้วย
เราทำดีกับทุกคนช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ แต่พอเรามีปัญหาเราไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแม้เราจะขอร้อง
ที่เค้าเรียกว่า "ทำบุญกับคนไม่ขึ้น" เราทำงานต่างจังหวัด ไม่มีญาติหรือเพื่อนที่จังหวัดนั้นๆ
เวลาทุกข์หรือเศร้าก็ไม่เคยเล่าให้คนที่บ้านฟังเลยเพราะกลัวเค้าจะเป็นห่วง เรามาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
คุยกับแม่เราก็จะแกล้งหัวเราะ ยิ้มแย้ม เล่าแต่เรื่องดีๆ กินข้าวทั้งน้ำตา แต่เราก็ยังสู้ เรากับแฟนทำงานคนละจังหวัดนานๆเจอกันทีนึง
วันนึงเราไปหา เราพบว่าแฟนเราเค้านอกใจเค้ามีคนอื่น เพราะเราไปแบบเซอร์ไพร์ท (เรานี่แหละโครตจะเซอร์ไพร์ท)
แฟนเราไม่เคยทำให้เราระแวงอะไรเลย ไม่มีท่าทีแบบนั้น ความเชื่อใจตลอดเวลาที่คบกันคือ 100% เต็ม แล้วมันดับวูบไปที่ติดลบทันที
เราทนไม่ไหวเลยลาออกจากงานย้ายที่ทำงานกลับมาทำแถวบ้าน เพราะ ไม่ไหวแล้วจริงๆไม่สามารถอยู่คนเดียวได้
เราก็มาเจอปัญหาเดิมๆ ที่ทำงานคือ เหมือนที่ทำงานเราเค้าอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน เราเหมือนคนนอก เหมือนคนที่ถูกลืม มันอืดอัด
เค้าขออะไรเราช่วยทุกอย่าง ทั้งงาน บางทีเราก็อาสาส่งเค้าตอนเค้าป่วย หรือ บางคนอยากไปไหน แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
(ก็ยังทำบุญกับคนไม่ขึ้น) จากที่ทำงานเดิมถึงแม้จะมีคนเขม่นแต่ก็มีเพื่อนเยอะ มาที่นี่กลับไม่มีใคร เหมือนตัวคนเดียว
ทำให้เริ่มไม่อยากไปทำงาน ตอนเช้าร่างกายจะบอกว่า ฉันป่วย เราก็จะลางานบ่อยมาก มีวันลาเท่าไหร่ก็เอามาใช้
ป่วยนิดๆหน่อยๆก็ลา ไม่มีกำลังใจจะไปทำงาน ทั้งที่งานที่เราทำเรารักมาก ชอบมาก แต่เราไม่เคยคิดอยากตาย เพราะคิดว่า
พ่อแม่เลี้ยงเรามาอย่างยากลำบาก เงินแต่ละบาทกว่าจะส่งเราเรียนจบมา
►คีย์หลักๆของการเป็น คือ ที่ขีดเส้นใต้ในเรื่องนะคะ
☺☺หาหมอ☺☺
เราคิดว่าเห้ย นี่มัน ไม่ใช่ตัวเราแล้วนะ เราคนที่ "ร่าเริง" "อดทน" "รักในงานที่ทำ" มันหายไป...
แล้วตอนนั้นเราดูละคร เรื่อง ล่า มีจิตแพทย์ในเรื่อง เราจึงเริ่มคิดว่าเราลองไปปรึกษาดีไหม
แล้วเราก็คิดถูกค่ะ
เราเจอคุณหมอหญิงท่านนึง คุยกับคุณหมอ คุณหมอคุยกับเราเหมือนญาติผู้ใหญ่
ทำให้เราสบายใจ เราเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณหมอฟัง อาการของเราถูกสรุปว่าเป็น "โรคซึมเศร้า"
โดยคุณหมออธิบายคร่าวๆทางการแพทย์ว่า สมองเราไม่สร้างสารที่ทำให้เรามีความสุข เนื่องจากเราเกิดความทุกข์
และการเสียใจ สูญเสียความมั่นใจอย่างเฉียบพลัน (แฟนนอกใจ!) แต่เราไม่ใช่โรคซึมเศร้าที่อยากทำร้ายตัวเอง
อยากฆ่าตัวตาย แต่คุณหมอก็บอกนะคะว่าถ้ามีเรื่องมาประดังมาดมายกว่านี้เราอาจจะถึงขั้นนั้นขึ้นมาได้
ยาที่ได้ก็จะมี
☺กลุ่มยา Serotonin เพื่อสร้างสารทำให้เรามีความสุข
☺กลุ่มยา คลายเครียด เพื่อให้เราไม่คิดมาก คลายกังวลและนอนหลับได้
กินยาอย่างต่อเนื่อง 3-4 เดือน
★การตัดสินใจครั้งใหญ่★
เราตัดสินใจย้ายงานอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เราเจอเพื่อนที่ทำงานที่ดีมาก
งานที่เราชอบ เรากลับมาชอบมันอีกครั้ง อยากไปทำงานทุกวัน ขนาดป่วยยังอยากไปเลย
ทำให้อาการที่เราเป็นอยู่ดีขึ้นเรื่อยๆ นอนหลับได้ปกติ จนในเดือนที่ 6 เราไม่ต้องกินยาอีกแล้ว
คุณหมอบอกว่าเราหายแล้ว เนื่องจากเราออกจากสภาพแวดล้อมที่หน้าอึดอัด
ที่ทำให้เราหมดความอดทนที่จะเข้มแข็ง อีกอย่างคือแฟนเราก็ดูแลเรา เพื่อเราก็ดูแล
ครอบครัวก็ดูแล ทุกคนรักเรา ทำไมเราไม่รักตัวเอง ทำร้ายตัวเองทางความคิด
เราออกกำลังกาย หากิจกรรมทำ
อยากให้คนที่กำลังเป็นสู้ๆ และ ใครที่เหนื่อยล้ากับชีวิตเหมือนหาทางออกไม่เจอ ลองไปหาจิตแพทย์นะคะ
ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราไม่ได้บ้า เราแค่เหนื่อย... ^^
ขอบคุณค่ะ
เพิ่มเติมนะคะ
จากเพื่อน ค.ห 10 แนะนำแอพที่ชื่อว่า "Moodpath"
ทดลองเล่นดูนะคะ มันก็จะเป็นการเก็บข้อมูลอารมณ์ของเรา แล้วเอาไปวิเคราะห์ให้ค่ะ
เราก็จะรู้สภาพการเบื้องต้นของเราเอง