สวัสดีค่ะ กระทู้นี้อย่าหาว่างมงายเลยนะคะ ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังเนอะ
ใครว่างมงายไร้สาระก็ข้ามไปนะคะไม่ดราม่านะนะ
เห็นคนไปไหว้ขอพรเรื่องความรักที่ฮ่องกงแล้วอยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง
แต่นี่ไม่ได้ไปที่ฮ่องกงแต่ไปไหว้พระที่วัดธาตุทองตรง bts เอกมัยค่ะ
คือปีนี้เราพึ่งกลับมาจากอังกฤษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่วงที่กลับจากอังกฤษใหม่ๆ
เฮิร์ตมากจากแฟนเก่า คือมันคาราคาซังตัดเค้าไม่ขาดสักที คิดถึงเค้า
อยากกลับลอนดอนไปทุกวัน นอนร้องไห้คิดถึงบ่อยมากๆค่ะ
เค้าก็มาๆหายๆเหมือนไม่แคร์เราเท่าไหร่นะคะ มีแต่เราอาการหนักอยู่ฝ่ายเดียว
บางครั้งเค้าก็หายไปเลย ทำเหมือนไม่สนใจว่าเรากลับไทยแล้วจะกลับมาอังกฤษอีกเมื่อไหร่
พอเราตัดใจได้สักพักเค้าก็กลับมาอีกค่ะ มาบอกคิดถึงนู่นนี่นั่น จะไม่หายไปแล้ว
จะรอเรากลับมาลอนดอนนะ แต่สุดท้ายก็หายไปอีกแล้ว..
ทักไปหาไม่ตอบไม่อ่านไม่รับสาย ก็เสียใจทำใจพักนึงช่วงนั้นมีเพื่อนคอยให้กำลังใจด้วยค่ะ
เลยไม่เป็นบ้าหนักมาก แต่แล้วสักพักฮีก็กลับมาอีก เหมือนเดิม ลูปเดิมไปๆมาๆหายๆ
นี่เลยไม่ไหวและต้องตัดใจเด็ดขาดสักที เพราะนี่ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ
หาเรื่องจะกลับไปลอนดอนให้เร็วที่สุด เหมือนเป็นบ้า คือเค้ามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากๆ
จะทำอะไรคิดถึงตลอดเวลาเลยนะคะ แม้กระทั่งเห็นเค้าไลค์ไอจีใครก็มานอยด์ร้องไห้
หนักมั๊ยล่ะ5555
เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่ไหวต้องหาที่พึ่งทางใจไม่งั้นฟุ้งซ่านสติเลื่อนลอย
แบบนี้ไม่ไหวนะ แล้วประกอบกับแถวเอกมัยมันใกล้บ้าน ผ่านทุกครั้งที่จะเข้าเมืองที่วัดธาตุทองเนี่ย
เลยเอาน่ะ ไปไหว้พระสักหน่อย จิตใจจะได้สงบเย็นๆลงบ้าง พอไหว้เสร็จเราก็เลยไปขอว่า
อย่าให้เค้า(บอกชื่อฮีเลยค่ะ)กลับมาหาเราอีก อย่าข้องเกี่ยวกันอีก ขอให้เค้าไปเจอคนใหม่
แล้วไม่ต้องกลับมา อย่าได้กลับมาทำให้เราหวั่นไหวอีกเลย
แล้วก็ขอให้มีคนทำให้เราลืมเค้าได้ ไม่ต้องมาเสียใจเพราะเค้าอีก ขอให้เรากับแฟนเก่าเรา
เหมือนเส้นขนาดที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีกต่อไป นี่ขอแบบนี้เลยนะคะ
และก็ขอให้มีคนดีๆเข้ามาทำให้เราหลุดพ้นไม่จมปลักกับเรื่องเสียใจที่เกี่ยวกับแฟนเก่าเราอีก
พอขอจากนี่เสร็จกับแฟนเก่าก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ฮีไม่กลับมาทักโทรหาหรือวิดีโอคอลมาอีกเลยค่ะ
เหมือนหายไปจากชีวิตเลย
แต่อีก 2 อาทิตย์ถัดมาจู่ๆก็มีผู้ชายอังกฤษเข้ามาในชีวิตเรา ตอนแรกไม่ได้อะไรแค่รู้สึกว่าคนอะไรทำไมสูงจังเนี่ย
แต่พอได้คุยกันกลับรู้สึกใช่มาก เค้าไนซ์มากๆ มันดีมากทุกอย่างมันโฟลว์มากๆค่ะ มันเหมือนกับรู้จักกันมานาน
เค้าเป็นคนใกล้ๆตัวเลย (เค้าอยู่และเกิดที่ลอนดอนค่ะแล้วเราก็ไปเรียนที่ลอนดอน ตอนอยู่ที่นั่นอาจเคยเดินสวนกันก็ได้มั้ง555)
คุณพระ!! จากที่เราหงอยๆเพ้อๆถึงแฟนเก่า พอคนนี้เข้ามาในชีวิตคือเราเปลี่ยนไปเลยค่ะ
เปลี่ยนเป็นไปโฟกัสที่เค้าแทน ลืมแฟนเก่าที่เคยคิดว่าคงเลิกรักไม่ได้แน่ๆ คนนี้ที่เข้ามาเหมือนเป็นแสงสว่างในชีวิตเรามากๆ
(เหมือนจะเวอร์นะคะแต่มันจริงๆนะ) มันแฮปปี้มันเข้ากันได้ไปหมด เราว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนงมงายนะ
แต่พอตอนนี้เรื่องเกิดขี้นมาถึงวันนี้มันทำให้เรานึกย้อนไปถึงวันนั้น
วันที่เราไปไหว้พระขอพร มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะคะ
แต่มันดันบังเอิญไปตรงกับที่เราไปขอพรที่วัดธาตุทองเฉยเลย
ขอบคุณที่พาคนคนนี้เข้ามาในชีวิต อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรไม่รู้
เราอาจจะโดนแบบเดิมอีกหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ได้
แต่ตอนนี้ชีวิตมีความสุข เค้าทำให้ลืมแฟนเก่าไปหมดเลยค่ะ
นึกแล้วยังขนลุกอยู่เลย

.
.
ไปไหว้พระที่วัดธาตุทองขอให้ลืมแฟนเก่าแต่กลับได้แฟนใหม่มาแทน
ใครว่างมงายไร้สาระก็ข้ามไปนะคะไม่ดราม่านะนะ
เห็นคนไปไหว้ขอพรเรื่องความรักที่ฮ่องกงแล้วอยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง
แต่นี่ไม่ได้ไปที่ฮ่องกงแต่ไปไหว้พระที่วัดธาตุทองตรง bts เอกมัยค่ะ
คือปีนี้เราพึ่งกลับมาจากอังกฤษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่วงที่กลับจากอังกฤษใหม่ๆ
เฮิร์ตมากจากแฟนเก่า คือมันคาราคาซังตัดเค้าไม่ขาดสักที คิดถึงเค้า
อยากกลับลอนดอนไปทุกวัน นอนร้องไห้คิดถึงบ่อยมากๆค่ะ
เค้าก็มาๆหายๆเหมือนไม่แคร์เราเท่าไหร่นะคะ มีแต่เราอาการหนักอยู่ฝ่ายเดียว
บางครั้งเค้าก็หายไปเลย ทำเหมือนไม่สนใจว่าเรากลับไทยแล้วจะกลับมาอังกฤษอีกเมื่อไหร่
พอเราตัดใจได้สักพักเค้าก็กลับมาอีกค่ะ มาบอกคิดถึงนู่นนี่นั่น จะไม่หายไปแล้ว
จะรอเรากลับมาลอนดอนนะ แต่สุดท้ายก็หายไปอีกแล้ว..
ทักไปหาไม่ตอบไม่อ่านไม่รับสาย ก็เสียใจทำใจพักนึงช่วงนั้นมีเพื่อนคอยให้กำลังใจด้วยค่ะ
เลยไม่เป็นบ้าหนักมาก แต่แล้วสักพักฮีก็กลับมาอีก เหมือนเดิม ลูปเดิมไปๆมาๆหายๆ
นี่เลยไม่ไหวและต้องตัดใจเด็ดขาดสักที เพราะนี่ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ
หาเรื่องจะกลับไปลอนดอนให้เร็วที่สุด เหมือนเป็นบ้า คือเค้ามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากๆ
จะทำอะไรคิดถึงตลอดเวลาเลยนะคะ แม้กระทั่งเห็นเค้าไลค์ไอจีใครก็มานอยด์ร้องไห้
หนักมั๊ยล่ะ5555
เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่ไหวต้องหาที่พึ่งทางใจไม่งั้นฟุ้งซ่านสติเลื่อนลอย
แบบนี้ไม่ไหวนะ แล้วประกอบกับแถวเอกมัยมันใกล้บ้าน ผ่านทุกครั้งที่จะเข้าเมืองที่วัดธาตุทองเนี่ย
เลยเอาน่ะ ไปไหว้พระสักหน่อย จิตใจจะได้สงบเย็นๆลงบ้าง พอไหว้เสร็จเราก็เลยไปขอว่า
อย่าให้เค้า(บอกชื่อฮีเลยค่ะ)กลับมาหาเราอีก อย่าข้องเกี่ยวกันอีก ขอให้เค้าไปเจอคนใหม่
แล้วไม่ต้องกลับมา อย่าได้กลับมาทำให้เราหวั่นไหวอีกเลย
แล้วก็ขอให้มีคนทำให้เราลืมเค้าได้ ไม่ต้องมาเสียใจเพราะเค้าอีก ขอให้เรากับแฟนเก่าเรา
เหมือนเส้นขนาดที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีกต่อไป นี่ขอแบบนี้เลยนะคะ
และก็ขอให้มีคนดีๆเข้ามาทำให้เราหลุดพ้นไม่จมปลักกับเรื่องเสียใจที่เกี่ยวกับแฟนเก่าเราอีก
พอขอจากนี่เสร็จกับแฟนเก่าก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ฮีไม่กลับมาทักโทรหาหรือวิดีโอคอลมาอีกเลยค่ะ
เหมือนหายไปจากชีวิตเลย
แต่อีก 2 อาทิตย์ถัดมาจู่ๆก็มีผู้ชายอังกฤษเข้ามาในชีวิตเรา ตอนแรกไม่ได้อะไรแค่รู้สึกว่าคนอะไรทำไมสูงจังเนี่ย
แต่พอได้คุยกันกลับรู้สึกใช่มาก เค้าไนซ์มากๆ มันดีมากทุกอย่างมันโฟลว์มากๆค่ะ มันเหมือนกับรู้จักกันมานาน
เค้าเป็นคนใกล้ๆตัวเลย (เค้าอยู่และเกิดที่ลอนดอนค่ะแล้วเราก็ไปเรียนที่ลอนดอน ตอนอยู่ที่นั่นอาจเคยเดินสวนกันก็ได้มั้ง555)
คุณพระ!! จากที่เราหงอยๆเพ้อๆถึงแฟนเก่า พอคนนี้เข้ามาในชีวิตคือเราเปลี่ยนไปเลยค่ะ
เปลี่ยนเป็นไปโฟกัสที่เค้าแทน ลืมแฟนเก่าที่เคยคิดว่าคงเลิกรักไม่ได้แน่ๆ คนนี้ที่เข้ามาเหมือนเป็นแสงสว่างในชีวิตเรามากๆ
(เหมือนจะเวอร์นะคะแต่มันจริงๆนะ) มันแฮปปี้มันเข้ากันได้ไปหมด เราว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนงมงายนะ
แต่พอตอนนี้เรื่องเกิดขี้นมาถึงวันนี้มันทำให้เรานึกย้อนไปถึงวันนั้น
วันที่เราไปไหว้พระขอพร มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะคะ
แต่มันดันบังเอิญไปตรงกับที่เราไปขอพรที่วัดธาตุทองเฉยเลย
ขอบคุณที่พาคนคนนี้เข้ามาในชีวิต อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรไม่รู้
เราอาจจะโดนแบบเดิมอีกหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ได้
แต่ตอนนี้ชีวิตมีความสุข เค้าทำให้ลืมแฟนเก่าไปหมดเลยค่ะ
นึกแล้วยังขนลุกอยู่เลย
.
.