คิดไม่ออก หาทางออกไม่ถูกเลยค่ะ รบกวนผู้รู้มาตอบคำถามตามรูปคดีนี้หน่อยนะคะ

เมื่อประมาณปีที่แล้ว เราได้ก่อเหตุยักยอกค่ะ อันนี้ยอมรับว่าทำจริง เนื่องจากตอนนั้นมีปัญหาเรื่องยาเสพติด หาทางออกไม่ได้ จึงโพสต์ขายสินค้าในเฟสบุ๊คเพื่อหาเงินมาใช้ โดยสินค้ามีเพียงชิ้นเดียว แต่เราได้โพสต์ขายซ้ำ เมื่อไม่สามารถส่งของให้กับผู้ซื้อได้ ผู้ซื้อจึงทำการแจ้งความ โดยมีผู้แจ้งความทั้งหมด 5 คดี ต่างพื้นที่กัน
      หนึ่งในห้าคดีนั้น เราได้ติดต่อมอบตัว ทางตำรวจทำเรื่องส่งฟ้องแต่เนื่องจากตอนนั้น ไม่ต้องการให้ทางครอบครัวประกันตัวเพราะสำนึกได้และต้องการบำบัดและเลิกขาดในเรื่องยาเสพติด    รวมทั้งไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวด้วยการกู้หนี้ยืมสินมาประกันตัว  ทางตำรวจจึงได้ทำการฝากขัง ซึ่งในขณะนั้นเราถูกฝากขังที่ฑัณฑสถานหญิงกลาง(คลองเปรม) เมื่อครบ30วัน ยังไม่มีการสั่งฟ้อง เราจึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนั้นสองเดือนเราได้รับการติดต่อจากตำรวจสน.เดิม เรื่องการฟ้อง แต่ศาลได้ให้ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เราได้ตกลงชดใช้คืนทั้งหมด คู่กรณีจึงถอนฟ้อง

    หลังจากจบไปหนึ่งคดี ความลำบากและการค้นพบว่าการใช้ชีวิตในเรือนจำทำให้เราคิดได้ เราจึงติดต่อเจ้าทุกข์ที่เหลือไปด้วยตนเอง
คดีที่ 2 เราผ่อนชดใช้จนหมด เจ้าทุกข์ยอมถอนแจ้งความ
คดีที่ 3 เราผ่อนชดใช้แต่ยังไม่หมด เหลือยอด 4000 คดีอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน เจ้าทุกข์แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเรายังทำการผ่อนอยู่ทุกเดือน ทางตำรวจจึงยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเพิ่มเติม โดยทางเจ้าทุกข์แจ้งว่า เมื่อผ่อนหมดจะถอนแจ้งความให้
คดีที่ 4 เจ้าทุกข์ขอให้หาเงินมาเป็นก้อน ไม่ต้องการผ่อนชำระ แต่เรายังติดต่อเจ้าทุกข์ตลอดเวลาไม่ได้หนีหาย ปัจจุบันเจ้าทุกข์ยอมใจอ่อน โดยลดยอดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจะถอนแจ้งความให้ และให้เวลาหาเงินประมาณหนึ่งเดือน เนื่องจากเห็นความพยายามในการต้องการติดต่อขอชดใช้คืนและเห็นประวัติการผ่อนชำระของเจ้าอื่นคืนจนหมด

คดีที่ 5 *** ที่สร้างความหนักใจที่สุดในปัจจุบัน หลังจากที่เราออกจากฑัณฑสถานเราได้ติดต่อทางเจ้าทุกข์ท่านนี้ไปเป็นท่านแรก และเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก ทางตำรวจส่งฟ้องให้พนักงานอัยการ ทางอัยการได้เลื่อนฟ้องมาสามครั้งเราไปรายงานตัวทุกครั้งไม่เคยหนีหาย โดยคดีนี้เราได้ทำการผ่อนชำระคืนเจ้าทุกข์ไปจนเหลือยอด 17,000 .- บาท   เมื่อวานทางพนักงานได้โทรมาแจ้งเราว่า ในวันพุธที่ 20 นี้จะทำการฟ้องให้เราเตรียมหลักประกัน และแจ้งว่าทางอัยการได้แจ้งข้อหา จากเดิมคือ ข้อหาฉ้อโกง และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ(พรบ.คอมฯ) เปลี่ยนเป็น ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ(พรบ.คอมฯ) ซึ่งโทษของฉ้อโกงประชาชนนั้นร้ายแรงกว่าฉ้อโกงธรรมดา
         เบื้องต้นพนักงานอัยการแนะนำว่า หากในวันที่ 20 นี้เราเตรียมเงินประกันตัวไม่ทัน(เนื่องจากโทรถามศาลแล้วข้อหาดังกล่าวต้องใช้เงินประกันเท่าไร ศาลแจ้งว่า หนึ่งแสนบาท) ในวันที่ 20 ให้เราไปรายงานตัวที่อัยการเช่นเดิม แต่ให้เขียนคำร้องขอเลื่อนการฟ้องไปหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวไม่ทัน  

   เราจึงต้องการถามผู้รู้เกี่ยวกับคดีดังนี้??
1.เราสามารถขอเลื่อนการยื่นฟ้องโดยให้เหตุผลว่าเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทันตามที่พนักงานอัยการแจ้งได้หรือไม่คะ?

2.เราหาทางออกไว้ว่า หากทางอัยการให้เราเลื่อนเพื่อเตรียมหลักทรัพย์ได้ เราได้ติดต่อขอซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพไว้จากบริษัทประกันรายหนึ่ง จะสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวเองได้หรือไม่คะ และศาลจะมีคำสั่งคัดค้านไม่ให้ประกันตัวหรือไม่หากพิจารณาจากประวัติคดีของเรา

3.ทางพนักอัยการแจ้งเราว่า หากเราประกันตัวได้เรียบร้อย ศาลอาจจะมีการนัดพร้อม คือให้เราได้พบและตกลงกับคู่กรณี หากถึงวันนั้นแล้วเรามีเงินมาชดใช้เจ้าทุกข์จนหมดและเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ถึงแม้คดีฉ้อโกงประชาชนจะไม่สามารถยอมความได้ แต่ด้วยที่พฤติการณ์เรามีการชำระคืน และไม่มีการหลบหนี ศาลอาจพิพากษาเป็นรอลงอาญา อยากทราบว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่เราจะโดนลงโทษเป็นการรอลงอาญา

4.หากสุดท้ายแล้วศาลตัดสินให้จำคุก เราสามารถใช้กรมธรรม์ประกันอิสรภาพที่ซื้อมาในครั้งแรกใช้ประกันตัวและยื่นในชั้นอุทธรณ์ได้หรือไม่

     เราไม่อยากเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีก และคิดว่าตัวเองได้บทเรียนสมควรแล้ว ตั้งแต่ออกมาก็ทำมาหากินสุจริตไม่ได้ไปหลอกลวงใครอีกและชดใช้ผู้ที่เราสร้างความเดือดร้อนให้แล้ว ตอนนี้เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับรบกวนผู้ที่มีความรู้มาตอบด้วยนะคะ    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้ที่เข้ามาตอบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่