ขอแชร์ให้ทุกคนที่มีรถยนต์ได้อ่านค่ะ ยาวนิด แต่มีประโยชน์แน่นอนค่ะ
รถเราถูกชนเมื่อปีที่แล้ว ขอเล่าแค่ส่วนของประกันคู่กรณีนะคะ อันนี้บริการเค้าเด็ดจริง
(มีกระทู้อื่นๆบ่นประกันตัวเอง บ่นศูนย์ซ่อมไปแล้ว แบบว่ามหากาพย์มากค่ะ)
ก่อนเอารถเข้าซ่อม ได้สอบถามเงื่อนไขต่างๆของการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สอบถามถึงร้านเช่ารถที่มีคอนแทค สอบถามค่าเดินทางขั้นต่ำที่จะจ่ายให้ โดยจนท.ทั้ง 3 คน ตอบเหมือนกันว่า เบิกได้ ยินดีรับผิดชอบ เพยงแต่ต้องยื่นเอกสารตามนี้ (ประมาณ 6-7 ตัว) เราทำตามอย่างเคร่งครัด เพราะไม่อยากให้ตุกติก
ถึงวันรถซ่อมเสร็จ ยื่นเอกสาร ไปหาประกันคู่กรณี ออฟฟิศร้องเรียนเรื่องสินไหม ดูสกปรก เก้าอี้น้อยมาก คนที่มาติดต่อต้องยืน ซะส่วนใหญ่ พนง. ถ่อย (ต้องขอใช้คำนี้จริงๆ) พูดไม่มีหางเสียง เรียกคิวมั่ว ถามอะไรไม่หือไม่อือ ทำหน้ามึน บางคนทำหน้ากวนเท้า เสียงดัง อ้างกม. อ้างพรบ.มั่วๆ บางคนโดนชี้หน้า โดนไล่กลับ ไม่ก็ลุกหนีไปเฉยๆทั้งที่คุยยังไม่จบ
ของเรา เจอโยนเอกสารใส่ พร้อมถามว่า "ให้ได้แค่นี้ (ประมาณ 30% ของค่าเช่ารถ) จบมั้ย? ไม่จบก็รอเอกสาร แล้วจะร้องที่ไหน ก็ร้องไป เรื่องของคุณ" และเรียกคิวต่อไป
โอ้โห ทำกันแบบนี้ จะจบง่ายๆได้ไง เราขอเจอผู้จัดการ เป็นผช เรียกเราไปในห้อง คุยกัน 2 คน พยายามบอกเราว่า รับผิดชอบได้แค่นี้ มากสุดให้ได้ 40-50% ของค่าเช่ารถ เรายืนยันที่จะรับเต็มจำนวน จนเค้าถามกลับว่า "ใครเค้าบอกล่ะ ว่าให้ไปเช่ารถได้ ผมไม่ได้บอก ก็ไม่รับผิดชอบอ่ะ" พร้อมทำหน้าตากวนเท้ามาก เราเลยหยิบมือถือ เปิดคลิปเสียงที่อัดไว้ และโทรหา call center อีกครั้ง เปิด speaker phone ให้เค้าฟังว่า จนท. เค้าตอบว่ายังไง สุดท้าย กล่าวขอโทษ ที่พนง. ให้ข้อมูลขัดแย้งกับ policy ของบริษัท พร้อมรับปากว่า จะจัดการเรื่องให้ ขอเวลา 1 สัปดาห์
ระหว่างนั้น มีจนท. โทรมาต่อรองทุกวัน เรายืนยันคำเดิม ว่าขอค่าเช่ารถเต็มจำนวน ทางนั้น อ้างสารพัด ว่าไม่เคยจ่าย ไม่มีใครเคยได้เต็มจำนวน เราจึงขอเอกสารรับรอง ว่ามี.พรบ. หรือ กม. ตัวไหนเขียนไว้ ว่าไม่ให้เต็มจำนวน เรื่องยืดเยื้อ มาสักพัก จนสุดท้าย ได้คำตอบว่า "ยอม จ่ายค่าเช่ารถคืนให้ เต็มจำนวน"
เราจบ และขอบคุณผจก. คนนี้ ที่อย่างน้อย ก็ดูแลประสานงานให้จนจบแบบ happy ending
สุดท้าย แค่อยากจะแชร์ว่า กรณีแบบนี้ เช่ารถ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะมีบิลชัดเจน ถ้าบ้านไกล นั่งแทกซี่ ก็ไม่มีหลักฐาน มันก้ตุกติกอีก ขอบอกว่า คุยกับพวกนี้จิตเสียมาก ต้องตั้งสติดีๆ เอาเหตุผล ข้อมูลที่ถูกต้องมาคุย
การชดใช้ค่าเช่ารถเต็มจำนวน มีอยู่จริง อย่าหลงเชื่อพวกประกันที่ไม่มีธรรมาภิบาล ว่าให้ได้แค่นั้นแค่นี้ อย่าคิดว่า แค่นี้ก็ดีกว่าไม่ได้เลนสักบาท เราเป็นฝ่ายถูก แค่รถถูกชน ก็เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ เสียเวลามากพอแล้ว ทำไมต้องมารับผิดชอบค่าเช่ารถเองอีก
เราถือว่า ไม่เคยเอาเปรียบใคร แต่ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเราค่ะ
ยืนยัน! เบิกค่าเช่ารถได้ ถ้าเป็นฝ่ายถูก
รถเราถูกชนเมื่อปีที่แล้ว ขอเล่าแค่ส่วนของประกันคู่กรณีนะคะ อันนี้บริการเค้าเด็ดจริง
(มีกระทู้อื่นๆบ่นประกันตัวเอง บ่นศูนย์ซ่อมไปแล้ว แบบว่ามหากาพย์มากค่ะ)
ก่อนเอารถเข้าซ่อม ได้สอบถามเงื่อนไขต่างๆของการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สอบถามถึงร้านเช่ารถที่มีคอนแทค สอบถามค่าเดินทางขั้นต่ำที่จะจ่ายให้ โดยจนท.ทั้ง 3 คน ตอบเหมือนกันว่า เบิกได้ ยินดีรับผิดชอบ เพยงแต่ต้องยื่นเอกสารตามนี้ (ประมาณ 6-7 ตัว) เราทำตามอย่างเคร่งครัด เพราะไม่อยากให้ตุกติก
ถึงวันรถซ่อมเสร็จ ยื่นเอกสาร ไปหาประกันคู่กรณี ออฟฟิศร้องเรียนเรื่องสินไหม ดูสกปรก เก้าอี้น้อยมาก คนที่มาติดต่อต้องยืน ซะส่วนใหญ่ พนง. ถ่อย (ต้องขอใช้คำนี้จริงๆ) พูดไม่มีหางเสียง เรียกคิวมั่ว ถามอะไรไม่หือไม่อือ ทำหน้ามึน บางคนทำหน้ากวนเท้า เสียงดัง อ้างกม. อ้างพรบ.มั่วๆ บางคนโดนชี้หน้า โดนไล่กลับ ไม่ก็ลุกหนีไปเฉยๆทั้งที่คุยยังไม่จบ
ของเรา เจอโยนเอกสารใส่ พร้อมถามว่า "ให้ได้แค่นี้ (ประมาณ 30% ของค่าเช่ารถ) จบมั้ย? ไม่จบก็รอเอกสาร แล้วจะร้องที่ไหน ก็ร้องไป เรื่องของคุณ" และเรียกคิวต่อไป
โอ้โห ทำกันแบบนี้ จะจบง่ายๆได้ไง เราขอเจอผู้จัดการ เป็นผช เรียกเราไปในห้อง คุยกัน 2 คน พยายามบอกเราว่า รับผิดชอบได้แค่นี้ มากสุดให้ได้ 40-50% ของค่าเช่ารถ เรายืนยันที่จะรับเต็มจำนวน จนเค้าถามกลับว่า "ใครเค้าบอกล่ะ ว่าให้ไปเช่ารถได้ ผมไม่ได้บอก ก็ไม่รับผิดชอบอ่ะ" พร้อมทำหน้าตากวนเท้ามาก เราเลยหยิบมือถือ เปิดคลิปเสียงที่อัดไว้ และโทรหา call center อีกครั้ง เปิด speaker phone ให้เค้าฟังว่า จนท. เค้าตอบว่ายังไง สุดท้าย กล่าวขอโทษ ที่พนง. ให้ข้อมูลขัดแย้งกับ policy ของบริษัท พร้อมรับปากว่า จะจัดการเรื่องให้ ขอเวลา 1 สัปดาห์
ระหว่างนั้น มีจนท. โทรมาต่อรองทุกวัน เรายืนยันคำเดิม ว่าขอค่าเช่ารถเต็มจำนวน ทางนั้น อ้างสารพัด ว่าไม่เคยจ่าย ไม่มีใครเคยได้เต็มจำนวน เราจึงขอเอกสารรับรอง ว่ามี.พรบ. หรือ กม. ตัวไหนเขียนไว้ ว่าไม่ให้เต็มจำนวน เรื่องยืดเยื้อ มาสักพัก จนสุดท้าย ได้คำตอบว่า "ยอม จ่ายค่าเช่ารถคืนให้ เต็มจำนวน"
เราจบ และขอบคุณผจก. คนนี้ ที่อย่างน้อย ก็ดูแลประสานงานให้จนจบแบบ happy ending
สุดท้าย แค่อยากจะแชร์ว่า กรณีแบบนี้ เช่ารถ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะมีบิลชัดเจน ถ้าบ้านไกล นั่งแทกซี่ ก็ไม่มีหลักฐาน มันก้ตุกติกอีก ขอบอกว่า คุยกับพวกนี้จิตเสียมาก ต้องตั้งสติดีๆ เอาเหตุผล ข้อมูลที่ถูกต้องมาคุย
การชดใช้ค่าเช่ารถเต็มจำนวน มีอยู่จริง อย่าหลงเชื่อพวกประกันที่ไม่มีธรรมาภิบาล ว่าให้ได้แค่นั้นแค่นี้ อย่าคิดว่า แค่นี้ก็ดีกว่าไม่ได้เลนสักบาท เราเป็นฝ่ายถูก แค่รถถูกชน ก็เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ เสียเวลามากพอแล้ว ทำไมต้องมารับผิดชอบค่าเช่ารถเองอีก
เราถือว่า ไม่เคยเอาเปรียบใคร แต่ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเราค่ะ