ถ้าคนดูแต่ผลสกอร์ของเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาก็คงจะคิดว่า "อังกฤษเปิดตัวสวยขนาดนี้ ตรูพร้อมแล้วกับแชมป์โลกสมัยที่ 2"
ผมอยากให้คุณลองกลับไปดูการแข่งขันย้อนหลังอีกทีว่ารูปเกมมันป่วยขนาดไหน ผมต้องถ่างตาพลางคอยตบหน้าตัวเองเพื่อไม่ให้หลับคาทีวี...
ผมลองสรุปประเด็นคร่าวๆที่คิดว่า เป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดจริงๆ จากเกมเมื่อคืน
เพลเมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม : อังกฤษขาดนักเตะตำแหน่งกลางรุกที่คอยเชื่อมเกมในแดนหน้า ไม่ใช่ว่าอังกฤษไม่มีนักเตะตำแหน่งนี้ แต่แผนของเซ้าเกตดันจับเดเล่ อัลลี่ ผู้ซึ่งทำหน้าที่นี้ได้โดดเด่นที่สุดในการเล่นกับสเปอร์ มายืนเป็นตัวกลางคู่กับเฮนเดอสันและลินการ์ด ทำให้ไม่มีคนคอยเชื่อมเกมอยู่หลังเคน กับ สเตอริ่ง ผลคือการต่อบอลที่สะเปะสะปะ หมดไอเดียก็ส่งออกข้างให้ผู้เล่นริมเส้นครอสเข้ามา ซึ่งแค่กองกลังตูนีเชียประกบเคนคนเดียวก็แทบจะหมดลุ้นแล้วจิงๆ การเข้าทำที่ดูจะน่ากลัวที่สุดนั้นมาจากลูกเซตพีช ที่อังกฤษได้โหม่งเกือบตลอดและเป็นที่มาของสองประตูที่ทำให้พวกเขาชนะ
แผนและการวางตำแหน่งผู้เล่น : 3-5-2 เป็นแผนที่อังกฤษใช้เมื่อคืน แต่ว่าแผนนี้นั้นเข้ากับนักเตะอังกฤษในชุดนี้จิงหรือ? เซ้าเกตจับไคล์ วอร์คเกอเล่นเป็นเซนเตอร์ และผลที่ออกมาก็คือการทำเสียจุดโทษที่เรียกว่า... จะดีกว่าไหมถ้าจะใช้ประโยชน์จากลูกครอสและการบุกที่ดุดันของเขาในการเล่นตำแหน่งแบ๊คขวา ละยังมีสเตอริ่งที่ปกติแล้วประจำการปีกซ้าย ใช้ความเร็วและความคล่องตัวทำลายแนวรับคู่แข่งด้วยสกิลการเลี้ยงที่จับตัวยาก แต่นี่หน้าคู่เคน ??? ถามจริงๆว่าเซ้าเกตเคยเหนสกิลการจบสกอร์ของริ่งหรือเปล่า มันเป็นคนที่ถ้าไม่ได้ยิงจ่อแบบเผาขนนี่แทบจะยิงกากเท่าๆกองหลังเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ก็เดเล่ อัลลี่ที่แทบจะหมดประโยชน์เหมือนกันเมื่อไม่ได้เล่นตำแหน่งเพลเมกเกอร์
การแก้เกม : ขณะที่ตูนีเชียนั้นไม่ได้ดูน่ากลัวในแนวรุกเลยตลอดทั้งเกม แต่เซ้าเกตก็ยังไม่ยอมถอดเซนเตอร์ออกแล้วเปลี่ยนเอาตัวรุกเข้ามาแทนตลอดจน 90 นาที คำถามก็คือเขานั้นเล่นเซฟเกินไปหรือเปล่า? ทำไมเขาไม่ส่งเจมี่ วาร์ดี้ลงมาเล่นคู่กับเคนตั้งแต่ช่วง 60-70 นาที แล้วเปลี่ยนแผนเป็น 4-4-2 ให้ผู้เล่นปีกได้ทำหน้าที่ที่พวกเขาถนัด เพื่อโอกาสในการทำประตูขึ้นนำที่ยังไงๆก็ดูจะเข้าท่ากว่าเล่นหลัง3 แบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เหล่าตัวสำรองที่เขาส่งลงมาก็ดูจะมีผลกระทบกับเกมในทางที่ดีขึ้นอยู่เหมือนกัน ทั้งแรชฟอร์ดที่ดูวูบวาบและคุกคามกองหลังได้มากกว่าริ่ง ,ลอฟตัส ชีคที่ก็ดูจะมีประโยชน์กว่าอัลลี่ในการพาบอลขึ้น กับความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย
***แน่นอนว่า 3 คะแนนนี้สำคัญมากสำหรับอังกฤษ แต่ถ้าหากพวกเขาหวังที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบลึกๆในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังมีหลายสิ่งที่ต้องถูกแก้ไขและปรับปรุงสำหรับทีมๆนี้จิงๆครับ
อังกฤษนัดที่ผ่านมา"สร้างคำถามมากกว่าคำตอบ"
ผมอยากให้คุณลองกลับไปดูการแข่งขันย้อนหลังอีกทีว่ารูปเกมมันป่วยขนาดไหน ผมต้องถ่างตาพลางคอยตบหน้าตัวเองเพื่อไม่ให้หลับคาทีวี...
ผมลองสรุปประเด็นคร่าวๆที่คิดว่า เป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดจริงๆ จากเกมเมื่อคืน
เพลเมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม : อังกฤษขาดนักเตะตำแหน่งกลางรุกที่คอยเชื่อมเกมในแดนหน้า ไม่ใช่ว่าอังกฤษไม่มีนักเตะตำแหน่งนี้ แต่แผนของเซ้าเกตดันจับเดเล่ อัลลี่ ผู้ซึ่งทำหน้าที่นี้ได้โดดเด่นที่สุดในการเล่นกับสเปอร์ มายืนเป็นตัวกลางคู่กับเฮนเดอสันและลินการ์ด ทำให้ไม่มีคนคอยเชื่อมเกมอยู่หลังเคน กับ สเตอริ่ง ผลคือการต่อบอลที่สะเปะสะปะ หมดไอเดียก็ส่งออกข้างให้ผู้เล่นริมเส้นครอสเข้ามา ซึ่งแค่กองกลังตูนีเชียประกบเคนคนเดียวก็แทบจะหมดลุ้นแล้วจิงๆ การเข้าทำที่ดูจะน่ากลัวที่สุดนั้นมาจากลูกเซตพีช ที่อังกฤษได้โหม่งเกือบตลอดและเป็นที่มาของสองประตูที่ทำให้พวกเขาชนะ
แผนและการวางตำแหน่งผู้เล่น : 3-5-2 เป็นแผนที่อังกฤษใช้เมื่อคืน แต่ว่าแผนนี้นั้นเข้ากับนักเตะอังกฤษในชุดนี้จิงหรือ? เซ้าเกตจับไคล์ วอร์คเกอเล่นเป็นเซนเตอร์ และผลที่ออกมาก็คือการทำเสียจุดโทษที่เรียกว่า... จะดีกว่าไหมถ้าจะใช้ประโยชน์จากลูกครอสและการบุกที่ดุดันของเขาในการเล่นตำแหน่งแบ๊คขวา ละยังมีสเตอริ่งที่ปกติแล้วประจำการปีกซ้าย ใช้ความเร็วและความคล่องตัวทำลายแนวรับคู่แข่งด้วยสกิลการเลี้ยงที่จับตัวยาก แต่นี่หน้าคู่เคน ??? ถามจริงๆว่าเซ้าเกตเคยเหนสกิลการจบสกอร์ของริ่งหรือเปล่า มันเป็นคนที่ถ้าไม่ได้ยิงจ่อแบบเผาขนนี่แทบจะยิงกากเท่าๆกองหลังเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ก็เดเล่ อัลลี่ที่แทบจะหมดประโยชน์เหมือนกันเมื่อไม่ได้เล่นตำแหน่งเพลเมกเกอร์
การแก้เกม : ขณะที่ตูนีเชียนั้นไม่ได้ดูน่ากลัวในแนวรุกเลยตลอดทั้งเกม แต่เซ้าเกตก็ยังไม่ยอมถอดเซนเตอร์ออกแล้วเปลี่ยนเอาตัวรุกเข้ามาแทนตลอดจน 90 นาที คำถามก็คือเขานั้นเล่นเซฟเกินไปหรือเปล่า? ทำไมเขาไม่ส่งเจมี่ วาร์ดี้ลงมาเล่นคู่กับเคนตั้งแต่ช่วง 60-70 นาที แล้วเปลี่ยนแผนเป็น 4-4-2 ให้ผู้เล่นปีกได้ทำหน้าที่ที่พวกเขาถนัด เพื่อโอกาสในการทำประตูขึ้นนำที่ยังไงๆก็ดูจะเข้าท่ากว่าเล่นหลัง3 แบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เหล่าตัวสำรองที่เขาส่งลงมาก็ดูจะมีผลกระทบกับเกมในทางที่ดีขึ้นอยู่เหมือนกัน ทั้งแรชฟอร์ดที่ดูวูบวาบและคุกคามกองหลังได้มากกว่าริ่ง ,ลอฟตัส ชีคที่ก็ดูจะมีประโยชน์กว่าอัลลี่ในการพาบอลขึ้น กับความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย
***แน่นอนว่า 3 คะแนนนี้สำคัญมากสำหรับอังกฤษ แต่ถ้าหากพวกเขาหวังที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบลึกๆในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังมีหลายสิ่งที่ต้องถูกแก้ไขและปรับปรุงสำหรับทีมๆนี้จิงๆครับ