[SR] เปิดตำราอาหารแม่ลองทำสำรับไทย (แบบไม่ครบเครื่อง) ครั้งนี้ได้กะทิฟรีมาทำอาหารค่ะ

ได้เวลาเปิดตำราอาหารมรดกที่แม่ทิ้งไว้ให้อีกแล้วค่ะ (เมนูอาหารไทยของ อาจารย์จรรยา สุบรรณ์)
เรามีเปลี่ยนแปลงวิธีทำและส่วนผสมเล็กน้อยนะคะ เพื่อรสชาติที่ถูกปาก
วันนี้อยากลองทำสำรับไทย ที่แบบว่าจะมีแกงเผ็ด ของทอด เครื่องจิ้ม ขนมหวาน แต่ครั้งนี้ยังไม่ครบเต็มสำรับค่ะ
ครั้งนี้โชคดีได้กะทิ UHT เจ้าแรกของโลกอย่างกะทิชาวเกาะ มาเป็นสปอนเซอร์ให้ สบายเลยค่ะ

หลายๆ คนบอกว่ากะทิ UHT ไม่หอม รสชาติไม่อร่อย
แต่สังเกตว่าเวลาเราทำอาหารทุกครั้งก็จะใช้กะทิแบบนี้ตลอด
เพราะว่ามันสะดวกดี หาซื้อง่าย แล้วก็เข้มข้น หอม มัน
ที่สำคัญไม่ผสมแป้ง ไม่มีวัตถุกันเสีย แบบนี้ก็ได้กะทิแบบเข้มข้นมาก ถึงมากที่สุด
(ขอแอบโฆษณาหน่อยนะคะ ไม่ว่ากันนะ)

มาเริ่มที่เมนูแรกค่ะ “ฉู่ฉี่พริกหยวกสอดไส้”
สำหรับเมนูนี้ตัวเครื่องแกงจะเป็นฉู่ฉี่ แต่เปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นพริกหยวกสอดไส้แทน

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกแห้ง 10 เม็ด, หอมซอย 3    ช้อนโต๊ะ, ข่าซอย    1 ช้อนชา, กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ, ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนชา, ตะไคร้ 1 ช้อนโต๊ะ, กะปิ 1 ช้อนชา
ส่วนผสมพริกหยวก
พริกหยวก 6 เม็ด, เนื้อกุ้งสับ 1/2 ถ้วยตวง, เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ½ ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปึก 1/4 ก้อน, กะทิ    2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ทำน้ำพริกฉู่ฉี่ โดยนำส่วนผสมทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียด พักไว้
2. คว้านไส้และเมล็ดพริกหยวกออก (แนะนำให้ใส่ถุงมือค่ะ) ล้างให้สะอาด ซับให้แห้ง
3. นำเนื้อหมูกับเนื้อกุ้งมาผสมให้เข้ากัน ตักเครื่องแกงลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. นำไส้ที่เข้ากันแล้วยัดลงไปในพริกหยวก นำไปนึ่งให้สุก
5. เคี่ยวกะทิให้แตกมัน ผัดน้ำพริกให้หอม ใส่พริกหยวกลงไป ผัดต่อจนเครื่องแกงเข้าเนื้อ
6. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตักใส่จาน และตกแต่งด้วยใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า

มีเมนูเป็นแกงเผ็ดแล้วก็ต้องมีเครื่องแนมเป็นปลาเค็ม
วันนี้ทำเมนู “หมูเปีย” ค่ะ เคยทำไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็อยากเอามาทำใหม่
หมูเปียทำง่ายมาก และรสชาติก็แก้รสเผ็ดได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสม
เนื้อหมูปนมันสับละเอียด    1 ถ้วยตวง, เนื้อปลาอินทรีทอด    1/4 ถ้วยตวง (ประมาณ 1 ชิ้น), ไข่เป็ด 1 ฟอง

วิธีทำ
1. ผสมปลากับหมูให้เข้ากัน (ในสูตรบอกให้เอาไปชุบไข่ แต่เราใส่ไข่ลงไปเลย)
2. ปั้นเป็นก้อนกลม กดให้แบน ทอดไฟอ่อนพอเป็นสีเหลืองนวล ตักขึ้นซับน้ำมัน

ต่อมาเป็นเมนูน้ำพริกเครื่องจิ้มผักแนมค่ะ เราเลือกทำ “น้ำพริกจิ้มปลาฟู” เห็นชื่อแปลกดี
แต่พอทำออกมารสชาติเหมือนน้ำพริกกะปิเลย แต่รสจะจัดกว่า

ส่วนผสมน้ำพริกจิ้ม
กะปิเผา 3/4 ช้อนโต๊ะ, กระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ, พริกขี้หนู 10 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา, น้ำมะนาว 2 ช้อนชา, น้ำปลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมปลาฟู
ปลาช่อนหรือปลาดุกย่าง และน้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำน้ำพริกจิ้ม
1. โขลกกระเทียมกับกะปิพอละเอียด ใส่พริกขี้หนูลงไป
2. ใส่น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย

วิธีทำปลาฟู
1. แกะเนื้อปลาออก ใช้ครกตำให้ละเอียดเป็นปุย
2. ตั้งกะทะรอให้น้ำมันร้อน โรยปลาลงไป จากนั้นตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
น้ำพริกปลาฟูจะทานคู่กับผักสดต่างๆ ค่ะ แต่วันนี้ที่บ้านมีแตงกวากับมะเขือเปราะ

ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานที่มีชื่อว่า “ขนมโคกะทิ”
ตอนที่เราอยู่หัวหินไปทานที่ร้านป้าปรางบ่อยมาก แต่ว่าเค้าจะขายประมาณ 4 ลูก 15 บาท วันนี้ก็เลยขอทำเองเลยค่ะ

ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 1/2 ถ้วยตวง, น้ำ (เราใช้น้ำทับทิม, ใบเตย, ฟักทอง) 1 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้
มะพร้าวขูด 2 1/2     ถ้วยตวง, น้ำตาล 1 1/4    ถ้วยตวง, น้ำลอยดอกมะลิ 1/2    ถ้วยตวง, เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมกะทิ
กะทิ 2 1/2     ถ้วยตวง, แป้งข้าวโพด 3    ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
ใบเตย 7 ใบ, งาขาวคั่ว 3     ช้อนโต๊ะ
(สำหรับกะทิ UHT ตัวนี้ จะไม่แต่งกลิ่นนะคะ อาจมีกลิ่นเหม็นหืนของกะทิเล็กน้อย แต่ใช้ใบเตยลงไปตัดกลิ่นได้ค่ะ)

วิธีทำไส้ (ขออภัยถ่ายแต่ส่วนผสม ลืมถ่ายตอนทำค่ะ)
1. นำน้ำลอยดอกมะลิ ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือลงไป เคี่ยวจนเหนียวเล็กน้อย
2. ใส่มะพร้าวขูดลงไป กวดต่อจนเหนียวปั้นได้ พักไว้ให้เย็น

วิธีทำส่วนกะทิ
1. ผสมส่วนผสมกะทิเข้าด้วยกันทั้งหมด ตั้งไฟอ่อนคนจนเดือด และข้นเล็กน้อย
2. พักไว้จนเย็น

วิธีทำแป้ง
1. นวดแป้งกับน้ำให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ำไปเรื่อยๆ นวดจนแป้งไม่ติดมือ พักไว้ (ใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้) ทำจนครบทุกสี
2. เตรียมแป้งกับไส้ ให้ขนาดใกล้เคียงกัน
3. แผ่แป้งแล้วหุ้มไส้ให้มิด ปั้นจนเป็นลูกกลม
4. ต้มขนมในน้ำเดือด พอสุกจะลอยขึ้น ตักใส่กะทิ
5. เทงาขาวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน พร้อมแล้วตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ

พร้อมแล้วก็เตรียมตัวทานได้เลยค่ะ ขอบคุณที่รับชมนะคะ