ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ที่นับผิดนับใหม่ได้ที่พูดๆกัน

นั่นทำให้ คุณไปไม่ถึง แก่นของ แนวคิด

คลื่นแต่ละคลื่นมีความหมายของมันเอง
ยกตัวอย่าง ตอนนี้ คุณรู้สึกอย่างไรกับเศรษฐกิจโลก และเมืองไทย
คุณเห็นพฤติกรรมของ ผู้เล่นรายใหญ่ใน real sector ไหมว่า ตอนนี้เค้าทำอะไร
คนทั่วไปตอนนี้มีความรู้สึกอย่างไร

แต่อย่าเอาความรู้สึกนักลงทุนรายย่อย มาวัดนะครับ
เพราะมันสับสน มันอยู่ใกล้ไป คนหนึ่งบอกขึน 2-3000 บอกคนลง 1200-800
ถามว่า ทำไม ก็ตอบลำบากใช่ไหม นั่นคือความรู้สึก คุณเองงัย

Elliot ไม่เคยบอกว่า wave 3 คืออะไร ไม่มีตำราเล่มใด บอกว่า แต่ละคลื่นมันมีจิตวิผญญานอะไร
คนที่เรียนมาจึงเรียนแต่เปลือกแล้วมาใช้กันไงครับ

ก็กะกันไปมั่วๆ เท่านั้น เอาเท่ห์ เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้ นับจนถึง 5000 จุด ก็มี
หุ้นจะขึ้นไปอีก 13 ปี ก็มี ถามว่าเป็นไปได้ไหม เป็นไปได้หมดครับ

แต่เวลาจะพิสูจน์

ดังนั้นที่ผมเขียนมาเยอะนี่ คือ บอกแค่ว่า ใช้elliot ได้แต่อย่าหลง อยู่กับปัจจุบัน และมั่นตรวจสอบความสอดคล้อง
ของเผศรษฐกิจโลกและไทยไปด้วย ตามที่เคยบอกเรื่อง tf ใหญ่คุมเล็ก เล็กสร้างใหญ่

ไม่มีการคาดการณ์ ที่ยาวนานเกินไปแล้วแม่นยำครับ
ยิ่งนานยิ่งเสี่ยง เพราะอะไร ลองคิดดู





ก่อนนับแนะนำ นั่งสมาธิ แล้วเอาจิตหยั่งลงไปในจิตวิญญาน ของคลื่น เหตุผลของแต่ละคลื่น ธรรมชาติของมัน ซึ่งมันอาจจะยากมาก แต่คงไม่ยากเกินคนครับ

ในคลื่นใหญ่มีคลื่นเล็ก ซึ่งความรู้สึกตรงนี้แหละที่มัน complex ไม่ใช่ simplex เหมือนกับที่ทุกท่านกำลังทำอยู่ครับ(ในด้านจิตวิญญานของแต่ละคลื่นที่ทับซ้อนกัน

คุณต้องทราบว่า คลื่น 1 คืออะไร คลื่น2 ในคลื่น1 คืออะไร และคลื่น1 ในคลื่น3 ของคลื่น1 คืออะไรด้วย เป็นต้น

ดังนั้น เรามาดูกันก่อนว่า ตอนนี้ ความรู้สึกของคน กับสถานการณ์ ปัจจุบัน มันคือคลื่นอะไรกันแน่

1789 และ 300กว่า ที่ผ่านมา คือ คลื่น 1 และ 2 แน่นอน หลังจากนั้น และตอนนี้ละครับ

ที่เราassumeได้แน่ๆ คือ เราอยู่ในช่วง cycle trend แต่ super cycle หรือ grandsuper cycle หรือไม่ยังไม่ทราบ ต้องรอเฉลย อีกนาน

ที่เขียนกระทู้นี้ คือ เท่าที่อ่าน คนนับelliot ขาดความรู้สึกและจิตวิญญานของคลื่นไป
ดังนั้น จึงไม่สามารถพัฒนาได้ในขั้นสูงสุดนะครับ

เห็นข้อบกพร่องจึงมาบอกกันนะ