เย็นวันนึงเด็กน้อยน่ารักกำลังตุ้ยนุ้ยคนนึงกำลังเดินกลับบ้าน ระหว่างทางนั้นต้องเข้าซอยจากถนนใหญ่ผ่านที่รกร้างแคบๆจึงจะถึงบ้าน วันนั้นเธอเดินสวนกับใครคนหนึ่ง แว่บแรกที่เข้ามาในหัวคือ ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เธอหันกลับไปมองที่เค้า และเค้าก็หันกลับมามองที่เธอเช่นกัน
"ผมเคยรู้จักน้าไหมฮะ ทำไมน้าดูคุ้นๆ"
"นั่นสินะ เราเคยรู้จักกันไหมน้อ? หนูรู้สึกแบบนั้นจริงๆเหรอ?"
ในความรู้สึกของเด็กน้อย น้าคนนี้หน้าคุ้นมาก ไม่ผอมมาก แต่ก็ไม่อ้วนเผละ ดูเหมือนจะมีอายุ แต่ดูดีๆ จากรอยยิ้มน่าจะไม่แก่สักเท่าไหร่น่า
"น้าอยู่แถวนี้เหรอฮะ?"
"อืมมมม....เรียกว่าเคยอยู่น่าจะดีกว่านะ" คิดถึงแถวนี้เหลือเกิน ให้ตายสิ พูดแล้วก็คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่
.
.
.
.
เช้านี้เป็นเช้าที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเรากำลังจะได้รับรางวัลสำคัญในชีวิตหลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิตน่ะสิ อะไรนะ? รางวัลอะไรน่ะเหรอ? ทายซิ
รถยนต์?
บ้าน?
เงินก้อนใหญ่?
ผู้ชาย???
บร้า.... มันพิเศษกว่านั่นเยอะ พวกเธอคงไม่รู้กันสิว่าตอนนี้เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำให้เราสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้แล้วนะ เหมือนในหนัง Back to the Future ไง เคยดูกันไหม? เพียงแต่ว่าตามกฎหมายแล้วรัฐจะอนุญาตให้เราสามารถทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น ซึ่งจะทำได้หลังจากถึงอายุเกษียณ โดยคนที่จะสามารถย้อนเวลาได้นั้นจะต้องส่งเงินสบทบให้รัฐมาไม่ต่ำกว่าสามสิบปีและผ่านการตรวจสอบสุขภาพร่างกายและจิตใจก่อนจะได้รับอนุญาตให้ย้อนเวลากลับไปได้ โดยข้อแม้คือ สามารถย้อนกลับไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 2 ชั่วโมง และห้ามนำของปัจจุบันไปทิ้งไว้ในโลกอดีต รวมถึงห้ามนำของจากอดีตกลับมาเด็ดขาด และห้ามทำธุรกรรมใดๆ อันจะมีผลกระทบกับโลกปัจจุบัน อาทิ ใบ้หวย เป็นต้น โดยสามารถเลือกช่วงเวลา สถานที่ที่อยากไปได้ สำหรับตัวเราเองนั้นเลือกกลับไปช่วงประมาณมัธยมต้น เราชอบช่วงเวลานั้นที่สุด ชีวิตที่ได้สนุกกับเพื่อนๆ ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อ้าาาาาา อยากกลับไปตอนนั้นเหลือเกิน...
.
.
.
.
กลับมาที่โลกในอดีต หลังจากที่เราเดินผ่านเส้นทางที่คุ้นเคยในวัยเด็ก มันพีคจริงๆนะเธอ โรงหนังทวีผลราม่า ยังคงมีอยู่จริงๆ สมัยนั้นเราชอบมาดูที่นี่ หนังฝรั่งสองเรื่องควบสิบบาทเอง น่าจะเพราะมีโรงหนังใกล้บ้านเราเลยซึมซับหนังเข้ามาในสายเลือดตั้งแต่เด็กๆโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้โรงหนังถูกรื้อไปนานแล้วกลายเป็นตลาดในชื่อเดียวกันให้รำลึกถึง อ้าา ตรงหัวโค้งยังเป็นร้านขายของชำจิตต์รุ่งโรจน์สโตร์ ตอนนี้กลายเป็นโลตัสเอ็กซ์เพรสไปแล้ว ภาพในอดีตค่อยๆโผล่ขึ้นมาตรงหน้าพร้อมน้ำตาที่คลออยู่เต็มสองเบ้าตา
ถนนที่เราเคยวิ่งข้ามตอนเด็กๆ ในสายตาเราตอนนี้กลายเป็นเหมือนซอยแคบๆแค่สามเลนพอให้รถวิ่งสวนกันได้ ซอยที่เราเคยใช้เวลาเดินนานสองนาน ตอนนี้ดูสั้นลงไปถนัดตา อะไรๆที่เราเคยคิดว่ามันกว้างใหญ่สมัยเด็กๆ พอโตแล้วกลับเล็กและแคบไปถนัดตาเลย ระหว่างเดินเข้าซอยนั้นสายตาเราก็ไปสะดุดกับเด็กน้อยที่คุ้นตา อ้าาา เด็กที่แสนน่ารักน่าชังคนนี้คือใครกันน้าาาาา ตื่นเต้นจริง
"ตกลงน้าเคยอยู่แถวนี้เหรอฮะ?"
"ใช่จ้ะ"
"หนูเคยดูหนังไหม? พวกหนังวิทยาศาสตร์ย้อนเวลาได้อะไรแบบนั้นอ่ะ"
"ไม่แน่ใจฮะ แต่เคยอ่านจากหนังสือแน่ๆ"
อ้าาา ใช่ๆ เราเป็นพวกชอบอ่านเรื่องพวกนี้จากหนังสือตั้งแต่เด็กๆนี่นา สารพัดนิยายวิทยาศาสตร์ พอโตมาก็อ่านนิตยสาร Science Illustrated, National Geographic พออายุมากขึ้นกลายเป็นอ่านหนังสือพวกนี้สนุกไปซะงั้น
"งั้นสมมุติว่าถ้าน้ามาจากโลกอนาคต แล้วน้ารู้จักหนูตอนโต หนูอยากถามอะไรน้าไหม?"
"อืมมม น่าสนุกดีนะฮะ" เด็กน้อยครุ่นคิด เด็กน้อยผู้เป็นนักอ่านการ์ตูนตัวยงเริ่มยิงคำถามใส่คนแปลกหน้า
"น้าเคยอ่านการ์ตูนไหมฮะ?"
"อ่านสิ น้าชอบการ์ตูน" ก็แหงล่ะเรามันคนเดียวกันนี้
"ตอนนี้ผมติดการ์ตูนเรื่องคำสาปฟาโรห์ กำลังสนุกเลย ผมอยากรู้ตอนจบฮะน้า สมัยน้าการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะจบไปนานแล้ว"
เจอคำถามแรกเราถึงกับหน้าเสียจนหนูน้อยสังเกตได้...
"มีอะไรเหรอครับ?"
"เอ่อ...จะว่ายังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าแครอล นางเอกของเราจะต้องถูกลากไป ลากมา กระโดดลงแม่น้ำไนล์อีกหลายครั้ง ถ้าเป็นโลกจริงนางน่าจะเป็นตัวแทนแข่งกระโดดน้ำหญิงไปนานแล้ว แต่บอกตรงๆ ว่าถึงสมัยน้ามันก็ยังไม่จบอ่ะ"
เด็กน้อยตกใจกับคำตอบ แต่ก็พยายามถามต่อ
"งั้นมายะก็ได้ฮะ น้ารู้จักมายะใช่ไหม? นักรักโลกมายา เรื่องนี้ต้องจบแน่ๆ ตอนนี้กำลังเข้มข้นเลย น้าช่วยเล่าตอนจบได้ไหมครับ?"
"เอ่อ....." เรากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ สงสารเด็กเหลือเกิน แต่ก็ไม่อยากโกหกเลยตอบกลับไป
"มายะเค้าน่าจะเป็นเพื่อนกับแครอลแน่ๆเลย เพราะสมัยน้าก็ยังไม่จบเช่นกัน น้าว่าเราน่าจะไม่มีโอกาสได้อ่านตอนจบสองเรื่องนี้ในช่วงอายุขัยของเราแล้วล่ะ..." เราตัดบทไปแบบนี้ อาจจะทำร้ายจิตใจดวงเล็กๆ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เด็กมีความหวังลมๆ แล้งๆ ไปจนแก่
เด็กน้อยทำท่าเหมือนจะร้องไห้
"เอางี้ หนูรู้จักนักสืบโคนันไหม?"
เด็กน้อยรีบพยักหน้า อ้าาา อย่างน้อยจะได้รู้ตอนจบสักเรื่องนึงก็ยังดี เด็กน้อยคิดแบบนั้น
"โคนันจะอยู่เป็นเพื่อนหนูไปจนหนูแก่เฒ่าเลยจ้ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดีใจไหม?
เด็กน้อยที่ตอนนี้อยากจะกระโดดถีบคนแปลกหน้าแต่ยับยั้งชั่งใจได้เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
"งั้นเปลี่ยนเป็นถามว่าผมจะได้เป็นแฟนกับ xxx หรือเปล่าฮะ" เด็กน้อยถามเสียงแผ่วเบาแบบอายๆ
"คิดว่าน่าจะไม่นะ คบเป็นเพื่อนน่าจะดีกว่า"
สีหน้าเด็กน้อยสลดลง พลางนึกอะไรสักอย่างแล้วถามต่อ
"งั้นถ้าไม่ได้ xxx แล้ว yyy นี่เป็นไงบ้างฮะ?"
"เอออออ... ก็น่าจะเหมือน xxx นะหนู"
เด็กน้อยตอนนี้แทบร้องไห้ "แสดงว่า ไปลงเอยที่ aaa หรือ bbb สินะฮะ..."
เราคิดในใจ นังเด็กแก่แดด นี่คิดแต่เรื่องผู้ชายในหัวเหรอ???... กรี๊ดดด สติกลับคืนมา นี่มันเรานี่หว่า จะมานั่งด่าตัวเองทำไมเนี่ย?
"เอางี้นะหนู น้าบอกได้แค่ว่ามันจะเป็นยังไงหนูอย่าไปสนใจมากเลยนะ หนูแค่เป็นตัวหนูเอง เดี๋ยวคนที่ชอบหนูจริงๆ เค้าจะมาหาหนูเอง"
หนูน้อยยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอย่างมีความหวังโดยที่เราไม่ได้บอกส่วนที่เหลือออกไปว่า "แต่เค้าอาจไม่โผล่มาในชาตินี้นะหนู ส่วนจะชาติไหนเรามาลุ้นด้วยกันนะลูก"
"อ้อ วันนี้ม่าม้าทำอะไรให้กินล่ะ" เราเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
"ไข่หวานฮะ และน่าจะเป็นผัดกะหล่ำ เห็นม้าบอกเมื่อเช้าว่าให้กลับมากิน"
ตอนนี้กลับเป็นตัวเราเองที่น้ำตาคลอ ถ้าเป็นไปได้อยากกลับบ้านไปพร้อมกับเด็กคนนี้จัง อยากกินอาหารฝีมือม้าอีก ไม่มีอะไรอร่อยเท่าอาหารฝีมือม้าอีกแล้ว ตอนนี้เราไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว ม่าม้าป่วย เส้นเลือดในสมองแตกบางส่วนเลยนอนไม่รับรู้อะไรมานานแล้ว ยังดีที่อย่างน้อยยังจำเราได้บ้าง แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้จำกัดเหลือเกิน
"กินเยอะๆนะ ม้าทำอะไรมาก็กินให้หมด อาหารที่ม้าทำอร่อยที่สุดในโลกแล้ว แล้วอย่าไปทะเลาะกับม้าล่ะ รักม้าให้มากๆ" เราพูดไปพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลเป็นทาง
ปี๊บๆๆๆ เสียงแปลกๆที่ไม่คุ้นหูดังมาจากอุปกรณ์อันนึงในเสื้อที่เป็นสัญญาณบอกว่าเวลากำลังจะหมดลงแล้ว ทำไมสองชั่วโมงมันผ่านไปไวจังวะ?
"น้าต้องไปแล้วนะ อย่าลืมที่น้าบอกล่ะ"
"งั้นโตขึ้นหนูจะทำงานอะไรฮะน้า? แอร์โฮสเตส? นางแบบ?"
"เอิ่ม อีหนู กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงหน่อยลูก" ชั้นคิดในใจ
"ไม่ใช่หรอก แต่เอาเป็นว่าโตขึ้นหนูจะได้ทำงานที่หนูชอบและมีความสุขกับมันนะ หนูจะไม่ลำบากอะไรมากมาย สิ่งน้าอยากบอกหนูคืออยากให้หนูรักครอบครัวหนูให้มากๆ ถ้าเป็นไปได้บอกป๊าให้กินเหล้าน้อยๆ ล่ะ" เราพูดเสียงสั่น ก็งานศพป๊าเพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนมานี่เอง
เสียงเตือนดังถี่ขึ้น เร่งเร้าให้บทสนทนาต้องรีบจบ
"อ้อ หนังสือการ์ตูนน่ะ ซื้อแล้วเก็บให้ดีๆ น้า อนาคตมันจะมีค่ามาก ส่วนเรื่องผู้ชายถ้ามีใครมาชอบก็อย่าเล่นตัว ให้โอกาสเค้าบ้าง......"
ไม่ทันพูดจนจบเราก็พบว่าตัวเองถูกส่งกลับมาในโลกปัจจุบันจนได้ คราบน้ำตายังคงมีอยู่ให้เห็น
ชั้นเดินอมยิ้มออกมา แล้วแวะเถลไถลระหว่างทางกลับบ้านหาข้าวทาน ตั้งแต่เด็กจนแก่เราไม่เคยมีแฟนกับเค้าเลยสักคน มีแต่เคยไปชอบคนนู้นคนนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ลงเอยกับใครสักที อาจจะเป็นเพราะปากแข็ง ไม่กล้าบอกเค้า สุดท้ายพอรู้ตัวอีกทีก็แก่ขนาดนี้แล้ว...
เรากลับมาถึงห้องไม่ดึกนัก แล้วก็แปลกใจ (แต่ตกใจมากกว่า) ที่ประตูห้องไม่ได้ล็อคไว้ เพราะตอนออกมาจำได้ว่าล็อคอย่างดีแล้วนี่ ฉิบ_ายล่ะ โจรขึ้นบ้านแน่ๆ กรี๊ดดดด
เรารีบเปิดประตูเข้าไปในห้องเสียงดัง ปัง!! พร้อมเสียงตกใจของใครบางคนดังมาจากในห้อง
"อะไรกันเธอ เปิดเบาๆก็ได้ ตกใจหมด"
ชั้นยืนงงกับภาพตรงหน้า...
ชายคนนึงนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา พร้อมอาหารวางอยู่สองจานบนโต๊ะ
"ผมทำข้าวรอไว้อยู่เนี่ย ทำไมเธอมาช้าจังเลย หิวแล้วเนี่ย.."
ระหว่างที่กำลังยืนสับสนอยู่เพราะตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอดชีวิต แล้วนี่ใคร? หรือเข้าห้องผิด? ไม่นะ นี่มันของของเราหมดเลยนี่หว่า...
ฉับพลันอยู่ดีๆก็มีกระแสภาพเก่าๆค่อยๆไหลเข้ามาในหัว มาจากส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำ จริงสิสมัยเด็กๆ เคยมีใครคนนึงมาจีบเรา เป็นหนึ่งเดียวจริงๆ แต่เราอายไง ก็มันเด็กอ่ะนะ แล้วเราก็ไม่ได้ชอบเค้าด้วย เลยพยายามหนี จนสุดท้ายอีกฝ่ายยอมแพ้ไปเอง แต่ตอนนี้ภาพที่ไหลเข้ามากลับเป็นตัวเราสมัยนั้นยอมใจอ่อนคบกับเค้า ไม่น่าเชื่อด้วยว่าเค้าจะเป็นหนึ่งเดียวของเราที่อยู่คู่ชีวิตเรามาจนถึงตอนนี้ อ้าาาในที่สุดเด็กคนนี้มันสามารถเปลี่ยนชะตาตัวเองให้มีแฟนกับเค้าจริงๆด้วย 555 ไม่คิดว่าสองชั่วโมงที่เสียไปมันเปลี่ยนชีวิตได้ขนาดนั้น ดีใจโว้ยยยย!!!
"เป็นไงมั่งเธอ มาทานข้าวกัน แล้วเล่าให้ฟังหน่อยว่าตกลงวันนี้เลือกที่จะย้อนเวลากลับไปทำอะไร"
ชั้นค่อยๆ นั่งลงข้างๆเค้าแล้วเริ่มต้นเรื่องราวของวันนี้...
"เรากลับไปบ้านเราสมัยเด็กๆล่ะ...."
.
.
.
.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156532267769445&id=370287299444
เรื่องราวทั้งหมดมาจากแรงบันดาลใจจากการอ่านลิงค์ข้างบน เลยขออนุญาตนำมาเล่าใหม่ตามแบบของผมซึ่งบางส่วนมาจากเรื่องจริง และแต่งขึ้นอีกบางส่วนนะครับ
แล้วถ้าเพื่อนๆ สามารถย้อนเวลากลับไปได้เหมือนเรื่องนี้ ท่านอยากกลับไปช่วงเวลาไหนในชีวิตกันบ้างครับ?
+++ ถ้าหากย้อนอดีตกลับไปได้ 2 ชั่วโมง คุณอยากย้อนกลับไปช่วงเวลาไหน? +++
"ผมเคยรู้จักน้าไหมฮะ ทำไมน้าดูคุ้นๆ"
"นั่นสินะ เราเคยรู้จักกันไหมน้อ? หนูรู้สึกแบบนั้นจริงๆเหรอ?"
ในความรู้สึกของเด็กน้อย น้าคนนี้หน้าคุ้นมาก ไม่ผอมมาก แต่ก็ไม่อ้วนเผละ ดูเหมือนจะมีอายุ แต่ดูดีๆ จากรอยยิ้มน่าจะไม่แก่สักเท่าไหร่น่า
"น้าอยู่แถวนี้เหรอฮะ?"
"อืมมมม....เรียกว่าเคยอยู่น่าจะดีกว่านะ" คิดถึงแถวนี้เหลือเกิน ให้ตายสิ พูดแล้วก็คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่
.
.
.
.
เช้านี้เป็นเช้าที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเรากำลังจะได้รับรางวัลสำคัญในชีวิตหลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิตน่ะสิ อะไรนะ? รางวัลอะไรน่ะเหรอ? ทายซิ
รถยนต์?
บ้าน?
เงินก้อนใหญ่?
ผู้ชาย???
บร้า.... มันพิเศษกว่านั่นเยอะ พวกเธอคงไม่รู้กันสิว่าตอนนี้เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำให้เราสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้แล้วนะ เหมือนในหนัง Back to the Future ไง เคยดูกันไหม? เพียงแต่ว่าตามกฎหมายแล้วรัฐจะอนุญาตให้เราสามารถทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น ซึ่งจะทำได้หลังจากถึงอายุเกษียณ โดยคนที่จะสามารถย้อนเวลาได้นั้นจะต้องส่งเงินสบทบให้รัฐมาไม่ต่ำกว่าสามสิบปีและผ่านการตรวจสอบสุขภาพร่างกายและจิตใจก่อนจะได้รับอนุญาตให้ย้อนเวลากลับไปได้ โดยข้อแม้คือ สามารถย้อนกลับไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 2 ชั่วโมง และห้ามนำของปัจจุบันไปทิ้งไว้ในโลกอดีต รวมถึงห้ามนำของจากอดีตกลับมาเด็ดขาด และห้ามทำธุรกรรมใดๆ อันจะมีผลกระทบกับโลกปัจจุบัน อาทิ ใบ้หวย เป็นต้น โดยสามารถเลือกช่วงเวลา สถานที่ที่อยากไปได้ สำหรับตัวเราเองนั้นเลือกกลับไปช่วงประมาณมัธยมต้น เราชอบช่วงเวลานั้นที่สุด ชีวิตที่ได้สนุกกับเพื่อนๆ ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อ้าาาาาา อยากกลับไปตอนนั้นเหลือเกิน...
.
.
.
.
กลับมาที่โลกในอดีต หลังจากที่เราเดินผ่านเส้นทางที่คุ้นเคยในวัยเด็ก มันพีคจริงๆนะเธอ โรงหนังทวีผลราม่า ยังคงมีอยู่จริงๆ สมัยนั้นเราชอบมาดูที่นี่ หนังฝรั่งสองเรื่องควบสิบบาทเอง น่าจะเพราะมีโรงหนังใกล้บ้านเราเลยซึมซับหนังเข้ามาในสายเลือดตั้งแต่เด็กๆโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้โรงหนังถูกรื้อไปนานแล้วกลายเป็นตลาดในชื่อเดียวกันให้รำลึกถึง อ้าา ตรงหัวโค้งยังเป็นร้านขายของชำจิตต์รุ่งโรจน์สโตร์ ตอนนี้กลายเป็นโลตัสเอ็กซ์เพรสไปแล้ว ภาพในอดีตค่อยๆโผล่ขึ้นมาตรงหน้าพร้อมน้ำตาที่คลออยู่เต็มสองเบ้าตา
ถนนที่เราเคยวิ่งข้ามตอนเด็กๆ ในสายตาเราตอนนี้กลายเป็นเหมือนซอยแคบๆแค่สามเลนพอให้รถวิ่งสวนกันได้ ซอยที่เราเคยใช้เวลาเดินนานสองนาน ตอนนี้ดูสั้นลงไปถนัดตา อะไรๆที่เราเคยคิดว่ามันกว้างใหญ่สมัยเด็กๆ พอโตแล้วกลับเล็กและแคบไปถนัดตาเลย ระหว่างเดินเข้าซอยนั้นสายตาเราก็ไปสะดุดกับเด็กน้อยที่คุ้นตา อ้าาา เด็กที่แสนน่ารักน่าชังคนนี้คือใครกันน้าาาาา ตื่นเต้นจริง
"ตกลงน้าเคยอยู่แถวนี้เหรอฮะ?"
"ใช่จ้ะ"
"หนูเคยดูหนังไหม? พวกหนังวิทยาศาสตร์ย้อนเวลาได้อะไรแบบนั้นอ่ะ"
"ไม่แน่ใจฮะ แต่เคยอ่านจากหนังสือแน่ๆ"
อ้าาา ใช่ๆ เราเป็นพวกชอบอ่านเรื่องพวกนี้จากหนังสือตั้งแต่เด็กๆนี่นา สารพัดนิยายวิทยาศาสตร์ พอโตมาก็อ่านนิตยสาร Science Illustrated, National Geographic พออายุมากขึ้นกลายเป็นอ่านหนังสือพวกนี้สนุกไปซะงั้น
"งั้นสมมุติว่าถ้าน้ามาจากโลกอนาคต แล้วน้ารู้จักหนูตอนโต หนูอยากถามอะไรน้าไหม?"
"อืมมม น่าสนุกดีนะฮะ" เด็กน้อยครุ่นคิด เด็กน้อยผู้เป็นนักอ่านการ์ตูนตัวยงเริ่มยิงคำถามใส่คนแปลกหน้า
"น้าเคยอ่านการ์ตูนไหมฮะ?"
"อ่านสิ น้าชอบการ์ตูน" ก็แหงล่ะเรามันคนเดียวกันนี้
"ตอนนี้ผมติดการ์ตูนเรื่องคำสาปฟาโรห์ กำลังสนุกเลย ผมอยากรู้ตอนจบฮะน้า สมัยน้าการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะจบไปนานแล้ว"
เจอคำถามแรกเราถึงกับหน้าเสียจนหนูน้อยสังเกตได้...
"มีอะไรเหรอครับ?"
"เอ่อ...จะว่ายังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าแครอล นางเอกของเราจะต้องถูกลากไป ลากมา กระโดดลงแม่น้ำไนล์อีกหลายครั้ง ถ้าเป็นโลกจริงนางน่าจะเป็นตัวแทนแข่งกระโดดน้ำหญิงไปนานแล้ว แต่บอกตรงๆ ว่าถึงสมัยน้ามันก็ยังไม่จบอ่ะ"
เด็กน้อยตกใจกับคำตอบ แต่ก็พยายามถามต่อ
"งั้นมายะก็ได้ฮะ น้ารู้จักมายะใช่ไหม? นักรักโลกมายา เรื่องนี้ต้องจบแน่ๆ ตอนนี้กำลังเข้มข้นเลย น้าช่วยเล่าตอนจบได้ไหมครับ?"
"เอ่อ....." เรากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ สงสารเด็กเหลือเกิน แต่ก็ไม่อยากโกหกเลยตอบกลับไป
"มายะเค้าน่าจะเป็นเพื่อนกับแครอลแน่ๆเลย เพราะสมัยน้าก็ยังไม่จบเช่นกัน น้าว่าเราน่าจะไม่มีโอกาสได้อ่านตอนจบสองเรื่องนี้ในช่วงอายุขัยของเราแล้วล่ะ..." เราตัดบทไปแบบนี้ อาจจะทำร้ายจิตใจดวงเล็กๆ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เด็กมีความหวังลมๆ แล้งๆ ไปจนแก่
เด็กน้อยทำท่าเหมือนจะร้องไห้
"เอางี้ หนูรู้จักนักสืบโคนันไหม?"
เด็กน้อยรีบพยักหน้า อ้าาา อย่างน้อยจะได้รู้ตอนจบสักเรื่องนึงก็ยังดี เด็กน้อยคิดแบบนั้น
"โคนันจะอยู่เป็นเพื่อนหนูไปจนหนูแก่เฒ่าเลยจ้ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดีใจไหม?
เด็กน้อยที่ตอนนี้อยากจะกระโดดถีบคนแปลกหน้าแต่ยับยั้งชั่งใจได้เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
"งั้นเปลี่ยนเป็นถามว่าผมจะได้เป็นแฟนกับ xxx หรือเปล่าฮะ" เด็กน้อยถามเสียงแผ่วเบาแบบอายๆ
"คิดว่าน่าจะไม่นะ คบเป็นเพื่อนน่าจะดีกว่า"
สีหน้าเด็กน้อยสลดลง พลางนึกอะไรสักอย่างแล้วถามต่อ
"งั้นถ้าไม่ได้ xxx แล้ว yyy นี่เป็นไงบ้างฮะ?"
"เอออออ... ก็น่าจะเหมือน xxx นะหนู"
เด็กน้อยตอนนี้แทบร้องไห้ "แสดงว่า ไปลงเอยที่ aaa หรือ bbb สินะฮะ..."
เราคิดในใจ นังเด็กแก่แดด นี่คิดแต่เรื่องผู้ชายในหัวเหรอ???... กรี๊ดดด สติกลับคืนมา นี่มันเรานี่หว่า จะมานั่งด่าตัวเองทำไมเนี่ย?
"เอางี้นะหนู น้าบอกได้แค่ว่ามันจะเป็นยังไงหนูอย่าไปสนใจมากเลยนะ หนูแค่เป็นตัวหนูเอง เดี๋ยวคนที่ชอบหนูจริงๆ เค้าจะมาหาหนูเอง"
หนูน้อยยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอย่างมีความหวังโดยที่เราไม่ได้บอกส่วนที่เหลือออกไปว่า "แต่เค้าอาจไม่โผล่มาในชาตินี้นะหนู ส่วนจะชาติไหนเรามาลุ้นด้วยกันนะลูก"
"อ้อ วันนี้ม่าม้าทำอะไรให้กินล่ะ" เราเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
"ไข่หวานฮะ และน่าจะเป็นผัดกะหล่ำ เห็นม้าบอกเมื่อเช้าว่าให้กลับมากิน"
ตอนนี้กลับเป็นตัวเราเองที่น้ำตาคลอ ถ้าเป็นไปได้อยากกลับบ้านไปพร้อมกับเด็กคนนี้จัง อยากกินอาหารฝีมือม้าอีก ไม่มีอะไรอร่อยเท่าอาหารฝีมือม้าอีกแล้ว ตอนนี้เราไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว ม่าม้าป่วย เส้นเลือดในสมองแตกบางส่วนเลยนอนไม่รับรู้อะไรมานานแล้ว ยังดีที่อย่างน้อยยังจำเราได้บ้าง แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้จำกัดเหลือเกิน
"กินเยอะๆนะ ม้าทำอะไรมาก็กินให้หมด อาหารที่ม้าทำอร่อยที่สุดในโลกแล้ว แล้วอย่าไปทะเลาะกับม้าล่ะ รักม้าให้มากๆ" เราพูดไปพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลเป็นทาง
ปี๊บๆๆๆ เสียงแปลกๆที่ไม่คุ้นหูดังมาจากอุปกรณ์อันนึงในเสื้อที่เป็นสัญญาณบอกว่าเวลากำลังจะหมดลงแล้ว ทำไมสองชั่วโมงมันผ่านไปไวจังวะ?
"น้าต้องไปแล้วนะ อย่าลืมที่น้าบอกล่ะ"
"งั้นโตขึ้นหนูจะทำงานอะไรฮะน้า? แอร์โฮสเตส? นางแบบ?"
"เอิ่ม อีหนู กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงหน่อยลูก" ชั้นคิดในใจ
"ไม่ใช่หรอก แต่เอาเป็นว่าโตขึ้นหนูจะได้ทำงานที่หนูชอบและมีความสุขกับมันนะ หนูจะไม่ลำบากอะไรมากมาย สิ่งน้าอยากบอกหนูคืออยากให้หนูรักครอบครัวหนูให้มากๆ ถ้าเป็นไปได้บอกป๊าให้กินเหล้าน้อยๆ ล่ะ" เราพูดเสียงสั่น ก็งานศพป๊าเพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนมานี่เอง
เสียงเตือนดังถี่ขึ้น เร่งเร้าให้บทสนทนาต้องรีบจบ
"อ้อ หนังสือการ์ตูนน่ะ ซื้อแล้วเก็บให้ดีๆ น้า อนาคตมันจะมีค่ามาก ส่วนเรื่องผู้ชายถ้ามีใครมาชอบก็อย่าเล่นตัว ให้โอกาสเค้าบ้าง......"
ไม่ทันพูดจนจบเราก็พบว่าตัวเองถูกส่งกลับมาในโลกปัจจุบันจนได้ คราบน้ำตายังคงมีอยู่ให้เห็น
ชั้นเดินอมยิ้มออกมา แล้วแวะเถลไถลระหว่างทางกลับบ้านหาข้าวทาน ตั้งแต่เด็กจนแก่เราไม่เคยมีแฟนกับเค้าเลยสักคน มีแต่เคยไปชอบคนนู้นคนนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ลงเอยกับใครสักที อาจจะเป็นเพราะปากแข็ง ไม่กล้าบอกเค้า สุดท้ายพอรู้ตัวอีกทีก็แก่ขนาดนี้แล้ว...
เรากลับมาถึงห้องไม่ดึกนัก แล้วก็แปลกใจ (แต่ตกใจมากกว่า) ที่ประตูห้องไม่ได้ล็อคไว้ เพราะตอนออกมาจำได้ว่าล็อคอย่างดีแล้วนี่ ฉิบ_ายล่ะ โจรขึ้นบ้านแน่ๆ กรี๊ดดดด
เรารีบเปิดประตูเข้าไปในห้องเสียงดัง ปัง!! พร้อมเสียงตกใจของใครบางคนดังมาจากในห้อง
"อะไรกันเธอ เปิดเบาๆก็ได้ ตกใจหมด"
ชั้นยืนงงกับภาพตรงหน้า...
ชายคนนึงนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา พร้อมอาหารวางอยู่สองจานบนโต๊ะ
"ผมทำข้าวรอไว้อยู่เนี่ย ทำไมเธอมาช้าจังเลย หิวแล้วเนี่ย.."
ระหว่างที่กำลังยืนสับสนอยู่เพราะตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอดชีวิต แล้วนี่ใคร? หรือเข้าห้องผิด? ไม่นะ นี่มันของของเราหมดเลยนี่หว่า...
ฉับพลันอยู่ดีๆก็มีกระแสภาพเก่าๆค่อยๆไหลเข้ามาในหัว มาจากส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำ จริงสิสมัยเด็กๆ เคยมีใครคนนึงมาจีบเรา เป็นหนึ่งเดียวจริงๆ แต่เราอายไง ก็มันเด็กอ่ะนะ แล้วเราก็ไม่ได้ชอบเค้าด้วย เลยพยายามหนี จนสุดท้ายอีกฝ่ายยอมแพ้ไปเอง แต่ตอนนี้ภาพที่ไหลเข้ามากลับเป็นตัวเราสมัยนั้นยอมใจอ่อนคบกับเค้า ไม่น่าเชื่อด้วยว่าเค้าจะเป็นหนึ่งเดียวของเราที่อยู่คู่ชีวิตเรามาจนถึงตอนนี้ อ้าาาในที่สุดเด็กคนนี้มันสามารถเปลี่ยนชะตาตัวเองให้มีแฟนกับเค้าจริงๆด้วย 555 ไม่คิดว่าสองชั่วโมงที่เสียไปมันเปลี่ยนชีวิตได้ขนาดนั้น ดีใจโว้ยยยย!!!
"เป็นไงมั่งเธอ มาทานข้าวกัน แล้วเล่าให้ฟังหน่อยว่าตกลงวันนี้เลือกที่จะย้อนเวลากลับไปทำอะไร"
ชั้นค่อยๆ นั่งลงข้างๆเค้าแล้วเริ่มต้นเรื่องราวของวันนี้...
"เรากลับไปบ้านเราสมัยเด็กๆล่ะ...."
.
.
.
.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156532267769445&id=370287299444
เรื่องราวทั้งหมดมาจากแรงบันดาลใจจากการอ่านลิงค์ข้างบน เลยขออนุญาตนำมาเล่าใหม่ตามแบบของผมซึ่งบางส่วนมาจากเรื่องจริง และแต่งขึ้นอีกบางส่วนนะครับ
แล้วถ้าเพื่อนๆ สามารถย้อนเวลากลับไปได้เหมือนเรื่องนี้ ท่านอยากกลับไปช่วงเวลาไหนในชีวิตกันบ้างครับ?