สวัสดีครับ
พอดีมีเพื่อนคนนึง(ผู้ชาย) มาปรึกษาและเล่าชีวิตในผมฟัง เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า เขาคบกับแฟน(ผู้หญิง)มา เข้าปีที่ 6 ปีนี้แล้ว คบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย
เพื่อนผม เรียนจบไป ทำค้าขาย ส่วนแฟนเพื่อนเรียนจบไป ทำงานเป็นข้าราชการ ทั้งคู่อยู่คนละจังหวัด นานๆเจอกันที
ซึ่งครอบครัวแฟนเพื่อนก็ทำงานเป็นข้าราชการและเล่นการเมืองท้องถิ่นทั้งบ้านครับ ค่อนข้างมีฐานะพอสมควร เพื่อนผมไม่กล้าไปพบพ่อแม่เขา
เพราะแฟนเพื่อนเล่าให้ฟังว่าทางบ้านหวงลูกสาวมาก ยังไม่พร้อมเข้าพบ
เมื่อ2ปีที่ผ่านมา เพื่อนผมกิจการเริ่มมีเงินเก็บรายเดือนมากขึ้น มันบอกว่าตอนนั้นเริ่มคิดตัดสินใจว่า จะเก็บเงินไว้เป็นสินสอดไปสู่ขอแฟนตามประเพณีดีไหม
แต่ก็เห็นแฟน เวลาทำงาน เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก ประกอบกับทางบ้านของแฟนประสบปัญหาเรื่องเงิน จึงตัดสินใจผ่อนรถให้แฟนเป็นการลับๆ
ซึ่งแฟนก็โกหกทางบ้านว่าเงินเดือนเยอะ พอผ่อนรถได้ ทั้งที่จริงๆแล้ว หักนู่นนี่ ไม่ถึงหมื่นครับ ซึ่งเพื่อนผมมีเงินเหลือราวๆ 3หมื่นต่อเดือน หักรายจ่ายทั้งหมดแล้ว ไอ3หมื่นนั้น ก็ไปผ่อนรถ และช่วยรายจ่ายแฟนเรื่องอื่นๆบ้าง ซึ่งทำให้ไม่เหลือเงินเก็บเลยครับ
ผมถามเพื่อนกลับไปว่าแนวโน้มธุรกิจส่วนตัว จะมีเงินเก็บประมาณนี้ไปได้อีกกี่ปี เขาก็บอกว่า รายได้เขามีหลายทาง ถ้าค้าขายขาลง ก็มีฟรีแลนเข้าช่วย เรื่องผ่อนรถไหวจนถึงผ่อนหมดแน่นอน อันนี้หมดห่วงไปเปราะนึง
เกริ่นมาเยอะขอเข้าประเด็นเลยดีกว่า มีวันนึง แฟนเพื่อนผมบอกเพื่อนผมว่า เขาเคยลองถามทางบ้านเขาว่าถ้าจะแต่งงานคิดสินสอดเท่าไร ทางบ้านแฟนบอกว่า บ้านเราเป็นข้าราชการทั้งบ้าน เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถ้าจะแต่งงาน สินสอดต้องล้านอัพ มีทอง มีที่ดิน มีรถ มีบ้าน ให้เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวเรา ชาวบ้านจะได้ชื่นชม แฟนเพื่อนผมถามกลับไปว่า ถ้าแต่งแบบสินสอดน้อยๆ ไม่ได้หรอ สัก2-3แสน งานเล็กๆ ทำบุญให้เป็นมงคลก็พอ ทางบ้านก็บอกไม่ได้ แบบนั้นอายเขาแทบแทรกแผ่นดินอยู่ ชาวบ้านจะมาตรีตราว่าเป็นผู้หญิงไม่มีราคาน่ะสิ
คราวนี้แฟนก็กลับมาถามเพื่อนผมว่าไหวไหม สินสอดเท่านี้ เพื่อนผมตอบไปว่า อนาคตไม่รู้หรอก แต่ทุกวันนี้ ดูแลกัน ช่วยกันพยุงให้ยืนได้ทั้งคู่ก็okแล้ว ทุกวันนี้ ช่วยผ่อนรถ พอผ่อนหมด กว่าจะเก็บสินสอดครบ คงแก่ตายพอดีที่จะได้ซื้อบ้าน สู้เอาไปซื้อบ้านสวยๆอยู่ เอาไปลงทุนให้เงินงอกเงยไม่ดีกว่าหรอ
แล้วอย่าถามถึงเรื่องเงินเก็บเลย ถ้าจะเก็บเงินจริงๆ เดือนละ 3 หมื่น ปีนึง 360 000 กว่าจะเก็บครบสินสอด ชีวิตไม่ต้องพัฒนาไม่ต้องทำอะไรกันพอดี แฟนก็เดินทางลำบากไม่มีรถอีก
แฟนก็บอกว่าทางบ้านไม่ยอมแน่ๆ หัวโบราณ และรักชื่อเสียงมาก ส่วนถ้าไปเข้าพบตอนนี้แล้วเฉลยว่าเป็นแฟนกัน กำลังช่วยผ่อนรถ มีหวังโดนจับแต่งด้วยสินสอดที่เขากำหนดสถานเดียว ตามประเพณีเลย ถ้าไม่มีก็โดนห้ามคุยห้ามยุ่งอีกเลย มันจะยุ่งยากลำบาก และเครียดเข้าไปอีก เพราะข้าราชการหญิงคบกับพ่อค้ามา6ปี ไม่ยอมแต่งงาน มันเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเขา
เพื่อนผมมันมาปรับทุกข์กับผม ถามผมว่า สินสอด มันมีไว้ทำอะไรกันแน่ มีไว้เป็นเครื่องวัดว่าผู้ชายจะดูแลผู้หญิงได้ดีแค่ไหน หรือวัดความพยายามของผู้ชาย หรือมีไว้แค่อวด ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน จึงเกิดความสงสัย มาถามความคิดเห็นของชาวพันทิพย์ครับ
ปล.เพื่อนผม ยังไม่มีรถยนต์ขับนะครับ มีแต่มอเตอร์ไซต์ เพราะผ่อนรถยนต์เสียสละให้แฟนไปขับก่อน จากบ้านแฟนไปที่ทำงานไกล และค่อนข้างกลับดึกจึงจำเป็นต้องมีรถยนต์ครับ
(แก้ไขครั้งที่1 เพิ่มเนื้อหา : ผมไม่ขอบอก ไม่ขอพาดพิง ว่าเพื่อนผมอยู่ประเทศอะไร อาจจะอยู่ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทยก็ได้นะครับ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าผมพาดพิงข้าราชการและประเพณีไทยอีก เอาเป็นว่า ผมสมมติว่าประเทศๆนึงละกัน ซึ่งมีลักษณะและประเพณีคล้ายไทย แต่ไม่ใช่ประเทศไทยนะครับ แล้วให้เพื่อนผมอยู่ในประเทศนั้นละกัน จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการพาดพิงกัน จะได้แสดงความคิดเห็นกันได้ และขอสงวนไม่ใช้คำหยาบ และอคติ มาแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ถูกผิดกันอย่างสุภาพนะครับ)
สินสอดเป็นอะไรกันแน่ หรือแค่มีไว้อวด
พอดีมีเพื่อนคนนึง(ผู้ชาย) มาปรึกษาและเล่าชีวิตในผมฟัง เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า เขาคบกับแฟน(ผู้หญิง)มา เข้าปีที่ 6 ปีนี้แล้ว คบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย
เพื่อนผม เรียนจบไป ทำค้าขาย ส่วนแฟนเพื่อนเรียนจบไป ทำงานเป็นข้าราชการ ทั้งคู่อยู่คนละจังหวัด นานๆเจอกันที
ซึ่งครอบครัวแฟนเพื่อนก็ทำงานเป็นข้าราชการและเล่นการเมืองท้องถิ่นทั้งบ้านครับ ค่อนข้างมีฐานะพอสมควร เพื่อนผมไม่กล้าไปพบพ่อแม่เขา
เพราะแฟนเพื่อนเล่าให้ฟังว่าทางบ้านหวงลูกสาวมาก ยังไม่พร้อมเข้าพบ
เมื่อ2ปีที่ผ่านมา เพื่อนผมกิจการเริ่มมีเงินเก็บรายเดือนมากขึ้น มันบอกว่าตอนนั้นเริ่มคิดตัดสินใจว่า จะเก็บเงินไว้เป็นสินสอดไปสู่ขอแฟนตามประเพณีดีไหม
แต่ก็เห็นแฟน เวลาทำงาน เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก ประกอบกับทางบ้านของแฟนประสบปัญหาเรื่องเงิน จึงตัดสินใจผ่อนรถให้แฟนเป็นการลับๆ
ซึ่งแฟนก็โกหกทางบ้านว่าเงินเดือนเยอะ พอผ่อนรถได้ ทั้งที่จริงๆแล้ว หักนู่นนี่ ไม่ถึงหมื่นครับ ซึ่งเพื่อนผมมีเงินเหลือราวๆ 3หมื่นต่อเดือน หักรายจ่ายทั้งหมดแล้ว ไอ3หมื่นนั้น ก็ไปผ่อนรถ และช่วยรายจ่ายแฟนเรื่องอื่นๆบ้าง ซึ่งทำให้ไม่เหลือเงินเก็บเลยครับ
ผมถามเพื่อนกลับไปว่าแนวโน้มธุรกิจส่วนตัว จะมีเงินเก็บประมาณนี้ไปได้อีกกี่ปี เขาก็บอกว่า รายได้เขามีหลายทาง ถ้าค้าขายขาลง ก็มีฟรีแลนเข้าช่วย เรื่องผ่อนรถไหวจนถึงผ่อนหมดแน่นอน อันนี้หมดห่วงไปเปราะนึง
เกริ่นมาเยอะขอเข้าประเด็นเลยดีกว่า มีวันนึง แฟนเพื่อนผมบอกเพื่อนผมว่า เขาเคยลองถามทางบ้านเขาว่าถ้าจะแต่งงานคิดสินสอดเท่าไร ทางบ้านแฟนบอกว่า บ้านเราเป็นข้าราชการทั้งบ้าน เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถ้าจะแต่งงาน สินสอดต้องล้านอัพ มีทอง มีที่ดิน มีรถ มีบ้าน ให้เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวเรา ชาวบ้านจะได้ชื่นชม แฟนเพื่อนผมถามกลับไปว่า ถ้าแต่งแบบสินสอดน้อยๆ ไม่ได้หรอ สัก2-3แสน งานเล็กๆ ทำบุญให้เป็นมงคลก็พอ ทางบ้านก็บอกไม่ได้ แบบนั้นอายเขาแทบแทรกแผ่นดินอยู่ ชาวบ้านจะมาตรีตราว่าเป็นผู้หญิงไม่มีราคาน่ะสิ
คราวนี้แฟนก็กลับมาถามเพื่อนผมว่าไหวไหม สินสอดเท่านี้ เพื่อนผมตอบไปว่า อนาคตไม่รู้หรอก แต่ทุกวันนี้ ดูแลกัน ช่วยกันพยุงให้ยืนได้ทั้งคู่ก็okแล้ว ทุกวันนี้ ช่วยผ่อนรถ พอผ่อนหมด กว่าจะเก็บสินสอดครบ คงแก่ตายพอดีที่จะได้ซื้อบ้าน สู้เอาไปซื้อบ้านสวยๆอยู่ เอาไปลงทุนให้เงินงอกเงยไม่ดีกว่าหรอ
แล้วอย่าถามถึงเรื่องเงินเก็บเลย ถ้าจะเก็บเงินจริงๆ เดือนละ 3 หมื่น ปีนึง 360 000 กว่าจะเก็บครบสินสอด ชีวิตไม่ต้องพัฒนาไม่ต้องทำอะไรกันพอดี แฟนก็เดินทางลำบากไม่มีรถอีก
แฟนก็บอกว่าทางบ้านไม่ยอมแน่ๆ หัวโบราณ และรักชื่อเสียงมาก ส่วนถ้าไปเข้าพบตอนนี้แล้วเฉลยว่าเป็นแฟนกัน กำลังช่วยผ่อนรถ มีหวังโดนจับแต่งด้วยสินสอดที่เขากำหนดสถานเดียว ตามประเพณีเลย ถ้าไม่มีก็โดนห้ามคุยห้ามยุ่งอีกเลย มันจะยุ่งยากลำบาก และเครียดเข้าไปอีก เพราะข้าราชการหญิงคบกับพ่อค้ามา6ปี ไม่ยอมแต่งงาน มันเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเขา
เพื่อนผมมันมาปรับทุกข์กับผม ถามผมว่า สินสอด มันมีไว้ทำอะไรกันแน่ มีไว้เป็นเครื่องวัดว่าผู้ชายจะดูแลผู้หญิงได้ดีแค่ไหน หรือวัดความพยายามของผู้ชาย หรือมีไว้แค่อวด ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน จึงเกิดความสงสัย มาถามความคิดเห็นของชาวพันทิพย์ครับ
ปล.เพื่อนผม ยังไม่มีรถยนต์ขับนะครับ มีแต่มอเตอร์ไซต์ เพราะผ่อนรถยนต์เสียสละให้แฟนไปขับก่อน จากบ้านแฟนไปที่ทำงานไกล และค่อนข้างกลับดึกจึงจำเป็นต้องมีรถยนต์ครับ
(แก้ไขครั้งที่1 เพิ่มเนื้อหา : ผมไม่ขอบอก ไม่ขอพาดพิง ว่าเพื่อนผมอยู่ประเทศอะไร อาจจะอยู่ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทยก็ได้นะครับ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าผมพาดพิงข้าราชการและประเพณีไทยอีก เอาเป็นว่า ผมสมมติว่าประเทศๆนึงละกัน ซึ่งมีลักษณะและประเพณีคล้ายไทย แต่ไม่ใช่ประเทศไทยนะครับ แล้วให้เพื่อนผมอยู่ในประเทศนั้นละกัน จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการพาดพิงกัน จะได้แสดงความคิดเห็นกันได้ และขอสงวนไม่ใช้คำหยาบ และอคติ มาแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ถูกผิดกันอย่างสุภาพนะครับ)