วันนี้เราจะแชร์เรื่องศาลเจ้าที่อิเสะจากทริปเกียวโตล่าสุดให้ฟัง
ศาลเจ้าอิเสะหรืออิเสะจิงกู(Ise Grand Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและศักดิ์สิทธิมากๆของญี่ปุ่น ถ้าเทียบก็อารมณ์วัดพระอารามหลวงของไทยเลย ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลหรือตรงกับ พ.ศ. 539 แก่เทพี อะมะเตะระซุ(天照) หรือเทพีแห่งพระอาทิตย์ในศาสนาชินโต โดยตั้งแต่ ยุคอะซึกะ(飛鳥時代 – Asuka สมัยคศ 538-710) ทางราชสำนักจะส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงที่ยังไม่ผ่านการเสกสมรสมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงหรือ ไซโอหรือชื่อเต็มว่าอิสึกิ โนะ มิโกะ (Itsuki no Miko) ประจำศาลเจ้าอิเสะ จนกระทั่งถึง ยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ ระบบไซโอจึงสิ้นสุดลงแต่ปัจจุบันทางราชสำนักก็ยังคงส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงโดย
หัวหน้านักบวชหญิงคนปัจจุบันคือ ซะยะโกะ คุโระดะ หรืออดีตเจ้าหญิงซะยะโกะพระราชธิดาพระองค์เดียวใน สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ จักรพรรดิองค์ปัจจุบันซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักบวชหญิงสูงสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

นอกจากนี้ศาลเจ้าอิเสะยังเป็นที่เก็บรักษากระจกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นที่ใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษก
ซึ่งน่าเสียดายในใจกลางศาลเจ้าจริงๆ ไม่ได้รับอนุญาติให้ถ่ายรูป แต่ชาวญี่ปุ่นมักจะมาที่นี่ทุกๆปีเพื่อมาขอพร รับพลังงานที่ดี เราลองมาจุดที่เค้ายืนขอพรกัน อยู่ดีๆ มีลมจากไหนไม่รู้พัดผ่านศาลมาตรงหน้าเราตรงจุดที่ยืน คงเป็นทิศทางลม ไม่น่าล่ะคนญี่ปุ่นถึงรู้สึกศักดิ์สิทธิ์
บรรยากาศโดยรอบ
เนื่องจากเป็นสถานที่โบราณและศักดิ์สิทธิจึงมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านเต็มไปหมด ร่มรื่นมีลมเย็นๆพัดมาตลอด มีคนญี่ปุ่นแวะมาเยอะมาก ตอนเข้าไปรับพร มีคนแต่งตัวภูมิฐานมาเป็นกลุ่มมาเคารพศาลพร้อมๆกัน คงเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เคยเห็นรูปถ่ายอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อารัก โอบามา แวะมาศักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้



ที่ขาดไม่ได้ประจำวัดหรือศาลญี่ปุ่น มักจะมีเจ้าหน้าที่คอยขายเครื่องรางของขลังหาเงินเข้าวัด หากใครเห็นเครื่องรางของญี่ปุ่นจะพอทราบ ว่าเค้าจะอวยพรให้แบบเฉพาะเจาะจงเลย เช่น “เดินทางปลอดภัย” “คลอดลูกง่าย” “มั่งมีศรีสุข”
ศาลาไม้ที่นี่สวยงามมาก ฝีมือคนสมัยก่อนน่าทึ่งมาก เอาไม้ต่อๆกันอย่างประณีต ยังกับเป็นไม้แผ่นเดียว ทำไม้ตรงๆแข็งๆดัดเป็นโค้งสวยงาม
เคยได้ยินว่างานก่อสร้างของที่นี่เก่าแก่ และงานฝีมือมาก จนกลัวขาดผู้สืบทอด ช่างไม้ของที่นี่จึงมีงานหลักคือต้องรื้อศาล แล้วเอามาประกอบใหม่ตลอด เพื่อเข้าใจทักษะโบราณ และหากศาลเสียหายก็สามารถซ่อมแซมได้


มีบ่อปลาคารฟอยู่ข้างๆศาลา เหลือบมองดูปลา ปลาตัวใหญ่มากจนน่าตกใจ
ศาลเจ้าอิเสะ ศาลที่คนญี่ปุ่นต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต และถนนคนเดินโอคาเกะโยโคะโจ
ศาลเจ้าอิเสะหรืออิเสะจิงกู(Ise Grand Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและศักดิ์สิทธิมากๆของญี่ปุ่น ถ้าเทียบก็อารมณ์วัดพระอารามหลวงของไทยเลย ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลหรือตรงกับ พ.ศ. 539 แก่เทพี อะมะเตะระซุ(天照) หรือเทพีแห่งพระอาทิตย์ในศาสนาชินโต โดยตั้งแต่ ยุคอะซึกะ(飛鳥時代 – Asuka สมัยคศ 538-710) ทางราชสำนักจะส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงที่ยังไม่ผ่านการเสกสมรสมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงหรือ ไซโอหรือชื่อเต็มว่าอิสึกิ โนะ มิโกะ (Itsuki no Miko) ประจำศาลเจ้าอิเสะ จนกระทั่งถึง ยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ ระบบไซโอจึงสิ้นสุดลงแต่ปัจจุบันทางราชสำนักก็ยังคงส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงโดย
หัวหน้านักบวชหญิงคนปัจจุบันคือ ซะยะโกะ คุโระดะ หรืออดีตเจ้าหญิงซะยะโกะพระราชธิดาพระองค์เดียวใน สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ จักรพรรดิองค์ปัจจุบันซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักบวชหญิงสูงสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560
นอกจากนี้ศาลเจ้าอิเสะยังเป็นที่เก็บรักษากระจกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นที่ใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษก
ซึ่งน่าเสียดายในใจกลางศาลเจ้าจริงๆ ไม่ได้รับอนุญาติให้ถ่ายรูป แต่ชาวญี่ปุ่นมักจะมาที่นี่ทุกๆปีเพื่อมาขอพร รับพลังงานที่ดี เราลองมาจุดที่เค้ายืนขอพรกัน อยู่ดีๆ มีลมจากไหนไม่รู้พัดผ่านศาลมาตรงหน้าเราตรงจุดที่ยืน คงเป็นทิศทางลม ไม่น่าล่ะคนญี่ปุ่นถึงรู้สึกศักดิ์สิทธิ์
บรรยากาศโดยรอบ
เนื่องจากเป็นสถานที่โบราณและศักดิ์สิทธิจึงมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านเต็มไปหมด ร่มรื่นมีลมเย็นๆพัดมาตลอด มีคนญี่ปุ่นแวะมาเยอะมาก ตอนเข้าไปรับพร มีคนแต่งตัวภูมิฐานมาเป็นกลุ่มมาเคารพศาลพร้อมๆกัน คงเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เคยเห็นรูปถ่ายอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อารัก โอบามา แวะมาศักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้
ที่ขาดไม่ได้ประจำวัดหรือศาลญี่ปุ่น มักจะมีเจ้าหน้าที่คอยขายเครื่องรางของขลังหาเงินเข้าวัด หากใครเห็นเครื่องรางของญี่ปุ่นจะพอทราบ ว่าเค้าจะอวยพรให้แบบเฉพาะเจาะจงเลย เช่น “เดินทางปลอดภัย” “คลอดลูกง่าย” “มั่งมีศรีสุข”
ศาลาไม้ที่นี่สวยงามมาก ฝีมือคนสมัยก่อนน่าทึ่งมาก เอาไม้ต่อๆกันอย่างประณีต ยังกับเป็นไม้แผ่นเดียว ทำไม้ตรงๆแข็งๆดัดเป็นโค้งสวยงาม
เคยได้ยินว่างานก่อสร้างของที่นี่เก่าแก่ และงานฝีมือมาก จนกลัวขาดผู้สืบทอด ช่างไม้ของที่นี่จึงมีงานหลักคือต้องรื้อศาล แล้วเอามาประกอบใหม่ตลอด เพื่อเข้าใจทักษะโบราณ และหากศาลเสียหายก็สามารถซ่อมแซมได้
มีบ่อปลาคารฟอยู่ข้างๆศาลา เหลือบมองดูปลา ปลาตัวใหญ่มากจนน่าตกใจ