จหมื่นศรีสรรักษ์(วังหน้า) คือใคร

คือตอนแรกเข้าใจว่าจมื่นศรีสรรักษ์เป็นพระเจ้าปราสาททองในเรื่องขุนศึก

แต่ไปเจอ คห.หนึ่งในยูทูปบอกไม่ใช่ป็นคนอื่นเพราะสมัยพระเอากาทศรถ พระเจ้าปราสาททองท่านยังเด็กอยู่ แต่เป็นจหมื่นศรีสรรักษ์(วังหน้า)ต่างหาก เพราะพระเจ้าปราสาททองเกิด2143 ส่วนพระเอกาทศรถเป็นกษัตริย์ตอน 2148 พระเจ้าปราสาททองพึ่งอายุได้ไม่กี่ปีเอง

แต่ละครก็บอกว่าจะเป็นพระเจ้าปราสาททอง

ตอนอ่านนิยายเรื่องเจ้าไลผมก็เห็นว่าท่านได้เป็นจมื่นในสมัยพระเอกาทศรถ  และเป็นคนช่วยพระเจ้าทรงทำยึดอำนาจขึ้นครองราชย์ด้วย เพราะตอนเด็กท่านเป็นลูกศิษย์พระเจ้าทรงธรรม

แต่ในวิกิก็บอกว่าจมื่นคนนั้นคือคนนี้ จหมื่นศรีสรรักษ์วังหน้า


คำถามผมคือ
1.จหมื่น(วังหน้า)คนนี้มีตัวตนจริงไหมครับ
2.พระเจ้าปราสาททองรับราชการตั้งแต่สมัยไหน ทันพอจะไปดวลดาบกับตัวละครสมมติยุคเสมาได้ไหม
3.ใครเป็นคนช่วยพระเจ้าทรงธรรมยึดอำนาจ พระเจ้าปราสาททอง หรือ จหมื่นในรูป
4.แล้วทำไมพระเจ้าทรงธรรมถึงตั้งจหมื่นผู้นี้เป็นวังหน้าละครับ ทำไมไม่ยกให้ราชทายาท
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
๑. จมื่นศรีสรรักษ์ผู้นี้ ปรากฏอยู่ในพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยาที่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์ครับ โดยพงศาวดารระบุว่าใน พ.ศ. ๒๑๔๕ พระพิมลธรรมก่อกบฏโดยความช่วยเหลือของจมื่นศรีสรรักษ์ที่เป็นบุตรเลี้ยง จนพระพิมลธรรมได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าทรงธรรม จึงตั้งจมื่นศรีสรรักษ์เป็นพระมหาอุปราช แต่อยู่ได้ ๗ วันก็สวรรคต

"พระศรีสินบวชอยู่วัดระฆัง รู้พระไตรปิฎกสันทัด ได้สมณฐานันดรเป็นพระพิมลธรรม์อนันตปรีชา ชำนาญทั้งไตรเพทางคศาสตร์ราชศาสตร์ มีศิษย์ โยมมาก ทั้งจมื่นศรีเสารักษ์ถวายตัวเป็นบุตรเลี้ยง ครั้นนั้นเชี่ยวชาญคนทั้งหลายนับถือมาก จึงคิดกันกับหมื่นศรีเสาวรักษ์และศิษย์โยมเป็นความลับ ซ่องสุมพรรคพวกได้มากแล้วก็ปริวัติออกเพลาพลบค่ำ ก็พากันไปซุ่มพลณปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ครั้นได้อุดมนักขัตฤกษก็ยกพลมาฟันประตูมงคลสุนทรเข้าไปได้ ในท้องสนามขุนนางซึ่งนอนเวรเอาความกราบทูล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตกพระทัยตลึงไปเป็นครู่ จึงตรัสว่า เวราแล้วก็ตามเถิด แต่อย่าให้ลำบากเลย พระพิมลเจ้าพระราชวังได้ ก็ให้คุมเอาพระเจ้าแผ่นดินไปให้พันธนาไว้มั่นคง รุ่งขึ้นให้นิมนต์พระสงฆ์บังสุกุล ๑๐๐ ให้ธูปเทียนษมาแล้วก็ให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ เอาพระศพไปฝังณวัดโคก พระยา พระศรีเสาวภาคอยู่ในราชสมบัติปีหนึ่งกับ ๒ เดือน สมเด็จพระพิมลธรรม์เสด็จขึ้นผ่านพิภพกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา ทรงพระนามสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงธรรม์อันมหาประเสริฐ ทรงพระกรุณาให้จหมื่นศรีเสารักษ์เป็นอุปราชอยู่ ๗ วัน มหาอุปราชประชวรลง ๓ วันสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้แต่งการพระราชทานเพลิงตามอย่างอุปราช"


อย่างไรก็ตาม พงศาวดารที่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์มีความคลาดเคลื่อนจากหลักฐานอื่นมาก โดยเมื่อสอบจากหลักฐานรวมสมัยแล้วพบว่าพระเจ้าทรงธรรมทรงมีพระนามเดิมว่า "พระอินทราชา" ไม่ใช่พระศรีสิน และทรงครองราชย์ใน พ.ศ. ๒๑๕๓ และเมื่อพิจารณาจากหลักฐานพระชนม์มายุแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะทรงมีสมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรมที่พระราชาคณะตามที่พงศาวดารอ้างได้

จุดคลาดเคลื่อนของพงศาวดารอีกประการคือระบุว่า หลังจากครองราชย์แล้วเกิดเหตุการณ์กบฏญี่ปุ่นยึดพระราชวังหลวง แต่ถูกพระมหาอำมาตย์ไล่ไปได้ พระเจ้าทรงธรรมจึงแต่งตั้งพระมหาอำมาตย์ขึ้นเป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ซึ่งก็คือพระเจ้าปราสาททองในอนาคต แต่เมื่อสอบกับหลักฐานร่วมสมัยแล้วกบฏครั้งนั้นเกิดใน พ.ศ. ๒๑๕๓ พระเจ้าปราสาททองเพิ่งมีพระชนม์ประมาณ ๑๐ ขวบจะไปปราบกบฏย่อมเป็นไปไม่ได้ และมีหลักฐานอีกชิ้นคือ พระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนาใน พ.ศ. ๑๕๓ ระบุถึงสมุหพระกลาโหมในเวลานั้นว่า "เจ้าขุนหลวงมหาอำมาตยาธิบดีศรีรักษาองค์" ซึ่งก็เข้าใจว่าคือพระมหาอำมาตย์ผู้ปราบญี่ปุ่น และดูจากทินนามแล้วเป็นคนละคนกับเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ครับ แต่เข้าใจว่าผู้ชำระพงศาวดารสมัยหลังเอามารวมว่าเป็นคนเดียวกัน

เรื่องจมื่นศรีสรรักษ์ในพงศาวดารนี้ไม่ปรากฏในหลักฐานอื่น และเมื่อพิจารณาถึงความคลาดเคลื่อนของพงศาวดารช่วงนี้จึงมีข้อน่าสงสัยอยู่ว่า เรื่องจมื่นศรีสรรักษ์นี้ก็น่าจะคลาดเคลื่อนเช่นกันครับ


๒. ตามหลักฐานของ เยเรเมียส ฟาน ฟลีต (Jeremias Van Vliet) หัวหน้าสถานีการค้าบริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์ (VOC) ประจำกรุงศรีอยุทธยา ซึ่งเขียนในสมัยพระเจ้าปราสาททองเองระบุว่า พระเจ้าปราสาททองขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. ๒๑๗๒ เมื่อมีพระชนม์ได้ ๓๐ พรรษา แสดงว่าพระองค์ประสูติราว พ.ศ. ๒๑๔๒ สมัยสมเด็จพระนเรศวร

ฟาน ฟลีตระบุว่าพระเจ้าปราสาททองได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระเจ้าทรงธรรม พออายุ ๑๓ ได้เลื่อนเป็น ออกหมื่นศรี (Omonsij) ตำแหน่งผู้บังคับบัญชามหาดเล็ก (supervisor of the royal pages-สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพสันนิษฐานว่าเป็นตำแหน่งหุ้มแพร) พออายุ ๑๖ ก็ได้เป็น Pramon Sijfarapha (สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจาก พระหมื่นศรีสรรักษ์) ตำแหน่งหัวหมื่นมหาดเล็ก พอถึงอายุ ๑๘ ทำความผิดข้อหาทำร้ายพระยาแรกนาจนถูกลงโทษ ต่อมาโดนข้อหาวางแแผนลอบปลงพระชนม์พระอนุชาอีกเลยถูกจำคุก ต่อมาได้ไปอาสาออกรบที่กัมพูชาใน พ.ศ. ๒๑๖๕ มีความชอบ ได้รับบรรดาศักดิ์ใหม่เป็น Sompa Moon (ไม่ทราบว่าตำแหน่งอะไร) แล้วทำราชการก้าวหน้ามากขึ้นจนได้เป็น ออกญาศรีวรวงศ์ ที่เสนาบดีกรมวังในปลายรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม แล้วได้เลื่อนเป็นออกญากลาโหมในรัชกาลสมเด็จพระเชษฐาธิราชครับ

พิจารณาจากอายุแล้ว ไม่มีทางไปดวลดาบกับเสมาในปลายรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรได้ครับ


๓. พิจารณาจากปีประสูติของพระเจ้าปราสาททองในหลักฐานร่วมสมัย พระเจ้าปราสาททองเพิ่งมีพระชนม์ราว ๑๐ ขวบ ไม่มีทางไปปราบกบฏได้ครับ ส่วนจมื่นศรีสรรักษ์ในพงศาวดารก็ไม่น่ามีตัวตนอยู่จริง แต่มีการวิเคราะห์ว่าผู้ชำระพงศาวดารสมัยหลังเอาเรื่องพระเจ้าปราสาททองตอนเป็นจมื่นศรีสรรักษ์ในรัชกาลพระเจ้าทรงธรรมไปปะปนมากกว่าครับ


๔. ถ้าอ้างอิงตามพงศาวดารก็สันนิษฐานว่าเพราะพระเจ้าทรงธรรมยังไม่มีพระโอรส (พระเชษฐาธิราชโอรสองค์ใหญ่ประสูติเมื่อครองราชย์แล้ว) จมื่นศรีสรรักษ์เป็นบุตรเลี้ยงที่ช่วยให้พระองค์ได้ราชสมบัติ ก็สมควรบำเหน็จให้สมแก่ความชอบตามสถานะ แต่อย่างที่กล่าวไปแล้ว ผมไม่คิดว่าจมื่นศรีสรรักษ์ผู้นี้จะมีตัวตนจริง แต่น่าจะเอาเรื่องพระเจ้าปราสาททองมาลงมากกว่าครับ


รายละเอียดอ่านใน blog เรื่องพระเจ้าปราวาททองที่ผมเคยเขียนไว้ได้ครับ จะเห็นได้ว่าเมื่อสอบทานจากหลักฐานอื่นๆ แล้วจะพบว่าการศึกษาเกี่ยวกับพระเจ้าปราสาททองยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหลายประการ เช่น เรื่องที่เข้าใจกันว่าพระองค์มีพระนามเดิมว่า "พระองค์ไล" นั้น แท้จริงเป็นการแปลหลักฐานที่ผิดพลาดครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=slight06&month=05-2012&date=09&group=3&gblog=1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่