จุดเริ่มต้น มิตรภาพ ความผูกพัน การจากลา

สวัสดีครับทุกคน ผมอยากจะมาพูดถึงน้องBNK48 แต่ขอเกิ่นนำอะไรนิดหน่อย ผมอายุ27ปี ทำงานเป็นพนักงานทั่วไป ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเบื่อ เบื่อกับทุกสิ่ง เบื่อจนบางครั้งตั้งคำถามกับตัวเองคนเกิดมาทำไม?? ผมเบื่อการเข้าสังคมแต่ผมไม่ได้เกลียดสังคมนะ งานแต่ง งานบุญ ผมไปนะครับ ผมแค่ไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะๆอยู่กันแบบแออัดเป็นปลากระป๋อง ในทุกวันการของวันทำงานผมเลยตื่น 04.30 อาบน้ำ//05.30 ออกจากบ้าน//06.40 ถึงที่ทำงาน//17.30 เลิกงาน//20.00-21.00ถึงบ้าน ตามสถานการณ์การจราจร วันหยุดผมก็เปิดแอร์นอนโง่ๆอยู่บนเตียง ถ้ามองจาการใช้ชีวิตของผมแล้วไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าผมจะไม่ค่อยมีเพื่อนซักเท่าไหร่ ยิ่งรวมไปถึงวันหยุดไม่ตรงกับชาวบ้านชาวช่องด้วย คนอื่นหยุดเสาร์อาทิตย์ ผมหยุด จันทร์ พุธ ศุกร์งี้ตามตารางที่ได้มาต้นเดือนหรือตามที่เราขอหยุดไว้ จะมีเพื่อนซักกี่คนเชียวแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหานะครับผมมั่นใจว่าผมอยู่ได้ แต่มันก็มีนะครับเพื่อนที่มันทนครบผมมาได้ตั้งนาน มันชื่อ จ๊อด ครับทนคบกันมาหลาย10ปีแล้ว วันนั้นมันโทรหาผม
จ๊อด : โหล เห้ยยยยยพรุ่งนี้หยุดมั้ย ไปไหนป่าว
ผม : เออหยุด กุจะนอน
จ๊อด : อ๋ออออออ
จ๊อด : งั้นพรุ่งนี้เจอกัน เซ็นทรัลเวิลด์ นะ
จ๊อด : สายๆก็ได้
จ๊อด : แต่อย่าสายมากนะ   ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ดดดดดดดด
ผม : สลัดผักเอ้ยยยย ไม่ฟังเลย

วันถัดมาผมก็ไปเจอกันตามนัด แต่ผมไปสายมากพอเจอจ๊อดบอกเร็วเลยเดี๋ยวไม่ทันผมก็เดิมตามมันไปจนไปเจอเวทีที่มีคุณเอ๊ะละอองฟองยืนเป็นพิธีกรอยู่ผมกับจ๊อดก็แทรกๆจนไปยืนอยู่ด้านหน้าทางขวาเวที สักแปปนึงก็มีกลุ่มเด็กสาวขึ้นมาบนเวที การยืนจัดแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยเว้นช่องไฟสวยงามแต่พอพูดแนะนำตัวเท่านั้นแหละเหมือนไม่ได้นัดกันมา ณ ตอนนั้นผมไม่ได้นับจำนวนที่แน่นอนแต่ก็พอกะด้วยสายตาเลย20คนแน่นอน ผมก็คิดในใจ สมาชิกวงเยอะขนาดนี้เลยหรอ ตอนขึ้นแสดงเหยียบกันตายละมั้ง ผมหันไปถามเพื่อนผม
ผม : เห้ย น้องๆกลุ่มนี้เป็นใคร
จ๊อด : BNK48 ไงวงน้อง AKB48
ผม : เป็นGirlGroup แบบเกาหลีหรอ
จ๊อด : โนววว เป็น idol Group แบบญี่ปุ่น
ผม : อ๋อ หรอ
ผม : เห้ยกลับยัง คนเริ่มเยอะ อึดอัดอะ
ขณะที่ผมชวนเพื่อนกลับบ้านน้องบนเวทีก็เริ่มแนะนำตัว เฌอปรางBNK48คะ ไข่มุกBNK48คะ บลา บลา บลา อรBNK48ค่าาา
จ๊อด : อยู่ฟังน้องแนะนำก่อน น่ารักทุกคนพี่คอนเฟิร์ม
ผม : แต่น้องที่ยืนพูดหน้ากุเนี่ย ตัวตันนนมาเลยนะ
จ๊อด : แหมพ่อโดมปกรณ์ ลัม ผอมเพียวเหลือเกิน
ผม : สลัดดดดดดดดเอ้ย

สรุปวันนั้นผมก็ไม่ได้อะไรเลยนอกยืนฟังเด็กแนะนำตัว แต่ในใจผมก็อวยพรสู้สู้ละกันน้องวงการนี้อยู่ยากนะถึงอยู่ได้ก็ใช่ว่าจะนาน คนที่อ่อนแอก็แพ้ แล้วลูปชีวิตผมก็วนอยู่แบบเดิม ตื่น ทำงาน กลับบ้าน ส่วนจ๊อดเพื่อนผมมีกิจกรรมชีวิตเพิ่มเติมคือ การตามหวีดครูแก้ว บริการทุกระดับประทับใจถึงไหนถึงกัน ถ้ามาตรงเวลางานมันลาครึ่งวัน  ลาบ่อยจนผมสงสัยว่าบริษัทเค้าควรจ้างมันทำงานต่อมั้ย?? ผมมารู้ทีหลังว่ามันไปอ้างว่าแม่มันป่วยกะเซาะกะแซะ ไม่มีใครดูแลมันต้องค่อยกลับไปดู(อภิชาตบุตร มั้ยหละ - -")  

วันเวลาผ่านไปกิจกรรมชีวิตผมก็รันไปปกติ โทรศัพท์ผมดังผมเห็นชื่อคนโทร จ๊อดไงจะใครหละ เพื่อนรักผมเอง(โทรศัพท์ไม่ค่อยมีใครโทรมาหรอก)
จ๊อด : โหลล เห้ยยย ตารางงานพรุ่งนี้หยุดหนิ ไปไหนป่าว
ผม : เอออ กุจะนอน
จ๊อด : นอนให้อิ่มเลยนะ เย็นๆไปเอ็มควอเทียร์ ดูตู้ปลา
ผม : อ้าวงานแสดงสัตว์น้ำไม่ได้จัดที่ฟิวเจอร์แล้วหรอ
จ๊อด : พรุ่งนี้ชราไลน์มาไลฟ์โว้ยยยยย เครนะเจอกัน ตี้ด ตี๊ดดดดด..
ผม : ชราไลน์ คือ ?? - -"ร้องไห้มันวางหูใส่อีกแล้วว)

ชราไลน์ คือ อะไรก็ไม่รู้แต่ผมก็ไปตามนัด เจอหน้ามันชี้ไปชั้น1บอกคือเป้าหมายที่เราจะไป จ๊อดเพื่อนรักเดินตัวปลิวแสดงถึงความชำนาญทางมากนั่นแสดงว่าไม่ต้องถามเลยว่าสถานที่แห่งนี้มันมาบ่อยขนาดไหน พอผมขึ้นไปถึงชั้น1 ผมพบเจอกับกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ความเบื่อหน่ายเริ่มถามหาผมอีกแล้ว    แต่จ๊อดบอกเนี่ยคนกำลังดีรีบไปเร็วมีคนจองที่ไว้ข้างหน้า ผมก็เดินเบียดๆตามมันไปโผล่ด้านหน้าขวามือ(ขวามืออีกแล้ววครับ) พอได้องศามุมมองโลกทั้งใบก็เป็นของจ๊อด หวีดครูแก้วแบบไม่สนใจชาวบ้านชาวช่อง ผมได้แค่ยืนกอดอกมองมันด้วยรอยยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนผมเป็นไปได้ขนาดนี้ ผมเงยหน้าข้นไปเจอน้องผญ.ผมหน้าม้า ผิวขาว กำลังเล่นเบสอยู่ ส่งยิ้มจนตาหยีมาทางผม ผมไม่รู้หรอกว่าเค้ายิ้มให้ใครอาจจะยิ้มให้คนข้างหลังหรือข้างๆผม แต่ผมตกใจจนหันหน้าหนีอย่างเร็ว น้องผญ.คนนี้สวยจัง ผมรีบไปคว้าคอเสื้อเพื่อนมา
ผม : เห้ยๆๆๆๆๆๆๆ น้องผญ.ผมหน้าม้านี่ใคร ใครๆๆๆ
จ๊อด : ไหนๆ คนไหน
ผม : คนนั้นอะ ผมหน้าม้าเล่นเบสอะ
จ๊อด : อ๋อ อรอุ๋งไง ทำไมอะ
ผม : น่าร๊ากกกกกอะ สวยด้วย
จ๊อด : หรอ  ตัวตันนนนหนิ เมิงพูดเองนะ
ผม : ห๊ะ ตายแล้วววววว
จ๊อด : ชอบน้องหรอ ซื้อบัตรจับมือให้กำลังใจน้องซิ
ผม : งานจับมือมันเป็นไง
จ๊อด : แถมมาในCD รอบธรรมาดา8วิ//พิเศษรวมบัตรได้ไม่เกิน100ใบ
ผม : เอาๆๆๆ สั่งเผื่อแล้วมาเก็บตัง เอา 110 ใบ
จ๊อด : เรียบร้อยโรงเรียนบ่ออุ๋ง ดูทรงแล้วขึ้นยากด้วย - -"

หลังจกลงบ่ออุ๋งเป็นที่เรียบร้อยผมก็ระเบิดคลังอย่างต่อเนื่อง Photoset ทุกเซต Photobook และล่าสุดของหนักอย่าง Founder Card ผมตามไปดูตู้ปลามากขึ้นรวมถึงงานอื่นๆบ้างถ้าไหว รวมไปถึงติดตามสื่อสังคมออนไลน์ IG Facebook ล่าสุดถึงขั้นสมัครPantip เพื่อตามข่าวสารคุณอรคงเหลือแค่Twitter ที่ขาดอยู่ ที่เล่ามาเนี่ยรอยยิ้มในวันนั้นผมยังยืนยันนะว่าผมไม่รู้ว่ายิ้มให้ใครแต่ขอบคุณจริงๆที่พี่ได้เห็นรอยยิ้มนะ รอยยิ้มที่สดใส เป็นรอยยิ้มที่น่าค้นหาและน่าติดตามจริงๆ ทุกวันนี้งานฟรีผมอาจไปน้อยเพราะประชากรเพิ่มแบบทวีคูณ ผมเลยหันไปงานเสียเงินแทน คือ เธียรเตอร์ ผมมีโอกาสไปดู3ครั้งแล้วรวมรอบFounder Card ผมเลือกเฉพาะรอบที่คุณอรขึ้นแสดงโดยการแสดงทั้ง3รอบเมือนกันเป๊ะ แต่ผมก็นั่งดูทั้ง3รอบด้วยรอยยิ้มการแสดงที่เราได้ดูคือมันสนุกจริงๆไม่ได้สนุกเพราะความมโน ในตารางกิจกรรมชีวิตผมเหนื่อยมาก เหนื่อยจากการเดินทาง เหนื่อยจากงาน พอได้มานั่งในเธียรเตอร์ร่างกายผ่อนคลาย มุขจางบ้าง ไหล่สั่นบ้าง หัวโยกก็ว่ากันไป การที่พี่ได้รู้จักคุณอรตารางชิวิตพี่มันถูกวางใหม่หมดเลยนะ พี่ออกไปสถานที่ที่พี่ไม่รู้จัก เสาร์อาทิตย์ออกมาเธียรเตอร์เจอสังคมใหม่ๆแทนที่จะอุดอู้อยู่แต่ในห้อง

ถ้านับเวลาที่มาติดตามคุณอรนี่ก็เกือบปีละ ผมจำเวลาเป๊ะๆไม่ได้ การที่เราติดตามอะไรซักอย่างมันก็เหมือนเราเอาชีวิตไปผูกติดเลยนะยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตด้วยความผูกพันมันมาแน่นอน ณ ตอนนี้ ผมตันโอชิคุณอรแล้วแหละ น้องคนอื่นผมก็เชียร์นะครับแค่ไม่ได้ซัพพอร์ตเฉยๆ วันเวลายิ่งผ่านไปความผูกพันระหว่างเมมเบอร์กับแฟนคลับเพิ่มทวีคูณแน่นอน แต่สิ่งที่แปรผกผันคือ อายุงานของไอดอลที่ลดลงเรื่อย เราต้องยอมรับนะครับ เมมเบอร์ที่เราชอบคงอยู่เป็นไอดอลไปตลอดไม่ได้ อรอรเป็นคนขี้อ้อนคงอยู่อ้อนพวกเราไปไม่ได้ตลอดเหมือนกัน  หากบทความนี้ส่งไปถึงคุณอรหรือคุณอรผ่านมาแล้วได้อ่าน วันที่ประกาศจบการศึกษาของคุณอรต้องมาถึงแน่ซักวัน พี่คงเสียใจไม่น้อยเลยแหละเพราะลูปชีวิตพี่อาจกลับไปเดินแบบเดิม เพราะพี่ไม่จำเป็นต้องไปตู้ปลาหรือEvent รวมไปถึงเธียรเตอร์ที่ไม่มีคุณอรขึ้นแสดงอีกแล้ว แต่พี่จะถือว่าการประกาศจบการศึกษานั้นคือวันที่คุณอรเจอโลกใบใหม่หรือเส้นทางชีวิตที่อยากจะทำและคุณอรเข้มแข็งพอที่จะออกเดินคนเดียวได้แล้ว วันนั้นพี่ไม่รู้นะครับว่าคุณอรจะมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเป็นแสนหรือหลักล้านหรือความนิยมลดลงตามกาลเวลา แต่พี่กับแฟนคลับที่รักคุณอรที่เหลืออยู่ตอนนั้นจะพร้อมใจส่งคุณอรออกไปเผชิญโลกใบใหม่อย่างแน่นอน

ปล.ตอนซิงค์คุกกี้พี่ยังไม่ได้ไปจับมือคุณอรเลยนะติดงานกะทันหันเลยปล่อยบัตรจับมือให้น้องที่รู้จัก ซิงค์โชนิจิเนี่ยแหละจะเป็นครั้งแรกจริงๆ
ปล2.ภาพจำระหว่างคุณกับเมมเบอร์แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บันทึกความรู้สึกและจดจำความสุขไว้ให้ดีอย่าปล่อยให้ความรู้สึกนั้นเลื่อนหายไปตามกาลเวลานะครับ เวลาน้องมีปัญหาคอยซัพพอร์ตน้อง อย่าปล่อยให้น้องที่เรารักเผชิญกับปัญหาตัวคนเดียวนะครับทุกคน


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่