ปฏิเสธงานไปที่เดียว แห้วยาวไป 4 เดือน


          สวัสดีครับ เนื่องจาก ช่วงนี้เป็นช่วงที่ นักศึกษากำลังจบใหม่ ผมก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ การสัมภาษณ์งานของผมเอง ที่มากกว่า 20 ครั้ง ตลอดเวลา 2-3 เดือน และมากกว่า 25 ตำแหน่ง  ทั้งบริษัทเล็กและใหญ่
โดยผมจะแบ่ง เป็นข้อๆ เผื่อให้ง่าย ไม่เสียเวลาต่อการอ่าน และต้องใช้ชื่อย่อ ตัวย่อ บริษัทนะครับ เพื่อความปลอดภัย เผื่อบิน ใครไคร่อ่านตอนใหนข้ามไปอ่านได้เลย ดังนี้ครับ

1.เป้าหมายอาชีพที่เราจะอยากทำที่ชัดเจน (รวมไปถึงสถานที่ด้วยนะครับ เวลาในการเดินทาง ก็เหนื่อยนะครับ) หัวข้อบอกถึงว่าทำไมถึงต้องมีเป้า
2.การสัมภาษณ์งาน ทุก ๆ ที่ของผมเอง (ประเด็นหลักของเรื่องที่อยากจะเล่า)
3.เทคนิคให้ hr อ่าน resume หรือ เรียกสัมภาษณ์เรา ได้ง่ายขึ้น ซึ่งหลายคนอาจจะรู้อยู่แล้ว และสรุปข้อ 2ด้วยครับ เพราะยาวมาก

เอาละครับมาเข้าเรื่องกันเลย

1.เป้าหมายอาชีพ ที่เราอยากจะทำ

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยนะครับ เพราะอย่างน้อยเราต้องวางแผนไว้สักหน่อยนึงว่า เราอยากจะทำตำแหน่งใหน เช่น
ผมเรียนจบ วิศวะ สาขา โลจิสติกส์ ซึ่งสายผม จะสามารถทำงานได้ 2 สายหลักๆ คือ
1.1สายโรงงานเลย
อาชีพก็จะประมาณ Logistic Engineer, Process Engineer, Production Engineer, QA QC, Warehouse Engineer, Transport Engineer คร่าวๆ ก็จะประมาณนี้ครับ แต่อาจจะไม่ได้ทำในโรงงานก็ได้
1.2.สายออฟฟิศ
อาชีพของผม ในสายนี้ น้อยคนจะเลือกมาก เพราะคู่แข่งตอนสัมภาษณ์ จะเป็นสายบริหารซะส่วนใหญ่ ไม่ก็วิศวกร ที่ชอบสายนี้เหมือนกัน ซึ่งอาชีพ ก็จะเป็นประมาณ Business Development เชิงบริหารโดยใช้ ตรรกะของวิศวกรมาช่วยแก้ปัญหา ตำแหน่ง ที่ตามด้วย Analysis ต่าง ๆ ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับต้นทุน ทางด้าน Supply chain, Import Export, Air Sea freight และสายที่คาบเกี่ยวระหว่างสองสายหลักก็จะเป็น ประมาน พวก Sales ต่าง ๆ
ซึ่งผมเลือกสายออฟฟิศ
พอเราเลือกได้แล้ว เราก็จะกำหนดทิศทางในการเลือกอาชีพ เลือกลักษณะงานของเราในอนาคตได้ เผื่อที่เราจะได้ไม่ต้องออกบ่อย ๆ และส่งใบสมัครได้ทุกที่ เพราะไม่ว่าเราจะติดที่ใหน เราก็ทำงานได้เลย และนอกจากนี้ เรื่องของสถานที่มีความสำคัญมากเลยนะครับ ใกล้ไกล เราอาจจะล้าในการทำงานได้  

2.การสัมภาษณ์งาน ทุก ๆ ที่ของตัวผมเอง

ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่า ผมเริ่มสมัครงานช้ากว่าเพื่อนๆ เนื่องจาก ผมไปโครงการ Work & Travel ซึ่งกลับมาตอน กันยายน แล้วก็ทำเอกสารจบ รับปริญญาก็ราว ๆ กลางเดือน พฤศจิกายน แล้วผมกลับมา คิดไว้ว่าจะพักซักเดือนค่อยหางาน แต่มันมีเหตุให้ต้องช้ากว่านั้นอีก 2 เดือน คือ ผมอยากจะเริ่มธุรกิจของผมเองสักอย่างนึง เพราะอยากรู้ถ้าเราไม่มีภาระทางด้านการเรียนแล้วนั้น เราจะทำมันได้ไหม ซึ่งไปเห็นโมเดลมาจากอเมริกานี่แหละ ส่วนใครอยากฟังเรื่อง Work & Travel ผมเคยเขียนไว้ มีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังนะครับ ชื่อเรื่อง

“สิ่งที่คนไป work &Travel หลายๆ คน ไม่ได้เล่า”

กลับมาต่อที่ตอนกลับมา ด้วยที่ผมเล่าไปข้างต้น ทำให้ผมหางานจริงจัง ตอนประมาณ มีนาคม ในตอนที่ผมกลับมาตอนแรกๆ เลย มีบริษัทในเครือปูนชื่อดังของไทย ย้ำนะครับ แค่ในเครือ เป็นบริษัททำเหล็ก อยู่ในนิคมมาบตาพุด ระยอง อ.ว.ส. โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ ตำแหน่ง Logistic Engineer ที่ระยอง ซึ่งตอนนั้นผมดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้งานเร็วขนาดนี้ แล้วเป็นบริษัทที่ใหญ่และมั่นคง
และนี่แหละครับ คือ จุดเริ่มต้นของประโยคที่ว่า

“ปฏิเสธงานไปที่เดียว แห้วยาวไป 4 เดือน”

การสัมภาษณ์ในตอนนั้น เริ่มสัมภาษณ์ก่อนผมรับปริญญาประมาน อาทิตย์นึง
ด้วยเงินเดือน ที่ดึงดูดมาก สำหรับเด็กจบใหม่ รวมหมดแล้วประมาน 32k +

“เป็นใคร ใครก็เอาจริงปะครับ”

พอวันไปสัมภาษณ์จริง ๆ อ้าวเจอเพื่อน และพี่ในสาขาด้วยกันเอง ผมคิดในใจ เอาละไง เรียกมาฆ่ากันเองชัดๆ แล้วการสัมภาษณ์ เราต้องสังเกตุก่อนนะครับ ว่าที่ ๆ เขามาสัมเนี้ย เขาต้องการคนแบบใหน เช่น ตำแหน่งงานนี้ เขาเพิ่งเปิด แปลว่า เขาต้องการคนมีประสบการณ์ แต่ผมเองไม่มีเลย ก็เลยต้องเตรียมตัวก่อนไปให้ดีในระดับนึง เพื่อตอบคำถาม และสร้างคามมั่นใจกับเขาให้ได้ว่า เราทำได้แน่ ซึ่งผล ก็ออกมาว่า

“ผมผ่านรอบแรกนะครับ ไงผมเก่งไหมละ”

แล้วจากนั้น บริษัทนี้ ก็ทิ้งช่วงไปยาวๆ มาก จนถึงเดือนมกราคม ซึ่งผมก็ต้องคอยไปสอบถามเขาตลอดว่า เป็นไงบ้างทุกอาทิตย์ เพราะผมไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป ถ้าเป็นคนอื่น คงคิดว่าแห้วแล้วแน่ ๆ ไปสมัครงานอื่นก่อนละกัน แล้วค่อยว่ากัน ซึ่งผมเป็นนิสัยเสียอย่างนึงคือ “ค่อนข้างเห็นใจ” เพราะผมคิดว่า ถ้าเราเข้าไปอีกที่แล้ว ทำงานยังไม่ถึงเดือนถึงอาทิตย์แล้วออกเนี้ย คงจะทำให้บริษัทเขาเสียเวลามากแน่ๆ  แล้วเขาอาจจะจำเราได้ในอนาคต ซึ่งข้อนี้แหละครับ ทำให้ผมเสียเวลามาก ๆ ไปกับ “การรอ”

แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึงเดือนมกราคม ซึ่งระหว่างนั้นผมก็ทำตามฝันของผม ผมก็ไม่ค่อยว่างหรอก สนุกมากๆ ตอนนั้นเวลามีลูกค้ามาซื้อของๆ เรา เอาไว้เดี๊ยวจะมาเล่าให้ฟังนะครับ พอสัมภาษณ์รอบที่ 2 ของบริษัทที่ 1 ผมจะได้สัมภาษณ์กับผู้บริหาร หลายท่านมาก ยิงคำถามใส่เรา ผมจำได้เลยว่า เขาถามมาว่า ช่วยบอกตัวเองสั้นๆ สัก 3 คำ หน่อย

“ผมเป็นคนมั่นใจครับ ขยัน และอดทน”
จากนั้นผู้บริหารก็พูดว่า “อดทนหรอ”
“ผมไม่ค่อยได้ยินคำนี้จากเด็กรุ่นใหม่ๆ เลยนะ”

เดี๊ยวผมมาต่อพรุ่งนี้นะครับ...
ผมต้องขออนุญาติจอง คอมเม้นไว้ล่วงหน้านะครับ จะได้ไม่ต้องเลื่อนอ่านไกลๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่