สวัสดีค่ะ วันนี้ว่างเลยมานั่งดูรูปเก่าๆ เลยอยากเอามาเล่าขำๆ เป็นประสบการณ์เที่ยวของครอบครัวเรา ย้อนไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน บ้านเราปกติเวลาจะไปเที่ยวไหนก็จะเหมารถตู้พาเที่ยว ไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับตลอด ไม่ว่าจะเที่ยวทะเล น้ำตก ยังงัยก็กลับมานอนบ้าน เพราะแม่ไม่ชอบนอนรีสอร์ท แม่บอกเสียดายเงิน เป็นแบบนี้อยู่หลายปีค่ะ .... อ้อ ลืมบอกไปบ้านอยู่ กทม.ค่ะ
วันนึงพ่อกับแม่ก็ตกลงจะซื้อรถ พ่อก็อยากจะประเดิมรถด้วยการขับไปเที่ยวภูเขาสักที่นึง ลุงรถตู้ที่เราเหมาเที่ยวบ่อยๆ ก็แนะนำเลย "เขาค้อสิ" ซึ่งตอนนั้นพ่อพึ่งขับรถเป็นได้แค่ 3 เดือน

เราก็คิดพ่อจะไหวหรอขึ้นเขา พ่อบอกใกล้ๆเอง ไม่สูงๆลุงรถตู้บอก ไปได้ๆเชื่อสิ เราก็ตกลงไปว่าจะไปเขาค้อกัน
มาถึงวันที่จะไปคือวันที่ 6 มกราคม 2544 (จำได้เพราะจดไว้ อิ อิ) เราออกเดินทางกันตั้งแต่ตี 3 เหอะๆ ง่วงก็ง่วงแต่ก็อยากเที่ยว เราก็หลับๆตื่นๆ ตลอดทาง แต่ดันมาตื่นตาสว่างเอาตอนจะขึ้นเขา เสียวสิค่ะงี้ ถนนก็เล็กๆ มีดินแดงบ้างช่วง มองไปซ้ายเหวๆ ตลอดทาง แล้วคิดดิพ่อพึ่งขับรถเป็นได้ 3 เดือน มันจะเสียวขนาดไหน แม่เจ้า ขับไปได้ครึ่งทางปวดฉี่อีก ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีบ้านคนนะจ๊ะ อั้นไปจ้า จนไปเจอร้านกาแฟเล็กๆ อยู่เชิงเขา ก็ได้เข้าห้องน้ำล่ะทีนี่ อากาศตอนนั้นเย็นมาก ธรรมชาติมาก กินโกโก้ร้อนๆอากาศเย็นๆ เงียบๆ มองเห็นวิวภูเขา มันคือดีมากเลยอ่ะ .... ฟินไม่ทันไร ก็ขึ้นรถต่อ เสียวต่ออีกล่ะ
ตอนนั้นคือเราไม่รู้เลยว่าบนเขาค้อมีอะไรเที่ยว เพราะสมัยนั้นยังไม่มีกลูเกิ้ลให้ถาม ซึ่งคนนำทางอย่างพ่อก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ขับไปเรื่อยๆเจอป้ายพระตำหนักเขาค้อ เราก็เลยไปที่นี่เป็นที่แรก เพราะคิดว่าต้องสวยแน่นอน มาถึงก็สวยจริง ดอกกุหลาบใหญ่มาก แต่ ณ จุดนั้น ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป หน้านี้ซีดเพราะลุ้นไปกับพ่อตลอดเส้นทาง นั่งสักพักถีงลุกมาถ่ายรูปได้



17 ปีที่แล้ว เขาค้อเงียบมาก บริเวณพระตำหนักเห็นมีคนมาเที่ยวบ้าง แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งนั้นเลย พกเต้นมากางนอน เท่าที่เห็นไม่มีอะไรขายเลย เราก็เลยไปที่อื่นกันต่อ เห็นป้ายสถานีทดรองเกษตรที่สูง น่าสนใจดอกไม้ต้องเยอะแน่ๆ ก็เลยไปที่นั้นกัน จำได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักนะ




สรุปสถานีเกษตร ดอกไม้น้อยกว่าแถวพระตำหนักอีก เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่มีคนเลย ไม่เจอแม้แต่เจ้าหน้าที่ให้ถามว่ามีอะไรให้ชมในนี้บ้าง 5555 เราไปกันต่อที่น้ำตก ชื่ออะไรจำไม่ได้ เพราะเริ่มหิว คิดว่าที่น้ำตกต้องมีของกินขายแน่นอน .... ถึงน้ำตกค่อยมีคนหน่อย มีของขายพอประมาณ เราก็สั่งส้มตำไก่ย่างมากินกัน พ่อบอกจะเล่นน้ำ แต่แม่เจ้า น้ำเย็นมาก เย็นยังกับน้ำแข็ง พ่อก็เลยได้แต่นั่งมอง เหอะๆ ... เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปน้ำตกไว้เลย คือสมัยก่อนมันกล้องฟิล์ม จะถ่ายที่ต้องคิดหน่อย 55555
กินอิ่มแล้วก็เดินทางกลับบ้าน สยองอีกแล้วฉัน ทางลงจะเป็นคนละทางกับทางที่ขึ้นมา แต่ก็เสียวไม่ต่างกัน หน้าซีดตามเคย จำได้ว่ากว่าจะถึงบ้านก็ 3 ทุ่ม ถามว่าเหนื่อยมั้ยก็ไม่เหนื่อยนะ อาจจะว่ายังเด็กอยู่มั้ง เหอะๆ
และเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราก็ได้ไปเขาค้ออีกครั้ง คราวนี้เป็นคนจัดโปรแกรมเอง หาที่พักเอง และดูเส้นทางเอง ส่วนสามีเป็นคนขับ พาพ่อและพี่สาวมาเที่ยวบ้าง เราถึงได้รู้ว่ามันไกลอยู่นะ ตั้ง 400 กว่าโล ตอนนั้นฉันมาเที่ยวเช้าเย็นกลับได้งัยเนี้ย แค่ขามานี้ก็นั่งรถจนเมื่อยเหนื่อยไม่เบาแล้ว พ่อฉันอึดจริงๆขับไปได้เช้าไปเย็นกลับ 5555 แต่เขาค้อในวันที่ฉันไปกับเมื่อ 17 ปีก่อน มันเปลี่ยนไปมากๆๆๆๆๆ จริงๆ มันดูไม่มีเคล้าเดิมเลย ถนนก็ดีขึ้นใหญ่ขึ้น ที่เที่ยวเยอะแยะเต็มไปหมด ที่พักก็เยอะ คนก็เยอะ ร้านขายของก็เยอะ แต่มีสิ่งเดียวที่ยังเหมือนเดิมก็คือ "พระตำหนักเขาค้อ"

ยังคงมีดอกกุหลาบใหญ่ๆ ปลูกเรียงรายตามทางเหมือนเดิมไม่มีผิด ทำให้คิดถึงความหลังครั้งที่มากัน 4 คนพ่อแม่ลูก ทำให้คิดถึงแม่ที่จากเราไปแล้ว คิดถึงจุดที่แม่ยืนถ่ายรูปอยู่ตรงดอกกุหลาบใหญ่ๆ แม่ตื่นเต้นและชอบมากๆเลย รอยยิ้มของแม่ยังตราตรึงอยู่ในใจเราเสมอไม่เปลี่ยนแปลง .... ดีใจที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง และคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปเขาค้ออีกค่ะ
ขอจบกระทู้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ บ๊ายบาย
[CR] เขาค้อ 17 ปีที่แล้ว ... เที่ยวเช้าไปเย็นกลับทำได้งัย 555
วันนึงพ่อกับแม่ก็ตกลงจะซื้อรถ พ่อก็อยากจะประเดิมรถด้วยการขับไปเที่ยวภูเขาสักที่นึง ลุงรถตู้ที่เราเหมาเที่ยวบ่อยๆ ก็แนะนำเลย "เขาค้อสิ" ซึ่งตอนนั้นพ่อพึ่งขับรถเป็นได้แค่ 3 เดือน
มาถึงวันที่จะไปคือวันที่ 6 มกราคม 2544 (จำได้เพราะจดไว้ อิ อิ) เราออกเดินทางกันตั้งแต่ตี 3 เหอะๆ ง่วงก็ง่วงแต่ก็อยากเที่ยว เราก็หลับๆตื่นๆ ตลอดทาง แต่ดันมาตื่นตาสว่างเอาตอนจะขึ้นเขา เสียวสิค่ะงี้ ถนนก็เล็กๆ มีดินแดงบ้างช่วง มองไปซ้ายเหวๆ ตลอดทาง แล้วคิดดิพ่อพึ่งขับรถเป็นได้ 3 เดือน มันจะเสียวขนาดไหน แม่เจ้า ขับไปได้ครึ่งทางปวดฉี่อีก ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีบ้านคนนะจ๊ะ อั้นไปจ้า จนไปเจอร้านกาแฟเล็กๆ อยู่เชิงเขา ก็ได้เข้าห้องน้ำล่ะทีนี่ อากาศตอนนั้นเย็นมาก ธรรมชาติมาก กินโกโก้ร้อนๆอากาศเย็นๆ เงียบๆ มองเห็นวิวภูเขา มันคือดีมากเลยอ่ะ .... ฟินไม่ทันไร ก็ขึ้นรถต่อ เสียวต่ออีกล่ะ
ตอนนั้นคือเราไม่รู้เลยว่าบนเขาค้อมีอะไรเที่ยว เพราะสมัยนั้นยังไม่มีกลูเกิ้ลให้ถาม ซึ่งคนนำทางอย่างพ่อก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ขับไปเรื่อยๆเจอป้ายพระตำหนักเขาค้อ เราก็เลยไปที่นี่เป็นที่แรก เพราะคิดว่าต้องสวยแน่นอน มาถึงก็สวยจริง ดอกกุหลาบใหญ่มาก แต่ ณ จุดนั้น ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป หน้านี้ซีดเพราะลุ้นไปกับพ่อตลอดเส้นทาง นั่งสักพักถีงลุกมาถ่ายรูปได้
17 ปีที่แล้ว เขาค้อเงียบมาก บริเวณพระตำหนักเห็นมีคนมาเที่ยวบ้าง แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งนั้นเลย พกเต้นมากางนอน เท่าที่เห็นไม่มีอะไรขายเลย เราก็เลยไปที่อื่นกันต่อ เห็นป้ายสถานีทดรองเกษตรที่สูง น่าสนใจดอกไม้ต้องเยอะแน่ๆ ก็เลยไปที่นั้นกัน จำได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักนะ
สรุปสถานีเกษตร ดอกไม้น้อยกว่าแถวพระตำหนักอีก เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่มีคนเลย ไม่เจอแม้แต่เจ้าหน้าที่ให้ถามว่ามีอะไรให้ชมในนี้บ้าง 5555 เราไปกันต่อที่น้ำตก ชื่ออะไรจำไม่ได้ เพราะเริ่มหิว คิดว่าที่น้ำตกต้องมีของกินขายแน่นอน .... ถึงน้ำตกค่อยมีคนหน่อย มีของขายพอประมาณ เราก็สั่งส้มตำไก่ย่างมากินกัน พ่อบอกจะเล่นน้ำ แต่แม่เจ้า น้ำเย็นมาก เย็นยังกับน้ำแข็ง พ่อก็เลยได้แต่นั่งมอง เหอะๆ ... เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปน้ำตกไว้เลย คือสมัยก่อนมันกล้องฟิล์ม จะถ่ายที่ต้องคิดหน่อย 55555
กินอิ่มแล้วก็เดินทางกลับบ้าน สยองอีกแล้วฉัน ทางลงจะเป็นคนละทางกับทางที่ขึ้นมา แต่ก็เสียวไม่ต่างกัน หน้าซีดตามเคย จำได้ว่ากว่าจะถึงบ้านก็ 3 ทุ่ม ถามว่าเหนื่อยมั้ยก็ไม่เหนื่อยนะ อาจจะว่ายังเด็กอยู่มั้ง เหอะๆ
และเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราก็ได้ไปเขาค้ออีกครั้ง คราวนี้เป็นคนจัดโปรแกรมเอง หาที่พักเอง และดูเส้นทางเอง ส่วนสามีเป็นคนขับ พาพ่อและพี่สาวมาเที่ยวบ้าง เราถึงได้รู้ว่ามันไกลอยู่นะ ตั้ง 400 กว่าโล ตอนนั้นฉันมาเที่ยวเช้าเย็นกลับได้งัยเนี้ย แค่ขามานี้ก็นั่งรถจนเมื่อยเหนื่อยไม่เบาแล้ว พ่อฉันอึดจริงๆขับไปได้เช้าไปเย็นกลับ 5555 แต่เขาค้อในวันที่ฉันไปกับเมื่อ 17 ปีก่อน มันเปลี่ยนไปมากๆๆๆๆๆ จริงๆ มันดูไม่มีเคล้าเดิมเลย ถนนก็ดีขึ้นใหญ่ขึ้น ที่เที่ยวเยอะแยะเต็มไปหมด ที่พักก็เยอะ คนก็เยอะ ร้านขายของก็เยอะ แต่มีสิ่งเดียวที่ยังเหมือนเดิมก็คือ "พระตำหนักเขาค้อ"
ยังคงมีดอกกุหลาบใหญ่ๆ ปลูกเรียงรายตามทางเหมือนเดิมไม่มีผิด ทำให้คิดถึงความหลังครั้งที่มากัน 4 คนพ่อแม่ลูก ทำให้คิดถึงแม่ที่จากเราไปแล้ว คิดถึงจุดที่แม่ยืนถ่ายรูปอยู่ตรงดอกกุหลาบใหญ่ๆ แม่ตื่นเต้นและชอบมากๆเลย รอยยิ้มของแม่ยังตราตรึงอยู่ในใจเราเสมอไม่เปลี่ยนแปลง .... ดีใจที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง และคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปเขาค้ออีกค่ะ
ขอจบกระทู้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ บ๊ายบาย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้