[CR] Alone in Kyushu: เที่ยวคนเดียว ไม่เปลี่ยวเท่าไหร่

สวัสดีครับทุกคน พอดีช่วงนี้ว่างงานครับ พอว่างก็เลยได้ไปเที่ยว บวกกับการที่กลับมาแล้วยังว่างอยู่ ก็เลยอยากจะเขียนรีวิวกับเค้าบ้าง โดยครั้งนี้เป็นการเที่ยวต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกในชีวิตครับ
จริงๆ ช่วงนี้เริ่มเห็นรีวิวคิวชูเยอะขึ้น งั้นผมจะขอเน้นรายละเอียดไปที่วิธีการเดิน กับพิกัดของกินบางส่วน เผื่อคนที่ไม่เคยเที่ยวเองมาอ่านแล้วสามารถจัดทริปได้เลย

แล้วทำไมถึงเลือกไปคิวชู เป็นเพราะตอนเด็กๆ ก็เคยมาเที่ยวญี่ปุ่น 2 ครั้ง แต่ตอนนั้นมากับทัวร์  พอโตขึ้นมาเริ่มมีความคิดว่าอยากจะเที่ยวให้ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น แล้วจะเริ่มที่ไหน งั้นก็มาเริ่มใหม่โดยไล่ไปตามภูมิภาคของญี่ปุ่นเลยแล้วกัน คือ Kyushu ไป Chugoku แล้วค่อยๆไล่ขึ้นไปจนถึง Hokkaido ตามนี้ รอบนี้เราจึงมาเริ่มต้นที่ Kyushu กันก่อน
แต่การเที่ยวครั้งนี้มีจุดประสงค์คือไปพักผ่อนครับ ผมจึงตั้งข้อกำหนดของตัวเองไว้ว่า จะต้องเครื่องต้องบินตรง ที่พักดีและมีonsen ไม่มีการลากกระเป๋าเปลี่ยนโรงแรมบ่อย โปรแกรมไม่แน่นมาก จึงได้แผนการเดินทางเป็นดังนี้
Day1 Fukuoka-Dazaifu-Tenjin
Day2 Beppu
Day3 Yufuin-Oita
Day4 Kokura-Fukuoka (Gion)
Day5 Nagasaki
Day6 Kumamoto-Fukuoka (Hakata)
การเดินจะใช้ Fukuoka เป็นฐานนะครับ ย้ายโรงแรมแค่ตอนไป Beppu Yufuin แล้วกับมานอน Fukuoka ใช้วิธีการเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ

Day4-7 ที่ Part2 นะครับ https://pantip.com/topic/37765194

(แต่เดิมเส้นทางรถไฟจะสามารถวิ่งจาก Oita ไป Kumamoto ได้นะครับ แต่หลังจากแผ่นดินไหวปี 2016 ทำให้เส้นทางรถไฟเสียหายบางส่วน จึงทำให้ต้องย้อนไปย้อนมา)


การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
- JR pass ของ Kyushu ให้เลือก 3 แบบครับ คือ All area, Northern area และ South area สำหรับทริปนี้เลือกใช้เป็น Northern Area 5 day โดยให้หาซื้อเป็น voucher ไปก่อนจากไทยครับจะได้ราคาถูกกว่าไปซื้อที่ญี่ปุ่น โดยผมซื้อจาก Klook.com ได้ราคา 2908 บาท สามารถพิมพ์ voucher ได้เองจาก email แล้วค่อยนำไปแลกเป็น pass ตัวจริงที่ญี่ปุ่นอีกที
อีกเว็บที่ซื้อได้คือ Kkday ครับ ราคาถูกกว่า Klook นิดหน่อย แต่ต้องไปรับ voucher เองตามสถานี bts หรือรับที่สนามบิน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ http://www.jrkyushu.co.jp/english/railpass/railpass.html

- ประกันการเดินทาง ผมว่าควรมี จะถูกจะแพงก็ได้แต่ขอให้มีไว้ก่อน สำหรับคนที่มีบัตรเครดิตของ visa สามารถขอประกันการเดินทางจาก Cigna ได้ฟรี 10 วันนะครับ

- เอกสารต่างๆ พวกหลักฐานการซื้อตั๋วเครื่องบิน ใบจองโรงแรม หรือแผนการเดินทาง แนะนำให้พิมพ์ไปด้วยถ้าเดินทางคนเดียว เพราะอาจโดนตม.เรียกดู

- แลกเงิน ให้ลองคำนวนเงินที่จะใช้คร่าวๆไปดูครับ ผมแลกไป 50000 เยน ตอนแรกก็คิดว่าเยอะแล้วแต่หมดเกลี้ยง คือถ้าวันที่ไม่ได้ซื้อของฝากใคร ก็จะมีพวกค่าบัตรเข้าสถานที่ ค่าเดินทางในเมือง ของกิน ของผมตกวันละประมาณ 4-6พันเยน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาเริ่มเดินทางกันเลยครับ

Day1 Bangkok-Fukuoka-Dazaifu-Tenjin

สำหรับการเดินทางจาก BKK → Fukuoka ตอนนี้เส้นทางบินตรงเหลือแค่การบินไทยครับ ราคาปกติอยู่ที่ประมาณ 24000 แต่เหมือนฟ้าเป็นใจ อยู่ดีๆช่วงที่กำลังจะกดก็มี flash sale ออกมาเหลือแค่ 14000 นิดๆ แต่ต้องแลกด้วยนน กระเป๋าจาก 30 เหลือ 20 kg และไม่สามารถสะสมไมล์ได้
ถึงสนามบินฟุกุโอกะแล้ว ขนาดค่อนข้างเล็กครับ ถ้าจะเดินทางด้วยการบินไทยลงเครื่องแล้วให้รีบเข้าตม.ก่อนเลยอย่าเพิ่งเข้าห้องน้ำ เพราะหลังจากเครื่องเราลงจะมี singapore และ korian air ลงตามมาในเวลาใกล้ๆกัน แล้วคนจะเยอะมาก ใช้เวลาอยู่ที่ตม. เป็นชั่วโมงครับ
และด้วยความที่มาคนเดียว ตม. ก็ไม่ได้ให้ผ่านไปง่ายๆครับ เค้าเริ่มจากถามก่อนว่ามากี่คน พอรู้ว่ามาคนเดียวก็ถามว่ามากี่วัน และขอดูหลักฐานการจองโรงแรม ก็ยื่นหลักฐานการจองโรงแรมที่เตรียมไว้ให้เค้าไป เท่านี้ก็ผ่านไปได้ครับ

หลังจากผ่านตม.และรับกระเป๋าเรียบร้อย ลงมาชั้นล่างมองไปทางซ้ายมือจะเจอ Tourist information ครับ มีพวกแผ่นพับทั้งหลายให้หยิบได้เลยออกไปอีกจะเห็น 7-11 ฝั่งตรงข้ามจะมี counter JTB ครับ เป็นที่ที่เราจะซื้อ Fukuok tourist city pass นั่นเอง
City pass จะมี 2 แบบนะครับ
1. Fukuoka City(not applicable to Nishitetsu Train) : Adult 820 yen, Child 410 yen
2. Fukuoka City and Dazaifu: Adult 1,340 yen, Child 670 yen
ตามโปรแกรมจะไป Dazaifu ก็ซื้อแบบที่ 2 สามารถขึ้นรถบัส รถไฟใต้ดิน และรถไฟบางสายครับ
หน้าตาเป็นแบบนี้ ได้มาก็ขูดวันเดือนปีที่จะใช้ โดยจะได้มาพร้อมกับแผนที่รถโดยสารที่เราสามารถใช้ pass นี้ได้ครับ ใช้ได้ไม่จำกัดใน 1 วัน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขั้นด้วยวิธีขึ้นลงรถสาธารณะก่อนนะครับ

เริ่มจากรถบัสหรือรถราง
- การขึ้นรถบัสหรือรถรางจะขึ้นจากประตูตรงกลางหรือหลังรถ และลงที่ประตูหน้ารถนะครับ
- รถบัสถ้าไม่ได้ใช้ pass ที่ทางขึ้นจะมีเครื่องให้หยิบตั๋วรถ หรือเป็นที่แปะ IC card
- รถรางที่ Kumamoto และ Nagasaki เป็นแบบราคาเดียวตลอดสาย
- ค่าโดยสารจะจ่ายตอนลงจากรถ โดยดูราคาจากบนจอตามเลขที่อยู่บนตั๋ว เอาเงินใส่กล่องข้างๆ คนขับครับ
- ถ้าใช้ IC card ก็แปะตอนขึ้นทีนึง และตอนลงอีกทีนึงครับ
รูปนี้เป็นรถบัสนะครับ จ่ายเงินใส่กล่องที่เป็นสีเหลืองมีลูกศรชี้ขึ้น ตรงนี้จะมีเครื่องแลกธนบัตรและเหรียญด้วย เนื่องจากต้องจ่ายให้พอดีไม่มีทอนครับ

ส่วนรูปนี้เป็นวิธีใช้ pass ครับ ง่ายแสนง่าย ไม่ต้องรับตั๋วตอนขึ้น ยื่นให้คนขับดูแล้วเดินลงได้เลย
รูปภาพจาก https://yokanavi.com/en/tourist-city-pass/
สำหรับรถไฟทั้งใต้ดินและ JR จะมีช่องทางที่อยู่ติดกับห้องเจ้าหน้าที่ ให้เดินผ่านทางนั้นแล้วยื่น pass ให้เจ้าหน้าที่ดูครับ

รูปภาพจาก https://yokanavi.com/en/tourist-city-pass/
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากได้ pass มาแล้ว ก็ออกไปขึ้นรถบัสฟรีของสนามบินเพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินครับ
รถบัสจะสีเป็นสีฟ้าเขียวคันนี้ ขึ้นที่ป้ายหมายเลข1 โดยจะวิ่งระหว่าง Domestic กับ international terminal
รูปภาพจาก http://www.fuk-ab.co.jp/english/sp/bus3.html

ลงจากรถบัสจะเจอรถไฟใต้ดินเลยครับ
การไป Dazaifu ต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Tenjin นะครับ แต่เนื่องจากขี้เกียจลากกระเป๋าแล้ว ก็ขอแวะ Hakata ก่อนเพื่อเอากระเป๋าใส่ locker ไว้ก่อน (เดี๋ยวจะกลับมาพักโรงแรมแถวๆนี้)
Coin locker หลักๆมี 2 แบบนะครับ ขอเรียกว่าแบบ digital กับ analog ในภาพนี่คือแบบ digital วิธีใช้คือมองหาช่องว่างจากตู้ที่มีไฟสีเขียว เมื่อเอาของเข้า กดล็อคแล้วให้ไปที่หน้าจอ เพื่อจ่ายเงิน แล้วเราจะได้กระดาษที่เป็น QR code มาครับ ไว้ scan ตอนจะเอากระเป็าออกอีกที
ราคาตามขนาด เล็ก 300 กลาง 500 ใหญ่ 600
ส่วนนี่คือแบบ analog ครับ หยอดเหรียญแยกแต่ละตู้แล้วบิดกุญแกออก

เมื่อฝากกระเป๋าเสร็จแล้วก็ขึ้นรถไฟใต้ดินต่อไปถึงสถานี Tenjin เพื่อเปลี่ยนรถไฟอีกสายครับ
ถึง Tenjin ให้เดินตามป้าย Nishitetsu Tenjin Omuta line
ที่สถานีรถไฟของ Nishitetsu นี่จะงงหน่อยครับ แทบไม่มีภาษาอังกฤษเลย ให้ใช้วิธีดูสีเอา รถไฟจะมีป้ายสีแดง เขียว และน้ำเงิน มันจะมีป้ายใหญ่ๆ ที่บอกว่าสีอะไรจอดสถานีไหนบ้าง (ลืมถ่ายรูปมาเพราะกำลังงงอยู่) ให้นั่งไปลงที่สถานี Futsukaichi เปลี่ยนรถไฟอีกขบวนไป Dazaifu ครับ
ออกจากสถานีมา ทางด้านขวามี information สามารถเข้าไปเอาแผ่นพับและแผนที่ได้ ทางเดินเข้าไปศาลเจ้าเป็นถนนคนเดินมีร้านขายของตลอดทาง
Umegae mochi ขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงรูปครับ ตรงกลางมีปั๊มเป็นรูปดอกบ๊วย มีหลายร้านมากขายไปตลอดทางเดิน เลือกไม่ถูกก็เลือกที่คนต่อคิวเยอะๆเลยครับ
Starbucks เป็นอีกจุดนึงที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายรูปครับ จากการออกแบบโดยคุณ Kengo Kuma ใช้ไม้ 2000 กว่าท่อนสานกันไปมาตั้งแต่หน้าจนไปถึงด้านในสุด ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจาก Starbucks ร้านอื่นๆครับ

เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับรูปปั้นวัวนอนอยู่ครับ มีคนเข้าแถวรอถ่ายรูปอยู่ด้วย
ตามตำนานเล่าว่าเป็นวัวที่ลากรถเคลื่อนย้ายศพของท่านซุงาวาระ มิชิซาเนะ ที่อยู่ดีๆก็หยุดบริเวณหน้าวัดแห่งหนึ่ง ชาวบ้านจึงเชื่อว่าท่านมิชิซาเนะ ต้องการให้ฝังร่างไว้ที่นี่ ผู้ติดตามของท่านจึงได้สร้างสุสานและศาลเจ้าเล็กๆเป็นที่เคารพศพ และกลายเป็นศาลเจ้าแห่งนี้ในภายหลัง

ถึงจุดนี้ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานไปก็จะถึงศาลเจ้าแล้วครับ
ก่อนเข้าศาลเจ้า อย่าลืมล้างมือและบ้วนปากครับ เสร็จแล้วเข้าไปข้างในกันครับ
Dazaifu Tenmangu Shrine ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ท่านซุงาวาระ มิชิซาเนะ นักปราชญ์, กวี, และนักการเมืองในยุคเฮอัน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเทพแห่งการเรียนรู้ จึงเป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษาที่จะมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันครับ
ชื่อสินค้า:   คิวชู ฟุกุโอกะ ยูฟูอิน เบปปุ นางาซากิ คุมาโมโต้ ญี่ปุ่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่