feature film, sci-fi
เรื่อง: Higher Power (Matthew Santoro, 2018)
คะแนน: 5/10
เรื่องราวเกี่ยวกับ โจ ชายหนุ่มวัยกลางคนธรรมดาๆ ที่ถูกทำการทดลองให้มีพลังพิเศษ เพื่อที่จะใช้ช่วยกอบกู้โลกจากคลื่นรังสีในอวกาศ แต่ในขณะเดียวกัน พลังพิเศษของโจก็สามารถที่จะทำลายทุกชีวิตบนโลกได้ด้วย
ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ในแง่ของไอเดียตั้งต้นที่พูดถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ ผนวกเข้ากับการทดลอง และมีการนำเรื่องปรัชญามาใส่ไว้ในหนัง แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังไม่ได้มอบความบันเทิงให้สักเท่าไหร่ อีกทั้งตัวบทยังมีช่องโหว่ในหลายๆ จุด ที่รายละเอียดบางอย่างก็ไปขัดกับรายละเอียดบางอย่างในหนัง
หนังพยายามใส่พาร์ทดราม่าครอบครัวเข้าไป ซึ่งน่าเสียดายที่หนังไม่ได้นำพาให้เรารู้สึกอินไปกับความสัมพันธ์ระหว่างตัว โจ และลูกสาวทั้งสอง อีกทั้งวิธีการเล่าในเรื่องก็ดูสะเปะสะปะมากพอสมควร เลยทำให้ไม่ได้รู้สึกอินกับอะไรในจุดนี้
จุดขายของหนังเรื่องนี้หลักๆ คงจะเป็นเรื่องของ visual effect ที่อัดแน่นมาตลอดทั้งเรื่อง บวกกับเพลงประกอบมันส์ๆ ที่ใส่เต็มเพื่อเร้าอารมณ์ในเกือบทุกๆ สถานการณ์แอคชั่นในเรื่อง ซึ่งพอมันใส่เยอะมากเกินไป เลยทำให้ภาพรวมออกมาเละเทะไม่เป็นท่า อีกทั้งยังชวนให้หลับมากกว่าตื่นเต้นอีกด้วย
ปัญหาอีกจุดที่ค่อนข้างเด่นชัดคือเรื่องของการตัดต่อที่ตัดได้ค่อนข้างห้วนและขัดอารมณ์มากพอสมควร คือพอดูไปถึงระยะเวลาหนึ่งในซีนแล้วเรากำลังจะอิน อยู่ๆ หนังก็เลือกตัดเปลี่ยนซีน แล้วก็เป็นแบบนี้เกือบทั้งเรื่อง ท้ายที่สุด เลยไม่อินกับอะไรในหนังเลย
ชอบ massage หนึ่งของหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการที่มนุษย์ผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า และตัดสินใจจะใช้วิทยาศาสตร์สร้างพระเจ้าของตัวเองขึ้นมา ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในเรื่องคิดที่จะบงการพระเจ้าที่ตนเองสร้างขึ้น แต่พอไม่สามารถควบคุมได้ตามที่คิดไว้ มันเลยเป็นพาร์ทที่น่าสนใจมากๆ เพราะปรัชญาตั้งตนนี้ แท้จริงแล้วพอมองย้อนกลับไปจริงๆ ในช่วงยุคสมัยหนึ่ง การมีอยู่ของวิทยาศาสตร์ ก็เป็นอีกสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อท้าทายต่อความเชื่อคนในสังคม (หรือเรียกว่าท้าทายต่อพระเจ้าที่ทุกคนเชื่อในตอนนั้น) แต่ในขณะเดียวกัน หลายครั้งหลายครา ผลประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ
โดยรวม Higher Power คือหนัง sci-fi ที่โดดเด่นในเรื่องของงาน visual effect และไอเดียตั้งต้นที่น่าสนใจ เหมาะที่จะดูเพื่อเป็น ref ในการทำหนังแนวนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ในแง่ของความบันเทิง และรายละเอียดต่างๆ ในเรื่อง ตัวหนังสอบตกเต็มๆ
FB Page:
https://www.Facebook.com/23SCENES
[CR] Movie Review : Higher Power - มนุษย์พลังฟ้าผ่า [5/10]
feature film, sci-fi
เรื่อง: Higher Power (Matthew Santoro, 2018)
คะแนน: 5/10
เรื่องราวเกี่ยวกับ โจ ชายหนุ่มวัยกลางคนธรรมดาๆ ที่ถูกทำการทดลองให้มีพลังพิเศษ เพื่อที่จะใช้ช่วยกอบกู้โลกจากคลื่นรังสีในอวกาศ แต่ในขณะเดียวกัน พลังพิเศษของโจก็สามารถที่จะทำลายทุกชีวิตบนโลกได้ด้วย
ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ในแง่ของไอเดียตั้งต้นที่พูดถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ ผนวกเข้ากับการทดลอง และมีการนำเรื่องปรัชญามาใส่ไว้ในหนัง แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังไม่ได้มอบความบันเทิงให้สักเท่าไหร่ อีกทั้งตัวบทยังมีช่องโหว่ในหลายๆ จุด ที่รายละเอียดบางอย่างก็ไปขัดกับรายละเอียดบางอย่างในหนัง
หนังพยายามใส่พาร์ทดราม่าครอบครัวเข้าไป ซึ่งน่าเสียดายที่หนังไม่ได้นำพาให้เรารู้สึกอินไปกับความสัมพันธ์ระหว่างตัว โจ และลูกสาวทั้งสอง อีกทั้งวิธีการเล่าในเรื่องก็ดูสะเปะสะปะมากพอสมควร เลยทำให้ไม่ได้รู้สึกอินกับอะไรในจุดนี้
จุดขายของหนังเรื่องนี้หลักๆ คงจะเป็นเรื่องของ visual effect ที่อัดแน่นมาตลอดทั้งเรื่อง บวกกับเพลงประกอบมันส์ๆ ที่ใส่เต็มเพื่อเร้าอารมณ์ในเกือบทุกๆ สถานการณ์แอคชั่นในเรื่อง ซึ่งพอมันใส่เยอะมากเกินไป เลยทำให้ภาพรวมออกมาเละเทะไม่เป็นท่า อีกทั้งยังชวนให้หลับมากกว่าตื่นเต้นอีกด้วย
ปัญหาอีกจุดที่ค่อนข้างเด่นชัดคือเรื่องของการตัดต่อที่ตัดได้ค่อนข้างห้วนและขัดอารมณ์มากพอสมควร คือพอดูไปถึงระยะเวลาหนึ่งในซีนแล้วเรากำลังจะอิน อยู่ๆ หนังก็เลือกตัดเปลี่ยนซีน แล้วก็เป็นแบบนี้เกือบทั้งเรื่อง ท้ายที่สุด เลยไม่อินกับอะไรในหนังเลย
ชอบ massage หนึ่งของหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการที่มนุษย์ผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า และตัดสินใจจะใช้วิทยาศาสตร์สร้างพระเจ้าของตัวเองขึ้นมา ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในเรื่องคิดที่จะบงการพระเจ้าที่ตนเองสร้างขึ้น แต่พอไม่สามารถควบคุมได้ตามที่คิดไว้ มันเลยเป็นพาร์ทที่น่าสนใจมากๆ เพราะปรัชญาตั้งตนนี้ แท้จริงแล้วพอมองย้อนกลับไปจริงๆ ในช่วงยุคสมัยหนึ่ง การมีอยู่ของวิทยาศาสตร์ ก็เป็นอีกสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อท้าทายต่อความเชื่อคนในสังคม (หรือเรียกว่าท้าทายต่อพระเจ้าที่ทุกคนเชื่อในตอนนั้น) แต่ในขณะเดียวกัน หลายครั้งหลายครา ผลประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ
โดยรวม Higher Power คือหนัง sci-fi ที่โดดเด่นในเรื่องของงาน visual effect และไอเดียตั้งต้นที่น่าสนใจ เหมาะที่จะดูเพื่อเป็น ref ในการทำหนังแนวนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ในแง่ของความบันเทิง และรายละเอียดต่างๆ ในเรื่อง ตัวหนังสอบตกเต็มๆ
FB Page: https://www.Facebook.com/23SCENES
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้