🇭🇰 Hongkong-Macau 2018 🇲🇴 Part 1
😘 ครั้งแรกในชีวิตในการจัดโปรแกรมเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองล้วนๆ
👉การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
✈️ จองตั๋วเครื่องบิน
ปัจจัยสำคัญแรกของการเดินทางเริ่มต้นจากการจองตั๋วเครื่องบิน ได้โปรโมชั่นของสายการบินแอร์เอเชีย ไปกลับดอนเมือง-มาเก๊า 3 คน คนละ 3,130 บาท จองตั๋วเรียบร้อยก็ทิ้งช่วงยาวนาน เพราะจองกันข้ามปีเลย แล้วมาซื้อน้ำหนักกระเป๋าทีหลัง โดยเลือกขาไป 25 กก. ขากลับ 50 กก. ราคารวม 2,700 บาท เพราะฉะนั้น เดินทาง 3 คน ค่าตั๋วเครื่องบินรวมน้ำหนักกระเป๋า คนละ 4,030 บาท
🏢 จองที่พัก
ใกล้ๆ เดินทางประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็มาจัดการเรื่องที่พัก โดยเลือกจองผ่านเว็บไซต์ Agoda.com เลือกเรทราคา กับเรทติ้งจากผู้เข้าพักก่อนหน้า ในครั้งนี้เป็นการเดินทาง 4 วัน 3 คืน เลยเลือกที่จะพักที่ฮ่องกง 2 คืน มาเก๊า 1 คืน ไปไล่ๆ หาข้อมูลจาก pantip บ้าง blog ต่างๆ บ้าง จนได้บทสรุปเป็นพักที่ Tom's Guesthouse ย่านจิมซาจุ่ย เลือกย่านนี้เพราะเห็นว่าใกล้ท่าเรือ และเขาว่ากันว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ห้องพักที่เลือกเป็นห้องที่นอนได้ 4 คน ราคา 2 คืน 2,822.35 บาท อีก 1 คืนที่มาเก๊า เลือกพักที่โรงแรม Hou Kong เพราะเห็นว่านักท่องเที่ยวไทยไปพักกันตลอด และใกล้แหล่งท่องเที่ยวย่าน Senado Sqaure ห้องพักที่นี่บุ้คห้องนอน 3 คน 1 คืน ราคา 2,955.71 บาท
💲 แลกเงิน
ใช้บริการอยู่ที่เดียว คือ Super Rich อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่แลก อยู่ที่ 4.07 พกเงินไปเบาๆ แค่พอกินอยู่
📑ซื้อประกันภัยการเดินทาง
การซื้อประกันก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ โดยครั้งนี้เลือกซื้อผ่าน AXA โปรแกรม Gold เลือกประเทศแบบ Worldwide เพราะเดินทางมากกว่า 1 ประเทศ ในราคา คนละ 400 บาท
🚡ซื้อตั๋วล่วงหน้า
รอบนี้ที่ไปมีที่เดียวที่จำเป็นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า คือ 'กระเช้านองปิง' สำหรับขึ้นไปเยี่ยมชมพระใหญ่ที่วัดโปลิน เพราะเห็นในกระทู้ต่างๆ มาว่า ถ้าไม่จองไปก่อนจะต้องรอคิวยาวเหยียด เราเองเลือกซื้อผ่านเว็บ
https://www.np360.com.hk/en/ โดยเลือกขาขึ้นพื้นกระเช้าใส ขาลงพื้นกระเช้าทึบ ไปกลับราคา คนละ 233 HK$ รูดบัตรเครดิตไป ตกเป็นเงินไทยคนละ 978.60 (เรทประมาณ 4.2) เมื่อตัดเงินเรียบร้อย เว็บไซต์จะส่งเอกสารยืนยัน และตั๋วมาให้ทางอีเมล ก็ปริ้นท์รอไปยื่นได้เลย
💻 ทำโปรแกรมการเดินทาง
ใช้เวลาเสาะหาข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ก่อนหน้าหลายๆ แหล่ง แล้วจัดโปรแกรมระบุสถานที่เที่ยว เส้นทางการเดินทางจากสนามบิน นั่งเรือข้ามไปฮ่องกง ข้ามกลับมาอีก รวมถึงประตูทางออกที่พอจะหาได้ก่อนไว้พอสมควร และหาค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ไว้ให้เพื่อนๆ ด้วย จะได้ประมาณงบล่วงหน้าไว้บางส่วนด้วย แต่ไม่ว่าจะวางแผนไว้มากแค่ไหน เหตุการณ์เฉพาะหน้าก็ย่อมต้องมีให้งง ให้หลง หาทางไม่ถูกอยู่ดี
📱 เตรียมซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ
เราใช้ซิมเดิมทีเพิ่งใช้ที่ญี่ปุ่นมา แล้วเติมเงิน 299 บาท เพื่อซื้อแพ็คเกจต่างประเทศโซนเอเชีย 8 วัน
🖨️ เตรียมเอกสารสำคัญทั้งหมด
เอกสารต่างๆ ที่จองไว้ ซื้อไว้ จะปริ้นท์ถือไปด้วยทั้งหมด ทั้งบุ้คกิ้งโรงโรม ตั๋วกระเช้า พาสปอร์ต เอกสารประกัน โปรแกรม แผนที่ บลาๆๆๆ ได้ยินมาว่า ตม.ฮ่องกงเข้ม เอกสารยืนยันตัวบุคคลของสาวๆ จึงต้องเตรียมไปด้วย ตัวเราเองเตรียมบัตรนิสิต ส่วนเพื่อนให้ถือบัตรข้าราชการไปด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง ทั้งหมด 7,334.62 บาท
🇭🇰 Hongkobg-Macau 2018 🇲🇴 Part 2
✈️ เดินทางออกจากประเทศไทยเวลา 6.50 น. ถึงมาเก๊าเวลา 10.20 น. (เวลามาเก๊า)
พอไปถึงก็เตรียมตัวผ่าน ตม. มาเก๊า ผ่านไปง่ายๆ สบายๆ ตม. ไม่สแตมป์ในพาสปอร์ตแต่มีกระดาษบันทึกการเข้าประเทศใบเล็กๆ ส่งให้มา ก็เอาเสียบไว้ในพาสปอร์ตทิ้งไว้ แล้วก็เดินผ่านช่องไม่มีของต้องสำแดงออกมาชิลๆ
🚶🚶หลังจากนั้นทัวร์เดินก็เริ่มขึ้นด้วยการเดินออกจากสนามบินไปท่าเรือ ferry จากฝั่ง Taipa ที่นี่เรียก Taipa Ferry Terminal ระยะทางระหว่างสนามบินกับท่าเรือ ประมาณ 650 เมตร เดินกันไปสบายๆ พอออกจากสนามบินเท่านั้นแหละ ร้อนมว้ากจร้า แต่ก็พยายามอยากเก็บบรรยากาศเพราะอุตส่าห์ยืมกล้องเจร้ไหมไปละ แต่พอเปิดเครื่องก็รวนๆ ถ่ายไม่ชัด เลยเก็บกล้องกลับใส่กระเป๋าแล้วหยิบมือถือมาเก็บภาพแทน
เดินแบบงงๆ มาจนถึงท่าเรือโดยที่ยังไม่เห็นป้ายอะไรที่บอกให้รู้ได้ว่าใช่ท่าเรือหรือไม่ ภาษาที่มาเก๊าก็เข้าใจยากหน่อยเพราะเขียนแบบภาษาโปรตุเกสเพราะเคยโดนปกครองโดยโปรตุเกสมาก่อนนั่นเอง เดินไปจนเจอทางขึ้นไปซื้อตั๋วเลยขึ้นบันไดเลื่อนกันไป โอ้วววว ถูกทางละ มีช่องขายตั๋วเต็มไปหมด มุ่งหน้าไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นที่ท่าเรือ China Ferry Terminal ฝั่งฮ่องกง ที่เลือกขึ้นท่านี้ เพราะท่าเรือตั้งอยู่ย่านจิมซาจุ่ย ซึ่งจองที่พักไว้ย่านนี้นั่นเอง
🚤 เรือที่จากท่า Taipa มีเฉพาะของบริษัท Cotai Water Jet ราคาคนละ 160 HK$ ได้เรือรอบเวลา 11.30 น. จร้า จริงๆ ตอนได้ตั๋วยังมีเวลาอีกราวๆ 45 นาที แต่ก็แวะทำอะไรไม่ได้นะจ๊ะ เพราะเราต้องผ่าน ตม. ขาออกอีกรอบนึง
ตั๋วพร้อม ใจพร้อม แต่ท้องไม่พร้อม เพราะเริ่มหิวกันแล้ว แต่ยังทานไม่ได้ พี่หมีเลยขอหาน้ำหวานเพิ่มพลังก่อน โดยใช้แบงค์พันดอลล่าร์จ่ายเพื่อซื้อน้ำสิบกว่าดอล พี่หมีโดนแม่ค้างอนค่ะ เลยต้องเอาเงินทอนค่าเรือ 20 ดอลล่าร์ไปจ่ายแทน
ตอนซื้อตั๋วพนักงานจะยังไม่บุ้คที่นั่งให้ เราต้องผ่าน ตม. มาเก๊าไปก่อน แล้วไปยื่นตั๋วบริเวณหน้าที่พักผู้โดยสาร พนักงานเห็นว่ามา 3 คนเลยถามว่ามาด้วยกันไหม เขาก็ให้ยื่นตั๋วไปพร้อมกัน แล้วเขาก็ติดเลขที่นั่งให้ 3 คนนั่งด้วยกัน ^^
ระหว่างนั่งรอเวลาเรือออกจากท่า ก็มีคนมาเก็บแบบสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางมามาเก๊าว่ามาทำอะไร มากับใคร ได้มีการใช้จ่ายที่มาเก๊ามั้ย โดยใช้มือถือ (มั้ง) เป็นแบบสอบถามให้เราตอบ มาฟุดฟิดฟอไฟตลอดเวลา ดีนะ เทอมนี้เรียนอิ๊ง 2 ตัว เลยคุ้นกับภาษามากกว่าปีอื่นๆ 555 ตอบแบบสอบถามเสร็จก็ได้เวลาลงเรือพอดี
พอเขาเปิดทางออกไปลงเรือก็ถือสัมภาระเดินกันไปตามทาง เราก็เริ่มเจออุปสรรคในการเดินทาง คือ กลิ่น ผดส ชาติอื่นที่อบอวลสุดๆ เพราะเขามากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ไม่ต่ำกว่า 30 คน นั่งล้อมรอบเราสามคนกันเลยทีเดียว นาทีนี้ต้องควักยาเหลืองประจำตัวมากลบกลิ่นทันที และนอกจากกลิ่นแล้วกรุ๊ปทัวร์นี้ก็มีความวุ่นวายเดินไปมา คุยกัน ถ่ายรูปกัน กลิ่นโชยตลอด please!!! สงสารข้าเถอะ
เรือใช้ระยะเวลาแล่นข้ามฟากจากมาเก๊าไปฮ่องกงประมาณ 1 ชม.
ต่อด้านล่างนะคะ
ฮ่องกง มาเก๊า 2018 ไปกันเองกับเราสองสามคน Day 1
😘 ครั้งแรกในชีวิตในการจัดโปรแกรมเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองล้วนๆ
👉การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
✈️ จองตั๋วเครื่องบิน
ปัจจัยสำคัญแรกของการเดินทางเริ่มต้นจากการจองตั๋วเครื่องบิน ได้โปรโมชั่นของสายการบินแอร์เอเชีย ไปกลับดอนเมือง-มาเก๊า 3 คน คนละ 3,130 บาท จองตั๋วเรียบร้อยก็ทิ้งช่วงยาวนาน เพราะจองกันข้ามปีเลย แล้วมาซื้อน้ำหนักกระเป๋าทีหลัง โดยเลือกขาไป 25 กก. ขากลับ 50 กก. ราคารวม 2,700 บาท เพราะฉะนั้น เดินทาง 3 คน ค่าตั๋วเครื่องบินรวมน้ำหนักกระเป๋า คนละ 4,030 บาท
🏢 จองที่พัก
ใกล้ๆ เดินทางประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็มาจัดการเรื่องที่พัก โดยเลือกจองผ่านเว็บไซต์ Agoda.com เลือกเรทราคา กับเรทติ้งจากผู้เข้าพักก่อนหน้า ในครั้งนี้เป็นการเดินทาง 4 วัน 3 คืน เลยเลือกที่จะพักที่ฮ่องกง 2 คืน มาเก๊า 1 คืน ไปไล่ๆ หาข้อมูลจาก pantip บ้าง blog ต่างๆ บ้าง จนได้บทสรุปเป็นพักที่ Tom's Guesthouse ย่านจิมซาจุ่ย เลือกย่านนี้เพราะเห็นว่าใกล้ท่าเรือ และเขาว่ากันว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ห้องพักที่เลือกเป็นห้องที่นอนได้ 4 คน ราคา 2 คืน 2,822.35 บาท อีก 1 คืนที่มาเก๊า เลือกพักที่โรงแรม Hou Kong เพราะเห็นว่านักท่องเที่ยวไทยไปพักกันตลอด และใกล้แหล่งท่องเที่ยวย่าน Senado Sqaure ห้องพักที่นี่บุ้คห้องนอน 3 คน 1 คืน ราคา 2,955.71 บาท
💲 แลกเงิน
ใช้บริการอยู่ที่เดียว คือ Super Rich อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่แลก อยู่ที่ 4.07 พกเงินไปเบาๆ แค่พอกินอยู่
📑ซื้อประกันภัยการเดินทาง
การซื้อประกันก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ โดยครั้งนี้เลือกซื้อผ่าน AXA โปรแกรม Gold เลือกประเทศแบบ Worldwide เพราะเดินทางมากกว่า 1 ประเทศ ในราคา คนละ 400 บาท
🚡ซื้อตั๋วล่วงหน้า
รอบนี้ที่ไปมีที่เดียวที่จำเป็นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า คือ 'กระเช้านองปิง' สำหรับขึ้นไปเยี่ยมชมพระใหญ่ที่วัดโปลิน เพราะเห็นในกระทู้ต่างๆ มาว่า ถ้าไม่จองไปก่อนจะต้องรอคิวยาวเหยียด เราเองเลือกซื้อผ่านเว็บ https://www.np360.com.hk/en/ โดยเลือกขาขึ้นพื้นกระเช้าใส ขาลงพื้นกระเช้าทึบ ไปกลับราคา คนละ 233 HK$ รูดบัตรเครดิตไป ตกเป็นเงินไทยคนละ 978.60 (เรทประมาณ 4.2) เมื่อตัดเงินเรียบร้อย เว็บไซต์จะส่งเอกสารยืนยัน และตั๋วมาให้ทางอีเมล ก็ปริ้นท์รอไปยื่นได้เลย
💻 ทำโปรแกรมการเดินทาง
ใช้เวลาเสาะหาข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ก่อนหน้าหลายๆ แหล่ง แล้วจัดโปรแกรมระบุสถานที่เที่ยว เส้นทางการเดินทางจากสนามบิน นั่งเรือข้ามไปฮ่องกง ข้ามกลับมาอีก รวมถึงประตูทางออกที่พอจะหาได้ก่อนไว้พอสมควร และหาค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ไว้ให้เพื่อนๆ ด้วย จะได้ประมาณงบล่วงหน้าไว้บางส่วนด้วย แต่ไม่ว่าจะวางแผนไว้มากแค่ไหน เหตุการณ์เฉพาะหน้าก็ย่อมต้องมีให้งง ให้หลง หาทางไม่ถูกอยู่ดี
📱 เตรียมซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ
เราใช้ซิมเดิมทีเพิ่งใช้ที่ญี่ปุ่นมา แล้วเติมเงิน 299 บาท เพื่อซื้อแพ็คเกจต่างประเทศโซนเอเชีย 8 วัน
🖨️ เตรียมเอกสารสำคัญทั้งหมด
เอกสารต่างๆ ที่จองไว้ ซื้อไว้ จะปริ้นท์ถือไปด้วยทั้งหมด ทั้งบุ้คกิ้งโรงโรม ตั๋วกระเช้า พาสปอร์ต เอกสารประกัน โปรแกรม แผนที่ บลาๆๆๆ ได้ยินมาว่า ตม.ฮ่องกงเข้ม เอกสารยืนยันตัวบุคคลของสาวๆ จึงต้องเตรียมไปด้วย ตัวเราเองเตรียมบัตรนิสิต ส่วนเพื่อนให้ถือบัตรข้าราชการไปด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง ทั้งหมด 7,334.62 บาท
🇭🇰 Hongkobg-Macau 2018 🇲🇴 Part 2
✈️ เดินทางออกจากประเทศไทยเวลา 6.50 น. ถึงมาเก๊าเวลา 10.20 น. (เวลามาเก๊า)
พอไปถึงก็เตรียมตัวผ่าน ตม. มาเก๊า ผ่านไปง่ายๆ สบายๆ ตม. ไม่สแตมป์ในพาสปอร์ตแต่มีกระดาษบันทึกการเข้าประเทศใบเล็กๆ ส่งให้มา ก็เอาเสียบไว้ในพาสปอร์ตทิ้งไว้ แล้วก็เดินผ่านช่องไม่มีของต้องสำแดงออกมาชิลๆ
🚶🚶หลังจากนั้นทัวร์เดินก็เริ่มขึ้นด้วยการเดินออกจากสนามบินไปท่าเรือ ferry จากฝั่ง Taipa ที่นี่เรียก Taipa Ferry Terminal ระยะทางระหว่างสนามบินกับท่าเรือ ประมาณ 650 เมตร เดินกันไปสบายๆ พอออกจากสนามบินเท่านั้นแหละ ร้อนมว้ากจร้า แต่ก็พยายามอยากเก็บบรรยากาศเพราะอุตส่าห์ยืมกล้องเจร้ไหมไปละ แต่พอเปิดเครื่องก็รวนๆ ถ่ายไม่ชัด เลยเก็บกล้องกลับใส่กระเป๋าแล้วหยิบมือถือมาเก็บภาพแทน
เดินแบบงงๆ มาจนถึงท่าเรือโดยที่ยังไม่เห็นป้ายอะไรที่บอกให้รู้ได้ว่าใช่ท่าเรือหรือไม่ ภาษาที่มาเก๊าก็เข้าใจยากหน่อยเพราะเขียนแบบภาษาโปรตุเกสเพราะเคยโดนปกครองโดยโปรตุเกสมาก่อนนั่นเอง เดินไปจนเจอทางขึ้นไปซื้อตั๋วเลยขึ้นบันไดเลื่อนกันไป โอ้วววว ถูกทางละ มีช่องขายตั๋วเต็มไปหมด มุ่งหน้าไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นที่ท่าเรือ China Ferry Terminal ฝั่งฮ่องกง ที่เลือกขึ้นท่านี้ เพราะท่าเรือตั้งอยู่ย่านจิมซาจุ่ย ซึ่งจองที่พักไว้ย่านนี้นั่นเอง
🚤 เรือที่จากท่า Taipa มีเฉพาะของบริษัท Cotai Water Jet ราคาคนละ 160 HK$ ได้เรือรอบเวลา 11.30 น. จร้า จริงๆ ตอนได้ตั๋วยังมีเวลาอีกราวๆ 45 นาที แต่ก็แวะทำอะไรไม่ได้นะจ๊ะ เพราะเราต้องผ่าน ตม. ขาออกอีกรอบนึง
ตั๋วพร้อม ใจพร้อม แต่ท้องไม่พร้อม เพราะเริ่มหิวกันแล้ว แต่ยังทานไม่ได้ พี่หมีเลยขอหาน้ำหวานเพิ่มพลังก่อน โดยใช้แบงค์พันดอลล่าร์จ่ายเพื่อซื้อน้ำสิบกว่าดอล พี่หมีโดนแม่ค้างอนค่ะ เลยต้องเอาเงินทอนค่าเรือ 20 ดอลล่าร์ไปจ่ายแทน
ตอนซื้อตั๋วพนักงานจะยังไม่บุ้คที่นั่งให้ เราต้องผ่าน ตม. มาเก๊าไปก่อน แล้วไปยื่นตั๋วบริเวณหน้าที่พักผู้โดยสาร พนักงานเห็นว่ามา 3 คนเลยถามว่ามาด้วยกันไหม เขาก็ให้ยื่นตั๋วไปพร้อมกัน แล้วเขาก็ติดเลขที่นั่งให้ 3 คนนั่งด้วยกัน ^^
ระหว่างนั่งรอเวลาเรือออกจากท่า ก็มีคนมาเก็บแบบสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางมามาเก๊าว่ามาทำอะไร มากับใคร ได้มีการใช้จ่ายที่มาเก๊ามั้ย โดยใช้มือถือ (มั้ง) เป็นแบบสอบถามให้เราตอบ มาฟุดฟิดฟอไฟตลอดเวลา ดีนะ เทอมนี้เรียนอิ๊ง 2 ตัว เลยคุ้นกับภาษามากกว่าปีอื่นๆ 555 ตอบแบบสอบถามเสร็จก็ได้เวลาลงเรือพอดี
พอเขาเปิดทางออกไปลงเรือก็ถือสัมภาระเดินกันไปตามทาง เราก็เริ่มเจออุปสรรคในการเดินทาง คือ กลิ่น ผดส ชาติอื่นที่อบอวลสุดๆ เพราะเขามากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ไม่ต่ำกว่า 30 คน นั่งล้อมรอบเราสามคนกันเลยทีเดียว นาทีนี้ต้องควักยาเหลืองประจำตัวมากลบกลิ่นทันที และนอกจากกลิ่นแล้วกรุ๊ปทัวร์นี้ก็มีความวุ่นวายเดินไปมา คุยกัน ถ่ายรูปกัน กลิ่นโชยตลอด please!!! สงสารข้าเถอะ
เรือใช้ระยะเวลาแล่นข้ามฟากจากมาเก๊าไปฮ่องกงประมาณ 1 ชม.
ต่อด้านล่างนะคะ