"โฮ่งๆๆๆๆ โฮ่งๆๆๆๆ แฮร่!!!!! โฮ่งๆๆๆๆ โฮ่งๆๆๆๆ โฮ่งๆๆๆๆ โฮ่งๆๆๆๆ"
เสียงเห่าดังขรมของเจ้าบิ๊กหมาพันธุ์บางแก้วที่เลี้ยงมาเกือบสิบปี ทำให้สายสมรละล้าละลังว่าควรจะนวดแป้งต่อไปดี หรือวางมือแล้วรีบออกไปดูว่าข้างนอกมีอะไร วันนี้ได้ข่าวว่าสามีกำลังจะได้เซ็นสัญญาโครงการใหญ่กับรัฐฯ แล้วเธอจะอยู่เฉยได้อย่างไรต้องงัดเอาฝีไม้ลายมือในการทำอาหารฝรั่งมามัดใจสามี จะได้ไม่หาว่าวันๆเธอไม่ทำอะไรนอกจากแบมือขอเงินอย่างเดียว
เอ.....ทำไมเจ้าบิ๊กถึงเห่าเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนั้น เธอพยายามชะเง้อมองไปหน้าบ้าน โชคร้ายต้นมะม่วงผลิใบเขียวขจีบดบังทัศนวิสัยเหลือเกิน
ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจดังเฮือกด้วยเพราะไม่อยากหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ แล้วรีบถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้เพื่อเดินออกไปดูว่ามีเหตุผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่ แม้หลายครั้งหลายหนตั้งแต่เลี้ยงเจ้าบิ๊กมาเสียงเห่ากรรโชกแบบนี้อาจเป็นแค่เพียงรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดส่งแก็สบ้านฝั่งตรงกันข้าม
แต่ภาพที่เห็นทำให้สายสมรถึงกับยกมือปิดปากอุทาน " คุณพระช่วย! " เมื่อเจ้าบิ๊กของเธอกำลังกัดบางสิ่งบางอย่างที่เธอเห็นไม่ถนัดว่าคืออะไรอย่างเอาเป็นเอาตาย มันทำให้เธอยิ่งสาวเท้าตรงไปหน้าบ้านเร็วขึ้น จนกลายเป็นวิ่ง แล้วก็ต้องใจหายไปถึงตาตุ่มเมื่อเห็นถนัดถนี่ว่ามันกำลังขย้ำขาหน้าของสุนัขพุดเดิ้ลแปลกหน้าที่ยื่นเข้ามาในรั้วบ้านจนเนื้อหลุดห้อยรุ่งริ่งคาประตูบ้าน ซึ่งแม้เธอจะเอาตาข่ายมาปิดไว้ แต่ความห่างของตาข่ายก็มากพอที่ขาน้อยๆของสุนัขพันธุ์เล็กจะแหย่สอดเข้าได้ ซึ่งที่ผ่านมาบ้านเธอไม่เคยเจอะปัญหานี้ เพราะไม่มีบ้านไหนเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กเลย
" หยุดดดดดดดดดดดดดด เจ้าบิ๊ก หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " สายสมรตะโกนเสียงดังพร้อมกันพยายามเข้าไปแยกหมาของเธอให้ห่างออกมาห่างจากรั้วประตูบ้าน แต่นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว เจ้าบิ๊กซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์คลุ้มคลั่งกลับกัดมือของเธอจนได้เลือด อาจเพราะมันเจ็บและตกใจที่จู่ๆถูกยื้อหยุดฉุดกระชากในขณะที่กำลังโรมรันพันตูอยู่กลับหันมากัดเธอด้วย
"โอ๊ยยย"
สายสมรสะบัดมือออกจากการพยายามยื้อยุดกับเจ้าบิ๊ก มือของเธอเป็นแผลเลือดไหลแต่เธอไม่มีเวลามาสนใจตัวเองตอนนี้ สายสมรทั้งเจ็บทั้งกังวลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจวิ่งไปหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามใหญ่มาฟาดหลังของเจ้าบิ๊กดังพลั่ก
"เอ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เอ๋งงงงงงงงงงงงงงงงง เอ๋งงงงงงงงงงงงงงง"
เจ้าบิ๊กร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดก่อนวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มมะลิ ขณะที่สายสมรเพิ่งได้เห็นอย่างชัดๆว่าพุดเดิ้ลตัวจ้อยสีขาวกำลังนอนหายใจรวยรินขาหน้าอาบเลือดอยู่นอกประตูบ้าน เธอรีบไขกุญแจประตูรั้วบ้านแล้ววิ่งออกไปดูอาการเจ้าหมาน้อย ในขณะที่มียายแก่แปลกหน้าเดินกะโผลกกะเผลกพรางร้องเสียงสั่นว่า
"ขาว ขาวเอ๊ยย ทำใจดีๆไว้นะลูกนะ" ก่อนที่จะค่อยๆทรุดกายก้มลงมาอุ้มเจ้าพุดเดิลสีขาวขาหน้าเลือดโชกไว้ด้วยหัวใจแตกสลาย เสียงสูดน้ำมูกพร้อมกับมือเหี่ยวย่นสั่นระริกจับตัวของเจ้าขาวอุ้มขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือ แล้วเงยหน้ามาตัดพ้อสายสมรด้วยแววตาเสียใจอย่างสุดซึ้ง
"หนูขอโทษจริงๆค่ะคุณยาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ้าบิ๊กถึงทำรุนแรงขนาดนี้...ค..คุณยายอย่าเพิ่งแจ้งความนะคะ" ตอนนี้ทุกอย่างในหัวเธอกำลังตีกันยุ่งไปหมด เป็นห่วงเจ้าบิ๊กก็ห่วง แต่อาการของเจ้าพุดเดิ้ลตัวน้อยน่ากังวลยิ่งกว่า และที่เธอกลัวที่สุดคือการเป็นคดีความข้อหาดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงไม่ดีพอ ปล่อยให้ไปทำร้ายสุนัขตัวอื่น เห็นแต่ในข่าวเรื่องคนอื่นก็กังวลแต่พอมาเกิดกับตัวเองความกังวลพุ่งสูงกว่าที่เคยเป็นสิบๆเท่า และประเด็นน่ากลัวที่สุดนั้นคือกลัวสามีที่หมู่นี้ดูจะหงุดหงิดกับชีวิตคู่ จะใช้เรื่องนี้เป็นสาเหตุโกรธเคืองและหย่ากับเธอ
"ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าขาวจะตายไหม" ยายแก่ร้องไห้เสียงสั่นถามสายสมร
"ถ้าไปหาหมอทันก็ไม่ตายหรอกค่ะ คุณยายรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะคะ หนูจะรีบเอารถออกพาไปรพ." สายสมรกระวีกระวาดวิ่งกลับเข้าบ้านเพื่อไปหยิบกุญแจรถยนต์แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วก่อนวิ่งมาเปิดประตูให้คุณยายอุ้มสุนัขที่บาดเจ็บขึ้นรถ
"หวังว่าทุกอย่างคงยังไม่สายไปนะ" สายสมรพึมพำขณะขับรถอย่างเป็นกังวล โดยไม่รู้เลยว่ายายแก่ที่นั่งข้างๆแอบแสยะยิ้มด้วยความพอใจ
เจ้าพุดเดิ้ลตัวเล็กนี้เป็นของหลานสาวเธอ นอกจากเธอจะไม่เอ็นดูมันแล้ว ยังคิดว่ามันเป็นภาระที่ควรหาทางกำจัดทิ้ง ใครจะรู้ว่าลูกสุนัขตัวสวยน่ารักที่วางขายตามตลาดนัดที่หลานสาวของเธออยากได้ร้องงอแงจะเอาๆๆพอซื้อมาเลี้ยงแล้วจะอุดมไปด้วยโรค และค่าใช้จ่ายสารพัด จนชีวิตจนๆหาเช้ากินค่ำของเธอกับลูกชายแทบจะพยุงไว้ไม่อยู่ และเมื่อไม่นานมานี่หมอเพิ่งตรวจพบว่ามันเป็นโรคไต วันที่พาไปรักษายังค้างจ่ายหมออยู่เลย จำต้องถอดแหวนทองเป็นประกันว่าจะกลับไปจ่าย
ถ้าไม่ออกอุบายเอาพุดเดิ้ลมาเดินเล่นในหมู่บ้านละแวกนั้นซึ่งเธอก็รู้เป็นอย่างดีว่าเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ไว้และยังรู้อีกด้วยว่าตอนกลางวันจะเปลี่ยวมากพ่อบ้านเกือบทุกหลังไปทำงานกันหมด ส่วนกล้องวงจรปิดที่ตรวจจับความผิดปกติบริเวณนั้น ลูกชายของเธอก็เพิ่งใช้ความเชี่ยวชาญด้วยวิชาที่เพื่อนในคุกสอนงัดแงะถอดออกไปเตรียมขาย....พร้อมกับข้าวของอย่างอื่นในบ้านขณะที่เจ้าของบ้านผู้หญิงพาเธอและหมาน้อยที่น่าสงสารออกไปหาหมอ ซึ่งคาดว่าจะมีเยอะอยู่
ก็คุณผู้ชายเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุนั้นเป็นถึงกรรมการบริษัทใหญ่โต ใช้รถคันละหลายล้าน ซึ่งในขณะที่เกิดเหตุกำลังชุลมุนวุ่นวายนั้น เธอก็ได้ส่งสัญญาณให้ลูกชายของเธอปีนเข้าตรงบริเวณมุมอับสายตาคนเพราะร่มเงาต้นไม้เข้าไปเรียบร้อย...ยายแก่ก้มลงมองลูกหมาบนตักด้วยความสมเพช แต่ก็นึกขอบใจมันที่จะนำพารายได้มาให้เธอและลูกหลานใช้ประทังชีวิตได้อีกระยะใหญ่ๆ...สักพักหนึ่ง....อ้อ!!!!ยายคงยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่ามีลูกชายคนเล็กอีกคนซึ่งนัดแนะกันไว้ว่าจะให้หญิงเจ้าบ้านเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเปลี่ยว ทำทีว่าคลีนิคที่รักษาเป็นประจำอยู่ในฆ่ซอยนั้นนั้น ก่อนวางแผนฆ่าปาดคอแยกเอาอะไหล่รถยนต์ไปขายอู่เถื่อน .........งานนี้ช่างคุ้มจริงๆ
ยายแก่เหลือบไปดูสายสมรที่กำลังตกอยู่ในความเครียดและภวังค์ความคิดของตนตั้งหน้าตั้งตาขับรถ มือข้างซ้ายชุ่มไปด้วยเลือดเพราะสถานการณ์ที่เจอมันไม่เอื้ออำนวยให้เธอใส่ใจทำแผลตัวเอง
" แม่หนูเอ๊ย....เลือดที่มือออกใหญ่แล้ว เอาผ้าเช็ดหน้ายายพันไว้ก่อนไหม ผ้าใหม่ยังไม่ได้ใช้"
สายสมรหันไปมองยายแก่ด้วยความซาบซึ้งก่อนรับผ้ามาแล้วกล่าวว่า "ขอบคุณค่ะยาย" ชีวิตนี้นอกจากจะมีสามีที่ดีแล้ว แม้จะเกิดเหตุร้ายก็ดันมาเจอคนมีน้ำใจงามอีก เป็นโชคดีของเธอเหลือเกิน
คุ้มจริงๆ
เสียงเห่าดังขรมของเจ้าบิ๊กหมาพันธุ์บางแก้วที่เลี้ยงมาเกือบสิบปี ทำให้สายสมรละล้าละลังว่าควรจะนวดแป้งต่อไปดี หรือวางมือแล้วรีบออกไปดูว่าข้างนอกมีอะไร วันนี้ได้ข่าวว่าสามีกำลังจะได้เซ็นสัญญาโครงการใหญ่กับรัฐฯ แล้วเธอจะอยู่เฉยได้อย่างไรต้องงัดเอาฝีไม้ลายมือในการทำอาหารฝรั่งมามัดใจสามี จะได้ไม่หาว่าวันๆเธอไม่ทำอะไรนอกจากแบมือขอเงินอย่างเดียว
เอ.....ทำไมเจ้าบิ๊กถึงเห่าเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนั้น เธอพยายามชะเง้อมองไปหน้าบ้าน โชคร้ายต้นมะม่วงผลิใบเขียวขจีบดบังทัศนวิสัยเหลือเกิน
ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจดังเฮือกด้วยเพราะไม่อยากหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ แล้วรีบถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้เพื่อเดินออกไปดูว่ามีเหตุผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่ แม้หลายครั้งหลายหนตั้งแต่เลี้ยงเจ้าบิ๊กมาเสียงเห่ากรรโชกแบบนี้อาจเป็นแค่เพียงรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดส่งแก็สบ้านฝั่งตรงกันข้าม
แต่ภาพที่เห็นทำให้สายสมรถึงกับยกมือปิดปากอุทาน " คุณพระช่วย! " เมื่อเจ้าบิ๊กของเธอกำลังกัดบางสิ่งบางอย่างที่เธอเห็นไม่ถนัดว่าคืออะไรอย่างเอาเป็นเอาตาย มันทำให้เธอยิ่งสาวเท้าตรงไปหน้าบ้านเร็วขึ้น จนกลายเป็นวิ่ง แล้วก็ต้องใจหายไปถึงตาตุ่มเมื่อเห็นถนัดถนี่ว่ามันกำลังขย้ำขาหน้าของสุนัขพุดเดิ้ลแปลกหน้าที่ยื่นเข้ามาในรั้วบ้านจนเนื้อหลุดห้อยรุ่งริ่งคาประตูบ้าน ซึ่งแม้เธอจะเอาตาข่ายมาปิดไว้ แต่ความห่างของตาข่ายก็มากพอที่ขาน้อยๆของสุนัขพันธุ์เล็กจะแหย่สอดเข้าได้ ซึ่งที่ผ่านมาบ้านเธอไม่เคยเจอะปัญหานี้ เพราะไม่มีบ้านไหนเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กเลย
" หยุดดดดดดดดดดดดดด เจ้าบิ๊ก หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " สายสมรตะโกนเสียงดังพร้อมกันพยายามเข้าไปแยกหมาของเธอให้ห่างออกมาห่างจากรั้วประตูบ้าน แต่นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว เจ้าบิ๊กซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์คลุ้มคลั่งกลับกัดมือของเธอจนได้เลือด อาจเพราะมันเจ็บและตกใจที่จู่ๆถูกยื้อหยุดฉุดกระชากในขณะที่กำลังโรมรันพันตูอยู่กลับหันมากัดเธอด้วย
"โอ๊ยยย"
สายสมรสะบัดมือออกจากการพยายามยื้อยุดกับเจ้าบิ๊ก มือของเธอเป็นแผลเลือดไหลแต่เธอไม่มีเวลามาสนใจตัวเองตอนนี้ สายสมรทั้งเจ็บทั้งกังวลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจวิ่งไปหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามใหญ่มาฟาดหลังของเจ้าบิ๊กดังพลั่ก
"เอ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เอ๋งงงงงงงงงงงงงงงงง เอ๋งงงงงงงงงงงงงงง"
เจ้าบิ๊กร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดก่อนวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มมะลิ ขณะที่สายสมรเพิ่งได้เห็นอย่างชัดๆว่าพุดเดิ้ลตัวจ้อยสีขาวกำลังนอนหายใจรวยรินขาหน้าอาบเลือดอยู่นอกประตูบ้าน เธอรีบไขกุญแจประตูรั้วบ้านแล้ววิ่งออกไปดูอาการเจ้าหมาน้อย ในขณะที่มียายแก่แปลกหน้าเดินกะโผลกกะเผลกพรางร้องเสียงสั่นว่า
"ขาว ขาวเอ๊ยย ทำใจดีๆไว้นะลูกนะ" ก่อนที่จะค่อยๆทรุดกายก้มลงมาอุ้มเจ้าพุดเดิลสีขาวขาหน้าเลือดโชกไว้ด้วยหัวใจแตกสลาย เสียงสูดน้ำมูกพร้อมกับมือเหี่ยวย่นสั่นระริกจับตัวของเจ้าขาวอุ้มขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือ แล้วเงยหน้ามาตัดพ้อสายสมรด้วยแววตาเสียใจอย่างสุดซึ้ง
"หนูขอโทษจริงๆค่ะคุณยาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ้าบิ๊กถึงทำรุนแรงขนาดนี้...ค..คุณยายอย่าเพิ่งแจ้งความนะคะ" ตอนนี้ทุกอย่างในหัวเธอกำลังตีกันยุ่งไปหมด เป็นห่วงเจ้าบิ๊กก็ห่วง แต่อาการของเจ้าพุดเดิ้ลตัวน้อยน่ากังวลยิ่งกว่า และที่เธอกลัวที่สุดคือการเป็นคดีความข้อหาดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงไม่ดีพอ ปล่อยให้ไปทำร้ายสุนัขตัวอื่น เห็นแต่ในข่าวเรื่องคนอื่นก็กังวลแต่พอมาเกิดกับตัวเองความกังวลพุ่งสูงกว่าที่เคยเป็นสิบๆเท่า และประเด็นน่ากลัวที่สุดนั้นคือกลัวสามีที่หมู่นี้ดูจะหงุดหงิดกับชีวิตคู่ จะใช้เรื่องนี้เป็นสาเหตุโกรธเคืองและหย่ากับเธอ
"ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าขาวจะตายไหม" ยายแก่ร้องไห้เสียงสั่นถามสายสมร
"ถ้าไปหาหมอทันก็ไม่ตายหรอกค่ะ คุณยายรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะคะ หนูจะรีบเอารถออกพาไปรพ." สายสมรกระวีกระวาดวิ่งกลับเข้าบ้านเพื่อไปหยิบกุญแจรถยนต์แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วก่อนวิ่งมาเปิดประตูให้คุณยายอุ้มสุนัขที่บาดเจ็บขึ้นรถ
"หวังว่าทุกอย่างคงยังไม่สายไปนะ" สายสมรพึมพำขณะขับรถอย่างเป็นกังวล โดยไม่รู้เลยว่ายายแก่ที่นั่งข้างๆแอบแสยะยิ้มด้วยความพอใจ
เจ้าพุดเดิ้ลตัวเล็กนี้เป็นของหลานสาวเธอ นอกจากเธอจะไม่เอ็นดูมันแล้ว ยังคิดว่ามันเป็นภาระที่ควรหาทางกำจัดทิ้ง ใครจะรู้ว่าลูกสุนัขตัวสวยน่ารักที่วางขายตามตลาดนัดที่หลานสาวของเธออยากได้ร้องงอแงจะเอาๆๆพอซื้อมาเลี้ยงแล้วจะอุดมไปด้วยโรค และค่าใช้จ่ายสารพัด จนชีวิตจนๆหาเช้ากินค่ำของเธอกับลูกชายแทบจะพยุงไว้ไม่อยู่ และเมื่อไม่นานมานี่หมอเพิ่งตรวจพบว่ามันเป็นโรคไต วันที่พาไปรักษายังค้างจ่ายหมออยู่เลย จำต้องถอดแหวนทองเป็นประกันว่าจะกลับไปจ่าย
ถ้าไม่ออกอุบายเอาพุดเดิ้ลมาเดินเล่นในหมู่บ้านละแวกนั้นซึ่งเธอก็รู้เป็นอย่างดีว่าเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ไว้และยังรู้อีกด้วยว่าตอนกลางวันจะเปลี่ยวมากพ่อบ้านเกือบทุกหลังไปทำงานกันหมด ส่วนกล้องวงจรปิดที่ตรวจจับความผิดปกติบริเวณนั้น ลูกชายของเธอก็เพิ่งใช้ความเชี่ยวชาญด้วยวิชาที่เพื่อนในคุกสอนงัดแงะถอดออกไปเตรียมขาย....พร้อมกับข้าวของอย่างอื่นในบ้านขณะที่เจ้าของบ้านผู้หญิงพาเธอและหมาน้อยที่น่าสงสารออกไปหาหมอ ซึ่งคาดว่าจะมีเยอะอยู่
ก็คุณผู้ชายเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุนั้นเป็นถึงกรรมการบริษัทใหญ่โต ใช้รถคันละหลายล้าน ซึ่งในขณะที่เกิดเหตุกำลังชุลมุนวุ่นวายนั้น เธอก็ได้ส่งสัญญาณให้ลูกชายของเธอปีนเข้าตรงบริเวณมุมอับสายตาคนเพราะร่มเงาต้นไม้เข้าไปเรียบร้อย...ยายแก่ก้มลงมองลูกหมาบนตักด้วยความสมเพช แต่ก็นึกขอบใจมันที่จะนำพารายได้มาให้เธอและลูกหลานใช้ประทังชีวิตได้อีกระยะใหญ่ๆ...สักพักหนึ่ง....อ้อ!!!!ยายคงยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่ามีลูกชายคนเล็กอีกคนซึ่งนัดแนะกันไว้ว่าจะให้หญิงเจ้าบ้านเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเปลี่ยว ทำทีว่าคลีนิคที่รักษาเป็นประจำอยู่ในฆ่ซอยนั้นนั้น ก่อนวางแผนฆ่าปาดคอแยกเอาอะไหล่รถยนต์ไปขายอู่เถื่อน .........งานนี้ช่างคุ้มจริงๆ
ยายแก่เหลือบไปดูสายสมรที่กำลังตกอยู่ในความเครียดและภวังค์ความคิดของตนตั้งหน้าตั้งตาขับรถ มือข้างซ้ายชุ่มไปด้วยเลือดเพราะสถานการณ์ที่เจอมันไม่เอื้ออำนวยให้เธอใส่ใจทำแผลตัวเอง
" แม่หนูเอ๊ย....เลือดที่มือออกใหญ่แล้ว เอาผ้าเช็ดหน้ายายพันไว้ก่อนไหม ผ้าใหม่ยังไม่ได้ใช้"
สายสมรหันไปมองยายแก่ด้วยความซาบซึ้งก่อนรับผ้ามาแล้วกล่าวว่า "ขอบคุณค่ะยาย" ชีวิตนี้นอกจากจะมีสามีที่ดีแล้ว แม้จะเกิดเหตุร้ายก็ดันมาเจอคนมีน้ำใจงามอีก เป็นโชคดีของเธอเหลือเกิน