สวัสดีคะ วันนี้เรามีเรื่องอึดอัดอยากระบายอีกแล้วคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวแฟน (อีกแล้ว) ครั้งก่อนเราเคยโพสต์ไปแล้วในเรื่อง “น้องสาวแฟนเปลี่ยนงานบ่อย” ตามอ่านได้ที่กระทู้นี้นะคะ (
https://pantip.com/topic/37250542)
ครั้งนี้เหมือนเป็นภาคต่อคะ ขอเริ่มเรื่องเลยแล้วกันคะ
น้องสาวแฟนมาอยู่ด้วยเกือบ 2 เดือนแล้วคะ ตอนมาอยู่ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท (กะหวังน้ำบ่อหน้าสุดๆ) แม่ของสามีก็ไม่ให้เงินน้องติดตัวเลย เพราะเค้าบอกว่าเรามีเงิน (เราเองก็เงิบไปสิคะ) ตอนน้องมาอยู่ก็อยู่เฉยๆ (เฉยจริงๆ แบบไม่จับงานบ้านเลยให้เราเลยแม้แต่น้อย ขนาดน้าแฟนมาที่ห้องเค้าบอกให้น้องช่วยเหลืองานบ้านให้เราบ้าง เค้าก็นิ่ง T_T)
อาทิตย์แรกที่มาอยู่ยังไม่หางานเราพอทน แต่พออาทิตย์ที่ 2 แฟนเราเริ่มถามว่าอยากทำงานอะไร น้องตอบว่าไม่รู้ แต่แถวนี้งานโรงงานเยอะอาจจะทำโรงงานก็ได้ แฟนเราเลยบอกว่าเดี๋ยวพาไปตระเวนหางาน เราเองก็คิดว่าแปบเดียวคงได้
ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ คราวนี้เราเริ่มถามบ้างว่าได้งานยัง น้องตอบว่ายัง แต่เดี๋ยวจะไปสมัครงานโรงแรมม่านรูดแถวนี้เพราะเค้าเปิดรับธุรการ เราก็ลองถามรายละเอียด น้องบอกว่าก็อยู่ออฟฟิศคอยรับสายคนในห้องว่าสั่งอะไร และคอยแจ้งเด็กรูดม่าน ฯลฯ ลักษณะงานประมาณนี้ เราฟังแล้วถามต่อเรื่องเงิน น้องตอบว่าไม่รู้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปสมัครค่อยถาม
พอน้องไปสมัครงานเค้าก็รับทันที เราเองก็ดีใจนะที่น้องมีงานทำ เราก็เลยถามเรื่องการเข้างาน การแต่งกายและค่าแรง น้องบอกว่าต้องไปซื้อเสื้อขาว เพราะตอนทดลองงานต้องใส่สีขาว แต่พอบรรจุจะมีชุดฟอร์ม ใส่รองเท้าผ้าใบได้ ส่วนเงินเค้าให้เป็นวัน วันละ 300 ออกเป็นวีค (ออกทุก 15 วัน) แต่ถึงบรรจุเป็นพนักงานประจำเค้าก็ไม่เพิ่มเงินและออกเป็นวีคเหมือนเดิม เราเลยบอกน้องว่าหางานใหม่ดีกว่าเพราะงานนี้ดูไม่มั่นคงเลย อีกอย่างผ่านโปรแต่ไม่เพิ่มเงิน เราว่ามันไม่โอเค แต่น้องบอกว่าไม่เปลี่ยนหรอก น้องชอบงานนี้เพราะเป็นงานสบาย ไม่จุ๊กจิกและอยู่แต่ห้องแอร์ (เราทำหน้านิ่ง แต่น้องทำหน้าแบบอารมณ์ดีสุดๆ ส่วนแฟนเราก็บอกว่าถ้าน้องอยากทำก็ให้ทำไปก่อน แต่ใจแฟนเราอยากให้น้องทำโรงงานมากกว่า) เราก็บอกน้องว่า ตามใจแล้วกัน แต่ทำอะไรก็อยากให้ทำนานๆ ทนๆ เพราะเปลี่ยนงานบ่อยมันไม่ดี น้องก็บอกว่างานนี้น้องจะทำยาวแหละพี่
ผ่านไป 2 อาทิตย์ น้องลาออกจ้า!!! เหตุผลที่ออกเพราะรู้ว่างานไม่มั่นคง และที่เค้าไม่เพิ่มเงินเดือนหรือเงินรายวันให้เป็นเพราะกิจการเค้าไม่ค่อยดี (แต่ยังโชคดีที่ตอนน้องลาออกเค้าให้เงินรายวันที่น้องทำด้วยประมาณ 2 พัน) พอลาออกน้องก็ให้แฟนเราพาไปสมัครงานโรงงานอื่นๆ อีกรอบ แต่ไปวันละ 1 ที่เท่านั้นเพราะน้องบอกว่าอากาศร้อนเหงื่ออก ตัวเปียก เข้าห้องแอร์ไปกรอกใบสมัครเดี๋ยวเหม็น แฟนเราบ่นทุกวันที่พาน้องไปและบอกว่า ถ้าพรุ่งนี้ให้พาไปแค่ที่เดียวจะไม่ไป เลยให้น้องลิสต์รายชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้ไปออกมาและแฟนเราก็พาตระเวนไป (น้องสาวแฟนเราเป็นคนตัวใหญ่แต่สูง แต่ขี้อายไม่กล้าพูด ไอ้ที่ว่าตัวเปียกเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ความจริงคืออายที่จะถามคะ เพราะทุกที่แฟนเราเป็นคนถามและพาเข้าไปกรอกใบสมัครคะ)
ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ (ใกล้สิ้นเดือน)
ข้าวสารเริ่มหมด ของสด ผักสด เริ่มหมด ทั้งบ้านเราเหลือแค่ 1 พันบาท (ย้ำ!!! ว่าเหลือ 1 พันบาท) น้องยังหางานไม่ได้ เราเลยบอกว่าให้ไปหางานในห้างเลยเพราะแถวบ้านมีห้าง Central เหมือนน้องเพิ่งรู้เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปสมัครเลยละกัน (เราส่ายหน้าเบาๆ และเข้าห้องมา แฟนเราตามมา เราร้องไห้เลยคะ เราบอกว่า เราทนได้นะ แต่เดือนนี้เราจะเอาอะไรกิน แฟนเรากอดเราแล้วบอกว่า ทนอีกแค่เดือนเดียวนะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ถามว่าตอนนี้แฟนเราทำอะไร ทำไมดูเหมือนไม่มีเงิน แฟนเราขายข้าวกล่อง แบบรับออเดอร์จากพนักงานในห้าง แต่ทำวันนึงได้กำไรแค่ไม่กี่ร้อยเอง พออยู่ได้นิดหน่อย)
วันรุ่งขึ้นน้องไปสมัครงานห้างแต่ไปแค่ร้านเดียวคือร้านเบเกอรี่สีแดง เค้ารับน้องและให้เริ่ทงานทันที แต่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด ต้องซื้อรองเท้าใหม่ และซื้อเน็ตติดผม เราเลยบอกให้น้องไปเลื่อนวันเริ่มเป็นต้นเดือน เพราะถ้าเอาเงินที่เหลือไปซื้อของทำงาน เราจะอดตาย น้องก็ไปขอเลื่อนและเค้าก็ให้เลื่อน พอสิ้นเดือนเงินเราออก เรารีบโอนให้แฟนพาน้องไปซื้อของ หมดไปเกือบพัน (เพราะของ size ใหญ่ราคาแพงกว่าปกติ เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าสิ้นเดือนน้องมีเงินคงคืนเรา) วันแรกที่น้องไปทำน้องได้ขนมกลับมากินที่บ้านและเล่าถึงการทำงานให้ฟังว่า ง่ายสนุก แต่ไม่ได้นั่ง วันที่ 2-3 น้องเริ่มบ่นเรื่องมนุษย์ป้าที่ผู้จัดการให้ และวันที่ 4 น้องบอกจะลาออกเพราะผู้จัดการบ่นน้องว่าจำรายชื่อขนมที่มีขายในร้านได้ไม่หมด (T_T) ถามว่าเราเห็นใจน้องมั๊ย เห็นใจนะ เห็นใจมากด้วย แต่แฟนเราบอกว่าก็ต่อรองเค้าสิว่าขอเวลาอีก 2 วันจะจำให้ได้ แต่น้องบอกว่าจะไม่ทนจ้า สรุป น้องลาออก!!! เราไม่พูดอะไรทั้งสิ้น แต่แฟนเราบอกว่า ออกแล้วรีบหางานใหม่เลย ถ้าภายในอาทิตย์นี้ไม่ได้งานจะให้กลับบ้านไปอยู่กับแม่ นางไม่ยอมและบอกว่างานแถวนี้เยอะ 1-2 วันเดี๋ยวก็ได้ทำ พอตอนเย็น แม่แฟนโทรมาคุยแฟนบอกว่าน้องออกจากงานแล้วกำลังหางานใหม่ ทีแรกแม่แฟนก็บ่นว่า ออกอีกแล้ว แล้วจะได้งานใหม่ตอนไหน เพราะลำพังแค่เงินเดือนเราคงไม่พอเลี้ยงทั้งบ้านหรอกนะ (เราก็นิ่ง) และสักพักน้องแฟนก็บอกว่า ที่ออกเพราะผู้จัดการอย่างนั่นอย่างนี้ อีกอย่างงานห้างต้องยืนทั้งวัน เหมื่อยขามาก แค่บอกว่าเหมื่อยขาแม่แฟนก็บอกงั้นก็หางานที่ได้นั่งบ้างสิ (ตลอดเวลาที่คุยเราเงียบตลอดเพราะเราไม่มีเสียงพูด) และสักพักแม่แฟนก็บอกน้องว่า “แมวที่เลี้ยงอ่ะตายแล้วนะ” แค่แมวตาย น้องตกใจร้องไห้เหมือนมีคนตาย ร้องไห้หนักมากและบอกว่าจะไปดูศพแมว น้องบอกให้แม่มารับ แฟนเราเลยบอกว่า “เออดี!!! แมวตายร้องไห้จะขาดใจ แต่ไม่มีจะกินยังหน้าระรื่น” แม่แฟนได้ยินก็ว่าแฟนเราบอกว่า “น้องมันรักของมัน ร้องไห้ก็ไม่แปลกจะหปส่าน้องทำไม” แฟนเราก็บอกแม่ว่า “แมวที่ตายมันหาข้าวหาน้พให้เรากินหรือเปล่า ถ้ามันหาให้เรากินจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่ขนาดเราไม่มีเงินกินเรายังต้องหาเผื่อให้มันกินด้วยเลย มันตายก็ดีจะได้มีเงินซื้อข้าวไว้กินเองเยอะขึ้น” แฟนเราเถียงกับแม่แฟนนานเกือบ 20 นาทีและแม่แฟนก็ไม่วายมาพาลใส่เราว่า “แล้วที่เมียเราละใช้เงินไปทำงานเดือนเกือบ 3 พัน ทำไมไม่บอกให้หางานใหม่ที่ใกล้บ้านละ จะได้ประหยัด อย่ามาพูดเลยว่าไปเรียนภาษาถึงเมืองนอกแล้วต้องทำงานในเมือง งานโรงงานก็ทำได้ทำไมไม่ทำละ” เราก็อยากพูดตอบแต่อย่างว่าเราไม่สบายเสียงหาย เถียงสักพักแฟนเราตัดสายทิ้งและเข้าห้องมานอน ซึ่งเราเองยังไม่หลับ แฟนรู้ว่าเราได้ยินเลยบอกเราให้อดทนนะ เราก็ทำได้แค่พยักหน้า ส่วนน้องแฟนก็นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดคืน
วันต่อมาเราลางานเพราะเราป่วย เราเลยให้แฟนพาไปหาหมอ และก็บอกให้น้องแฟนไปด้วยเผื่อจะได้แวะสมัครงาน ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล น้องแฟนสมัครงานที่เดียว และพอเราหาหมอเสร็จน้องบอกให้กลับบ้านเลย เราก็ถามว่า ไม่ไปสมัครงานเพิ่มหรออุตส่าห์ออกมาแล้ว น้องบอกว่าโรงงานที่ไปสมัครน้าเค้ารู้จักเดี๋ยวฝากให้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ น้องบอกว่าก็จะไปทำร้านได่ทอดสีแดงในห้าง แต่ร้านนี้เค้าให้ทำสิ้นเดือน กลับบ้านกันเถอะ...
จนวันนี้เกือบ 2 เดือนแล้วที่น้องยังไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง เงินที่เรามี ที่เราให้ไปซื้อของเพื่อทำงานก็เหมือนสูญเปล่า แฟนเราพยายามพาร้องไปสมัครงาน แต่น้องก็เหมือนไม่สนใจ เวลาเราคุยกับแฟนเรื่องงานออฟฟิศของเรา น้องจะสนวจเป็นพิเศษและบอกว่าจะไปเรียนต่อป.ตรีบ้าง จะไปเรียนภาษาบ้าง เราฟังน้องเราก็เห็นดีด้วย แต่ทุกครั้งเราจะย้ำเรื่องงานเสมอเพราะเราบอกน้องว่า เรากับแฟนไม่สามารถส่งน้องเรียนได้นะ ต้องหาเงินเรียนเอง น้องก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทำงานก็มีเงินเรียนแล้ว แต่ถึงตอนนี้... เรากับแฟนมีเงินติดตัวพอฉุกเฉิน แต่ถ้าน้องได้งานต้องมีเงินประกันอีก เงินค่าชุดอีก และถ้าไม่มีก็ต้องรอสิ้นเดือน (รอเงินเดือนเราออก) เราจะทำยังไงดีคะ แฟนเราก็เหนื่อยเราก็เหนื่อย แต่น้องกับแม่แฟนไม่รู้สึกอะไรเลย (T_T)
*** 1.น้องมีแฟนนะคะ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นานๆ จะมาเจอกัน และแฟนน้องก็ดีคะ แบ่งเงินให้น้องและแม่แฟนเราใช้ แต่แบ่งให้ไม่มากเพราะเค้าต้องดูแลทางบ้าน
*** 2.เงินเดือนเดือนที่ผ่านมาของเรา เราต้องแบ่งให้น้องไปซื้อของส่วนตัวและจ่ายค่าโทรศัพท์ รวมเกือบ 2 พัน (ค่าโทรศัพท์แม่สามีบังคับให้ช่วยจ่ายเพราะเค้าบอกว่าไม่อยากให้น้องมียอดค้าง)
ไม่รู้จะปรึกษาอะไรเลยคะ จุก พูดไม่ออก เลยขอระบายนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
ทำไงดีคะแค่แมวตายร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า แต่พอจะอดตายยังหน้าระรื่น
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวแฟน (อีกแล้ว) ครั้งก่อนเราเคยโพสต์ไปแล้วในเรื่อง “น้องสาวแฟนเปลี่ยนงานบ่อย” ตามอ่านได้ที่กระทู้นี้นะคะ (https://pantip.com/topic/37250542)
ครั้งนี้เหมือนเป็นภาคต่อคะ ขอเริ่มเรื่องเลยแล้วกันคะ
น้องสาวแฟนมาอยู่ด้วยเกือบ 2 เดือนแล้วคะ ตอนมาอยู่ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท (กะหวังน้ำบ่อหน้าสุดๆ) แม่ของสามีก็ไม่ให้เงินน้องติดตัวเลย เพราะเค้าบอกว่าเรามีเงิน (เราเองก็เงิบไปสิคะ) ตอนน้องมาอยู่ก็อยู่เฉยๆ (เฉยจริงๆ แบบไม่จับงานบ้านเลยให้เราเลยแม้แต่น้อย ขนาดน้าแฟนมาที่ห้องเค้าบอกให้น้องช่วยเหลืองานบ้านให้เราบ้าง เค้าก็นิ่ง T_T)
อาทิตย์แรกที่มาอยู่ยังไม่หางานเราพอทน แต่พออาทิตย์ที่ 2 แฟนเราเริ่มถามว่าอยากทำงานอะไร น้องตอบว่าไม่รู้ แต่แถวนี้งานโรงงานเยอะอาจจะทำโรงงานก็ได้ แฟนเราเลยบอกว่าเดี๋ยวพาไปตระเวนหางาน เราเองก็คิดว่าแปบเดียวคงได้
ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ คราวนี้เราเริ่มถามบ้างว่าได้งานยัง น้องตอบว่ายัง แต่เดี๋ยวจะไปสมัครงานโรงแรมม่านรูดแถวนี้เพราะเค้าเปิดรับธุรการ เราก็ลองถามรายละเอียด น้องบอกว่าก็อยู่ออฟฟิศคอยรับสายคนในห้องว่าสั่งอะไร และคอยแจ้งเด็กรูดม่าน ฯลฯ ลักษณะงานประมาณนี้ เราฟังแล้วถามต่อเรื่องเงิน น้องตอบว่าไม่รู้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปสมัครค่อยถาม
พอน้องไปสมัครงานเค้าก็รับทันที เราเองก็ดีใจนะที่น้องมีงานทำ เราก็เลยถามเรื่องการเข้างาน การแต่งกายและค่าแรง น้องบอกว่าต้องไปซื้อเสื้อขาว เพราะตอนทดลองงานต้องใส่สีขาว แต่พอบรรจุจะมีชุดฟอร์ม ใส่รองเท้าผ้าใบได้ ส่วนเงินเค้าให้เป็นวัน วันละ 300 ออกเป็นวีค (ออกทุก 15 วัน) แต่ถึงบรรจุเป็นพนักงานประจำเค้าก็ไม่เพิ่มเงินและออกเป็นวีคเหมือนเดิม เราเลยบอกน้องว่าหางานใหม่ดีกว่าเพราะงานนี้ดูไม่มั่นคงเลย อีกอย่างผ่านโปรแต่ไม่เพิ่มเงิน เราว่ามันไม่โอเค แต่น้องบอกว่าไม่เปลี่ยนหรอก น้องชอบงานนี้เพราะเป็นงานสบาย ไม่จุ๊กจิกและอยู่แต่ห้องแอร์ (เราทำหน้านิ่ง แต่น้องทำหน้าแบบอารมณ์ดีสุดๆ ส่วนแฟนเราก็บอกว่าถ้าน้องอยากทำก็ให้ทำไปก่อน แต่ใจแฟนเราอยากให้น้องทำโรงงานมากกว่า) เราก็บอกน้องว่า ตามใจแล้วกัน แต่ทำอะไรก็อยากให้ทำนานๆ ทนๆ เพราะเปลี่ยนงานบ่อยมันไม่ดี น้องก็บอกว่างานนี้น้องจะทำยาวแหละพี่
ผ่านไป 2 อาทิตย์ น้องลาออกจ้า!!! เหตุผลที่ออกเพราะรู้ว่างานไม่มั่นคง และที่เค้าไม่เพิ่มเงินเดือนหรือเงินรายวันให้เป็นเพราะกิจการเค้าไม่ค่อยดี (แต่ยังโชคดีที่ตอนน้องลาออกเค้าให้เงินรายวันที่น้องทำด้วยประมาณ 2 พัน) พอลาออกน้องก็ให้แฟนเราพาไปสมัครงานโรงงานอื่นๆ อีกรอบ แต่ไปวันละ 1 ที่เท่านั้นเพราะน้องบอกว่าอากาศร้อนเหงื่ออก ตัวเปียก เข้าห้องแอร์ไปกรอกใบสมัครเดี๋ยวเหม็น แฟนเราบ่นทุกวันที่พาน้องไปและบอกว่า ถ้าพรุ่งนี้ให้พาไปแค่ที่เดียวจะไม่ไป เลยให้น้องลิสต์รายชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้ไปออกมาและแฟนเราก็พาตระเวนไป (น้องสาวแฟนเราเป็นคนตัวใหญ่แต่สูง แต่ขี้อายไม่กล้าพูด ไอ้ที่ว่าตัวเปียกเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ความจริงคืออายที่จะถามคะ เพราะทุกที่แฟนเราเป็นคนถามและพาเข้าไปกรอกใบสมัครคะ)
ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ (ใกล้สิ้นเดือน)
ข้าวสารเริ่มหมด ของสด ผักสด เริ่มหมด ทั้งบ้านเราเหลือแค่ 1 พันบาท (ย้ำ!!! ว่าเหลือ 1 พันบาท) น้องยังหางานไม่ได้ เราเลยบอกว่าให้ไปหางานในห้างเลยเพราะแถวบ้านมีห้าง Central เหมือนน้องเพิ่งรู้เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปสมัครเลยละกัน (เราส่ายหน้าเบาๆ และเข้าห้องมา แฟนเราตามมา เราร้องไห้เลยคะ เราบอกว่า เราทนได้นะ แต่เดือนนี้เราจะเอาอะไรกิน แฟนเรากอดเราแล้วบอกว่า ทนอีกแค่เดือนเดียวนะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ถามว่าตอนนี้แฟนเราทำอะไร ทำไมดูเหมือนไม่มีเงิน แฟนเราขายข้าวกล่อง แบบรับออเดอร์จากพนักงานในห้าง แต่ทำวันนึงได้กำไรแค่ไม่กี่ร้อยเอง พออยู่ได้นิดหน่อย)
วันรุ่งขึ้นน้องไปสมัครงานห้างแต่ไปแค่ร้านเดียวคือร้านเบเกอรี่สีแดง เค้ารับน้องและให้เริ่ทงานทันที แต่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด ต้องซื้อรองเท้าใหม่ และซื้อเน็ตติดผม เราเลยบอกให้น้องไปเลื่อนวันเริ่มเป็นต้นเดือน เพราะถ้าเอาเงินที่เหลือไปซื้อของทำงาน เราจะอดตาย น้องก็ไปขอเลื่อนและเค้าก็ให้เลื่อน พอสิ้นเดือนเงินเราออก เรารีบโอนให้แฟนพาน้องไปซื้อของ หมดไปเกือบพัน (เพราะของ size ใหญ่ราคาแพงกว่าปกติ เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าสิ้นเดือนน้องมีเงินคงคืนเรา) วันแรกที่น้องไปทำน้องได้ขนมกลับมากินที่บ้านและเล่าถึงการทำงานให้ฟังว่า ง่ายสนุก แต่ไม่ได้นั่ง วันที่ 2-3 น้องเริ่มบ่นเรื่องมนุษย์ป้าที่ผู้จัดการให้ และวันที่ 4 น้องบอกจะลาออกเพราะผู้จัดการบ่นน้องว่าจำรายชื่อขนมที่มีขายในร้านได้ไม่หมด (T_T) ถามว่าเราเห็นใจน้องมั๊ย เห็นใจนะ เห็นใจมากด้วย แต่แฟนเราบอกว่าก็ต่อรองเค้าสิว่าขอเวลาอีก 2 วันจะจำให้ได้ แต่น้องบอกว่าจะไม่ทนจ้า สรุป น้องลาออก!!! เราไม่พูดอะไรทั้งสิ้น แต่แฟนเราบอกว่า ออกแล้วรีบหางานใหม่เลย ถ้าภายในอาทิตย์นี้ไม่ได้งานจะให้กลับบ้านไปอยู่กับแม่ นางไม่ยอมและบอกว่างานแถวนี้เยอะ 1-2 วันเดี๋ยวก็ได้ทำ พอตอนเย็น แม่แฟนโทรมาคุยแฟนบอกว่าน้องออกจากงานแล้วกำลังหางานใหม่ ทีแรกแม่แฟนก็บ่นว่า ออกอีกแล้ว แล้วจะได้งานใหม่ตอนไหน เพราะลำพังแค่เงินเดือนเราคงไม่พอเลี้ยงทั้งบ้านหรอกนะ (เราก็นิ่ง) และสักพักน้องแฟนก็บอกว่า ที่ออกเพราะผู้จัดการอย่างนั่นอย่างนี้ อีกอย่างงานห้างต้องยืนทั้งวัน เหมื่อยขามาก แค่บอกว่าเหมื่อยขาแม่แฟนก็บอกงั้นก็หางานที่ได้นั่งบ้างสิ (ตลอดเวลาที่คุยเราเงียบตลอดเพราะเราไม่มีเสียงพูด) และสักพักแม่แฟนก็บอกน้องว่า “แมวที่เลี้ยงอ่ะตายแล้วนะ” แค่แมวตาย น้องตกใจร้องไห้เหมือนมีคนตาย ร้องไห้หนักมากและบอกว่าจะไปดูศพแมว น้องบอกให้แม่มารับ แฟนเราเลยบอกว่า “เออดี!!! แมวตายร้องไห้จะขาดใจ แต่ไม่มีจะกินยังหน้าระรื่น” แม่แฟนได้ยินก็ว่าแฟนเราบอกว่า “น้องมันรักของมัน ร้องไห้ก็ไม่แปลกจะหปส่าน้องทำไม” แฟนเราก็บอกแม่ว่า “แมวที่ตายมันหาข้าวหาน้พให้เรากินหรือเปล่า ถ้ามันหาให้เรากินจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่ขนาดเราไม่มีเงินกินเรายังต้องหาเผื่อให้มันกินด้วยเลย มันตายก็ดีจะได้มีเงินซื้อข้าวไว้กินเองเยอะขึ้น” แฟนเราเถียงกับแม่แฟนนานเกือบ 20 นาทีและแม่แฟนก็ไม่วายมาพาลใส่เราว่า “แล้วที่เมียเราละใช้เงินไปทำงานเดือนเกือบ 3 พัน ทำไมไม่บอกให้หางานใหม่ที่ใกล้บ้านละ จะได้ประหยัด อย่ามาพูดเลยว่าไปเรียนภาษาถึงเมืองนอกแล้วต้องทำงานในเมือง งานโรงงานก็ทำได้ทำไมไม่ทำละ” เราก็อยากพูดตอบแต่อย่างว่าเราไม่สบายเสียงหาย เถียงสักพักแฟนเราตัดสายทิ้งและเข้าห้องมานอน ซึ่งเราเองยังไม่หลับ แฟนรู้ว่าเราได้ยินเลยบอกเราให้อดทนนะ เราก็ทำได้แค่พยักหน้า ส่วนน้องแฟนก็นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดคืน
วันต่อมาเราลางานเพราะเราป่วย เราเลยให้แฟนพาไปหาหมอ และก็บอกให้น้องแฟนไปด้วยเผื่อจะได้แวะสมัครงาน ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล น้องแฟนสมัครงานที่เดียว และพอเราหาหมอเสร็จน้องบอกให้กลับบ้านเลย เราก็ถามว่า ไม่ไปสมัครงานเพิ่มหรออุตส่าห์ออกมาแล้ว น้องบอกว่าโรงงานที่ไปสมัครน้าเค้ารู้จักเดี๋ยวฝากให้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ น้องบอกว่าก็จะไปทำร้านได่ทอดสีแดงในห้าง แต่ร้านนี้เค้าให้ทำสิ้นเดือน กลับบ้านกันเถอะ...
จนวันนี้เกือบ 2 เดือนแล้วที่น้องยังไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง เงินที่เรามี ที่เราให้ไปซื้อของเพื่อทำงานก็เหมือนสูญเปล่า แฟนเราพยายามพาร้องไปสมัครงาน แต่น้องก็เหมือนไม่สนใจ เวลาเราคุยกับแฟนเรื่องงานออฟฟิศของเรา น้องจะสนวจเป็นพิเศษและบอกว่าจะไปเรียนต่อป.ตรีบ้าง จะไปเรียนภาษาบ้าง เราฟังน้องเราก็เห็นดีด้วย แต่ทุกครั้งเราจะย้ำเรื่องงานเสมอเพราะเราบอกน้องว่า เรากับแฟนไม่สามารถส่งน้องเรียนได้นะ ต้องหาเงินเรียนเอง น้องก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทำงานก็มีเงินเรียนแล้ว แต่ถึงตอนนี้... เรากับแฟนมีเงินติดตัวพอฉุกเฉิน แต่ถ้าน้องได้งานต้องมีเงินประกันอีก เงินค่าชุดอีก และถ้าไม่มีก็ต้องรอสิ้นเดือน (รอเงินเดือนเราออก) เราจะทำยังไงดีคะ แฟนเราก็เหนื่อยเราก็เหนื่อย แต่น้องกับแม่แฟนไม่รู้สึกอะไรเลย (T_T)
*** 1.น้องมีแฟนนะคะ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นานๆ จะมาเจอกัน และแฟนน้องก็ดีคะ แบ่งเงินให้น้องและแม่แฟนเราใช้ แต่แบ่งให้ไม่มากเพราะเค้าต้องดูแลทางบ้าน
*** 2.เงินเดือนเดือนที่ผ่านมาของเรา เราต้องแบ่งให้น้องไปซื้อของส่วนตัวและจ่ายค่าโทรศัพท์ รวมเกือบ 2 พัน (ค่าโทรศัพท์แม่สามีบังคับให้ช่วยจ่ายเพราะเค้าบอกว่าไม่อยากให้น้องมียอดค้าง)
ไม่รู้จะปรึกษาอะไรเลยคะ จุก พูดไม่ออก เลยขอระบายนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ