
กระทู้นี้เป็นมาหากาพย์ภาคต่อจากกระทู้ปี2557(ผ่านมาเกือบ4ปี)จุดประสงค์เพื่อนำเบื้องหลังฉากแต่งงานมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังให้เป็นกรณีศึกษาในการใช้ชีวิตคู่
(เล่าแบบขำๆแต่ชีวิตจริงขำไม่ออก...ขอบอกค่ะ)
ออกตัวก่อนนิสนะคะว่าตัวเราไม่ได้เพอเฟครู้ตัวว่ามีข้อบกพร่องที่ต้องปรับ ส่วนข้อดีนั้นเรามีไม่น้อยเลย.เราจึง มั่นใจว่าเราไม่ใช่"ของตาย" แต่เรามี "ไม้ตาย" มาดูกัน
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันปี2561...หลังจากที่เราอดทนกับพฤติกรรมสามีแสนดีแต่ขี้งอนมาร่วม14ปีจะเลิก2ครั้งใหญ่ๆแต่ต้องไปต่อเพราะนึกถึงลูก2คนและคิดถึงข้อดีของสามีที่มีอยู่ไม่น้อยจึงทำให้มองข้ามพฤติกรรมที่มันกระทบจิตใจมา10กว่าปีได้...ที่สำคัญคือเรายังรักกันอยู่และไม่มีเรื่องมือที่3มาเกี่ยวข้องเรื่องคู่เรามันเกี่ยวกับอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลล้วนๆ
เรื่องของเรื่องคือเวลามันไม่ช่วยทำให้สามีเปลี่ยนเลยแถมมีพฤติกรรมแย่ลงคิดเล็กคิดน้อยบ่อยขึ้นไม่พูดไม่จาไม่คุยไม่เคลียร์มีเพิ่มเติมคือเดินหนีหลบหน้าสร้างโลกส่วนตัว...ส่วนเราก้อขี้บ่นมากขึ้น(บ่นลูกอ่ะนะ)
ล่าสุดสามีเล่นสงครามประสาทกะเราร่วม3เดือน
เจอแบบนี้ความอดทนมันก้อทะลุระดับ10ปรอทแตกสิคะ...ศรีผิดอะไร?ถ้าต้องอยู่กับคนดีแต่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ไปตลอดชีวิตศรีคงทนไม่ได้และศรีจะไม่ทนอีกต่อไป...ดีนักก้ออยู่คนเดียวละกัน!!
มันคงถึงเวลาที่จำต้องงัดท่าไม้ตายมาใช้ซะแร้วสินะ ไม้นี้มีชื่อว่า "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา" (ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน-ลอกเลียนแบบได้ถ้าใจถึง เห่อๆๆ)
ครั้งนี้ดิฉันได้มีการเตรียมการไว้ดีแล้วไตร่ตรองดีแล้วและเตรียมใจยอมรับผลที่จะเกิด..
ถ้า....เค้าเห็นโลงศพแล้วยังไม่ยอมหลั่งน้ำตาก้อตัดหางปล่อยวัดไป...คงทำบุญกันมาแค่นี้
แต่ถ้า...เค้าคิดได้ว่าอะไร?สำคัญต่อเค้ามากกว่าอารมณ์ก้อถือว่ายังมีบุญต่อกันอยู่...
เริ่มเลยละกันเนาะ...ดึกสงัดคืนนึงหลังจากลูกเข้านอนแล้ว(ดูหลอนๆไปปะ)

ดิฉันขอเปิดใจคุยกับสามีตามเคยค่ะ
ดิฉัน:พี่เป็นอะไร?.....พี่ต้องการอะไร?....ถ้าพี่มีอะไรจะบอกจะพูด พี่ก้อพูดมาได้เลยนะ ....(ตั้งใจรอฟัง)
สามี:ไม่มีอะไรจะพูด!!(เอ๋า!! อืมม.นี่แหละเค้าหล่ะ
ดิฉัน: ถ้าพี่ไม่มีรัยพูด ดิฉันจะพูดละนะ ฟังให้ดีๆ!!!
"พี่เป็นคนดี..ใช่!!!แต่อย่าคิดว่าคนอื่นทำอะไรผิดหมดคิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างนึกถึงครอบครัวบ้างมีปัญหาอะไรมาคุยกันแบบผู้ใหญ่ แมนๆ ใช้เหตุผลบ้าง อย่าใช้อารมณ์คิดเองเออเอง อย่าหนีปัญหา"
(พูดแบบหนักแน่นแต่นุ่มนวล)สามีนั่งนิ่งๆ...
ดิฉันโยนคำถาม:
-ขอถามหน่อยนะ ถ้าพี่มีเมียที่นิสัยเหมือนตัวเอง พี่จะเอามั้ย?? พี่จะทนมั้ย?? ทนแบบที่เมียพี่ทนอยู่เนี่ย
....เก็บไปคิดดีๆนะ ไม่ต้องตอบ!!! คุณสามีกระพริบตารับรู้ และอึ้งไป 3วิ รึจะงงคำถามวะ ฮาๆๆ
ดิฉันพูดต่อ:
-เราน่ะแต่งงานกันมา14ปีลูก2คน... คบก่อนแต่ง5ปี รวม19ปี...นึกย้อนไปนะที่ผ่านมาถ้าคิดว่าเมียคนนี้ไม่มีค่า-ไม่มีข้อดี-ไม่อยากนอนด้วย-ไม่อยากมองหน้าและถ้าคิดว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว-ไม่สามารถปรับเข้าหากันได้แล้วงั้นเอางี้มั้ย...เราก้ออย่าอยู่ด้วยกันเลยนะ"ขอหย่า" เลยละกัน! (พูดแบบนิ่งๆกรูเอาจิงนะที่ผ่านมาไม่เคยพูดคำนี้ ฮึ!)

สามียังคงนั่งนิ่งต่อไป..ในใจคิดไรอยู่?เอ.รึดีใจหว่า?
ดิฉันเสนอเงื่อนไขการเลี้ยงลูกเงื่อนไขสลักหลังใบหย่า
ทุกอย่างผ่านการเตรียมการณ์มาแล้วเป็นอย่างดี
(งานนี้ไม่มีพลาดกรูได้เป็นโสดแน่...เตรียมเป็นนางสาว ใช้นามสกุลเก่า.ลองบวกแล้วชื่อ+สกุลเลขดีเหมาะมาก 55555+)
ดิฉันพูดต่อ:
พุ่งนี้เราไปตกลงกันบ้านแม่(แม่เค้า)ไปคุยต่อหน้าให้ผู้ใหญ่รับรู้เพื่อความเป็นธรรม มะรืนไป "หย่า" แล้วจบ! แยกบ้านไป.ความเป็นผัวเมียสิ้นสุด ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อ-แม่ ให้ดีที่สุดพอ!
ดิฉันพูดจบ ลิ้นยังไม่ทันเข้าปาก
สามีตอบสั้นๆ: ก้อได้!!!!

(ห๊ะ!!!ตอบแบบไม่คิดซักวิเลย ยัง..ยังไม่สำนึกใช่มั้ย)
สามีพูดจบเดินสะบัดตูดขึ้นบ้าน อารมณ์นางมาเต็มๆ
(ยกแรกจบลง แยก!)
คืนนั้นดิฉันนอนหลับปกติ ไม่มีน้ำตาแฮะ มันรู้สึกโล่ง แบบว่า รู้มั่งใครเป็นใคร ไรงี้ ในใจมันผยอง หึๆๆ
ส่วนคุณสามีนอนนิ่งชิดริมซ้ายสุดแทบจะตกเตียง
(รังเกียจเมียมากถึงมากที่สุด555)คืนนี้พ่อคนดีมีเวลาคิดทบทวนทั้งคืนแหละ เห็นโลงศพวางตรงหน้าละ ดูซิผลจะเป็นงัย...

To be continue...
เขียนมายาวยืดขอตัวแพล็บบนะคะ เด่วจะมาเล่ายก2 Final รู้ผลเลย ใครกันที่จะหลั่งน้ำตา โฮะๆๆ ....

(ขอไปพิมพ์เก็บไว้ก่อนแล้วลงทีเดียวนะคะ)
ไม้ตายดัดนิสัยสามีขี้งอน
(เล่าแบบขำๆแต่ชีวิตจริงขำไม่ออก...ขอบอกค่ะ)
ออกตัวก่อนนิสนะคะว่าตัวเราไม่ได้เพอเฟครู้ตัวว่ามีข้อบกพร่องที่ต้องปรับ ส่วนข้อดีนั้นเรามีไม่น้อยเลย.เราจึง มั่นใจว่าเราไม่ใช่"ของตาย" แต่เรามี "ไม้ตาย" มาดูกัน
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันปี2561...หลังจากที่เราอดทนกับพฤติกรรมสามีแสนดีแต่ขี้งอนมาร่วม14ปีจะเลิก2ครั้งใหญ่ๆแต่ต้องไปต่อเพราะนึกถึงลูก2คนและคิดถึงข้อดีของสามีที่มีอยู่ไม่น้อยจึงทำให้มองข้ามพฤติกรรมที่มันกระทบจิตใจมา10กว่าปีได้...ที่สำคัญคือเรายังรักกันอยู่และไม่มีเรื่องมือที่3มาเกี่ยวข้องเรื่องคู่เรามันเกี่ยวกับอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลล้วนๆ
เรื่องของเรื่องคือเวลามันไม่ช่วยทำให้สามีเปลี่ยนเลยแถมมีพฤติกรรมแย่ลงคิดเล็กคิดน้อยบ่อยขึ้นไม่พูดไม่จาไม่คุยไม่เคลียร์มีเพิ่มเติมคือเดินหนีหลบหน้าสร้างโลกส่วนตัว...ส่วนเราก้อขี้บ่นมากขึ้น(บ่นลูกอ่ะนะ)
ล่าสุดสามีเล่นสงครามประสาทกะเราร่วม3เดือน
เจอแบบนี้ความอดทนมันก้อทะลุระดับ10ปรอทแตกสิคะ...ศรีผิดอะไร?ถ้าต้องอยู่กับคนดีแต่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ไปตลอดชีวิตศรีคงทนไม่ได้และศรีจะไม่ทนอีกต่อไป...ดีนักก้ออยู่คนเดียวละกัน!!
มันคงถึงเวลาที่จำต้องงัดท่าไม้ตายมาใช้ซะแร้วสินะ ไม้นี้มีชื่อว่า "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา" (ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน-ลอกเลียนแบบได้ถ้าใจถึง เห่อๆๆ)
ครั้งนี้ดิฉันได้มีการเตรียมการไว้ดีแล้วไตร่ตรองดีแล้วและเตรียมใจยอมรับผลที่จะเกิด..
ถ้า....เค้าเห็นโลงศพแล้วยังไม่ยอมหลั่งน้ำตาก้อตัดหางปล่อยวัดไป...คงทำบุญกันมาแค่นี้
แต่ถ้า...เค้าคิดได้ว่าอะไร?สำคัญต่อเค้ามากกว่าอารมณ์ก้อถือว่ายังมีบุญต่อกันอยู่...
เริ่มเลยละกันเนาะ...ดึกสงัดคืนนึงหลังจากลูกเข้านอนแล้ว(ดูหลอนๆไปปะ)
ดิฉันขอเปิดใจคุยกับสามีตามเคยค่ะ
ดิฉัน:พี่เป็นอะไร?.....พี่ต้องการอะไร?....ถ้าพี่มีอะไรจะบอกจะพูด พี่ก้อพูดมาได้เลยนะ ....(ตั้งใจรอฟัง)
สามี:ไม่มีอะไรจะพูด!!(เอ๋า!! อืมม.นี่แหละเค้าหล่ะ
ดิฉัน: ถ้าพี่ไม่มีรัยพูด ดิฉันจะพูดละนะ ฟังให้ดีๆ!!!
"พี่เป็นคนดี..ใช่!!!แต่อย่าคิดว่าคนอื่นทำอะไรผิดหมดคิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างนึกถึงครอบครัวบ้างมีปัญหาอะไรมาคุยกันแบบผู้ใหญ่ แมนๆ ใช้เหตุผลบ้าง อย่าใช้อารมณ์คิดเองเออเอง อย่าหนีปัญหา"
(พูดแบบหนักแน่นแต่นุ่มนวล)สามีนั่งนิ่งๆ...
ดิฉันโยนคำถาม:
-ขอถามหน่อยนะ ถ้าพี่มีเมียที่นิสัยเหมือนตัวเอง พี่จะเอามั้ย?? พี่จะทนมั้ย?? ทนแบบที่เมียพี่ทนอยู่เนี่ย
....เก็บไปคิดดีๆนะ ไม่ต้องตอบ!!! คุณสามีกระพริบตารับรู้ และอึ้งไป 3วิ รึจะงงคำถามวะ ฮาๆๆ
ดิฉันพูดต่อ:
-เราน่ะแต่งงานกันมา14ปีลูก2คน... คบก่อนแต่ง5ปี รวม19ปี...นึกย้อนไปนะที่ผ่านมาถ้าคิดว่าเมียคนนี้ไม่มีค่า-ไม่มีข้อดี-ไม่อยากนอนด้วย-ไม่อยากมองหน้าและถ้าคิดว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว-ไม่สามารถปรับเข้าหากันได้แล้วงั้นเอางี้มั้ย...เราก้ออย่าอยู่ด้วยกันเลยนะ"ขอหย่า" เลยละกัน! (พูดแบบนิ่งๆกรูเอาจิงนะที่ผ่านมาไม่เคยพูดคำนี้ ฮึ!)
สามียังคงนั่งนิ่งต่อไป..ในใจคิดไรอยู่?เอ.รึดีใจหว่า?
ดิฉันเสนอเงื่อนไขการเลี้ยงลูกเงื่อนไขสลักหลังใบหย่า
ทุกอย่างผ่านการเตรียมการณ์มาแล้วเป็นอย่างดี
(งานนี้ไม่มีพลาดกรูได้เป็นโสดแน่...เตรียมเป็นนางสาว ใช้นามสกุลเก่า.ลองบวกแล้วชื่อ+สกุลเลขดีเหมาะมาก 55555+)
ดิฉันพูดต่อ:
พุ่งนี้เราไปตกลงกันบ้านแม่(แม่เค้า)ไปคุยต่อหน้าให้ผู้ใหญ่รับรู้เพื่อความเป็นธรรม มะรืนไป "หย่า" แล้วจบ! แยกบ้านไป.ความเป็นผัวเมียสิ้นสุด ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อ-แม่ ให้ดีที่สุดพอ!
ดิฉันพูดจบ ลิ้นยังไม่ทันเข้าปาก
สามีตอบสั้นๆ: ก้อได้!!!!
(ห๊ะ!!!ตอบแบบไม่คิดซักวิเลย ยัง..ยังไม่สำนึกใช่มั้ย)
สามีพูดจบเดินสะบัดตูดขึ้นบ้าน อารมณ์นางมาเต็มๆ
(ยกแรกจบลง แยก!)
คืนนั้นดิฉันนอนหลับปกติ ไม่มีน้ำตาแฮะ มันรู้สึกโล่ง แบบว่า รู้มั่งใครเป็นใคร ไรงี้ ในใจมันผยอง หึๆๆ
ส่วนคุณสามีนอนนิ่งชิดริมซ้ายสุดแทบจะตกเตียง
(รังเกียจเมียมากถึงมากที่สุด555)คืนนี้พ่อคนดีมีเวลาคิดทบทวนทั้งคืนแหละ เห็นโลงศพวางตรงหน้าละ ดูซิผลจะเป็นงัย...
To be continue...
เขียนมายาวยืดขอตัวแพล็บบนะคะ เด่วจะมาเล่ายก2 Final รู้ผลเลย ใครกันที่จะหลั่งน้ำตา โฮะๆๆ ....
(ขอไปพิมพ์เก็บไว้ก่อนแล้วลงทีเดียวนะคะ)