ว่าด้วยความรักวัยเรียน

สวัสดีครับทุกๆคน หลังจากที่ผมได้อ่านไพ่ให้กับคนในห้องพรหมชาติมามากมาย วันนี้ผมขอพูดถึงเรื่องความรักในวัยเรียนเป็นแนวทางให้แก่นักศึกษาทั้งหลายที่เข้ามาดูดวงในนี้ก็แล้วกัน เพราะมีนักศึกษามาดูเรื่องความรักกับผมเป็นอย่างมาก เอาจริงๆแล้วผมเองก็ไม่สนับสนุนให้มีความรักในช่วงวัยเรียนสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อความรักมันเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ทุกคนย่อมมีสิทธิ์เลือกที่จะมีหรือไม่มีความรักนั้นอยู่แล้ว

แนวทางความรักในวัยเรียน กระทู้นี้ผมต้องขอพูดตรงๆบ้าง ถ้าผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย

1.อย่าคาดหวังกับเรื่องความรักมากจนเกินไป เพราะความรักในวัยเรียนส่วนใหญ่ ร้อยละ 99 ที่ผมดูมา เป็นความรักแบบ Puppy Love ซึ่งเป็นความรักแบบแรกๆก็หวานคุยกันทั้งวันทั้งคืน ไปเที่ยวกัน สวีทกัน ซึ่งมันจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น หลังจากนั้นความสวีททั้งหลายก็เริ่มเบาบางลง พอเริ่มเบาบางลง บางคู่ถึงขึ้นทะเลาะกัน มีปากมีเสียงกัน เลิกรากัน หรือบางคู่ กรณีฝ่ายชายไปเจอคนใหม่สวยกว่า หมวยกว่า หรือฝ่ายหญิงที่ไปเจอฝ่ายชายหล่อแบบโอปป้า ก็เลิกรากันหรือทิ้งไปหาอีกฝ่ายได้อย่างทันที แล้วนำมาซึ่งความผิดหวัง อกหักจากอีกฝ่าย หรือบางคนก็จริงจังกับความรักมากจนเกินไป จนเสียการเรียน แล้วพอความรักไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ก็ผิดหวัง ซึมเศร้าถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ในที่สุด

ซึ่งความรักนั้นเป็นเรื่องของใจ ถ้าจะคบกันก็แนะนำให้ค่อยๆคุยกัน ให้ดูใจซึ่งกันและกันไปก่อน ถึงจะต้องใช้เวลา(อาจจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่าวัยทำงานเสียอีก) แต่ในระยะยาวแล้วย่อมคุ้มค่ากว่าแน่นอน และถ้าเกิดคุณรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ใช่ อย่างน้อยคุณก็จะได้ไม่เจ็บปวดมาก คุณจะได้ถอยออกมาได้ง่ายๆ แล้วกลับไปคบกันเป็นเพื่อนได้โดยที่ไม่ต้องเสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่ายจะดีที่สุด ความรักวัยรุ่นช่วงนี้อย่าพึ่งรีบร้อนหรือตกลงที่จะเป็นแฟนกันโดยที่ยังคุยกันในระยะเวลาสั้นๆ หรือเทหมดหน้าตัก ทุ่มหมดตัว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงได้ ไม่แน่คุณเรียนจบไป ถึงวัยทำงาน คุณเจอสังคมคนทำงาน แล้วอาจได้พบกับความรักใหม่ คนใหม่ที่ดีกว่า หล่อว่า รวยกว่า รักคุณมากกว่าคนที่คุณเคยคบในวัยเรียนเสียอีก

2.ความรักไม่ได้เหมือนในนิยายหรือซีรีย์เกาหลี ที่ตอนจบ พระเอกกับนางเอกได้แต่งงานอยู่กินกันอย่างสมใจ แต่หนังไม่ได้ฉายให้เห็นชีวิตของพระเอกกับนางเอกหลังจากอยู่กินกัน ชีวิตของคุณก็เช่นกัน ซึ่งคุณก็ต้องคิดเผื่อในระยะยาวด้วยว่า ใจคุณชอบคนนี้จริงๆหรือไม่ ให้ลองคิดยาวๆถึงตอนเวลาอยู่บ้านหลังเดียวกัน ตอนเรียนจบแล้ว ทำงานกันคนละที่(ถ้าที่เดียวกันก็ว่าไปอย่าง) คิดถึงตอนแต่งงาน ตอนมีลูก ตอนที่ไม่หวานกัน ตอนที่ต่างฝ่ายต่างแก่ชราลง ตอนที่ต้องช่วยกันเลี้ยงลูก ฯลฯ ถ้าคุณมองไม่เห็นภาพในสิ่งที่ผมกำลังพูดอยู่ คุณลองหาเวลาว่างๆคุยกับพ่อแม่คุณดูก็ได้ว่า พวกท่านรักกันอย่างไร อยู่กันอย่างไรถึงมีความสุข เวลามีปัญหาจะแก้ไขกันอย่างไร เป็นแนวทางความรักวัยเรียนของคุณได้ หรือถ้าคุณไม่กล้าถามพ่อแม่คุณ(ในกรณีที่พ่อแม่บางคนมีความคิดแบบอนุรักษ์นิยม) วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ให้คุณคิดว่าถ้าคนที่คุณรัก สักวันเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือพิการ ถามตัวคุณเองดูว่าคุณจะยังรักเค้าอยู่หรือไม่ จะยังคอยดูแล เคียงข้างอยู่หรือเปล่า(ให้สร้างมโนภาพในจิตออกมาเลย)

3.อย่าพาแฟนผู้ชายไปหอพักส่วนตัวหรือไปหอพักแฟนผู้ชายโดยลำพัง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมต้องเตือนนักศึกษาผู้หญิงอย่างมากที่สุด เพราะตามสัญชาติญาณผู้ชายทุกคน เวลาอยู่กันตามลำพัง ก็ย่อมมีความอยากในทางเพศกับคุณผู้หญิงอยู่แล้ว จากผู้ชายผู้แสนดีก็ย่อมกลายเป็นเดอะฮัคได้ในทันที(ให้นึกภาพหนังเรื่องเดอะฮัคไว้) ต่อให้ผู้หญิงปฏิเสธอย่างไร ฝ่ายชายย่อมหากลเม็ดมาหว่านล้อมจนคุณยอมเค้าในที่สุดอยู่แล้ว มันไม่ได้เหมือนในละครที่อยู่กันสองต่อสอง พูดคุยกัน กินข้าวกัน นอนกันโดยที่ไม่มีอะไรกัน ผมฟันธงเลยว่าไม่มีทาง 100% ถ้าคุณไม่สามารถปฏิเสธฝ่ายชายในกรณีที่ต้องไปอยู่ด้วยกันส่วนตัว(ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องติวก็ตาม) คุณควรที่จะพาเพื่อนผู้หญิงสัก 1-2 คนไปด้วย เพื่อไม่ให้ฝ่ายชายทำอะไรคุณหรือล่วงละเมิดคุณได้ ในกรณีที่คุณไม่พร้อม

4.อย่าให้ฝ่ายชายมีอะไรกับคุณผู้หญิงทั้งหลายในวัยเรียน ผมพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยว่า ผู้ชายในวัยเรียนถ้ามันได้ฟันเมื่อไหร่ มันจะทิ้งคุณเหมือนหมูเหมือนหมาไปในทันที ซึ่งมีน้อยมากๆๆๆๆที่ยังรักคุณและอยู่กับคุณไปตลอด ซึ่งคุณผู้หญิงทั้งหลาย ไม่ว่าจะคบกับผู้ชายวัยเรียนนี้มานานแค่ไหน ก็อย่าพึ่งให้ฝ่ายชายมีอะไรกับคุณเป็นอันขาด รอให้คุณเรียนจบ ให้คุณได้ทำงาน แล้วให้ลองดูท่าทีของฝ่ายชายดูว่าเค้ารักคุณจริงไหม หรือแค่หวังฟันคุณแล้วทิ้งคุณไปกันแน่ ถ้าฝ่ายชายเค้าพูดหว่านล้อมคุณว่า ไม่รักเค้าหรอ ไม่ไว้ใจหรอ คำพูดแบบนี้ผมแนะนำให้คุณผู้หญิงเลิกกับฝ่ายชายไปเลย เพราะคำพูดถึงฝ่ายชายนั้นมันบ่งบอกถึงความไม่จริงใจที่เค้ามีต่อคุณ

5.รักสนุกก็ควรพกถุงยาง หรือพกยาคุมติดตัวไว้ด้วย เพื่อป้องกันการท้องในวัยเรียน หรือโรคติดต่อ

6.เหตุผลส่วนตัวของผม เอาจริงๆถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากแนะนำให้นักศึกษาทั้งหลายมีความรักในวัยเรียน เพราะนอกจากเหตุผลข้างต้นไปแล้ว พวกคุณทั้งหลายส่วนมากยังหาเงินเองไม่ได้ ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตนเอง ถ้ามีความรัก เงินที่มาลงกับความรักก็เงินของพ่อแม่ซะส่วนใหญ่ ยกเว้นว่าเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ซึ่งตรงนี้คุณรับผิดชอบตัวคุณเองได้แล้ว อยากจะมีก็มีไปได้เลย ส่วนที่ยังเรียนหนังสืออย่างเดียวกันอยู่นั้น ผมอยากจะแนะนำว่า ระหว่างนี้ถ้าเหงาก็หาอย่างอื่นทำไปก่อนก็ได้ ไปเรียนรู้ศึกษาวิชาชีพเพิ่มเติม ชีวิตยังอีกยาวไกล คุณเรียนจบไป คุณทำงาน คุณหาเงินเองได้ คุณรับผิดชอบตัวเองได้ จะมีก็ค่อยมี หรือถ้าไม่อยากมี หาไม่เจอ ก็ท่องเที่ยว เดินทางก่อนก็ได้ เพราะการที่คุณมีแฟนแล้ว ความเป็นส่วนตัวในชีวิตคุณจะหายไปทันที ยิ่งคุณมีลูกด้วยแล้วคุณจะยิ่งไม่มีเวลาความเป็นส่วนตัวเลยสักนิด แต่ถ้าอยากมีความรักจริงๆ ก็ลองคุยๆดูใจกันไปก่อน ค่อยๆเท อย่าเทหมดหน้าตักเลยทีเดียว

มีอยู่เท่านี้แหล่ะครับที่ผมอยากจะเล่าหรือให้แนวทางเรื่องความรักวัยเรียน จากประสบการณ์ของผมเอง รวมถึงจากที่ได้ดูดวงอ่านไพ่ให้กับนักศึกษาที่มาดูดวงเรื่องความรักกันอย่างมากมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่