ผมอกหัก อยากขอความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ใน Pantip โดนผมจะขอเล่าเรื่องราวให้ละเอียด แต่กระชับ ไม่เสียเวลาเพื่อน ๆ มาก รบกวนเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ
ผมทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตำแหน่งนักวิชาการ คอยบำบัดผู้ป่วย ทำงานมาได้ระยะหนึ่งครับ ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพราะไม่อยากมีปัญหามากความ ทำงาน กินข้าวคนเดียว กลับมานั่งเล่นในห้องส่วนตัว เย็นก็กลับบ้าน เป็นแบบนี้เรื่อย ๆ มา งานก็ตรงตามความชอบ ทำงานได้อย่างมีความสุข ทำงานสักระยะ ก็มีรู้จักพี่สาวท่านหนึ่ง น่ารัก นิสัยดี คุยสนุก และเราก็เริ่มสนิทกัน จนสามารถปรึกษากันได้ตลอดเวลา ต่อสายภายในหากันได้ วันนึง พี่ของผมเดินมาบอกว่า "มีคนอยากรู้จักแก เป็น พ." (ขอสงวนวิชาชีพ) ซึ่งผมก็ไม่คิดอะไร รับฟังมา แล้วก็ลืม ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเราไม่อยากคบคนในที่ทำงาน และยังไม่พร้อมจะมีความรัก และเวลาก็ผ่านมาประมาณ 2 เดือน ก็มีเหตุให้ต้องอบรมเรื่องเดียวกันกับพี่ท่านนี้ และเค้าได้ส่งข้อความไปหาคนที่แอบชอบผมว่า วันนี้นั่งอบรมใกล้ผม พร้อมถ่ายรูปผมส่งไปให้ พร้อมทั้งขออนุญาตผมส่ง Line ให้กับเขา ผมเห็นว่าไม่เสียหายอะไร เราก็คงได้เพื่อนเพิ่มอีกคน ซึ่งในใจก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นจริง ๆ
เมื่อได้ Line กัน ก็มีการทักทายกันปกติเกิดขึ้น ผมก็มีการคุยโต้ตอบกัน จนเราเริ่มคุยกันมากขึ้น ด้วยนิสัยที่เขาเป็นคนตลก และเราก็หัวเราะง่าย ความสัมพันธ์จึงเดินหน้าแบบก้าวกระโดด เราส่งข้อความหากัน ซึ่งผมก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมาก ตอบทุกคำถาม และเริ่มมีบทสนทนากันมากขึ้นตามประสาคนคุยกันทุกวัน โลกเราแรงโน้มถ่วงมันเยอะ เหวี่ยงเรามาเจอกัน แล้วเมื่อเวลาไม่นานนัก เราจึงนัดเจอกันในที่ทำงาน จุดหมายเหมือนคู่อื่น คือไปดูหนัง ทานข้าว และเดินเล่น ในวันนั้นผมเจอครั้งแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อนคนนึง ส่งข้อความหากัน คุยกัน มีเหรอคนเราจะไม่คิดอะไร แต่แค่ยังไม่รู้ใจตัวเอง ยิ่งเวลาเดียวกับผมทำวิทยานิพนธ์ หงุดหงิดง่าย โมโห หรือเขียนงานไม่ออก ก็มีเขาคอยปลอบ รับฟังปัญหา และบางครั้งหงุดหงิดใส่บ้าง แต่ก็ขอโทษตลอด พร้อมทั้งเขาให้อภัย ให้กำลังใจ และปลอบใจ ทำให้เรารู้จักลึกซึ้งอย่างไม่รู้ตัว
คนคุยกัน เจอกัน ทำงานใกล้กัน เขาอยู่หอใน ผมอยู่บ้าน เลิกงานทานข้าว อาจมีไปนอนเล่นที่หอเขาบ้าง ความสัมพันธ์มันจึงเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน และเราก็รักเขาเข้าเต็ม ๆ แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง เพราะกลัวเสียใจ ในวันที่ความรู้สึกเรากำลังเพิ่มขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเหมือนกันหรือไม่ ทำให้ความรู้สึกสวนทางกัน และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเราเกิดไม่เข้าใจกัน จนเขาขอถอยคนละก้าว แต่ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมกำลังเกิดความรัก และไม่อยากเสียเขาไป โดยพยายามขอยื้อ แต่วันนี้เราสองคนนัดเจอกันตอนเย็น เพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ฝนตก นัดของเราจึงถูกยกเลิกตามฝน แต่วันนี้ผมดันเซ่็ง ๆ จึงขึ้นไปนั่งคุยกับเพื่อนอีกตึก จากคนที่ไม่เคยคุย ขึ้นมาหา พี่ ๆ จึงนั่งคุยเป็นเพื่อน และสุดท้ายผมจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอคำแนะนำ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ 1 วันที่ผ่านมา ผมอกจะแตก เพราะคิดถึง พี่ ๆ ให้คำปรึกษาอย่างดี แต่สุดท้ายเราใช้หัวใจในการตอบคำถามมากกว่าสมอง ทุกคนก็ให้กำลังใจกับการเดินหน้าต่อโดยไม่ทราบถึงผลที่จะเกิดขึ้น และควบคุมไม่ได้ เมื่อเย็นมาก ผมจึงเดินกลับบ้านพร้อมกัน และไปแสกนนิ้ว ซึ่งไม่ใช่ที่ปกติที่ผมไป (เลือกอีกที่ทำไมไม่รู้) แสกนเสร็จ เจอผู้ใหญ่อีกท่าน จึงคุยกันประมาณ 3 นาที ก่อนผมขอตัวกลับ สายตาเจ้ากรรมดันมองไปเห็นเขาเดินมากับรุ่นพี่อีกท่านที่เขาสนิท (เขาบอกผมวันนี้ขออยู่ทบทวนตัวเองคนเดียว แต่เมื่อเจอเขาแต่งตัวเหมือนจะออกไปเที่ยว ไปเดินห้าง) ใจหายวูบ เขาคงเห็นผม ผมจึงเดินหนีออกมาอีกทางทันที แต่เขาไม่เดินตาม ไม่เรียก และไม่มีการโทรหา (ข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือ "เดี๋ยวโทรหา") ตอนนี้เวลา 23:00 น. ผมยังรอโทรศัพท์
ผมพยายามทำใจ เขาให้ผมเลือก ผมเลือกคบต่อ อยากทำให้ดีกว่าเดิม อยากให้เราไปต่อได้ อยากปรับความเข้าใจ แต่ไม่มีสายเข้า ส่งข้อความไม่อ่าน อยากถามเพื่อน ๆ ว่า เหตุการณ์แบบนี้ เราจะรับมือกับความรู้สึกอย่างไร อยากเคลีย แต่เกรงใจ หรือเราควรปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเองดีครับ ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะครับ
ปล. อย่าทำร้ายจิตใจกันเลย คนคนนี้ก็มีหัวใจเหมือนกัน ที่ไม่เปิดเใจรับใครใหม่เพราะกลัวจะเจ็บ สุดท้ายก็เจ็บเหมือนเดิม
ในวันที่สมองถาม แต่เราเลือกใช้หัวใจตอบทั้งหมด !!!
ผมทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตำแหน่งนักวิชาการ คอยบำบัดผู้ป่วย ทำงานมาได้ระยะหนึ่งครับ ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพราะไม่อยากมีปัญหามากความ ทำงาน กินข้าวคนเดียว กลับมานั่งเล่นในห้องส่วนตัว เย็นก็กลับบ้าน เป็นแบบนี้เรื่อย ๆ มา งานก็ตรงตามความชอบ ทำงานได้อย่างมีความสุข ทำงานสักระยะ ก็มีรู้จักพี่สาวท่านหนึ่ง น่ารัก นิสัยดี คุยสนุก และเราก็เริ่มสนิทกัน จนสามารถปรึกษากันได้ตลอดเวลา ต่อสายภายในหากันได้ วันนึง พี่ของผมเดินมาบอกว่า "มีคนอยากรู้จักแก เป็น พ." (ขอสงวนวิชาชีพ) ซึ่งผมก็ไม่คิดอะไร รับฟังมา แล้วก็ลืม ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเราไม่อยากคบคนในที่ทำงาน และยังไม่พร้อมจะมีความรัก และเวลาก็ผ่านมาประมาณ 2 เดือน ก็มีเหตุให้ต้องอบรมเรื่องเดียวกันกับพี่ท่านนี้ และเค้าได้ส่งข้อความไปหาคนที่แอบชอบผมว่า วันนี้นั่งอบรมใกล้ผม พร้อมถ่ายรูปผมส่งไปให้ พร้อมทั้งขออนุญาตผมส่ง Line ให้กับเขา ผมเห็นว่าไม่เสียหายอะไร เราก็คงได้เพื่อนเพิ่มอีกคน ซึ่งในใจก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นจริง ๆ
เมื่อได้ Line กัน ก็มีการทักทายกันปกติเกิดขึ้น ผมก็มีการคุยโต้ตอบกัน จนเราเริ่มคุยกันมากขึ้น ด้วยนิสัยที่เขาเป็นคนตลก และเราก็หัวเราะง่าย ความสัมพันธ์จึงเดินหน้าแบบก้าวกระโดด เราส่งข้อความหากัน ซึ่งผมก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมาก ตอบทุกคำถาม และเริ่มมีบทสนทนากันมากขึ้นตามประสาคนคุยกันทุกวัน โลกเราแรงโน้มถ่วงมันเยอะ เหวี่ยงเรามาเจอกัน แล้วเมื่อเวลาไม่นานนัก เราจึงนัดเจอกันในที่ทำงาน จุดหมายเหมือนคู่อื่น คือไปดูหนัง ทานข้าว และเดินเล่น ในวันนั้นผมเจอครั้งแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อนคนนึง ส่งข้อความหากัน คุยกัน มีเหรอคนเราจะไม่คิดอะไร แต่แค่ยังไม่รู้ใจตัวเอง ยิ่งเวลาเดียวกับผมทำวิทยานิพนธ์ หงุดหงิดง่าย โมโห หรือเขียนงานไม่ออก ก็มีเขาคอยปลอบ รับฟังปัญหา และบางครั้งหงุดหงิดใส่บ้าง แต่ก็ขอโทษตลอด พร้อมทั้งเขาให้อภัย ให้กำลังใจ และปลอบใจ ทำให้เรารู้จักลึกซึ้งอย่างไม่รู้ตัว
คนคุยกัน เจอกัน ทำงานใกล้กัน เขาอยู่หอใน ผมอยู่บ้าน เลิกงานทานข้าว อาจมีไปนอนเล่นที่หอเขาบ้าง ความสัมพันธ์มันจึงเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน และเราก็รักเขาเข้าเต็ม ๆ แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง เพราะกลัวเสียใจ ในวันที่ความรู้สึกเรากำลังเพิ่มขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเหมือนกันหรือไม่ ทำให้ความรู้สึกสวนทางกัน และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเราเกิดไม่เข้าใจกัน จนเขาขอถอยคนละก้าว แต่ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมกำลังเกิดความรัก และไม่อยากเสียเขาไป โดยพยายามขอยื้อ แต่วันนี้เราสองคนนัดเจอกันตอนเย็น เพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ฝนตก นัดของเราจึงถูกยกเลิกตามฝน แต่วันนี้ผมดันเซ่็ง ๆ จึงขึ้นไปนั่งคุยกับเพื่อนอีกตึก จากคนที่ไม่เคยคุย ขึ้นมาหา พี่ ๆ จึงนั่งคุยเป็นเพื่อน และสุดท้ายผมจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอคำแนะนำ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ 1 วันที่ผ่านมา ผมอกจะแตก เพราะคิดถึง พี่ ๆ ให้คำปรึกษาอย่างดี แต่สุดท้ายเราใช้หัวใจในการตอบคำถามมากกว่าสมอง ทุกคนก็ให้กำลังใจกับการเดินหน้าต่อโดยไม่ทราบถึงผลที่จะเกิดขึ้น และควบคุมไม่ได้ เมื่อเย็นมาก ผมจึงเดินกลับบ้านพร้อมกัน และไปแสกนนิ้ว ซึ่งไม่ใช่ที่ปกติที่ผมไป (เลือกอีกที่ทำไมไม่รู้) แสกนเสร็จ เจอผู้ใหญ่อีกท่าน จึงคุยกันประมาณ 3 นาที ก่อนผมขอตัวกลับ สายตาเจ้ากรรมดันมองไปเห็นเขาเดินมากับรุ่นพี่อีกท่านที่เขาสนิท (เขาบอกผมวันนี้ขออยู่ทบทวนตัวเองคนเดียว แต่เมื่อเจอเขาแต่งตัวเหมือนจะออกไปเที่ยว ไปเดินห้าง) ใจหายวูบ เขาคงเห็นผม ผมจึงเดินหนีออกมาอีกทางทันที แต่เขาไม่เดินตาม ไม่เรียก และไม่มีการโทรหา (ข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือ "เดี๋ยวโทรหา") ตอนนี้เวลา 23:00 น. ผมยังรอโทรศัพท์
ผมพยายามทำใจ เขาให้ผมเลือก ผมเลือกคบต่อ อยากทำให้ดีกว่าเดิม อยากให้เราไปต่อได้ อยากปรับความเข้าใจ แต่ไม่มีสายเข้า ส่งข้อความไม่อ่าน อยากถามเพื่อน ๆ ว่า เหตุการณ์แบบนี้ เราจะรับมือกับความรู้สึกอย่างไร อยากเคลีย แต่เกรงใจ หรือเราควรปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเองดีครับ ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะครับ
ปล. อย่าทำร้ายจิตใจกันเลย คนคนนี้ก็มีหัวใจเหมือนกัน ที่ไม่เปิดเใจรับใครใหม่เพราะกลัวจะเจ็บ สุดท้ายก็เจ็บเหมือนเดิม