ภูเขาไฟในฮาวายอาจดูไม่น่ากลัวนัก เพราะการไหลของลาวาที่เอื่อยเฉื่อยแบบไม่รู้จบซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของภูเขาไปแบบโล่ ทำให้มันไม่มีการระเบิดเปรี้ยงปร้างรุนแรงแบบภูเขาไฟรูปกรวย แต่ขึ้นชื่อว่าภูเขาไฟมันมีอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่เสมอ ฮาวายเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินถล่มซึ่งอาจสร้างเมกะสึนามิได้
(ดูกระทู้เก่า จับตาภูเขาไฟในฮาวาย อาจสร้างเมกะสึนามิได้
https://pantip.com/topic/37658466)
ความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิสูงขึ้นทุกวัน จากแผ่นดินไหวที่เพิ่มความถี่ขึ้น จากกระทู้ที่แล้วมีแผ่นดินไหวเฉลี่ย 100 ครั้งต่อวัน แต่ขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3-5 เท่า ปริมาณลาวาที่ไหลก็มากขึ้นกว่าที่คาดคะเนกันไว้ในตอนแรก สร้างความหวั่นเกรงถึงสึนามิที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
แต่เรื่องใหม่ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตื่นเต้น นั่นคือสนามแม่เหล้กที่แปรปรวนอย่างหนัก โดยบริเวณภูเขาไฟคิลัวอาเกิดภาวะแม่เหล็กแปรปรวน โดยมันกลับขั้วสวนทางกับทิศทางแม่เหล็กโลก

นักวิทยาศาสตร์ทราบมานานแล้วว่าสนามแม่เหล็กโลกมีการกลับขั้วมาแล้วหลายครั้ง และขบวนการกลัวตัวเป็นไปอย่างฉับพลัน โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 780,000 ปีที่แล้วโดยไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล สิ่งนี้เป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์มาช้านาน แต่ปรากฎการณ์ที่ฮาวายในตอนนี้ได้มอบหลักฐานสำคัญให้นักวิทยาศาสตร์ได้สมมติฐานที่หนักแน่นว่าปรากฎการณ์แม่เหล็กโลกกลับขั้วเกิดจากอะไรกันแน่
เราทราบกันมานานแล้วว่าในแมกม่าอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก มันจึงเป็นแม่เหล็กที่ลอยได้ การไหลวนของมันสร้างระบบสนามแม่เหล็กโลก การกลับขั้วของแม่เหล็กโลกเมื่อ 780,000 ปีที่แล้วเกิดจากแมกม่าใต้หมู่เกาะฮาวายซึ่งแข็งตัว สายธารของอนุภาคเหล็กก่อตัวและถูกห่อหุ้มด้วยหิน สร้างแท่งแม่เหล็กขนาดยักษ์บนเปลือกโลก ซึ่งเหนี่ยวนำเหล็กในกระแสแมกม่าที่เป็นของเหลวในแกนโลกให้เปลี่ยนทิศทางได้ ซึ่งทำให้สนามแม่เหล็กโลกทั้งหมดกลับขั้ว
http://earth-chronicles.com/anomalies/in-hawaii-in-the-kilauea-volcano-area-a-magnetic-field.html
สิ่งนี้อาจกำลังเกิดขึ้น เพราะภูเขาไฟคิลัวอาได้พ่นลาวามานานกว่าสามสิบปีแล้ว แต่มันพึ่งจะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง สอดรับกับข้อมูลที่ว่าสนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนตัวลง โดยในอดีตนักวิจัยได้เคยประมาณการว่ามันจะลดลง 5% ต่อศตวรรษ แต่จากข้อมูลใหม่ที่ได้มาในเร็วๆนี้พบว่ามันลดลง 5% ต่อทศวรรษ หรือ 10 เท่าจากที่คาดการไว้ ซึ่งน่าวิตกมาก
(
https://www.livescience.com/46694-magnetic-field-weakens.html)

สายธารลาวาที่ภูเขาไฟคิลัวอาสร้างขึ้นเป็นเหมือนแม่น้ำที่เป็นเส้นยาวทอดตัวไปบนแผ่นดินลงไปสู่ทะเล ซึ่งเป็นรูปแบบที่เป็นอุดมคติสำหรับแม่เหล็ก และการไหลที่เอื่อยเฉื่อยและค่อยๆเย็นตัวลงอย่างช้าๆ ทำให้อนุภาคเหล็กมีเวลาจัดเรียงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการกลับทางของเข็มทิศเมื่อเข้าไปไกล้พื้นที่

ภูเขาไฟคิลัวอา จะทำให้แม่เหล็กโลกกลับขั้วได้หรือไม่ แน่นอนว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ แต่ตามทฤษฎีถ้ามันสร้างแท่งแม่เหล็กบนเปลือกโลกได้แรงพอ มันก็สามารถเหนี่ยวนำแม่เหล็กโลกให้เปลี่ยนขั้วได้ คำถามจึงไม่ใช่ว่ามันทำได้หรือไม่ แต่เป็นมันต้องพ่นลาวามากเท่าไรถึงจะสร้างปรากฎการณ์แม่เหล็กโลกกลับขั้วได้
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกอาจนำไปสู่การสูญพันธ์ของสายพันธ์จำนวนมาก แต่อย่าพึ่งวิตก เพราะแม้ว่าเรากำลังอยู่ในระหว่างการกลับขั้วของแม่เหล็กโลก ซึ่งมันจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในเวลาทางธรณีวิทยา แต่สำหรับมนุษย์มันกินเวลาเป็นพันปี เราจึงพอมีเวลาที่จะรับมือ หรือว่ามีไม่พอก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด
จับตาภูเขาไฟในฮาวาย(2) มันกำลังรบกวนสนามแม่เหล็กโลก
(ดูกระทู้เก่า จับตาภูเขาไฟในฮาวาย อาจสร้างเมกะสึนามิได้ https://pantip.com/topic/37658466)
ความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิสูงขึ้นทุกวัน จากแผ่นดินไหวที่เพิ่มความถี่ขึ้น จากกระทู้ที่แล้วมีแผ่นดินไหวเฉลี่ย 100 ครั้งต่อวัน แต่ขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3-5 เท่า ปริมาณลาวาที่ไหลก็มากขึ้นกว่าที่คาดคะเนกันไว้ในตอนแรก สร้างความหวั่นเกรงถึงสึนามิที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
แต่เรื่องใหม่ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตื่นเต้น นั่นคือสนามแม่เหล้กที่แปรปรวนอย่างหนัก โดยบริเวณภูเขาไฟคิลัวอาเกิดภาวะแม่เหล็กแปรปรวน โดยมันกลับขั้วสวนทางกับทิศทางแม่เหล็กโลก
นักวิทยาศาสตร์ทราบมานานแล้วว่าสนามแม่เหล็กโลกมีการกลับขั้วมาแล้วหลายครั้ง และขบวนการกลัวตัวเป็นไปอย่างฉับพลัน โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 780,000 ปีที่แล้วโดยไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล สิ่งนี้เป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์มาช้านาน แต่ปรากฎการณ์ที่ฮาวายในตอนนี้ได้มอบหลักฐานสำคัญให้นักวิทยาศาสตร์ได้สมมติฐานที่หนักแน่นว่าปรากฎการณ์แม่เหล็กโลกกลับขั้วเกิดจากอะไรกันแน่
เราทราบกันมานานแล้วว่าในแมกม่าอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก มันจึงเป็นแม่เหล็กที่ลอยได้ การไหลวนของมันสร้างระบบสนามแม่เหล็กโลก การกลับขั้วของแม่เหล็กโลกเมื่อ 780,000 ปีที่แล้วเกิดจากแมกม่าใต้หมู่เกาะฮาวายซึ่งแข็งตัว สายธารของอนุภาคเหล็กก่อตัวและถูกห่อหุ้มด้วยหิน สร้างแท่งแม่เหล็กขนาดยักษ์บนเปลือกโลก ซึ่งเหนี่ยวนำเหล็กในกระแสแมกม่าที่เป็นของเหลวในแกนโลกให้เปลี่ยนทิศทางได้ ซึ่งทำให้สนามแม่เหล็กโลกทั้งหมดกลับขั้ว
http://earth-chronicles.com/anomalies/in-hawaii-in-the-kilauea-volcano-area-a-magnetic-field.html
สิ่งนี้อาจกำลังเกิดขึ้น เพราะภูเขาไฟคิลัวอาได้พ่นลาวามานานกว่าสามสิบปีแล้ว แต่มันพึ่งจะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง สอดรับกับข้อมูลที่ว่าสนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนตัวลง โดยในอดีตนักวิจัยได้เคยประมาณการว่ามันจะลดลง 5% ต่อศตวรรษ แต่จากข้อมูลใหม่ที่ได้มาในเร็วๆนี้พบว่ามันลดลง 5% ต่อทศวรรษ หรือ 10 เท่าจากที่คาดการไว้ ซึ่งน่าวิตกมาก
(https://www.livescience.com/46694-magnetic-field-weakens.html)
สายธารลาวาที่ภูเขาไฟคิลัวอาสร้างขึ้นเป็นเหมือนแม่น้ำที่เป็นเส้นยาวทอดตัวไปบนแผ่นดินลงไปสู่ทะเล ซึ่งเป็นรูปแบบที่เป็นอุดมคติสำหรับแม่เหล็ก และการไหลที่เอื่อยเฉื่อยและค่อยๆเย็นตัวลงอย่างช้าๆ ทำให้อนุภาคเหล็กมีเวลาจัดเรียงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการกลับทางของเข็มทิศเมื่อเข้าไปไกล้พื้นที่
ภูเขาไฟคิลัวอา จะทำให้แม่เหล็กโลกกลับขั้วได้หรือไม่ แน่นอนว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ แต่ตามทฤษฎีถ้ามันสร้างแท่งแม่เหล็กบนเปลือกโลกได้แรงพอ มันก็สามารถเหนี่ยวนำแม่เหล็กโลกให้เปลี่ยนขั้วได้ คำถามจึงไม่ใช่ว่ามันทำได้หรือไม่ แต่เป็นมันต้องพ่นลาวามากเท่าไรถึงจะสร้างปรากฎการณ์แม่เหล็กโลกกลับขั้วได้
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกอาจนำไปสู่การสูญพันธ์ของสายพันธ์จำนวนมาก แต่อย่าพึ่งวิตก เพราะแม้ว่าเรากำลังอยู่ในระหว่างการกลับขั้วของแม่เหล็กโลก ซึ่งมันจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในเวลาทางธรณีวิทยา แต่สำหรับมนุษย์มันกินเวลาเป็นพันปี เราจึงพอมีเวลาที่จะรับมือ หรือว่ามีไม่พอก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด