[รีวิวซีรี่ส์] The Americans สายลับรัสเซียแฝงตัวเป็นครอบครัวอเมริกันยุคสงครามเย็น เข้มข้นทั้งดราม่าและภารกิจเสี่ยงตาย

The Americans (2013-2018)



(ไม่สปอยล์)

Grade ซีซั่น:

Season 1 A-
Season 2 B+
Season 3 A
Season 4 A
Season 5 B
Season 6 A-

Grade ซีรี่ส์: A



เพิ่งอวสานไปสิ้นเดือนก่อน สำหรับซีรี่ส์ดราม่าสายลับ The Americans ที่ดำเนินมา 6 ปี เกี่ยวกับสายลับรัสเซียสองคนในยุคสงครามเย็น ที่ข้ามแดนมาปลอมตัวเป็นคู่แต่งงานอเมริกัน ในชื่อ ฟิลิป กับ อลิซาเบธ เจนนิ่งส์ เพื่อลอบทำภารกิจต่างๆ โดยการปลอมตัวนั้นต้องเนียนสนิทถึงขนาดที่ว่ามีลูกด้วยกันจริงๆถึงสองคน (ลูกสาว เพจ กับ ลูกชาย เฮนรี่) โดยตอนเปิดซีซั่น 1 นั้น ทั้งคู่เป็นสายลับในอเมริกามา 15 ปีแล้ว โดยทั้งทำภารกิจและปกปิดตัวตนที่แท้จริงมาตลอด แม้แต่กับลูกๆของพวกเขาเองก็ตาม -- ซึ่งการปิดบังนั้นจะยากยิ่งขึ้น เมื่อพวกเขาดันมีเพื่อนบ้านใหม่เป็นเจ้าหน้าที่ FBI ย้ายมาอยู่ตรงข้าม

แม้ซีรี่ส์นี้จะมีแฟนคลับตามดูอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่อาจทำให้บางคนลาจากซีรี่ส์หรือมีบ่นกันอยู่บ้าง คือความ slow burn ใจเย็นในการเดินเรื่อง เพราะแม้เรื่องย่อจะชวนให้คนคิดว่าเป็นซีรี่ส์แนว spy thriller แบบตื่นเต้นไม่ยั้ง แต่จริงๆแล้วแกนของมันคือดราม่าเข้มข้มต่างหาก -- ซึ่งไม่ใช่ว่าซีรี่ส์จะละเว้นเรื่องสปายเลย เพราะทุกซีซั่นล้วนมีพล๊อตภารกิจปิดบัง/ค้นหา/เอามาซึ่งความลับต่างๆ เพื่อความเป็นต่อทางการเมืองหรือการต่อสู้ให้ทางรัสเซีย จนแทบทุกตอนมีฉากภารกิจ,หลบซ่อนไล่ล่า, หรือต่อสู้รุนแรงต่างๆมากมาย เวลาซีรี่ส์ตั้งใจจะเข้าโหมดนี้ มันก็ทำออกมาได้ลุ้นระทึกตัวโก่งมาก (และไม่ปิดบังความโหดร้ายในงานประเภทนี้เลย แฟนๆซีรี่ส์อาจจะจำกันได้ติดตาถึงฉากยัดศพเข้ากระเป๋า หรือฉากที่สายลับไปหาหมอเองไม่ได้ จนต้องช่วยกันถอนฟันที่แตกติดเชื้อจากการต่อสู้ โดยถอนสดๆกันเองเลย)



แต่หัวใจหลักของซีรี่ส์ ที่ทำให้มันมีความหมายลึกซึ้งภายใต้ภารกิจลุ้นระทึก คือดราม่าชั้นดีที่ค่อยๆพัฒนาทุกความสัมพันธ์ในซีรี่ส์ จนดราม่าความสัมพันธ์เหล่านั้นสามารถถูกเปรียบเปรยไปเนื้อเรื่องที่ใหญ่กว่าอย่างพล๊อตสายลับและความขัดแย้งระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี

แกนดราม่าหลักและทรงพลังที่สุดของซีรี่ส์ คือความสัมพันธ์ของ ฟิลิปกับอลิซาเบธ โดยปัญหาชีวิตแต่งงานธรรมดาที่ทุกคู่มีกัน (ความสงสัยเชื่อใจในอีกฝ่ายเมื่อแต่งงานมาสักระยะหนึ่ง, ทัศนคติที่แตกต่างกันในการดำเนินชีวิต, ฯลฯ) ต่างสะท้อนออกมาในปัญหาใหญ่กว่าในอาชีพสายลับได้อย่างแนบเนียน (ความสงสัยเชื่อใจเมื่อต้องดำเนินภารกิจความเสี่ยงสูงร่วมกัน, ทัศนคติของประเทศบ้านเกิดที่ภักดี vs ประเทศภารกิจที่อยู่มานาน, ฯลฯ) จนฉากสายลับตื่นเต้นต่างๆมักมีความหมายอีกชั้นให้รู้สึกลึกซึ้งขึ้นไปอีก ยิ่งหลายซีซั่นผ่านไปและลูกๆเติบโตขึ้น การเปรียบเปรยนั้นก็ขยายจากเรื่องคู่ ไปครอบคลุมเรื่องครอบครัว หลายฉากชวนลุ้นเมื่อลูกเริ่มสงสัยถึงพฤติกรรมแปลกๆของพ่อแม่ ก็เป็นดราม่าที่สะท้อนมาจากดราม่าครอบครัวทั่วไป เมื่อลูกโตมาและตระหนักว่าพ่อแม่อาจมีชีวิตอีกด้านหรือแง่มุมชีวิตตัวเอง ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน (เพียงแต่ในครอบครัวทั่วไป ชีวิตอีกด้านมักคือบางรายละเอียดจากอดีต ไม่ใช่ใหญ่ขนาดเป็นสายลับรัสเซียนั่นเลย)



นั่นทำให้ส่วนตัวแล้ว ผมรักซีซั่น 3 กับ 4 มาก เพราะนอกจากพล๊อตสายลับจะเข้มข้นที่สุดแล้ว (มีแค่ซีซั่นสุดท้ายที่ใกล้เคียงเพราะต้องขมวดเรื่องจบ) ทั้งสองซีซั่นให้พล๊อตเหล่านั้นพัวพันและตีความคู่กับเรื่องชีวิตแต่งงานและครอบครัวได้แน่นชวนอินที่สุดเช่นกัน พร้อมๆกับที่หลายปมเรื่องที่ดำเนินมายาวนานหลายซีซั่นได้ถึงจุดขมวดคลี่คลายเสียที เป็นสองซีซั่นที่สนุกมากๆ

ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าคนทำซีรี่ส์จะทำออกมาได้แม่นทุกซีซั่น ซีซั่น 2 นั้นสนุกอยู่ แต่มันมีพล๊อตจบในตัวที่ชวนให้รู้สึกเฉยๆตอนมาคลี่คลายปมช่วงท้ายซีซั่น ส่วนซีซั่น 5 ถึงจะยังเรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์คุณภาพดีอยู่ แต่มันเดินเรื่องช้ามาก จากการพยายามสร้างบรรยากาศอึมครึมกดดันไปทั้งซีซั่น เข้าใจว่าจุดประสงค์ซีซั่นนี้คือการสร้างความรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจและศีลธรรมให้กับตัวละครหลักจนใกล้จุดแตกหัก แต่เหมือนมันสะท้อนอยู่ในการเดินเรื่องหนักมือไปหน่อย

แต่ซีรี่ส์ก็กลับมาคืนตัวได้อย่างสวยงามในซีซั่นสุดท้าย ที่หลายพล๊อตเล็กๆน้อยๆที่ยังเหลืออยู่จากซีซั่นก่อนๆ ถูกนำมารวมในพล๊อตหลักและบทสรุปตอนปลาย แถมเนื้อเรื่องก็รุนแรงและชวนลุ้น ว่าถ้าระหว่างซีซั่นนองเลือดกันไม่น้อยขนาดนี้ ตอนจบจริงๆจะเสียหายกันมากแค่ไหน (แต่ถ้าบอกอย่างไม่สปอยล์ ก็บอกแค่ว่าซีรี่ส์จบได้เป็นตัวเองมาก) ที่ชอบที่สุดคือ สุดท้ายธีมและความสัมพันธ์หลักของซีซั่นนี้ ก็โยงไปยังสิ่งที่มีมาตั้งแต่ซีซั่นหนึ่ง คือเรื่องบททดสอบความรักความซื่อสัตย์ที่ฟิลิปกับอลิซาเบธมีต่อกัน รวมไปถึงต่อครอบครัวและประเทศพวกเขาด้วย



ติดตามรีวิวและข่าวน่าสนใจในโลกภาพยนตร์และซีรี่ส์อื่นๆของผมได้ที่  www.facebook.com/themoviemood ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่