จากวันแรกที่ไม่เคยคิดจะสนใจ สู่วันนี้ที่รักเหมือนน้องสาว (มายด์ ปณิศา ศรีละเลิง)

ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนเลยว่า กระทู้นี้ผมขอเล่าเรื่องราว ว่ามารักเด็กคนนี้ได้ยังไง ? (มายด์ ปณิศา ศรีละเลิง) อาจจะยาวหน่อยนะครับ
                                        เพราะผมจะเล่า ตั้งแต่แรกเลยตั้งแต่ตอนที่ไม่ได้สนใจน้องซักนิดเดียว....
    
  ในช่วงกลางปี 2017 ผมได้มีโอกาสรู้จักวง ไอดอลกรุ๊ปวงนึง วงนั้นมีชื่อว่า "BNK48" และผมค่อนค่างที่จะสนใจเลยมีโอกาสได้ไปตาม
ดูรายการ BNK48 Senpai แล้วไปเห็นเด็กคนนึงในใจก็คิดว่า สก๊อยที่ไหนมาออเนี่ยวงนี้เค้าหาไอดอลไม่ใช่หรอ
( คือ ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ พี่ขอโทษนะหนูมายด์ TT )

         หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามอะไรน้องอีกเลย......จนมาถึงงานแฟนมีต ก็ได้ไปสะดุดตากับเด็กคนนึงว่าทำไมน่ารักจัง
แววตาดูมีความมุ่งมั่นมาก (เอ้านี่มันคนที่เราบอกว่าเป็นสก๊อยในวันนั้นนี่นา ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ละ)
จากนั้นก็เริ่มสนใจในตัวน้องมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ตามน้องแบบจริงจัง เพราะตอนนั้นเราก็โอชิคนอื่นอยู่
      
       พอเวลาผ่านไปไม่นาน น้องก็ได้ไปออกงานที่อยุธยาผมก็ได้ไปดู Fancam ที่น้องเต้นเพลง KFC ในใจก็คิดว่า
เฮ้ย!! เด็กคนนี้ก็น่ารักดีเหมือนกัน งานนั้นเป็นงานที่น้องเต้นไม่เป๊ะ สมาธิก็หลุดแถมมีหอบท้ายเพลงอีก
แต่ทำไมเรากลับชอบไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน คงจะเป็นเพราะในตัวน้องมีเสน่ห์บางอย่างของน้องก็ได้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
           หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ตามดูน้องใน VOOVบ้าง ( ก็ดูทุกไลฟ์แหละ 5555 ) และก็ได้รู้ว่า เฮ้ย!! น้องมันจริงใจจังอะ
ไม่ชอบอะไรก็พูดออกมาเลย อยากบ่นอะไรก็บ่นพูดออกมาตรงๆแบบนั้นเลย ไม่ต้องอ้อมค้อม
ทุกคำที่พูดออกจากปากของน้องมันดูจริงหมดเลย ตอนนั้นแบบประทับใจมากๆ

           หลังจากนั้นก็ได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ ของน้องกับทางทศลอง(https://tossapol.com/2018/01/24/mind-bnk48)
ทำให้ได้รู้ว่าช่วงแรกๆน้องต้องไป-กลับ โคราชโดยตัวคนเดียวแทบทุกวัน (ในใจก็คิดว่า เด็กคนนี้มันทำไปเพื่ออะไรไม่เหนื่อยเลยหรอ)
หลังจากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า น้องมันเคยบอกว่าอยากจะสร้างบ้านให้พ่อนี่หน่า (ในใจก็คิดขึ้นมาอีกว่า หนูจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรอหนูยังเด็กอยู่เลยนะ) มันทำให้ผมได้รู้ว่าเด็กคนนี้ตั้งใจที่จะทำสิ่งนี้จริงๆ รักที่จะอยู่ตรงนี้จริงๆ
และพอได้เห็นแววตาที่มุ่งมั่นของน้องแล้วมันทำให้เชื่อว่าซักวันเด็กคนนี้ต้องทำได้แน่ๆ
           ถ้ามายด์ต้องถ่ายรูปส่งให้เพื่อนที่ชื่อแฟนคลับ ควรจะเป็นภาพแบบไหน ??
น้องมายด์ตอบว่า : "เป็นภาพนี้ค่ะ เหมือนว่าหนูได้กอดทุกคนไว้แน่นๆ" ( ความรู้สึกที่อ่านบทสัมภาษณ์ของน้องตอนนั้นคือ ประทับใจมากๆ )

              และยังมีอีกบทสัมภาษณ์นึง ซึ่งอันนี้เป็นของทาง The Standard ( https://thestandard.co/mind-bnk48 )
       เมื่อน้องรู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ติดเซ็มบัตสึ เพลงนามิดะเซอร์ไพรส์! น้องได้ตอบคำถามในบทสัมภาษณ์ ว่า
"พอถึงเวลาต้องไปจับมือก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าแฟนคลับที่มารอเจอเรายังไง อยากขอโทษพวกเขาที่เป็นกำลังใจให้มาตลอด แต่มายด์ทำให้เขาดีใจไม่ได้ "
       พออ่านถึงตรงนี้อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหล ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 5555 มันทำให้รู้เลยว่าน้องรักและแคร์แฟนคลับของตัวเองขนาดไหน

               พอมาถึงงานจับมือครั้งล่าสุด ซึ่งน้องมีอาการป่วย แฟนคลับน้องทุกคนเป็นห่วงน้องมากๆ และหลังจากจบบุที่ 2
น้องก็มีการโพสเฟสบุ๊คว่า
     
           เฮ้ยย!! หนูป่วยอยู่นะหนูยังจะแคร์แฟนคลับกลัวแฟนคลับจะไม่สนุกด้วยอีกหรอ ( ซึ่งตรงนี้ทำให้รักน้องมากกกกกก )
และน้องก็พยายามอดทนจนงานเลิก
           พอถึงวันอาทิตย์ ได้แต่หวังว่าน้องอาการจะดีขึ้น แต่ที่ไหนได้อาการกลับแย่ลงกว่าเดิม ( มีทั้งไอและมีน้ำมูก )
และอาการของน้องยังทรุดหนักลงไปในทุกที จนถึงขึ้นที่น้องต้องนั่งจับมือ

หลายๆคนต่างถามน้องว่าไหวไหม ??
- น้องก็จะตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มเสมอว่า " ไหวค่ะ "
หลายๆคนต่างถามน้องว่าเหนื่อยไหม ??
- น้องก็จะตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มเสมอว่า " ไม่ค่ะ "

           แต่หลายๆคนดูออกว่าน้องนั้นเริ่มที่จะไม่ไหวแล้ว ทุกคนเป็นห่วงน้องมากอยากให้น้องไปพัก
กลัวว่าน้องจะเป็นลมกลัวว่าน้องจะอาการหนักไปกว่านี้ แต่น้องก็สู้และพยายามอดทนอยู่จนถึงรอบพิเศษจนได้
           พอถึงรอบพิเศษน้องมาพร้อมกับชุดลูกไม้สีขาวมงกุฎดอกไม้อยู่บนหัว
( หือออ เหมือนเจ้าหญิงมากเหมือนน้องหลุดออกมาจากนิยายเลย ) ถึงเวลาจับมือ ทุกๆที่ต่อแถวพร้อมใจกันคุกเข่า
จับมือกับน้องเพื่อที่จะไม่ให้น้องแหงนหน้าและยกแขนขึ้นสูง
( ภาพเหมือนคุกเข่าต่อหน้าเจ้าหญิง พอถึงช็อตนี้มันทำให้ไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาอยู่ได้จริงๆ )
           และสุดท้ายตอนจบงาน น้องออกมาพูดว่า " ขอบคุณทุกคนที่มา ทุกคนคือยารักษาของหนู "
( รออะไรละน้ำตาแตกอีกรอบสิครับ TT )

        และสุดท้ายจริงๆ ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ได้รักน้องชอบน้องที่หน้าตา ผมรักและ Respect
ที่จิตใจน้องมากจิตใจของน้องมันเกินกว่าเด็กอายุแค่16-17ปี เกินกว่าไปหลายเท่ามากๆ
มันทำให้ผมย้อนกลับไปมองตัวเองตอนอายุเท่าน้องว่าผมกำลังอะไรอยู่....
        จนถึงทุกวันนี้ วันที่รักและเอ็นดูน้องเหมือนเป็นน้องสาวคนนึง และอยากให้น้องไปถึงฝันให้ได้

ปล.- นี่เป็นบทความแรกที่ผมได้ลองเขียนขึ้นมา อาจจะมีผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
       และฝากน้องมายด์ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะครับ
     - ตอนนี้ผมตันโอชิน้องมายด์แล้ววว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่