ภายหลังการหลั่งน้ำตาของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฎิรูปประเทศไทย (มปท.) ระหว่างการเปิดตัวพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ต่อมา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ได้ออกมาตั้งคำถามผ่านการถ่ายทอดสดในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ทำไมสุเทพถึงร้องไห้” โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยนายสมบัติแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นที่นายสุเทพหลั่งน้ำตา และพูดถึงประเด็นของการจัดตั้งพรรค
โดยระบุว่า การจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย สมาชิกที่เข้าร่วมก่อตั้ง 500 คนแรก จะต้องร่วมบริจาคเงิน 50,000 บาท โดยข้อกฎหมายจะต้องบริจาค 1,000 – 50,000 บาท เขาระบุเลยว่าคนที่จะมาเข้าร่วม 500 คนแรก จะต้องบริจาค 50,000 บาท ซึ่งสำหรับบ้างคนมันอาจไม่มากไม่น้อย แต่ว่ากฎหมายเพียงต้องการเงิน 1,000,000 บาท แต่ทางพรรคดันไปกำหนดจำนวนเงินดังกล่าว แสดงว่าเขาต้องการจำนวนยอดเงิน 25 ล้านบาท ตนมีข้อสงสัยว่าทำไมต้องกำหนดเงินไว้ 50,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงความสงสัยของตนเพียงเท่านั้น
นายสมบัติยังกล่าวต่อว่า พรรคเกรียนของตนที่กำลังอยู่ระหว่างการหาชื่อพรรค แอบอิจฉานายสุเทพ ที่สามารถตั้งชื่อพรรคได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของการหาสมาชิกพรรค 500 คน ที่ต้องมาจ่ายค่าเข้าพรรค คนละ 1,000 บาท มองยังไงก็เป็นเรื่องยาก แต่พรรคของนายสุเทพกลับหาสมาชิกที่พร้อมจ่าย 50,000 บาท ได้อย่างง่ายดาย อย่างที่บอกว่าพรรครปช.นี้ จัดตั้งเพื่อประชาชน ตนจึงอยากทราบว่าเป็นประชาชนประเภทไหนกันถึงยอมสละเงินตั้ง 50,000 บาท บาทเพื่อเป็นสมาชิก
ในส่วนของประเด็นที่ว่า ทำไมสุเทพถึงร้องไห้ นายสมบัติ กล่าวว่า รู้สึกเหมือนเป็นการจัดฉาก ผู้ที่มาร่วมงานนั่งเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างจากพรรคอนาคตใหม่ที่จัดแถลงกันในยิมเนเซียม ซึ่งบรรยากาศต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนในเรื่องของการที่นายสุเทพออกมาร้องไห้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งแรกเป็นการร้องไห้บนเวทีการหาเสียงปี 2554 โดยพูดถึงเหตุการณ์การสูญเสีย ในปี 2553 ที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ครั้งที่ 2 ร้องไห้เมื่อปี 2557 ก็ได้ร้องไห้อีกครั้งบนเวที โดยมองว่า นายสุเทพคิดว่าการออกมาทำการเมืองในครั้งนี้จะมีคนวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
“ผมคิดว่าเป็นการอัดอั้นตันใจของนายสุเทพจริงๆ ไม่ใช่การจัดฉาก แต่รู้ตัวเองว่าในอนาคตจะโดนด่าอีก ซึ่งการโดนด่าของสุเทพในครั้งนี้จะโดนด่าแบบเละเทะ โดยจะแตกต่างจากการโดนด่าในครั้งยังอยู่ กปปส. อย่างแน่นอน ส่วนตัวผมคิดว่านายสุเทพอาจไม่ได้อยากตั้งพรรคเพียงแต่ตอนนี้เป็นภาวะจำเป็นที่ต้องตั้ง จะสังเกตุได้ว่าคนทั่วไปที่จัดตั้งพรรคจะดูสดใส ซึ่งแตกต่างจากนายสุเทพ ที่หน้าตาดูหมอง อาจเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าคิดผิดแต่อยากจะแก้เกม ให้ทุเลา หรือหาทางออกไปได้ และผมคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำนายสุเทพร้องไห้ในครั้งนี้” นายสมบัติ กล่าวปิดท้าย
JJNY : บก.ลายจุดวิเคราะห์ 'ทำไมสุเทพถึงร้องไห้' ชี้อัดอั้นตันใจ-ตั้งพรรคใหม่แก้เกม
โดยระบุว่า การจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย สมาชิกที่เข้าร่วมก่อตั้ง 500 คนแรก จะต้องร่วมบริจาคเงิน 50,000 บาท โดยข้อกฎหมายจะต้องบริจาค 1,000 – 50,000 บาท เขาระบุเลยว่าคนที่จะมาเข้าร่วม 500 คนแรก จะต้องบริจาค 50,000 บาท ซึ่งสำหรับบ้างคนมันอาจไม่มากไม่น้อย แต่ว่ากฎหมายเพียงต้องการเงิน 1,000,000 บาท แต่ทางพรรคดันไปกำหนดจำนวนเงินดังกล่าว แสดงว่าเขาต้องการจำนวนยอดเงิน 25 ล้านบาท ตนมีข้อสงสัยว่าทำไมต้องกำหนดเงินไว้ 50,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงความสงสัยของตนเพียงเท่านั้น
นายสมบัติยังกล่าวต่อว่า พรรคเกรียนของตนที่กำลังอยู่ระหว่างการหาชื่อพรรค แอบอิจฉานายสุเทพ ที่สามารถตั้งชื่อพรรคได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของการหาสมาชิกพรรค 500 คน ที่ต้องมาจ่ายค่าเข้าพรรค คนละ 1,000 บาท มองยังไงก็เป็นเรื่องยาก แต่พรรคของนายสุเทพกลับหาสมาชิกที่พร้อมจ่าย 50,000 บาท ได้อย่างง่ายดาย อย่างที่บอกว่าพรรครปช.นี้ จัดตั้งเพื่อประชาชน ตนจึงอยากทราบว่าเป็นประชาชนประเภทไหนกันถึงยอมสละเงินตั้ง 50,000 บาท บาทเพื่อเป็นสมาชิก
ในส่วนของประเด็นที่ว่า ทำไมสุเทพถึงร้องไห้ นายสมบัติ กล่าวว่า รู้สึกเหมือนเป็นการจัดฉาก ผู้ที่มาร่วมงานนั่งเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างจากพรรคอนาคตใหม่ที่จัดแถลงกันในยิมเนเซียม ซึ่งบรรยากาศต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนในเรื่องของการที่นายสุเทพออกมาร้องไห้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งแรกเป็นการร้องไห้บนเวทีการหาเสียงปี 2554 โดยพูดถึงเหตุการณ์การสูญเสีย ในปี 2553 ที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ครั้งที่ 2 ร้องไห้เมื่อปี 2557 ก็ได้ร้องไห้อีกครั้งบนเวที โดยมองว่า นายสุเทพคิดว่าการออกมาทำการเมืองในครั้งนี้จะมีคนวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
“ผมคิดว่าเป็นการอัดอั้นตันใจของนายสุเทพจริงๆ ไม่ใช่การจัดฉาก แต่รู้ตัวเองว่าในอนาคตจะโดนด่าอีก ซึ่งการโดนด่าของสุเทพในครั้งนี้จะโดนด่าแบบเละเทะ โดยจะแตกต่างจากการโดนด่าในครั้งยังอยู่ กปปส. อย่างแน่นอน ส่วนตัวผมคิดว่านายสุเทพอาจไม่ได้อยากตั้งพรรคเพียงแต่ตอนนี้เป็นภาวะจำเป็นที่ต้องตั้ง จะสังเกตุได้ว่าคนทั่วไปที่จัดตั้งพรรคจะดูสดใส ซึ่งแตกต่างจากนายสุเทพ ที่หน้าตาดูหมอง อาจเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าคิดผิดแต่อยากจะแก้เกม ให้ทุเลา หรือหาทางออกไปได้ และผมคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำนายสุเทพร้องไห้ในครั้งนี้” นายสมบัติ กล่าวปิดท้าย